| Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๙. เสทกสุตฺตวณฺณนา
9. Sedakasuttavaṇṇanā
๓๘๕. อยํ ตสฺส ลทฺธีติ อยํ อิทานิ วุจฺจมานา ตสฺส อาจริยสฺส ลทฺธิฯ ตโต อนาเมโนฺตติ เยน วํโส นมติ, เตน กายํ อนาเมโนฺตฯ ตถา นมโนฺต หิ ปติตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ โหติฯ ตนฺติ กายํ, ตํ วํสํ วาฯ อากเฑฺฒโนฺต วิยาติ นมิตฎฺฐานโต ปรภาเคน อากเฑฺฒโนฺต วิยฯ เอกโตภาคิยํ กตฺวาติ ยถาวุตฺตํ สติํ สูปฎฺฐิตํ กตฺวา โอนตํ วิย กตฺวาฯ ตถา กรณํ ปน ตถา วาตูปตฺถมฺภคาหาปเนนาติ อาห – ‘‘วาตูปตฺถมฺภํ คาหาเปตฺวา’’ติฯ ตญฺจ สติยา ตทตฺถํ อุปฎฺฐาเนนาติ วุตฺตํ ‘‘สติํ สูปฎฺฐิตํ กตฺวา’’ติฯ นิจฺจโลว นิสีทโนฺต อเนฺตวาสี อาจริยํ รกฺขติ, เอตฺตกํ อาจริยสฺส ลทฺธิวเสน วุตฺตํฯ ‘‘อาจริโย วํสํ สุคฺคหิตํ คณฺหโนฺต’’ติอาทิ สพฺพํ เหฎฺฐา วุตฺตนยเมวฯ
385.Ayaṃ tassa laddhīti ayaṃ idāni vuccamānā tassa ācariyassa laddhi. Tato anāmentoti yena vaṃso namati, tena kāyaṃ anāmento. Tathā namanto hi patitvā cuṇṇavicuṇṇaṃ hoti. Tanti kāyaṃ, taṃ vaṃsaṃ vā. Ākaḍḍhento viyāti namitaṭṭhānato parabhāgena ākaḍḍhento viya. Ekatobhāgiyaṃ katvāti yathāvuttaṃ satiṃ sūpaṭṭhitaṃ katvā onataṃ viya katvā. Tathā karaṇaṃ pana tathā vātūpatthambhagāhāpanenāti āha – ‘‘vātūpatthambhaṃ gāhāpetvā’’ti. Tañca satiyā tadatthaṃ upaṭṭhānenāti vuttaṃ ‘‘satiṃ sūpaṭṭhitaṃ katvā’’ti. Niccalova nisīdanto antevāsī ācariyaṃ rakkhati, ettakaṃ ācariyassa laddhivasena vuttaṃ. ‘‘Ācariyo vaṃsaṃ suggahitaṃ gaṇhanto’’tiādi sabbaṃ heṭṭhā vuttanayameva.
‘‘อตฺตานเมว รกฺขตี’’ติ อิทํ อตฺตโน รกฺขณํ ปธานํ กตฺวา วุตฺตํ, น อเนฺตวาสิกนฺติ อวธารณผลํฯ อตฺตรกฺขาย ปเนตฺถ สิชฺฌมานาย อเนฺตวาสิกรกฺขาปิ สิทฺธา เอว โหตีติฯ ทุติยปเกฺขปิ เอเสว นโยฯ โส ตตฺถ ญาโยติ ยา อตฺตโน เอว รกฺขา, สา อตฺถโต ปรรกฺขาปิ โหตีติ อยเมตฺถ ญาโย ยุตฺตปฺปโยโคฯ อนุวฑฺฒิยาติ ยถาวฑฺฒิตสฺส อนุอนุวฑฺฒิยาฯ เอเตน ปฎิลทฺธสมฺปยุตฺตปโมทนากาโร ทสฺสิโตติ อาห – ‘‘สปุพฺพภาคาย มุทิตายาติ อโตฺถ’’ติฯ อาเสวนายาติอาทีนิ ปทานิ อนุทยตาปริโยสานานิ (ยสฺมา สติปฎฺฐานํ เสวนฺตสฺส สิทฺธํ อตฺตโน จ ปรสฺส จ รกฺขณํ ปกาเสนฺติ, ตสฺมา) – ‘‘อตฺตานํ, ภิกฺขเว, รกฺขิสฺสามีติ สติปฎฺฐานํ เสวิตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ
‘‘Attānameva rakkhatī’’ti idaṃ attano rakkhaṇaṃ padhānaṃ katvā vuttaṃ, na antevāsikanti avadhāraṇaphalaṃ. Attarakkhāya panettha sijjhamānāya antevāsikarakkhāpi siddhā eva hotīti. Dutiyapakkhepi eseva nayo. So tattha ñāyoti yā attano eva rakkhā, sā atthato pararakkhāpi hotīti ayamettha ñāyo yuttappayogo. Anuvaḍḍhiyāti yathāvaḍḍhitassa anuanuvaḍḍhiyā. Etena paṭiladdhasampayuttapamodanākāro dassitoti āha – ‘‘sapubbabhāgāya muditāyāti attho’’ti. Āsevanāyātiādīni padāni anudayatāpariyosānāni (yasmā satipaṭṭhānaṃ sevantassa siddhaṃ attano ca parassa ca rakkhaṇaṃ pakāsenti, tasmā) – ‘‘attānaṃ, bhikkhave, rakkhissāmīti satipaṭṭhānaṃ sevitabba’’ntiādi vuttaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. เสทกสุตฺตํ • 9. Sedakasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. เสทกสุตฺตวณฺณนา • 9. Sedakasuttavaṇṇanā
