Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā

    เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา

    Senāsanaggāhakathāvaṇṇanā

    ๓๑๘. ‘‘ฉมาสจฺจเยน ฉมาสจฺจเยนา’’ติ อิทํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปจฺจยทานกาลปริเจฺฉททสฺสนํ, เอวํ อุปริปิฯ ‘‘ตํ น คาเหตพฺพ’’นฺติ วจนสฺส การณมาห ‘‘ปจฺจเยเนว หิ ต’’นฺติอาทินา, ปจฺจยเญฺญว นิสฺสาย ตตฺถ วสิตฺวา ปฎิชคฺคนา ภวิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ

    318.‘‘Chamāsaccayena chamāsaccayenā’’ti idaṃ dvikkhattuṃ paccayadānakālaparicchedadassanaṃ, evaṃ uparipi. ‘‘Taṃ na gāhetabba’’nti vacanassa kāraṇamāha ‘‘paccayeneva hi ta’’ntiādinā, paccayaññeva nissāya tattha vasitvā paṭijagganā bhavissantīti adhippāyo.

    อุพฺภณฺฑิกาติ อุกฺขิตฺตภณฺฑา ภวิสฺสนฺติฯ ทีฆสาลาติ จงฺกมนสาลาฯ มณฺฑลมาโฬติ อุปฎฺฐานสาลาฯ อนุทหตีติ ปีเฬติฯ ‘‘อทาตุํ น ลพฺภตี’’ติ อิมินา สญฺจิจฺจ อททนฺตสฺส ปฎิพาหเน ปวิสนโต ทุกฺกฎนฺติ ทีเปติฯ

    Ubbhaṇḍikāti ukkhittabhaṇḍā bhavissanti. Dīghasālāti caṅkamanasālā. Maṇḍalamāḷoti upaṭṭhānasālā. Anudahatīti pīḷeti. ‘‘Adātuṃ na labbhatī’’ti iminā sañcicca adadantassa paṭibāhane pavisanato dukkaṭanti dīpeti.

    ‘‘น โคจรคาโม ฆเฎฺฎตโพฺพ’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘น ตตฺถ มนุสฺสา วตฺตพฺพา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ วิตกฺกํ ฉินฺทิตฺวาติ ‘‘อิมินา นีหาเรน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา นิวาเรตฺวา ปจฺจเย ทสฺสนฺตี’’ติ เอวรูปํ วิตกฺกํ อนุปฺปาเทตฺวาฯ ภณฺฑปฺปฎิจฺฉาทนนฺติ ปฎิจฺฉาทนภณฺฑํฯ สรีรปฺปฎิจฺฉาทนจีวรนฺติ อโตฺถฯ ‘‘สุทฺธจิตฺตตฺตาว อนวชฺช’’นฺติ อิทํ ปุจฺฉิตกฺขเณ การณาจิกฺขนํ สนฺธาย วุตฺตํ น โหติ อสุทฺธจิตฺตสฺสปิ ปุจฺฉิตปญฺหวิสชฺชเน โทสาภาวาฯ เอวํ ปน คเต มํ ปุจฺฉิสฺสนฺตีติสญฺญาย อคมนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    ‘‘Na gocaragāmo ghaṭṭetabbo’’ti vuttamevatthaṃ vibhāvetuṃ ‘‘na tattha manussā vattabbā’’tiādi vuttaṃ. Vitakkaṃ chinditvāti ‘‘iminā nīhārena gacchantaṃ disvā nivāretvā paccaye dassantī’’ti evarūpaṃ vitakkaṃ anuppādetvā. Bhaṇḍappaṭicchādananti paṭicchādanabhaṇḍaṃ. Sarīrappaṭicchādanacīvaranti attho. ‘‘Suddhacittattāva anavajja’’nti idaṃ pucchitakkhaṇe kāraṇācikkhanaṃ sandhāya vuttaṃ na hoti asuddhacittassapi pucchitapañhavisajjane dosābhāvā. Evaṃ pana gate maṃ pucchissantītisaññāya agamanaṃ sandhāya vuttanti daṭṭhabbaṃ.

    ปฎิชคฺคิตพฺพานีติ ขณฺฑผุลฺลปฎิสงฺขรณสมฺมชฺชนาทีหิ ปฎิชคฺคิตพฺพานิฯ มุทฺทเวทิกายาติ เจติยสฺส หมฺมิยเวทิกาย ฆฎาการสฺส อุปริ จตุรสฺสเวทิกายฯ กสฺมา ปุจฺฉิตพฺพนฺติอาทิ ยโต ปกติยา ลภติฯ ตตฺถาปิ ปุจฺฉนสฺส การณสนฺทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ

    Paṭijaggitabbānīti khaṇḍaphullapaṭisaṅkharaṇasammajjanādīhi paṭijaggitabbāni. Muddavedikāyāti cetiyassa hammiyavedikāya ghaṭākārassa upari caturassavedikāya. Kasmā pucchitabbantiādi yato pakatiyā labhati. Tatthāpi pucchanassa kāraṇasandassanatthaṃ vuttaṃ.

    ปฎิกฺกมฺมาติ วิหารโต อปสกฺกิตฺวาฯ ตมตฺถํ ทเสฺสโนฺต ‘‘โยชนทฺวิโยชนนฺตเร โหตี’’ติ อาหฯ อุปนิเกฺขปํ ฐเปตฺวาติ วฑฺฒิยา กหาปณาทิํ ฐเปตฺวา, เขตฺตาทีนิ วา นิยเมตฺวาฯ อิติ สทฺธาเทเยฺยติ เอวํ เหฎฺฐา วุตฺตนเยน สทฺธาย ทาตเพฺพ วสฺสาวาสิกลาภวิสเยติ อโตฺถฯ

    Paṭikkammāti vihārato apasakkitvā. Tamatthaṃ dassento ‘‘yojanadviyojanantare hotī’’ti āha. Upanikkhepaṃ ṭhapetvāti vaḍḍhiyā kahāpaṇādiṃ ṭhapetvā, khettādīni vā niyametvā. Iti saddhādeyyeti evaṃ heṭṭhā vuttanayena saddhāya dātabbe vassāvāsikalābhavisayeti attho.

    วตฺถุ ปนาติ ตตฺรุปฺปาเท อุปฺปนฺนรูปิยํ, ตญฺจ ‘‘ตโต จตุปจฺจยํ ปริภุญฺชถา’’ติ ทินฺนเขตฺตาทิโต อุปฺปนฺนตฺตา กปฺปิยการกานํ หเตฺถ ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ ปริภุญฺชถา’’ติ ทายเกหิ ทินฺนวตฺถุสทิสํ โหตีติ อาห ‘‘กปฺปิยการกานํ หี’’ติอาทิฯ

    Vatthu panāti tatruppāde uppannarūpiyaṃ, tañca ‘‘tato catupaccayaṃ paribhuñjathā’’ti dinnakhettādito uppannattā kappiyakārakānaṃ hatthe ‘‘kappiyabhaṇḍaṃ paribhuñjathā’’ti dāyakehi dinnavatthusadisaṃ hotīti āha ‘‘kappiyakārakānaṃ hī’’tiādi.

    สงฺฆสุฎฺฐุตายาติ สงฺฆสฺส หิตายฯ ปุคฺคลวเสนาติ ‘‘ภิกฺขู จีวเรน กิลมนฺตี’’ติ เอวํ ปุคฺคลปรามาสวเสน, น ‘‘สโงฺฆ กิลมตี’’ติ เอวํ สงฺฆปรามาสวเสนฯ

    Saṅghasuṭṭhutāyāti saṅghassa hitāya. Puggalavasenāti ‘‘bhikkhū cīvarena kilamantī’’ti evaṃ puggalaparāmāsavasena, na ‘‘saṅgho kilamatī’’ti evaṃ saṅghaparāmāsavasena.

    ‘‘กปฺปิยภณฺฑวเสนา’’ติ สามญฺญโต วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘จีวรตณฺฑุลาทิวเสเนว จา’’ติ วุตฺตํฯ -กาโร เจตฺถ ปน-สทฺทเตฺถ วตฺตติ, น สมุจฺจยเตฺถติ ทฎฺฐพฺพํฯ ปุคฺคลวเสเนว, กปฺปิยภณฺฑวเสน จ อปโลกนปฺปการํ ทเสฺสตุํ ‘‘ตํ ปน เอวํ กตฺตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ

    ‘‘Kappiyabhaṇḍavasenā’’ti sāmaññato vuttamevatthaṃ vibhāvetuṃ ‘‘cīvarataṇḍulādivaseneva cā’’ti vuttaṃ. Ca-kāro cettha pana-saddatthe vattati, na samuccayattheti daṭṭhabbaṃ. Puggalavaseneva, kappiyabhaṇḍavasena ca apalokanappakāraṃ dassetuṃ ‘‘taṃ pana evaṃ kattabba’’ntiādi vuttaṃ.

    จีวรปจฺจยํ สลฺลเกฺขตฺวาติ สทฺธาเทยฺยตตฺรุปฺปาทาทิวเสน ตสฺมิํ วสฺสาวาเส ลพฺภมานํ จีวรสงฺขาตํ ปจฺจยํ ‘‘เอตฺตก’’นฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวาฯ เสนาสนสฺสาติ เสนาสนคฺคาหาปนสฺสฯ ‘‘นวโก วุฑฺฒตรสฺส, วุโฑฺฒ จ นวกสฺสา’’ติ อิทํ เสนาสนคฺคาหสฺส อตฺตนาว อตฺตโน คหณํ อสารุปฺปนฺติ วุตฺตํ, เทฺว อญฺญมญฺญํ คาเหสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ อฎฺฐปิ โสฬสปิ ชเน สมฺมนฺนิตุํ วฎฺฎตีติ เอกกมฺมวาจาย สเพฺพปิ เอกโต สมฺมนฺนิตุํ วฎฺฎติฯ นิคฺคหกมฺมเมว หิ สโงฺฆ สงฺฆสฺส น กโรติฯ เตเนว สตฺตสติกกฺขนฺธเก ‘‘อุพฺพาหิกกมฺมสมฺมุติยํ อฎฺฐปิ ชนา เอกโตว สมฺมตาติฯ

    Cīvarapaccayaṃ sallakkhetvāti saddhādeyyatatruppādādivasena tasmiṃ vassāvāse labbhamānaṃ cīvarasaṅkhātaṃ paccayaṃ ‘‘ettaka’’nti paricchinditvā. Senāsanassāti senāsanaggāhāpanassa. ‘‘Navako vuḍḍhatarassa, vuḍḍho canavakassā’’ti idaṃ senāsanaggāhassa attanāva attano gahaṇaṃ asāruppanti vuttaṃ, dve aññamaññaṃ gāhessantīti adhippāyo. Aṭṭhapi soḷasapi jane sammannituṃ vaṭṭatīti ekakammavācāya sabbepi ekato sammannituṃ vaṭṭati. Niggahakammameva hi saṅgho saṅghassa na karoti. Teneva sattasatikakkhandhake ‘‘ubbāhikakammasammutiyaṃ aṭṭhapi janā ekatova sammatāti.

    อาสนฆรนฺติ ปฎิมาฆรํฯ มโคฺคติ อุปจารสีมพฺภนฺตรคเต คามาภิมุขมเคฺค กตสาลา วุจฺจติฯ เอวํ โปกฺขรณีรุกฺขมูลาทีสุปิฯ

    Āsanagharanti paṭimāgharaṃ. Maggoti upacārasīmabbhantaragate gāmābhimukhamagge katasālā vuccati. Evaṃ pokkharaṇīrukkhamūlādīsupi.

    ลภนฺตีติ ตตฺรวาสิโน ภิกฺขู ลภนฺติฯ วิชเฎตฺวาติ ‘‘เอเกกสฺส ปโหนกปฺปมาเณน วิโยเชตฺวาฯ อาวาเสสุ ปกฺขิปิตฺวาติ ‘‘อิโต อุปฺปนฺนํ อสุกสฺมิํ อสุกสฺมิญฺจ อาวาเส วสนฺตา ปาเปตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ วาจาย อุปสํหริตฺวาฯ ปวิสิตพฺพนฺติ มหาลาเภ ปริเวเณ วสิตฺวาว ลาโภ คเหตโพฺพติ อธิปฺปาโยฯ

    Labhantīti tatravāsino bhikkhū labhanti. Vijaṭetvāti ‘‘ekekassa pahonakappamāṇena viyojetvā. Āvāsesu pakkhipitvāti ‘‘ito uppannaṃ asukasmiṃ asukasmiñca āvāse vasantā pāpetvā gaṇhantū’’ti vācāya upasaṃharitvā. Pavisitabbanti mahālābhe pariveṇe vasitvāva lābho gahetabboti adhippāyo.

    อยมฺปีติ เอตฺถ โย ปํสุกูลิโก ปจฺจยํ วิสฺสเชฺชติฯ เตเนว วิสฺสโฎฺฐ อยํ จีวรปจฺจโยปีติ โยชนาฯ ปาทมูเล ฐเปตฺวา สาฎกํ เทนฺตีติ ปจฺจยทายกา เทนฺติฯ เอเตน คหเฎฺฐหิ ปาทมูเล ฐเปตฺวา ทินฺนมฺปิ ปํสุกูลิกานมฺปิ วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ อถ วสฺสาวาสิกํ เทมาติ วทนฺตีติ เอตฺถ ปํสุกูลิกานํ น วฎฺฎตีติ อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺพํฯ วสฺสํวุตฺถภิกฺขูนนฺติ ปํสุกูลิกโต อเญฺญสํ ภิกฺขูนํฯ

    Ayampīti ettha yo paṃsukūliko paccayaṃ vissajjeti. Teneva vissaṭṭho ayaṃ cīvarapaccayopīti yojanā. Pādamūle ṭhapetvā sāṭakaṃ dentīti paccayadāyakā denti. Etena gahaṭṭhehi pādamūle ṭhapetvā dinnampi paṃsukūlikānampi vaṭṭatīti dasseti. Atha vassāvāsikaṃ demāti vadantīti ettha paṃsukūlikānaṃ na vaṭṭatīti ajjhāharitvā yojetabbaṃ. Vassaṃvutthabhikkhūnanti paṃsukūlikato aññesaṃ bhikkhūnaṃ.

    อุปนิพนฺธิตฺวา คาหาเปตพฺพนฺติ อิธ รุกฺขาทีสุ วสิตฺวา จีวรํ คณฺหถาติ ปฎิพนฺธํ กตฺวา คาเหตพฺพํฯ

    Upanibandhitvā gāhāpetabbanti idha rukkhādīsu vasitvā cīvaraṃ gaṇhathāti paṭibandhaṃ katvā gāhetabbaṃ.

    ปาฎิปทอรุณโตติอาทิ วสฺสูปนายิกทิวสํ สนฺธาย วุตฺตํฯ อนฺตรามุตฺตกํ ปน ปาฎิปทํ อติกฺกมิตฺวาปิ คาเหตุํ วฎฺฎติฯ นิพทฺธวตฺตํ ฐเปตฺวาติ สชฺฌายมนสิการาทีสุ นิรนฺตรกรณีเยสุ กตฺตพฺพํ กติกวตฺตํ กตฺวาฯ กสาวปริภณฺฑนฺติ กสาวรเสหิ ภูมิปริกมฺมํฯ

    Pāṭipadaaruṇatotiādi vassūpanāyikadivasaṃ sandhāya vuttaṃ. Antarāmuttakaṃ pana pāṭipadaṃ atikkamitvāpi gāhetuṃ vaṭṭati. Nibaddhavattaṃ ṭhapetvāti sajjhāyamanasikārādīsu nirantarakaraṇīyesu kattabbaṃ katikavattaṃ katvā. Kasāvaparibhaṇḍanti kasāvarasehi bhūmiparikammaṃ.

    ติวิธมฺปีติ ปริยตฺติปฎิปตฺติปฎิเวธวเสน ติวิธมฺปิฯ โสเธตฺวาติ อาจาราทีสุ อุปปริกฺขิตฺวาฯ เอกจาริกวตฺตนฺติ ภาวนากมฺมํฯ ตญฺหิ คณสงฺคณิกํ ปหาย เอกจาริเกเนว วตฺติตพฺพตฺตา เอวํ วุตฺตํฯ ทสวตฺถุกกถา นาม อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฎฺฐิ, ปวิเวก, อสํสคฺค, วีริยารมฺภ, สีล, สมาธิ, ปญฺญา, วิมุตฺติ, วิมุตฺติญาณทสฺสนกถาติ อิมา ทสฯ

    Tividhampīti pariyattipaṭipattipaṭivedhavasena tividhampi. Sodhetvāti ācārādīsu upaparikkhitvā. Ekacārikavattanti bhāvanākammaṃ. Tañhi gaṇasaṅgaṇikaṃ pahāya ekacārikeneva vattitabbattā evaṃ vuttaṃ. Dasavatthukakathā nāma appicchakathā, santuṭṭhi, paviveka, asaṃsagga, vīriyārambha, sīla, samādhi, paññā, vimutti, vimuttiñāṇadassanakathāti imā dasa.

    ทนฺตกฎฺฐขาทนวตฺตนฺติ ทนฺตกฎฺฐมาฬเก นิกฺขิเตฺตสุ ทนฺตกเฎฺฐสุ ‘‘ทิวเส ทิวเส เอกเมว ทนฺตกฎฺฐํ คเหตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. อฎฺฐ. ๑.๑๐๙) อทินฺนาทาเน ทนฺตโปนกถายํ วุตฺตํ วตฺตํฯ ปตฺตํ วา…เป.… น กเถตพฺพนฺติ ปตฺตคุตฺตตฺถาย วุตฺตํฯ วิสภาคกถาติ ติรจฺฉานกถาฯ ขนฺธกวตฺตนฺติ วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๖๕) อาคตํ ปิณฺฑจาริกวตฺตโต อวสิฎฺฐวตฺตํ ตสฺส ‘‘ภิกฺขาจารวตฺต’’นฺติ วิสุํ คหิตตฺตาฯ

    Dantakaṭṭhakhādanavattanti dantakaṭṭhamāḷake nikkhittesu dantakaṭṭhesu ‘‘divase divase ekameva dantakaṭṭhaṃ gahetabba’’ntiādinā (pārā. aṭṭha. 1.109) adinnādāne dantaponakathāyaṃ vuttaṃ vattaṃ. Pattaṃ vā…pe… na kathetabbanti pattaguttatthāya vuttaṃ. Visabhāgakathāti tiracchānakathā. Khandhakavattanti vattakkhandhake (cūḷava. 365) āgataṃ piṇḍacārikavattato avasiṭṭhavattaṃ tassa ‘‘bhikkhācāravatta’’nti visuṃ gahitattā.

    อิทานิ ยํ ทายกา ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานํ วสฺสาวาสิกํ เทนฺติ, ตตฺถ ปฎิปชฺชนวิธิํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปจฺฉิมวสฺสูปนายิกทิวเส ปนา’’ติ อารทฺธํฯ อาคนฺตุโก สเจ ภิกฺขูติ จีวเร คาหิเต ปจฺฉา อาคโต อาคนฺตุโก ภิกฺขุฯ ปตฺตฎฺฐาเนติ วสฺสเคฺคน ปตฺตฎฺฐาเนฯ ปฐมวสฺสูปคตาติ อาคนฺตุกสฺส อาคมนโต ปุเรตรเมว ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปนายิกาย วสฺสูปคตาฯ ลทฺธํ ลทฺธนฺติ ปุนปฺปุนํ ทายกานํ สนฺติกา อาคตาคตสาฎกํฯ

    Idāni yaṃ dāyakā pacchimavassaṃvutthānaṃ vassāvāsikaṃ denti, tattha paṭipajjanavidhiṃ dassetuṃ ‘‘pacchimavassūpanāyikadivase panā’’ti āraddhaṃ. Āgantuko sace bhikkhūti cīvare gāhite pacchā āgato āgantuko bhikkhu. Pattaṭṭhāneti vassaggena pattaṭṭhāne. Paṭhamavassūpagatāti āgantukassa āgamanato puretarameva pacchimikāya vassūpanāyikāya vassūpagatā. Laddhaṃ laddhanti punappunaṃ dāyakānaṃ santikā āgatāgatasāṭakaṃ.

    เนว วสฺสาวาสิกสฺส สามิโนติ ฉินฺนวสฺสตฺตา วุตฺตํฯ ปฐมเมว กติกาย กตตฺตา ‘‘เนว อทาตุํ ลภนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ทาตพฺพํ วาเรนฺตานํ คีวา โหตีติ อธิปฺปาโยฯ เตสเมว ทาตพฺพนฺติ วสฺสูปคเตสุ อลทฺธวสฺสาวาสิกานํ เอกจฺจานเมว ทาตพฺพํฯ

    Neva vassāvāsikassa sāminoti chinnavassattā vuttaṃ. Paṭhamameva katikāya katattā ‘‘neva adātuṃ labhantī’’ti vuttaṃ, dātabbaṃ vārentānaṃ gīvā hotīti adhippāyo. Tesameva dātabbanti vassūpagatesu aladdhavassāvāsikānaṃ ekaccānameva dātabbaṃ.

    ภตินิวิฎฺฐนฺติ ปานียุปฎฺฐานาทิภติํ กตฺวา ลทฺธํฯ สงฺฆิกํ ปนาติอาทิ เกสญฺจิ วาททสฺสนํฯ ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ กตฺวา คาหิตนฺติ ‘‘ฉินฺนวสฺสานํ วสฺสาวาสิกญฺจ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวสฺสาวาสิกญฺจ อิเมสํ ทาตุํ รุจฺจตี’’ติ อนนฺตเร วุตฺตนเยน อปโลกนํ กตฺวา คาหิตํ สเงฺฆน ทินฺนตฺตา วิพฺภโนฺตปิ ลภติฯ ปเคว ฉินฺนวโสฺสฯ ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน เตมาสํ วสิตฺวา คเหตุํ อตฺตนา, ทายเกหิ จ อนุมตตฺตา ภตินิวิฎฺฐมฺปิ ฉินฺนวโสฺสปิ วิพฺภโนฺตปิ น ลภตีติ เกจิ อาจริยา วทนฺติฯ อิทญฺจ ปจฺฉา วุตฺตตฺตา ปมาณํฯ เตเนว วสฺสูปนายิกทิวเส เอว ทายเกหิ ทินฺนวสฺสาวาสิกํ คหิตภิกฺขุโน วสฺสเจฺฉทํ อกตฺวา วาโสว เหฎฺฐา วิหิโต, น ปานียุปฎฺฐานาทิภติกรณวตฺตํฯ ยทิ หิ ตํ นิวิฎฺฐเมว สิยา, ภติกรณเมว วิธาตพฺพํฯ ตสฺมา วสฺสเคฺคน คาหิตํ ฉินฺนวสฺสาทโย น ลภนฺตีติ เวทิตพฺพํฯ

    Bhatiniviṭṭhanti pānīyupaṭṭhānādibhatiṃ katvā laddhaṃ. Saṅghikaṃ panātiādi kesañci vādadassanaṃ. Tattha apalokanakammaṃ katvā gāhitanti ‘‘chinnavassānaṃ vassāvāsikañca idāni uppajjanakavassāvāsikañca imesaṃ dātuṃ ruccatī’’ti anantare vuttanayena apalokanaṃ katvā gāhitaṃ saṅghena dinnattā vibbhantopi labhati. Pageva chinnavasso. Paccayavasena gāhitaṃ pana temāsaṃ vasitvā gahetuṃ attanā, dāyakehi ca anumatattā bhatiniviṭṭhampi chinnavassopi vibbhantopi na labhatīti keci ācariyā vadanti. Idañca pacchā vuttattā pamāṇaṃ. Teneva vassūpanāyikadivase eva dāyakehi dinnavassāvāsikaṃ gahitabhikkhuno vassacchedaṃ akatvā vāsova heṭṭhā vihito, na pānīyupaṭṭhānādibhatikaraṇavattaṃ. Yadi hi taṃ niviṭṭhameva siyā, bhatikaraṇameva vidhātabbaṃ. Tasmā vassaggena gāhitaṃ chinnavassādayo na labhantīti veditabbaṃ.

    ‘‘สงฺฆิกํ โหตี’’ติ เอเตน วุตฺถวสฺสานมฺปิ วสฺสาวาสิกภาโค สงฺฆิกโต อโมจิโต เตสํ วิพฺภเมน สงฺฆิโก โหตีติ ทเสฺสติฯ ลภตีติ ‘‘มม ปตฺตภาคํ เอตสฺส เทถา’’ติ ทายเก สมฺปฎิจฺฉาเปเนฺตเนว สงฺฆิกโต วิโยชิตํ โหตีติ วุตฺตํฯ

    ‘‘Saṅghikaṃ hotī’’ti etena vutthavassānampi vassāvāsikabhāgo saṅghikato amocito tesaṃ vibbhamena saṅghiko hotīti dasseti. Labhatīti ‘‘mama pattabhāgaṃ etassa dethā’’ti dāyake sampaṭicchāpenteneva saṅghikato viyojitaṃ hotīti vuttaṃ.

    วรภาคํ สามเณรสฺสาติ ตสฺส ปฐมคาหตฺตา, เถเรน ปุเพฺพ ปฐมภาคสฺส คหิตตฺตา, อิทานิ คยฺหมานสฺส ทุติยภาคตฺตา จ วุตฺตํฯ

    Varabhāgaṃ sāmaṇerassāti tassa paṭhamagāhattā, therena pubbe paṭhamabhāgassa gahitattā, idāni gayhamānassa dutiyabhāgattā ca vuttaṃ.

    เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Senāsanaggāhakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / เสนาสนคฺคาหาปกสมฺมุติ • Senāsanaggāhāpakasammuti

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / เสนาสนคฺคาหกถา • Senāsanaggāhakathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / เสนาสนคฺคาหาปกสมฺมุติกถาวณฺณนา • Senāsanaggāhāpakasammutikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา • Senāsanaggāhakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / เสนาสนคฺคาหกถา • Senāsanaggāhakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact