Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi

    ๒. เสรีสกเปตวตฺถุ

    2. Serīsakapetavatthu

    ๖๐๔.

    604.

    1 สุโณถ ยกฺขสฺส วาณิชาน จ, สมาคโม ยตฺถ ตทา อโหสิ;

    2 Suṇotha yakkhassa vāṇijāna ca, samāgamo yattha tadā ahosi;

    ยถา กถํ อิตริตเรน จาปิ, สุภาสิตํ ตญฺจ สุณาถ สเพฺพฯ

    Yathā kathaṃ itaritarena cāpi, subhāsitaṃ tañca suṇātha sabbe.

    ๖๐๕.

    605.

    โย โส อหุ ราชา ปายาสิ นาม 3, ภุมฺมานํ สหพฺยคโต ยสสฺสี;

    Yo so ahu rājā pāyāsi nāma 4, bhummānaṃ sahabyagato yasassī;

    โส โมทมาโนว สเก วิมาเน, อมานุโส มานุเส อชฺฌภาสีติฯ

    So modamānova sake vimāne, amānuso mānuse ajjhabhāsīti.

    ๖๐๖.

    606.

    ‘‘วเงฺก อรเญฺญ อมนุสฺสฎฺฐาเน, กนฺตาเร อโปฺปทเก อปฺปภเกฺข;

    ‘‘Vaṅke araññe amanussaṭṭhāne, kantāre appodake appabhakkhe;

    สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มเชฺฌ, วงฺกํภยา นฎฺฐมนา มนุสฺสาฯ

    Suduggame vaṇṇupathassa majjhe, vaṅkaṃbhayā naṭṭhamanā manussā.

    ๖๐๗.

    607.

    ‘‘นยิธ ผลา มูลมยา จ สนฺติ, อุปาทานํ นตฺถิ กุโตธ ภโกฺข 5;

    ‘‘Nayidha phalā mūlamayā ca santi, upādānaṃ natthi kutodha bhakkho 6;

    อญฺญตฺร ปํสูหิ จ วาลุกาหิ จ, ตตาหิ อุณฺหาหิ จ ทารุณาหิ จฯ

    Aññatra paṃsūhi ca vālukāhi ca, tatāhi uṇhāhi ca dāruṇāhi ca.

    ๖๐๘.

    608.

    ‘‘อุชฺชงฺคลํ ตตฺตมิวํ กปาลํ, อนายสํ ปรโลเกน ตุลฺยํ;

    ‘‘Ujjaṅgalaṃ tattamivaṃ kapālaṃ, anāyasaṃ paralokena tulyaṃ;

    ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณํ, ภูมิปฺปเทโส อภิสตฺตรูโปฯ

    Luddānamāvāsamidaṃ purāṇaṃ, bhūmippadeso abhisattarūpo.

    ๖๐๙.

    609.

    ‘‘‘อถ ตุเมฺห เกน วเณฺณน, กิมาสมานา อิมํ ปเทสํ หิ;

    ‘‘‘Atha tumhe kena vaṇṇena, kimāsamānā imaṃ padesaṃ hi;

    อนุปวิฎฺฐา สหสา สมจฺจ, โลภา ภยา อถ วา สมฺปมูฬฺหา’’’ติฯ

    Anupaviṭṭhā sahasā samacca, lobhā bhayā atha vā sampamūḷhā’’’ti.

    ๖๑๐.

    610.

    ‘‘มคเธสุ อเงฺคสุ จ สตฺถวาหา, อาโรปยิตฺวา ปณิยํ ปุถุตฺตํ;

    ‘‘Magadhesu aṅgesu ca satthavāhā, āropayitvā paṇiyaṃ puthuttaṃ;

    เต ยามเส สินฺธุโสวีรภูมิํ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานาฯ

    Te yāmase sindhusovīrabhūmiṃ, dhanatthikā uddayaṃ patthayānā.

    ๖๑๑.

    611.

    ‘‘ทิวา ปิปาสํ นธิวาสยนฺตา, โยคฺคานุกมฺปญฺจ สเมกฺขมานา;

    ‘‘Divā pipāsaṃ nadhivāsayantā, yoggānukampañca samekkhamānā;

    เอเตน เวเคน อายาม สเพฺพ, รตฺติํ มคฺคํ ปฎิปนฺนา วิกาเลฯ

    Etena vegena āyāma sabbe, rattiṃ maggaṃ paṭipannā vikāle.

    ๖๑๒.

    612.

    ‘‘เต ทุปฺปยาตา อปรทฺธมคฺคา, อนฺธากุลา วิปฺปนฎฺฐา อรเญฺญ;

    ‘‘Te duppayātā aparaddhamaggā, andhākulā vippanaṭṭhā araññe;

    สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มเชฺฌ, ทิสํ น ชานาม ปมูฬฺหจิตฺตาฯ

    Suduggame vaṇṇupathassa majjhe, disaṃ na jānāma pamūḷhacittā.

    ๖๑๓.

    613.

    ‘‘อิทญฺจ ทิสฺวาน อทิฎฺฐปุพฺพํ, วิมานเสฎฺฐญฺจ ตวญฺจ ยกฺข;

    ‘‘Idañca disvāna adiṭṭhapubbaṃ, vimānaseṭṭhañca tavañca yakkha;

    ตตุตฺตริํ ชีวิตมาสมานา, ทิสฺวา ปตีตา สุมนา อุทคฺคา’’ติฯ

    Tatuttariṃ jīvitamāsamānā, disvā patītā sumanā udaggā’’ti.

    ๖๑๔.

    614.

    ‘‘ปารํ สมุทฺทสฺส อิมญฺจ วณฺณุํ, เวตฺตาจรํ 7 สงฺกุปถญฺจ มคฺคํ;

    ‘‘Pāraṃ samuddassa imañca vaṇṇuṃ, vettācaraṃ 8 saṅkupathañca maggaṃ;

    นทิโย ปน ปพฺพตานญฺจ ทุคฺคา, ปุถุทฺทิสา คจฺฉถ โภคเหตุฯ

    Nadiyo pana pabbatānañca duggā, puthuddisā gacchatha bhogahetu.

    ๖๑๕.

    615.

    ‘‘ปกฺขนฺทิยาน วิชิตํ ปเรสํ, เวรชฺชเก มานุเส เปกฺขมานา;

    ‘‘Pakkhandiyāna vijitaṃ paresaṃ, verajjake mānuse pekkhamānā;

    ยํ โว สุตํ วา อถ วาปิ ทิฎฺฐํ, อเจฺฉรกํ ตํ โว สุโณม ตาตา’’ติฯ

    Yaṃ vo sutaṃ vā atha vāpi diṭṭhaṃ, accherakaṃ taṃ vo suṇoma tātā’’ti.

    ๖๑๖.

    616.

    ‘‘อิโตปิ อเจฺฉรตรํ กุมาร, น โน สุตํ วา อถ วาปิ ทิฎฺฐํ;

    ‘‘Itopi accherataraṃ kumāra, na no sutaṃ vā atha vāpi diṭṭhaṃ;

    อตีตมานุสฺสกเมว สพฺพํ, ทิสฺวา น ตปฺปาม อโนมวณฺณํฯ

    Atītamānussakameva sabbaṃ, disvā na tappāma anomavaṇṇaṃ.

    ๖๑๗.

    617.

    ‘‘เวหายสํ โปกฺขรโญฺญ สวนฺติ, ปหูตมลฺยา 9 พหุปุณฺฑรีกา;

    ‘‘Vehāyasaṃ pokkharañño savanti, pahūtamalyā 10 bahupuṇḍarīkā;

    ทุมา จิเม นิจฺจผลูปปนฺนา, อตีว คนฺธา สุรภิํ ปวายนฺติฯ

    Dumā cime niccaphalūpapannā, atīva gandhā surabhiṃ pavāyanti.

    ๖๑๘.

    618.

    ‘‘เวฬูริยถมฺภา สตมุสฺสิตาเส, สิลาปวาฬสฺส จ อายตํสา;

    ‘‘Veḷūriyathambhā satamussitāse, silāpavāḷassa ca āyataṃsā;

    มสารคลฺลา สหโลหิตงฺคา, ถมฺภา อิเม โชติรสามยาเสฯ

    Masāragallā sahalohitaṅgā, thambhā ime jotirasāmayāse.

    ๖๑๙.

    619.

    ‘‘สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, เตสูปริ สาธุมิทํ วิมานํ;

    ‘‘Sahassathambhaṃ atulānubhāvaṃ, tesūpari sādhumidaṃ vimānaṃ;

    รตนนฺตรํ กญฺจนเวทิมิสฺสํ, ตปนียปเฎฺฎหิ จ สาธุฉนฺนํฯ

    Ratanantaraṃ kañcanavedimissaṃ, tapanīyapaṭṭehi ca sādhuchannaṃ.

    ๖๒๐.

    620.

    ‘‘ชโมฺพนทุตฺตตฺตมิทํ สุมโฎฺฐ, ปาสาทโสปาณผลูปปโนฺน;

    ‘‘Jambonaduttattamidaṃ sumaṭṭho, pāsādasopāṇaphalūpapanno;

    ทโฬฺห จ วคฺคุ จ สุสงฺคโต จ 11, อตีว นิชฺฌานขโม มนุโญฺญฯ

    Daḷho ca vaggu ca susaṅgato ca 12, atīva nijjhānakhamo manuñño.

    ๖๒๑.

    621.

    ‘‘รตนนฺตรสฺมิํ พหุอนฺนปานํ, ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน;

    ‘‘Ratanantarasmiṃ bahuannapānaṃ, parivārito accharāsaṅgaṇena;

    มุรชอาลมฺพรตูริยฆุโฎฺฐ, อภิวนฺทิโตสิ ถุติวนฺทนายฯ

    Murajaālambaratūriyaghuṭṭho, abhivanditosi thutivandanāya.

    ๖๒๒.

    622.

    ‘‘โส โมทสิ นาริคณปฺปโพธโน, วิมานปาสาทวเร มโนรเม;

    ‘‘So modasi nārigaṇappabodhano, vimānapāsādavare manorame;

    อจินฺติโย สพฺพคุณูปปโนฺน, ราชา ยถา เวสฺสวโณ นฬินฺยา 13

    Acintiyo sabbaguṇūpapanno, rājā yathā vessavaṇo naḷinyā 14.

    ๖๒๓.

    623.

    ‘‘เทโว นุ อาสิ อุทวาสิ ยโกฺข, อุทาหุ เทวิโนฺท มนุสฺสภูโต;

    ‘‘Devo nu āsi udavāsi yakkho, udāhu devindo manussabhūto;

    ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, อาจิกฺข โก นาม ตุวํสิ ยโกฺข’’ติฯ

    Pucchanti taṃ vāṇijā satthavāhā, ācikkha ko nāma tuvaṃsi yakkho’’ti.

    ๖๒๔.

    624.

    ‘‘เสรีสโก นาม อหมฺหิ ยโกฺข, กนฺตาริโย วณฺณุปถมฺหิ คุโตฺต;

    ‘‘Serīsako nāma ahamhi yakkho, kantāriyo vaṇṇupathamhi gutto;

    อิมํ ปเทสํ อภิปาลยามิ, วจนกโร เวสฺสวณสฺส รโญฺญ’’ติฯ

    Imaṃ padesaṃ abhipālayāmi, vacanakaro vessavaṇassa rañño’’ti.

    ๖๒๕.

    625.

    ‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํ กตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;

    ‘‘Adhiccaladdhaṃ pariṇāmajaṃ te, sayaṃ kataṃ udāhu devehi dinnaṃ;

    ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ มนุญฺญ’’นฺติฯ

    Pucchanti taṃ vāṇijā satthavāhā, kathaṃ tayā laddhamidaṃ manuñña’’nti.

    ๖๒๖.

    626.

    ‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํ กตํ น หิ เทเวหิ ทินฺนํ;

    ‘‘Nādhiccaladdhaṃ na pariṇāmajaṃ me, na sayaṃ kataṃ na hi devehi dinnaṃ;

    สเกหิ กเมฺมหิ อปาปเกหิ, ปุเญฺญหิ เม ลทฺธมิทํ มนุญฺญ’’นฺติฯ

    Sakehi kammehi apāpakehi, puññehi me laddhamidaṃ manuñña’’nti.

    ๖๒๗.

    627.

    ‘‘กิํ เต วตํ กิํ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

    ‘‘Kiṃ te vataṃ kiṃ pana brahmacariyaṃ, kissa suciṇṇassa ayaṃ vipāko;

    ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติฯ

    Pucchanti taṃ vāṇijā satthavāhā, kathaṃ tayā laddhamidaṃ vimāna’’nti.

    ๖๒๘.

    628.

    ‘‘มมํ ปายาสีติ อหุ สมญฺญา, รชฺชํ ยทา การยิํ โกสลานํ;

    ‘‘Mamaṃ pāyāsīti ahu samaññā, rajjaṃ yadā kārayiṃ kosalānaṃ;

    นตฺถิกทิฎฺฐิ กทริโย ปาปธโมฺม, อุเจฺฉทวาที จ ตทา อโหสิํฯ

    Natthikadiṭṭhi kadariyo pāpadhammo, ucchedavādī ca tadā ahosiṃ.

    ๖๒๙.

    629.

    ‘‘สมโณ จ โข อาสิ กุมารกสฺสโป, พหุสฺสุโต จิตฺตกถี อุฬาโร;

    ‘‘Samaṇo ca kho āsi kumārakassapo, bahussuto cittakathī uḷāro;

    โส เม ตทา ธมฺมกถํ อภาสิ, ทิฎฺฐิวิสูกานิ วิโนทยี เมฯ

    So me tadā dhammakathaṃ abhāsi, diṭṭhivisūkāni vinodayī me.

    ๖๓๐.

    630.

    ‘‘ตาหํ ตสฺส ธมฺมกถํ สุณิตฺวา, อุปาสกตฺตํ ปฎิเทวยิสฺสํ;

    ‘‘Tāhaṃ tassa dhammakathaṃ suṇitvā, upāsakattaṃ paṭidevayissaṃ;

    ปาณาติปาตา วิรโต อโหสิํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ;

    Pāṇātipātā virato ahosiṃ, loke adinnaṃ parivajjayissaṃ;

    อมชฺชโป โน จ มุสา อภาณิํ, สเกน ทาเรน จ อโหสิ ตุโฎฺฐฯ

    Amajjapo no ca musā abhāṇiṃ, sakena dārena ca ahosi tuṭṭho.

    ๖๓๑.

    631.

    ‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

    ‘‘Taṃ me vataṃ taṃ pana brahmacariyaṃ, tassa suciṇṇassa ayaṃ vipāko;

    เตเหว กเมฺมหิ อปาปเกหิ, ปุเญฺญหิ เม ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติฯ

    Teheva kammehi apāpakehi, puññehi me laddhamidaṃ vimāna’’nti.

    ๖๓๒.

    632.

    ‘‘สจฺจํ กิราหํสุ นรา สปญฺญา, อนญฺญถา วจนํ ปณฺฑิตานํ;

    ‘‘Saccaṃ kirāhaṃsu narā sapaññā, anaññathā vacanaṃ paṇḍitānaṃ;

    ยหิํ ยหิํ คจฺฉติ ปุญฺญกโมฺม, ตหิํ ตหิํ โมทติ กามกามีฯ

    Yahiṃ yahiṃ gacchati puññakammo, tahiṃ tahiṃ modati kāmakāmī.

    ๖๓๓.

    633.

    ‘‘ยหิํ ยหิํ โสกปริทฺทโว จ, วโธ จ พโนฺธ จ ปริกฺกิเลโส;

    ‘‘Yahiṃ yahiṃ sokapariddavo ca, vadho ca bandho ca parikkileso;

    ตหิํ ตหิํ คจฺฉติ ปาปกโมฺม, น มุจฺจติ ทุคฺคติยา กทาจี’’ติฯ

    Tahiṃ tahiṃ gacchati pāpakammo, na muccati duggatiyā kadācī’’ti.

    ๖๓๔.

    634.

    ‘‘สมฺมูฬฺหรูโปว ชโน อโหสิ, อสฺมิํ มุหุเตฺต กลลีกโตว;

    ‘‘Sammūḷharūpova jano ahosi, asmiṃ muhutte kalalīkatova;

    ชนสฺสิมสฺส ตุยฺหญฺจ กุมาร, อปฺปจฺจโย เกน นุ โข อโหสี’’ติฯ

    Janassimassa tuyhañca kumāra, appaccayo kena nu kho ahosī’’ti.

    ๖๓๕.

    635.

    ‘‘อิเม จ สิรีสวนา 15 ตาตา, ทิพฺพา คนฺธา สุรภี สมฺปวนฺติ;

    ‘‘Ime ca sirīsavanā 16 tātā, dibbā gandhā surabhī sampavanti;

    เต สมฺปวายนฺติ อิมํ วิมานํ, ทิวา จ รโตฺต จ ตมํ นิหนฺตฺวาฯ

    Te sampavāyanti imaṃ vimānaṃ, divā ca ratto ca tamaṃ nihantvā.

    ๖๓๖.

    636.

    ‘‘อิเมสญฺจ โข วสฺสสตจฺจเยน, สิปาฎิกา ผลติ เอกเมกา;

    ‘‘Imesañca kho vassasataccayena, sipāṭikā phalati ekamekā;

    มานุสฺสกํ วสฺสสตํ อตีตํ, ยทเคฺค กายมฺหิ อิธูปปโนฺนฯ

    Mānussakaṃ vassasataṃ atītaṃ, yadagge kāyamhi idhūpapanno.

    ๖๓๗.

    637.

    ‘‘ทิสฺวานหํ วสฺสสตานิ ปญฺจ, อสฺมิํ วิมาเน ฐตฺวาน ตาตา;

    ‘‘Disvānahaṃ vassasatāni pañca, asmiṃ vimāne ṭhatvāna tātā;

    อายุกฺขยา ปุญฺญกฺขยา จวิสฺสํ, เตเนว โสเกน ปมุจฺฉิโตสฺมี’’ติฯ

    Āyukkhayā puññakkhayā cavissaṃ, teneva sokena pamucchitosmī’’ti.

    ๖๓๘.

    638.

    ‘‘กถํ นุ โสเจยฺย ตถาวิโธ โส, ลทฺธา วิมานํ อตุลํ จิราย;

    ‘‘Kathaṃ nu soceyya tathāvidho so, laddhā vimānaṃ atulaṃ cirāya;

    เย จาปิ โข อิตฺตรมุปปนฺนา, เต นูน โสเจยฺยุํ ปริตฺตปุญฺญา’’ติฯ

    Ye cāpi kho ittaramupapannā, te nūna soceyyuṃ parittapuññā’’ti.

    ๖๓๙.

    639.

    ‘‘อนุจฺฉวิํ โอวทิยญฺจ เม ตํ, ยํ มํ ตุเมฺห เปยฺยวาจํ วเทถ;

    ‘‘Anucchaviṃ ovadiyañca me taṃ, yaṃ maṃ tumhe peyyavācaṃ vadetha;

    ตุเมฺห จ โข ตาตา มยานุคุตฺตา, เยนิจฺฉกํ เตน ปเลถ โสตฺถิ’’นฺติฯ

    Tumhe ca kho tātā mayānuguttā, yenicchakaṃ tena paletha sotthi’’nti.

    ๖๔๐.

    640.

    ‘‘คนฺตฺวา มยํ สินฺธุโสวีรภูมิํ, ธนฺนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา;

    ‘‘Gantvā mayaṃ sindhusovīrabhūmiṃ, dhannatthikā uddayaṃ patthayānā;

    ยถาปโยคา ปริปุณฺณจาคา, กาหาม เสรีสมหํ อุฬาร’’นฺติฯ

    Yathāpayogā paripuṇṇacāgā, kāhāma serīsamahaṃ uḷāra’’nti.

    ๖๔๑.

    641.

    ‘‘มา เจว เสรีสมหํ อกตฺถ, สพฺพญฺจ โว ภวิสฺสติ ยํ วเทถ;

    ‘‘Mā ceva serīsamahaṃ akattha, sabbañca vo bhavissati yaṃ vadetha;

    ปาปานิ กมฺมานิ วิวชฺชยาถ, ธมฺมานุโยคญฺจ อธิฎฺฐหาถฯ

    Pāpāni kammāni vivajjayātha, dhammānuyogañca adhiṭṭhahātha.

    ๖๔๒.

    642.

    ‘‘อุปาสโก อตฺถิ อิมมฺหิ สเงฺฆ, พหุสฺสุโต สีลวตูปปโนฺน;

    ‘‘Upāsako atthi imamhi saṅghe, bahussuto sīlavatūpapanno;

    สโทฺธ จ จาคี จ สุเปสโล จ, วิจกฺขโณ สนฺตุสิโต มุตีมาฯ

    Saddho ca cāgī ca supesalo ca, vicakkhaṇo santusito mutīmā.

    ๖๔๓.

    643.

    ‘‘สญฺชานมาโน น มุสา ภเณยฺย, ปรูปฆาตาย จ เจตเยยฺย;

    ‘‘Sañjānamāno na musā bhaṇeyya, parūpaghātāya ca cetayeyya;

    เวภูติกํ เปสุณํ โน กเรยฺย, สณฺหญฺจ วาจํ สขิลํ ภเณยฺยฯ

    Vebhūtikaṃ pesuṇaṃ no kareyya, saṇhañca vācaṃ sakhilaṃ bhaṇeyya.

    ๖๔๔.

    644.

    ‘‘สคารโว สปฺปฎิโสฺส วินีโต, อปาปโก อธิสีเล วิสุโทฺธ;

    ‘‘Sagāravo sappaṭisso vinīto, apāpako adhisīle visuddho;

    โส มาตรํ ปิตรญฺจาปิ ชนฺตุ, ธเมฺมน โปเสติ อริยวุตฺติฯ

    So mātaraṃ pitarañcāpi jantu, dhammena poseti ariyavutti.

    ๖๔๕.

    645.

    ‘‘มเญฺญ โส มาตาปิตูนํ การณา, โภคานิ ปริเยสติ น อตฺตเหตุ;

    ‘‘Maññe so mātāpitūnaṃ kāraṇā, bhogāni pariyesati na attahetu;

    มาตาปิตูนญฺจ โย อจฺจเยน, เนกฺขมฺมโปโณ จริสฺสติ พฺรหฺมจริยํฯ

    Mātāpitūnañca yo accayena, nekkhammapoṇo carissati brahmacariyaṃ.

    ๖๔๖.

    646.

    ‘‘อุชู อวโงฺก อสโฐ อมาโย, น เลสกเปฺปน จ โวหเรยฺย;

    ‘‘Ujū avaṅko asaṭho amāyo, na lesakappena ca vohareyya;

    โส ตาทิโส สุกตกมฺมการี, ธเมฺม ฐิโต กินฺติ ลเภถ ทุกฺขํฯ

    So tādiso sukatakammakārī, dhamme ṭhito kinti labhetha dukkhaṃ.

    ๖๔๗.

    647.

    ‘‘ตํ การณา ปาตุกโตมฺหิ อตฺตนา, ตสฺมา ธมฺมํ ปสฺสถ วาณิชาเส;

    ‘‘Taṃ kāraṇā pātukatomhi attanā, tasmā dhammaṃ passatha vāṇijāse;

    อญฺญตฺร เตนิห ภสฺมี 17 ภเวถ, อนฺธากุลา วิปฺปนฎฺฐา อรเญฺญ;

    Aññatra teniha bhasmī 18 bhavetha, andhākulā vippanaṭṭhā araññe;

    ตํ ขิปฺปมาเนน ลหุํ ปเรน, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติฯ

    Taṃ khippamānena lahuṃ parena, sukho have sappurisena saṅgamo’’ti.

    ๖๔๘.

    648.

    ‘‘กิํ นาม โส กิญฺจ กโรติ กมฺมํ, กิํ นามเธยฺยํ กิํ ปน ตสฺส โคตฺตํ;

    ‘‘Kiṃ nāma so kiñca karoti kammaṃ, kiṃ nāmadheyyaṃ kiṃ pana tassa gottaṃ;

    มยมฺปิ นํ ทฎฺฐุกามมฺห ยกฺข, ยสฺสานุกมฺปาย อิธาคโตสิ;

    Mayampi naṃ daṭṭhukāmamha yakkha, yassānukampāya idhāgatosi;

    ลาภา หิ ตสฺส ยสฺส ตุวํ ปิเหสี’’ติฯ

    Lābhā hi tassa yassa tuvaṃ pihesī’’ti.

    ๖๔๙.

    649.

    ‘‘โย กปฺปโก สมฺภวนามเธโยฺย, อุปาสโก โกจฺฉผลูปชีวี;

    ‘‘Yo kappako sambhavanāmadheyyo, upāsako kocchaphalūpajīvī;

    ชานาถ นํ ตุมฺหากํ เปสิโย โส, มา โข นํ หีฬิตฺถ สุเปสโล โส’’ติฯ

    Jānātha naṃ tumhākaṃ pesiyo so, mā kho naṃ hīḷittha supesalo so’’ti.

    ๖๕๐.

    650.

    ‘‘ชานามเส ยํ ตฺวํ ปวเทสิ ยกฺข, น โข นํ ชานาม ส เอทิโสติ;

    ‘‘Jānāmase yaṃ tvaṃ pavadesi yakkha, na kho naṃ jānāma sa edisoti;

    มยมฺปิ นํ ปูชยิสฺสาม ยกฺข, สุตฺวาน ตุยฺหํ วจนํ อุฬาร’’นฺติฯ

    Mayampi naṃ pūjayissāma yakkha, sutvāna tuyhaṃ vacanaṃ uḷāra’’nti.

    ๖๕๑.

    651.

    ‘‘เย เกจิ อิมสฺมิํ สเตฺถ มนุสฺสา, ทหรา มหนฺตา อถวาปิ มชฺฌิมา;

    ‘‘Ye keci imasmiṃ satthe manussā, daharā mahantā athavāpi majjhimā;

    สเพฺพว เต อาลมฺพนฺตุ วิมานํ, ปสฺสนฺตุ ปุญฺญานํ ผลํ กทริยา’’ติฯ

    Sabbeva te ālambantu vimānaṃ, passantu puññānaṃ phalaṃ kadariyā’’ti.

    ๖๕๒.

    652.

    เต ตตฺถ สเพฺพว ‘อหํ ปุเร’ติ, ตํ กปฺปกํ ตตฺถ ปุรกฺขตฺวา 19;

    Te tattha sabbeva ‘ahaṃ pure’ti, taṃ kappakaṃ tattha purakkhatvā 20;

    สเพฺพว เต อาลมฺพิํสุ วิมานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺสฯ

    Sabbeva te ālambiṃsu vimānaṃ, masakkasāraṃ viya vāsavassa.

    ๖๕๓.

    653.

    เต ตตฺถ สเพฺพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฎิเวทยิํสุ;

    Te tattha sabbeva ‘ahaṃ pure’ti, upāsakattaṃ paṭivedayiṃsu;

    ปาณาติปาตา ปฎิวิรตา อเหสุํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิํสุ;

    Pāṇātipātā paṭiviratā ahesuṃ, loke adinnaṃ parivajjayiṃsu;

    อมชฺชปา โน จ มุสา ภณิํสุ, สเกน ทาเรน จ อเหสุํ ตุฎฺฐาฯ

    Amajjapā no ca musā bhaṇiṃsu, sakena dārena ca ahesuṃ tuṭṭhā.

    ๖๕๔.

    654.

    เต ตตฺถ สเพฺพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฎิเวทยิตฺวา;

    Te tattha sabbeva ‘ahaṃ pure’ti, upāsakattaṃ paṭivedayitvā;

    ปกฺกามิ สโตฺถ อนุโมทมาโน, ยกฺขิทฺธิยา อนุมโต ปุนปฺปุนํฯ

    Pakkāmi sattho anumodamāno, yakkhiddhiyā anumato punappunaṃ.

    ๖๕๕.

    655.

    คนฺตฺวาน เต สินฺธุโสวีรภูมิํ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ 21 ปตฺถยานา;

    Gantvāna te sindhusovīrabhūmiṃ, dhanatthikā uddayaṃ 22 patthayānā;

    ยถาปโยคา ปริปุณฺณลาภา, ปจฺจาคมุํ ปาฎลิปุตฺตมกฺขตํฯ

    Yathāpayogā paripuṇṇalābhā, paccāgamuṃ pāṭaliputtamakkhataṃ.

    ๖๕๖.

    656.

    คนฺตฺวาน เต สงฺฆรํ โสตฺถิวโนฺต, ปุเตฺตหิ ทาเรหิ สมงฺคิภูตา;

    Gantvāna te saṅgharaṃ sotthivanto, puttehi dārehi samaṅgibhūtā;

    อานนฺที วิตฺตา สุมนา ปตีตา, อกํสุ เสรีสมหํ อุฬารํ;

    Ānandī vittā sumanā patītā, akaṃsu serīsamahaṃ uḷāraṃ;

    เสรีสกํ เต ปริเวณํ มาปยิํสุฯ

    Serīsakaṃ te pariveṇaṃ māpayiṃsu.

    ๖๕๗.

    657.

    เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา, มหตฺถิกา ธมฺมคุณาน เสวนา;

    Etādisā sappurisāna sevanā, mahatthikā dhammaguṇāna sevanā;

    เอกสฺส อตฺถาย อุปาสกสฺส, สเพฺพว สตฺตา สุขิตา 23 อเหสุนฺติฯ

    Ekassa atthāya upāsakassa, sabbeva sattā sukhitā 24 ahesunti.

    เสรีสกเปตวตฺถุ ทุติยํฯ

    Serīsakapetavatthu dutiyaṃ.

    ภาณวารํ ตติยํ นิฎฺฐิตํฯ

    Bhāṇavāraṃ tatiyaṃ niṭṭhitaṃ.







    Footnotes:
    1. วิ. ว. ๑๒๒๘
    2. vi. va. 1228
    3. นาโม (สี.)
    4. nāmo (sī.)
    5. ภิโกฺข (ก.)
    6. bhikkho (ka.)
    7. เวตฺตํ ปรํ (สฺยา.), เวตฺตาจารํ (ก.)
    8. vettaṃ paraṃ (syā.), vettācāraṃ (ka.)
    9. ปหูตมาลฺยา (สฺยา.)
    10. pahūtamālyā (syā.)
    11. วคฺคุ สุมุโข สุสงฺคโต (สี.)
    12. vaggu sumukho susaṅgato (sī.)
    13. นฬิญฺญํ (ก.)
    14. naḷiññaṃ (ka.)
    15. อิเม สิรีสูปวนา จ (สี.), อิเมปิ สิรีสวนา จ (ปี. ก.)
    16. ime sirīsūpavanā ca (sī.), imepi sirīsavanā ca (pī. ka.)
    17. ภสฺมิ (สฺยา.), ภสฺม (ก.)
    18. bhasmi (syā.), bhasma (ka.)
    19. ปุรกฺขิปิตฺวา (สี.)
    20. purakkhipitvā (sī.)
    21. อุทย (ปี. ก.)
    22. udaya (pī. ka.)
    23. สุขิโน (ปี. ก.)
    24. sukhino (pī. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā / ๒. เสรีสกเปตวตฺถุวณฺณนา • 2. Serīsakapetavatthuvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact