Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา
Senāsanaggāhakathāvaṇṇanā
๓๑๘. ‘‘เสยฺยเคฺคนาติ มญฺจฎฺฐานปริเจฺฉเทนฯ วิหารเคฺคนาติ โอวรกเคฺคนา’’ติ ลิขิตํฯ ถาวราติ นิยตาฯ ปจฺจเยเนว หิ ตนฺติ ตสฺมิํ เสนาสเน มหาเถรา ตสฺส ปจฺจยสฺส การณา อญฺญตฺถ อคนฺตฺวา วสนฺตาเยว นํ ปฎิชคฺคิสฺสนฺตีติ อโตฺถฯ อฆฎฺฎนกมฺมํ ทเสฺสตุํ ‘‘น ตตฺถ มนุสฺสา’’ติอาทิมาหฯ ‘‘วิตกฺกํ ฉินฺทิตฺวา สุทฺธจิเตฺตน คมนวเตฺตเนว คนฺตพฺพ’’นฺติ ปาโฐฯ มุทฺทเวทิกา นาม เจติยสฺส หมฺมิยเวทิกาฯ ปฎิกฺกมฺมาติ อปสกฺกิตฺวาฯ สมานลาภกติกา มูลาวาเส สติ สิยา, มูลาวาสวินาเสน กติกาปิ วินสฺสติฯ สมานลาภ-วจนํ สติ ทฺวีสุ, พหูสุ วา ยุชฺชติ, เตเนว เอกสฺมิํ อวสิเฎฺฐติ โน มติฯ ตาวกาลิกํ กาเลน มูลเจฺฉทนวเสน วา อเญฺญสํ วา กมฺมํ อญฺญสฺส สิยา นาวายํ สงฺคโมติ อาจริโยฯ ปุคฺคลวเสเนว กาตพฺพนฺติ อปโลกนกาเล สโงฺฆ วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนํ ปาเฎกฺกํ ‘‘เอตฺตกํ วสฺสาวาสิกํ วตฺถํ เทติ, รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ ปุคฺคลเมว ปรามสิตฺวา ทาตพฺพํ, น สงฺฆวเสน กาตพฺพํฯ น สโงฺฆ สงฺฆสฺส เอตฺตกํ เทตีติฯ ‘‘เอกสฺมิํ อาวาเส สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรตี’ติ วจนโต สงฺฆวเสน กาตพฺพ’’นฺติ ลิขิตํฯ น หิ ตถา วุเตฺต สงฺฆสฺส กิญฺจิ กมฺมํ กตํ นาม โหติฯ ‘‘สมฺมตเสนาสนคฺคาหาปกโต อเญฺญน คาหิเตปิ คาโห รุหติ อคฺคหิตุปชฺฌายสฺส อุปสมฺปทา วิยา’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘กมฺมวาจายปิ สมฺมุติ วฎฺฎตี’’ติ ลิขิตํฯ
318.‘‘Seyyaggenāti mañcaṭṭhānaparicchedena. Vihāraggenāti ovarakaggenā’’ti likhitaṃ. Thāvarāti niyatā. Paccayeneva hi tanti tasmiṃ senāsane mahātherā tassa paccayassa kāraṇā aññattha agantvā vasantāyeva naṃ paṭijaggissantīti attho. Aghaṭṭanakammaṃ dassetuṃ ‘‘na tattha manussā’’tiādimāha. ‘‘Vitakkaṃ chinditvā suddhacittena gamanavatteneva gantabba’’nti pāṭho. Muddavedikā nāma cetiyassa hammiyavedikā. Paṭikkammāti apasakkitvā. Samānalābhakatikā mūlāvāse sati siyā, mūlāvāsavināsena katikāpi vinassati. Samānalābha-vacanaṃ sati dvīsu, bahūsu vā yujjati, teneva ekasmiṃ avasiṭṭheti no mati. Tāvakālikaṃ kālena mūlacchedanavasena vā aññesaṃ vā kammaṃ aññassa siyā nāvāyaṃ saṅgamoti ācariyo. Puggalavaseneva kātabbanti apalokanakāle saṅgho vassaṃvutthabhikkhūnaṃ pāṭekkaṃ ‘‘ettakaṃ vassāvāsikaṃ vatthaṃ deti, ruccati saṅghassā’’ti puggalameva parāmasitvā dātabbaṃ, na saṅghavasena kātabbaṃ. Na saṅgho saṅghassa ettakaṃ detīti. ‘‘Ekasmiṃ āvāse saṅghassa kammaṃ karotī’ti vacanato saṅghavasena kātabba’’nti likhitaṃ. Na hi tathā vutte saṅghassa kiñci kammaṃ kataṃ nāma hoti. ‘‘Sammatasenāsanaggāhāpakato aññena gāhitepi gāho ruhati aggahitupajjhāyassa upasampadā viyā’’ti likhitaṃ. ‘‘Kammavācāyapi sammuti vaṭṭatī’’ti likhitaṃ.
อฎฺฐปิ โสฬสปิ ชเนติ เอตฺถ กิํ วิสุํ วิสุํ, อุทาหุ เอกโตติ? เอกโตปิ วฎฺฎติฯ น หิ เต ตถา สมฺมตา สเงฺฆน กมฺมกตา นาม โหนฺติ , เตเนว สตฺตสติกกฺขนฺธเก เอกโต อฎฺฐ ชนา สมฺมตาติฯ เตสํ สมฺมุติ กมฺมวาจายปีติ ญตฺติทุติยกมฺมวาจายปิฯ อปโลกนกมฺมสฺส วตฺถูหิ สา เอว กมฺมวาจา ลพฺภมานา ลพฺภติ, ตสฺสา จ วตฺถูหิ อปโลกนกมฺมเมว ลพฺภมานํ ลพฺภติ, น อญฺญนฺติ เวทิตพฺพํฯ อิมํ นยํ มิจฺฉา คณฺหโนฺต ‘‘อปโลกนกมฺมํ ญตฺติทุติยกมฺมํ กาตุํ, ญตฺติทุติยกมฺมญฺจ อปโลกนกมฺมํ กาตุํ วฎฺฎตี’’ติ คณฺหาติ, เอวญฺจ สติ กมฺมสงฺกรโทโส อาปชฺชติฯ มโคฺค โปกฺขรณีติ เอตฺถ มโคฺค นาม มเคฺค กตทีฆสาลา, โปกฺขรณีติ นหายิตุํ กตโปกฺขรณีฯ เอตานิ หิ อเสนาสนานีติ เอตฺถ ภตฺตสาลา น อาคตา, ตสฺมา ตํ เสนาสนนฺติ เจ? สาปิ เอเตฺถว ปวิฎฺฐา วาสตฺถาย อกตตฺตาฯ โภชนสาลา ปน อุภยตฺถ นาคตาฯ กิญฺจาปิ นาคตา, อุปริ ‘‘โภชนสาลา ปน เสนาสนเมวา’’ติ (จูฬว. อฎฺฐ. ๓๑๘) วุตฺตตฺตา เสนาสนํฯ ‘‘กปฺปิยกุฎิ จ เอตฺถ กาตพฺพา’’ติ วทนฺติ, ตํ เนติ เอเกฯ รุกฺขมูลเวฬุคุมฺพา ฉนฺนา กวาฎพทฺธาว เสนาสนํฯ ‘‘อลาภเกสุ อาวาเสสูติ อลาภเกสุ เสนาสเนสู’’ติ ลิขิตํ, ตํ ยุตฺตํฯ น หิ ปาเฎกฺกํ เสนาสนํ โหติฯ ตํ สญฺญาเปตฺวาติ เอตฺถ ปญฺญตฺติํ อคจฺฉเนฺต พลกฺกาเรนปิ วฎฺฎติฯ อยมฺปีติ ปจฺจโยปิฯ
Aṭṭhapi soḷasapi janeti ettha kiṃ visuṃ visuṃ, udāhu ekatoti? Ekatopi vaṭṭati. Na hi te tathā sammatā saṅghena kammakatā nāma honti , teneva sattasatikakkhandhake ekato aṭṭha janā sammatāti. Tesaṃ sammuti kammavācāyapīti ñattidutiyakammavācāyapi. Apalokanakammassa vatthūhi sā eva kammavācā labbhamānā labbhati, tassā ca vatthūhi apalokanakammameva labbhamānaṃ labbhati, na aññanti veditabbaṃ. Imaṃ nayaṃ micchā gaṇhanto ‘‘apalokanakammaṃ ñattidutiyakammaṃ kātuṃ, ñattidutiyakammañca apalokanakammaṃ kātuṃ vaṭṭatī’’ti gaṇhāti, evañca sati kammasaṅkaradoso āpajjati. Maggo pokkharaṇīti ettha maggo nāma magge katadīghasālā, pokkharaṇīti nahāyituṃ katapokkharaṇī. Etāni hi asenāsanānīti ettha bhattasālā na āgatā, tasmā taṃ senāsananti ce? Sāpi ettheva paviṭṭhā vāsatthāya akatattā. Bhojanasālā pana ubhayattha nāgatā. Kiñcāpi nāgatā, upari ‘‘bhojanasālā pana senāsanamevā’’ti (cūḷava. aṭṭha. 318) vuttattā senāsanaṃ. ‘‘Kappiyakuṭi ca ettha kātabbā’’ti vadanti, taṃ neti eke. Rukkhamūlaveḷugumbā channā kavāṭabaddhāva senāsanaṃ. ‘‘Alābhakesu āvāsesūti alābhakesu senāsanesū’’ti likhitaṃ, taṃ yuttaṃ. Na hi pāṭekkaṃ senāsanaṃ hoti. Taṃ saññāpetvāti ettha paññattiṃ agacchante balakkārenapi vaṭṭati. Ayampīti paccayopi.
อุปนิพนฺธิตฺวาติ ตสฺส สมีเป รุกฺขมูลาทีสุ วสิตฺวา ตตฺถ วตฺตํ กตฺวาติ อธิปฺปาโยฯ ปริยตฺติปฎิปตฺติปฎิเวธวเสน ติวิธมฺปิฯ ‘‘ทสกถาวตฺถุกํ ทสอสุภํ ทสอนุสฺสติ’’นฺติ ปาโฐฯ ‘‘ปฐมภาคํ มุญฺจิตฺวาติ อิทํ เจ ปฐมคาหิตวตฺถุโต มหคฺฆํ โหตี’’ติ ลิขิตํฯ ฉินฺนวสฺสานํ วสฺสาวาสิกํ นาม ปุเพฺพ คหิตวสฺสาวาสิกานํ ปจฺฉา ฉินฺนวสฺสานํฯ ภตินิวิฎฺฐนฺติ ภติํ กตฺวา วิย นิวิฎฺฐํ ปริยิฎฺฐํฯ ‘‘สงฺฆิกํ ปน…เป.… วิพฺภโนฺตปิ ลภเตวา’’ติ อิทํ ตตฺรุปฺปาทํ สนฺธาย วุตฺตํฯ อิมินา อปโลกนเมว ปมาณํ, น คาหาปนนฺติ เกจิฯ วินยธรา ปน ‘‘อมฺหากํ วิหาเร วสฺสํ อุปคตานํ เอเกกสฺส ติจีวรํ สโงฺฆ ทสฺสตี’ติอาทินา อปโลกิเตปิ อภาชิตํ วิพฺภนฺตโก น ลภติฯ ‘อปโลกนกมฺมํ กตฺวา คาหิต’นฺติ วุตฺตตฺตา, ‘อภาชิเต วิพฺภมตี’ติ เอวํ ปุเพฺพ วุตฺตตฺตา จา’’ติ วทนฺติฯ ‘‘ปจฺจยวเสนาติ คหปติกํ วา อญฺญํ วา วสฺสาวาสิกํ ปจฺจยวเสน คาหิต’’นฺติ ลิขิตํฯ ‘‘เอกเมว วตฺถํ ทาตพฺพนฺติ ตตฺถ นิสินฺนานํ เอกเมกํ วตฺถํ ปาปุณาตี’’ติ ลิขิตํฯ ทุติโย เถราสเนติ อนุภาโคฯ ปฐมภาโค อญฺญถา เถเรน คหิโตติ ชานิตพฺพํฯ
Upanibandhitvāti tassa samīpe rukkhamūlādīsu vasitvā tattha vattaṃ katvāti adhippāyo. Pariyattipaṭipattipaṭivedhavasena tividhampi. ‘‘Dasakathāvatthukaṃ dasaasubhaṃ dasaanussati’’nti pāṭho. ‘‘Paṭhamabhāgaṃ muñcitvāti idaṃ ce paṭhamagāhitavatthuto mahagghaṃ hotī’’ti likhitaṃ. Chinnavassānaṃ vassāvāsikaṃ nāma pubbe gahitavassāvāsikānaṃ pacchā chinnavassānaṃ. Bhatiniviṭṭhanti bhatiṃ katvā viya niviṭṭhaṃ pariyiṭṭhaṃ. ‘‘Saṅghikaṃ pana…pe… vibbhantopi labhatevā’’ti idaṃ tatruppādaṃ sandhāya vuttaṃ. Iminā apalokanameva pamāṇaṃ, na gāhāpananti keci. Vinayadharā pana ‘‘amhākaṃ vihāre vassaṃ upagatānaṃ ekekassa ticīvaraṃ saṅgho dassatī’tiādinā apalokitepi abhājitaṃ vibbhantako na labhati. ‘Apalokanakammaṃ katvā gāhita’nti vuttattā, ‘abhājite vibbhamatī’ti evaṃ pubbe vuttattā cā’’ti vadanti. ‘‘Paccayavasenāti gahapatikaṃ vā aññaṃ vā vassāvāsikaṃ paccayavasena gāhita’’nti likhitaṃ. ‘‘Ekameva vatthaṃ dātabbanti tattha nisinnānaṃ ekamekaṃ vatthaṃ pāpuṇātī’’ti likhitaṃ. Dutiyo therāsaneti anubhāgo. Paṭhamabhāgo aññathā therena gahitoti jānitabbaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / เสนาสนคฺคาหาปกสมฺมุติ • Senāsanaggāhāpakasammuti
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / เสนาสนคฺคาหกถา • Senāsanaggāhakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / เสนาสนคฺคาหาปกสมฺมุติกถาวณฺณนา • Senāsanaggāhāpakasammutikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา • Senāsanaggāhakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / เสนาสนคฺคาหกถา • Senāsanaggāhakathā