Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุปาฬิ • Vimānavatthupāḷi

    ๑๐. เสรีสกวิมานวตฺถุ

    10. Serīsakavimānavatthu

    ๑๒๒๘.

    1228.

    1 สุโณถ ยกฺขสฺส จ วาณิชาน จ, สมาคโม ยตฺถ ตทา อโหสิ;

    2 Suṇotha yakkhassa ca vāṇijāna ca, samāgamo yattha tadā ahosi;

    ยถา กถํ อิตริตเรน จาปิ, สุภาสิตํ ตญฺจ สุณาถ สเพฺพฯ

    Yathā kathaṃ itaritarena cāpi, subhāsitaṃ tañca suṇātha sabbe.

    ๑๒๒๙.

    1229.

    ‘‘โย โส อหุ ราชา ปายาสิ นาม 3, ภุมฺมานํ สหพฺยคโต ยสสฺสี;

    ‘‘Yo so ahu rājā pāyāsi nāma 4, bhummānaṃ sahabyagato yasassī;

    โส โมทมาโนว สเก วิมาเน, อมานุโส มานุเส อชฺฌภาสีติฯ

    So modamānova sake vimāne, amānuso mānuse ajjhabhāsīti.

    ๑๒๓๐.

    1230.

    ‘‘วเงฺก อรเญฺญ อมนุสฺสฎฺฐาเน, กนฺตาเร อโปฺปทเก อปฺปภเกฺข;

    ‘‘Vaṅke araññe amanussaṭṭhāne, kantāre appodake appabhakkhe;

    สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มเชฺฌ, วงฺกํ ภยา 5 นฎฺฐมนา มนุสฺสาฯ

    Suduggame vaṇṇupathassa majjhe, vaṅkaṃ bhayā 6 naṭṭhamanā manussā.

    ๑๒๓๑.

    1231.

    ‘‘นยิธ ผลา มูลมยา จ สนฺติ, อุปาทานํ นตฺถิ กุโตธ ภโกฺข;

    ‘‘Nayidha phalā mūlamayā ca santi, upādānaṃ natthi kutodha bhakkho;

    อญฺญตฺร ปํสูหิ จ วาลุกาหิ จ, ตตาหิ อุณฺหาหิ จ ทารุณาหิ จฯ

    Aññatra paṃsūhi ca vālukāhi ca, tatāhi uṇhāhi ca dāruṇāhi ca.

    ๑๒๓๒.

    1232.

    ‘‘อุชฺชงฺคลํ ตตฺตมิวํ กปาลํ, อนายสํ ปรโลเกน ตุลฺยํ;

    ‘‘Ujjaṅgalaṃ tattamivaṃ kapālaṃ, anāyasaṃ paralokena tulyaṃ;

    ลุทฺทานมาวาสมิทํ ปุราณํ, ภูมิปฺปเทโส อภิสตฺตรูโปฯ

    Luddānamāvāsamidaṃ purāṇaṃ, bhūmippadeso abhisattarūpo.

    ๑๒๓๓.

    1233.

    ‘‘อถ ตุเมฺห เกน 7 วเณฺณน, กิมาสมานา อิมํ ปเทสํ หิ;

    ‘‘Atha tumhe kena 8 vaṇṇena, kimāsamānā imaṃ padesaṃ hi;

    อนุปวิฎฺฐา สหสา สเมจฺจ, โลภา ภยา อถ วา สมฺปมูฬฺหา’’ติฯ

    Anupaviṭṭhā sahasā samecca, lobhā bhayā atha vā sampamūḷhā’’ti.

    ๑๒๓๔.

    1234.

    ‘‘มคเธสุ อเงฺคสุ จ สตฺถวาหา, อาโรปยิตฺวา ปณิยํ ปุถุตฺตํ;

    ‘‘Magadhesu aṅgesu ca satthavāhā, āropayitvā paṇiyaṃ puthuttaṃ;

    เต ยามเส สินฺธุโสวีรภูมิํ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานาฯ

    Te yāmase sindhusovīrabhūmiṃ, dhanatthikā uddayaṃ patthayānā.

    ๑๒๓๕.

    1235.

    ‘‘ทิวา ปิปาสํ นธิวาสยนฺตา, โยคฺคานุกมฺปญฺจ สเมกฺขมานา,

    ‘‘Divā pipāsaṃ nadhivāsayantā, yoggānukampañca samekkhamānā,

    เอเตน เวเคน อายาม สเพฺพ 9, รตฺติํ มคฺคํ ปฎิปนฺนา วิกาเลฯ

    Etena vegena āyāma sabbe 10, rattiṃ maggaṃ paṭipannā vikāle.

    ๑๒๓๖.

    1236.

    ‘‘เต ทุปฺปยาตา อปรทฺธมคฺคา, อนฺธากุลา วิปฺปนฎฺฐา อรเญฺญ;

    ‘‘Te duppayātā aparaddhamaggā, andhākulā vippanaṭṭhā araññe;

    สุทุคฺคเม วณฺณุปถสฺส มเชฺฌ, ทิสํ น ชานาม ปมูฬฺหจิตฺตาฯ

    Suduggame vaṇṇupathassa majjhe, disaṃ na jānāma pamūḷhacittā.

    ๑๒๓๗.

    1237.

    ‘‘อิทญฺจ ทิสฺวาน อทิฎฺฐปุพฺพํ, วิมานเสฎฺฐญฺจ ตวญฺจ ยกฺข;

    ‘‘Idañca disvāna adiṭṭhapubbaṃ, vimānaseṭṭhañca tavañca yakkha;

    ตตุตฺตริํ ชีวิตมาสมานา, ทิสฺวา ปตีตา สุมนา อุทคฺคา’’ติฯ

    Tatuttariṃ jīvitamāsamānā, disvā patītā sumanā udaggā’’ti.

    ๑๒๓๘.

    1238.

    ‘‘ปารํ สมุทฺทสฺส อิมญฺจ วณฺณุํ 11, เวตฺตาจรํ 12 สงฺกุปถญฺจ มคฺคํ;

    ‘‘Pāraṃ samuddassa imañca vaṇṇuṃ 13, vettācaraṃ 14 saṅkupathañca maggaṃ;

    นทิโย ปน ปพฺพตานญฺจ ทุคฺคา, ปุถุทฺทิสา คจฺฉถ โภคเหตุฯ

    Nadiyo pana pabbatānañca duggā, puthuddisā gacchatha bhogahetu.

    ๑๒๓๙.

    1239.

    ‘‘ปกฺขนฺทิยาน วิชิตํ ปเรสํ, เวรชฺชเก มานุเส เปกฺขมานา;

    ‘‘Pakkhandiyāna vijitaṃ paresaṃ, verajjake mānuse pekkhamānā;

    ยํ โว สุตํ วา อถ วาปิ ทิฎฺฐํ, อเจฺฉรกํ ตํ โว สุโณม ตาตา’’ติฯ

    Yaṃ vo sutaṃ vā atha vāpi diṭṭhaṃ, accherakaṃ taṃ vo suṇoma tātā’’ti.

    ๑๒๔๐.

    1240.

    ‘‘อิโตปิ อเจฺฉรตรํ กุมาร, น โต สุตํ วา อถ วาปิ ทิฎฺฐํ;

    ‘‘Itopi accherataraṃ kumāra, na to sutaṃ vā atha vāpi diṭṭhaṃ;

    อตีตมานุสฺสกเมว สพฺพํ, ทิสฺวาน ตปฺปาม อโนมวณฺณํฯ

    Atītamānussakameva sabbaṃ, disvāna tappāma anomavaṇṇaṃ.

    ๑๒๔๑.

    1241.

    ‘‘เวหายสํ โปกฺขรโญฺญ สวนฺติ, ปหูตมลฺยา 15 พหุปุณฺฑรีกา;

    ‘‘Vehāyasaṃ pokkharañño savanti, pahūtamalyā 16 bahupuṇḍarīkā;

    ทุมา จิเม 17 นิจฺจผลูปปนฺนา, อตีว คนฺธา สุรภิํ ปวายนฺติฯ

    Dumā cime 18 niccaphalūpapannā, atīva gandhā surabhiṃ pavāyanti.

    ๑๒๔๒.

    1242.

    ‘‘เวฬูริยถมฺภา สตมุสฺสิตาเส, สิลาปวาฬสฺส จ อายตํสา;

    ‘‘Veḷūriyathambhā satamussitāse, silāpavāḷassa ca āyataṃsā;

    มสารคลฺลา สหโลหิตงฺคา, ถมฺภา อิเม โชติรสามยาเสฯ

    Masāragallā sahalohitaṅgā, thambhā ime jotirasāmayāse.

    ๑๒๔๓.

    1243.

    ‘‘สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, เตสูปริ สาธุมิทํ วิมานํ;

    ‘‘Sahassathambhaṃ atulānubhāvaṃ, tesūpari sādhumidaṃ vimānaṃ;

    รตนนฺตรํ กญฺจนเวทิมิสฺสํ, ตปนียปเฎฺฎหิ จ สาธุฉนฺนํฯ

    Ratanantaraṃ kañcanavedimissaṃ, tapanīyapaṭṭehi ca sādhuchannaṃ.

    ๑๒๔๔.

    1244.

    ‘‘ชโมฺพนทุตฺตตฺตมิทํ สุมโฎฺฐ, ปาสาทโสปาณผลูปปโนฺน;

    ‘‘Jambonaduttattamidaṃ sumaṭṭho, pāsādasopāṇaphalūpapanno;

    ทโฬฺห จ วคฺคุ จ สุสงฺคโต จ 19, อตีว นิชฺฌานขโม มนุโญฺญฯ

    Daḷho ca vaggu ca susaṅgato ca 20, atīva nijjhānakhamo manuñño.

    ๑๒๔๕.

    1245.

    ‘‘รตนนฺตรสฺมิํ พหุอนฺนปานํ, ปริวาริโต อจฺฉราสงฺคเณน;

    ‘‘Ratanantarasmiṃ bahuannapānaṃ, parivārito accharāsaṅgaṇena;

    มุรชอาลมฺพรตูริยฆุโฎฺฐ, อภิวนฺทิโตสิ ถุติวนฺทนายฯ

    Murajaālambaratūriyaghuṭṭho, abhivanditosi thutivandanāya.

    ๑๒๔๖.

    1246.

    ‘‘โส โมทสิ นาริคณปฺปโพธโน, วิมานปาสาทวเร มโนรเม;

    ‘‘So modasi nārigaṇappabodhano, vimānapāsādavare manorame;

    อจินฺติโย สพฺพคุณูปปโนฺน, ราชา ยถา เวสฺสวโณ นฬินฺยา 21

    Acintiyo sabbaguṇūpapanno, rājā yathā vessavaṇo naḷinyā 22.

    ๑๒๔๗.

    1247.

    ‘‘เทโว นุ อาสิ อุทวาสิ ยโกฺข, อุทาหุ เทวิโนฺท มนุสฺสภูโต;

    ‘‘Devo nu āsi udavāsi yakkho, udāhu devindo manussabhūto;

    ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, อาจิกฺข โก นาม ตุวํสิ ยโกฺข’’ติฯ

    Pucchanti taṃ vāṇijā satthavāhā, ācikkha ko nāma tuvaṃsi yakkho’’ti.

    ๑๒๔๘.

    1248.

    ‘‘เสรีสโก 23 นาม อหมฺหิ ยโกฺข, กนฺตาริโย วณฺณุปถมฺหิ คุโตฺต;

    ‘‘Serīsako 24 nāma ahamhi yakkho, kantāriyo vaṇṇupathamhi gutto;

    อิมํ ปเทสํ อภิปาลยามิ, วจนกโร เวสฺสวณสฺส รโญฺญ’’ติฯ

    Imaṃ padesaṃ abhipālayāmi, vacanakaro vessavaṇassa rañño’’ti.

    ๑๒๔๙.

    1249.

    ‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํ กตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;

    ‘‘Adhiccaladdhaṃ pariṇāmajaṃ te, sayaṃ kataṃ udāhu devehi dinnaṃ;

    ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ มนุญฺญ’’นฺติฯ

    Pucchanti taṃ vāṇijā satthavāhā, kathaṃ tayā laddhamidaṃ manuñña’’nti.

    ๑๒๕๐.

    1250.

    ‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํ กตํ น หิ เทเวหิ ทินฺนํ;

    ‘‘Nādhiccaladdhaṃ na pariṇāmajaṃ me, na sayaṃ kataṃ na hi devehi dinnaṃ;

    สเกหิ กเมฺมหิ อปาปเกหิ, ปุเญฺญหิ เม ลทฺธมิทํ มนุญฺญ’’นฺติฯ

    Sakehi kammehi apāpakehi, puññehi me laddhamidaṃ manuñña’’nti.

    ๑๒๕๑.

    1251.

    ‘‘กิํ เต วตํ กิํ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

    ‘‘Kiṃ te vataṃ kiṃ pana brahmacariyaṃ, kissa suciṇṇassa ayaṃ vipāko;

    ปุจฺฉนฺติ ตํ วาณิชา สตฺถวาหา, กถํ ตยา ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติฯ

    Pucchanti taṃ vāṇijā satthavāhā, kathaṃ tayā laddhamidaṃ vimāna’’nti.

    ๑๒๕๒.

    1252.

    ‘‘มมํ ปายาสีติ อหุ สมญฺญา, รชฺชํ ยทา การยิํ โกสลานํ;

    ‘‘Mamaṃ pāyāsīti ahu samaññā, rajjaṃ yadā kārayiṃ kosalānaṃ;

    นตฺถิกทิฎฺฐิ กทริโย ปาปธโมฺม, อุเจฺฉทวาที จ ตทา อโหสิํฯ

    Natthikadiṭṭhi kadariyo pāpadhammo, ucchedavādī ca tadā ahosiṃ.

    ๑๒๕๓.

    1253.

    ‘‘สมโณ จ โข อาสิ กุมารกสฺสโป, พหุสฺสุโต จิตฺตกถี อุฬาโร;

    ‘‘Samaṇo ca kho āsi kumārakassapo, bahussuto cittakathī uḷāro;

    โส เม ตทา ธมฺมกถํ อภาสิ 25, ทิฎฺฐิวิสูกานิ วิโนทยี เมฯ

    So me tadā dhammakathaṃ abhāsi 26, diṭṭhivisūkāni vinodayī me.

    ๑๒๕๔.

    1254.

    ‘‘ตาหํ ตสฺส 27 ธมฺมกถํ สุณิตฺวา, อุปาสกตฺตํ ปฎิเวทยิสฺสํ;

    ‘‘Tāhaṃ tassa 28 dhammakathaṃ suṇitvā, upāsakattaṃ paṭivedayissaṃ;

    ปาณาติปาตา วิรโต อโหสิํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิสฺสํ;

    Pāṇātipātā virato ahosiṃ, loke adinnaṃ parivajjayissaṃ;

    อมชฺชโป โน จ มุสา อภาณิํ, สเกน ทาเรน จ อโหสิ ตุโฎฺฐฯ

    Amajjapo no ca musā abhāṇiṃ, sakena dārena ca ahosi tuṭṭho.

    ๑๒๕๕.

    1255.

    ‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

    ‘‘Taṃ me vataṃ taṃ pana brahmacariyaṃ, tassa suciṇṇassa ayaṃ vipāko;

    เตเหว กเมฺมหิ อปาปเกหิ, ปุเญฺญหิ เม ลทฺธมิทํ วิมาน’’นฺติฯ

    Teheva kammehi apāpakehi, puññehi me laddhamidaṃ vimāna’’nti.

    ๑๒๕๖.

    1256.

    ‘‘สจฺจํ กิราหํสุ นรา สปญฺญา, อนญฺญถา วจนํ ปณฺฑิตานํ;

    ‘‘Saccaṃ kirāhaṃsu narā sapaññā, anaññathā vacanaṃ paṇḍitānaṃ;

    ยหิํ ยหิํ คจฺฉติ ปุญฺญกโมฺม, ตหิํ ตหิํ โมทติ กามกามีฯ

    Yahiṃ yahiṃ gacchati puññakammo, tahiṃ tahiṃ modati kāmakāmī.

    ๑๒๕๗.

    1257.

    ‘‘ยหิํ ยหิํ โสกปริทฺทโว จ, วโธ จ พโนฺธ จ ปริกฺกิเลโส;

    ‘‘Yahiṃ yahiṃ sokapariddavo ca, vadho ca bandho ca parikkileso;

    ตหิํ ตหิํ คจฺฉติ ปาปกโมฺม, น มุจฺจติ ทุคฺคติยา กทาจี’’ติฯ

    Tahiṃ tahiṃ gacchati pāpakammo, na muccati duggatiyā kadācī’’ti.

    ๑๒๕๘.

    1258.

    ‘‘สมฺมูฬฺหรูโปว ชโน อโหสิ, อสฺมิํ มุหุเตฺต กลลีกโตว;

    ‘‘Sammūḷharūpova jano ahosi, asmiṃ muhutte kalalīkatova;

    ชนสฺสิมสฺส ตุยฺหญฺจ กุมาร, อปฺปจฺจโย เกน นุ โข อโหสี’’ติฯ

    Janassimassa tuyhañca kumāra, appaccayo kena nu kho ahosī’’ti.

    ๑๒๕๙.

    1259.

    ‘‘อิเม จ สิรีสวนา 29 ตาตา, ทิพฺพา 30 คนฺธา สุรภี 31 สมฺปวนฺติ 32;

    ‘‘Ime ca sirīsavanā 33 tātā, dibbā 34 gandhā surabhī 35 sampavanti 36;

    เต สมฺปวายนฺติ อิมํ วิมานํ, ทิวา จ รโตฺต จ ตมํ นิหนฺตฺวาฯ

    Te sampavāyanti imaṃ vimānaṃ, divā ca ratto ca tamaṃ nihantvā.

    ๑๒๖๐.

    1260.

    ‘‘อิเมสญฺจ โข วสฺสสตจฺจเยน, สิปาฎิกา ผลติ เอกเมกา;

    ‘‘Imesañca kho vassasataccayena, sipāṭikā phalati ekamekā;

    มานุสฺสกํ วสฺสสตํ อตีตํ, ยทเคฺค กายมฺหิ อิธูปปโนฺนฯ

    Mānussakaṃ vassasataṃ atītaṃ, yadagge kāyamhi idhūpapanno.

    ๑๒๖๑.

    1261.

    ‘‘ทิสฺวานหํ วสฺสสตานิ ปญฺจ, อสฺมิํ วิมาเน ฐตฺวาน ตาตา;

    ‘‘Disvānahaṃ vassasatāni pañca, asmiṃ vimāne ṭhatvāna tātā;

    อายุกฺขยา ปุญฺญกฺขยา จวิสฺสํ, เตเนว โสเกน ปมุจฺฉิโตสฺมี’’ติ 37

    Āyukkhayā puññakkhayā cavissaṃ, teneva sokena pamucchitosmī’’ti 38.

    ๑๒๖๒.

    1262.

    ‘‘กถํ นุ โสเจยฺย ตถาวิโธ โส, ลทฺธา วิมานํ อตุลํ จิราย;

    ‘‘Kathaṃ nu soceyya tathāvidho so, laddhā vimānaṃ atulaṃ cirāya;

    เย จาปิ โข อิตฺตรมุปปนฺนา, เต นูน โสเจยฺยุํ ปริตฺตปุญฺญา’’ติฯ

    Ye cāpi kho ittaramupapannā, te nūna soceyyuṃ parittapuññā’’ti.

    ๑๒๖๓.

    1263.

    ‘‘อนุจฺฉวิํ โอวทิยญฺจ เม ตํ, ยํ มํ ตุเมฺห เปยฺยวาจํ วเทถ;

    ‘‘Anucchaviṃ ovadiyañca me taṃ, yaṃ maṃ tumhe peyyavācaṃ vadetha;

    ตุเมฺห จ โข ตาตา มยานุคุตฺตา, เยนิจฺฉกํ เตน ปเลถ โสตฺถิ’’นฺติฯ

    Tumhe ca kho tātā mayānuguttā, yenicchakaṃ tena paletha sotthi’’nti.

    ๑๒๖๔.

    1264.

    ‘‘คนฺตฺวา มยํ สินฺธุโสวีรภูมิํ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ ปตฺถยานา;

    ‘‘Gantvā mayaṃ sindhusovīrabhūmiṃ, dhanatthikā uddayaṃ patthayānā;

    ยถาปโยคา ปริปุณฺณจาคา, กาหาม เสรีสมหํ อุฬาร’’นฺติฯ

    Yathāpayogā paripuṇṇacāgā, kāhāma serīsamahaṃ uḷāra’’nti.

    ๑๒๖๕.

    1265.

    ‘‘มา เจว เสรีสมหํ อกตฺถ, สพฺพญฺจ โว ภวิสฺสติ ยํ วเทถ;

    ‘‘Mā ceva serīsamahaṃ akattha, sabbañca vo bhavissati yaṃ vadetha;

    ปาปานิ กมฺมานิ วิวชฺชยาถ, ธมฺมานุโยคญฺจ อธิฎฺฐหาถฯ

    Pāpāni kammāni vivajjayātha, dhammānuyogañca adhiṭṭhahātha.

    ๑๒๖๖.

    1266.

    ‘‘อุปาสโก อตฺถิ อิมมฺหิ สเงฺฆ, พหุสฺสุโต สีลวตูปปโนฺน;

    ‘‘Upāsako atthi imamhi saṅghe, bahussuto sīlavatūpapanno;

    สโทฺธ จ จาคี จ สุเปสโล จ, วิจกฺขโณ สนฺตุสิโต มุตีมาฯ

    Saddho ca cāgī ca supesalo ca, vicakkhaṇo santusito mutīmā.

    ๑๒๖๗.

    1267.

    ‘‘สญฺชานมาโน น มุสา ภเณยฺย, ปรูปฆาตาย น เจตเยยฺย;

    ‘‘Sañjānamāno na musā bhaṇeyya, parūpaghātāya na cetayeyya;

    เวภูติกํ เปสุณํ โน กเรยฺย, สณฺหญฺจ วาจํ สขิลํ ภเณยฺยฯ

    Vebhūtikaṃ pesuṇaṃ no kareyya, saṇhañca vācaṃ sakhilaṃ bhaṇeyya.

    ๑๒๖๘.

    1268.

    ‘‘สคารโว สปฺปฎิโสฺส วินีโต, อปาปโก อธิสีเล วิสุโทฺธ;

    ‘‘Sagāravo sappaṭisso vinīto, apāpako adhisīle visuddho;

    โส มาตรํ ปิตรญฺจาปิ ชนฺตุ, ธเมฺมน โปเสติ อริยวุตฺติฯ

    So mātaraṃ pitarañcāpi jantu, dhammena poseti ariyavutti.

    ๑๒๖๙.

    1269.

    ‘‘มเญฺญ โส มาตาปิตูนํ การณา, โภคานิ ปริเยสติ น อตฺตเหตุ;

    ‘‘Maññe so mātāpitūnaṃ kāraṇā, bhogāni pariyesati na attahetu;

    มาตาปิตูนญฺจ โย 39 อจฺจเยน, เนกฺขมฺมโปโณ จริสฺสติ พฺรหฺมจริยํฯ

    Mātāpitūnañca yo 40 accayena, nekkhammapoṇo carissati brahmacariyaṃ.

    ๑๒๗๐.

    1270.

    ‘‘อุชู อวโงฺก อสโฐ อมาโย, น เลสกเปฺปน จ โวหเรยฺย;

    ‘‘Ujū avaṅko asaṭho amāyo, na lesakappena ca vohareyya;

    โส ตาทิโส สุกตกมฺมการี, ธเมฺม ฐิโต กินฺติ ลเภถ ทุกฺขํฯ

    So tādiso sukatakammakārī, dhamme ṭhito kinti labhetha dukkhaṃ.

    ๑๒๗๑.

    1271.

    ‘‘ตํ การณา ปาตุกโตมฺหิ อตฺตนา, ตสฺมา ธมฺมํ ปสฺสถ วาณิชาเส;

    ‘‘Taṃ kāraṇā pātukatomhi attanā, tasmā dhammaṃ passatha vāṇijāse;

    อญฺญตฺร เตนิห ภสฺมี 41 ภเวถ, อนฺธากุลา วิปฺปนฎฺฐา อรเญฺญ;

    Aññatra teniha bhasmī 42 bhavetha, andhākulā vippanaṭṭhā araññe;

    ตํ ขิปฺปมาเนน ลหุํ ปเรน, สุโข หเว สปฺปุริเสน สงฺคโม’’ติฯ

    Taṃ khippamānena lahuṃ parena, sukho have sappurisena saṅgamo’’ti.

    ๑๒๗๒.

    1272.

    ‘‘กิํ นาม โส กิญฺจ กโรติ กมฺมํ,

    ‘‘Kiṃ nāma so kiñca karoti kammaṃ,

    กิํ นามเธยฺยํ กิํ ปน ตสฺส โคตฺตํ;

    Kiṃ nāmadheyyaṃ kiṃ pana tassa gottaṃ;

    มยมฺปิ นํ ทฎฺฐุกามมฺห ยกฺข, ยสฺสานุกมฺปาย อิธาคโตสิ;

    Mayampi naṃ daṭṭhukāmamha yakkha, yassānukampāya idhāgatosi;

    ลาภา หิ ตสฺส, ยสฺส ตุวํ ปิเหสี’’ติฯ

    Lābhā hi tassa, yassa tuvaṃ pihesī’’ti.

    ๑๒๗๓.

    1273.

    ‘‘โย กปฺปโก สมฺภวนามเธโยฺย,

    ‘‘Yo kappako sambhavanāmadheyyo,

    อุปาสโก โกจฺฉผลูปชีวี;

    Upāsako kocchaphalūpajīvī;

    ชานาถ นํ ตุมฺหากํ เปสิโย โส,

    Jānātha naṃ tumhākaṃ pesiyo so,

    มา โข นํ หีฬิตฺถ สุเปสโล โส’’ติฯ

    Mā kho naṃ hīḷittha supesalo so’’ti.

    ๑๒๗๔.

    1274.

    ‘‘ชานามเส ยํ ตฺวํ ปวเทสิ 43 ยกฺข,

    ‘‘Jānāmase yaṃ tvaṃ pavadesi 44 yakkha,

    น โข นํ ชานาม ส เอทิโสติ;

    Na kho naṃ jānāma sa edisoti;

    มยมฺปิ นํ ปูชยิสฺสาม ยกฺข,

    Mayampi naṃ pūjayissāma yakkha,

    สุตฺวาน ตุยฺหํ วจนํ อุฬาร’’นฺติฯ

    Sutvāna tuyhaṃ vacanaṃ uḷāra’’nti.

    ๑๒๗๕.

    1275.

    ‘‘เย เกจิ อิมสฺมิํ สเตฺถ มนุสฺสา,

    ‘‘Ye keci imasmiṃ satthe manussā,

    ทหรา มหนฺตา อถวาปิ มชฺฌิมา;

    Daharā mahantā athavāpi majjhimā;

    สเพฺพว เต อาลมฺพนฺตุ วิมานํ,

    Sabbeva te ālambantu vimānaṃ,

    ปสฺสนฺตุ ปุญฺญานํ ผลํ กทริยา’’ติฯ

    Passantu puññānaṃ phalaṃ kadariyā’’ti.

    ๑๒๗๖.

    1276.

    เต ตตฺถ สเพฺพว ‘อหํ ปุเร’ติ,

    Te tattha sabbeva ‘ahaṃ pure’ti,

    ตํ กปฺปกํ ตตฺถ ปุรกฺขตฺวา 45;

    Taṃ kappakaṃ tattha purakkhatvā 46;

    สเพฺพว เต อาลมฺพิํสุ วิมานํ,

    Sabbeva te ālambiṃsu vimānaṃ,

    มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺสฯ

    Masakkasāraṃ viya vāsavassa.

    ๑๒๗๗.

    1277.

    เต ตตฺถ สเพฺพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฎิเวทยิํสุ;

    Te tattha sabbeva ‘ahaṃ pure’ti, upāsakattaṃ paṭivedayiṃsu;

    ปาณาติปาตา วิรตา อเหสุํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยิํสุ;

    Pāṇātipātā viratā ahesuṃ, loke adinnaṃ parivajjayiṃsu;

    อมชฺชปา โน จ มุสา ภณิํสุ, สเกน ทาเรน จ อเหสุํ ตุฎฺฐาฯ

    Amajjapā no ca musā bhaṇiṃsu, sakena dārena ca ahesuṃ tuṭṭhā.

    ๑๒๗๘.

    1278.

    เต ตตฺถ สเพฺพว ‘อหํ ปุเร’ติ, อุปาสกตฺตํ ปฎิเวทยิตฺวา;

    Te tattha sabbeva ‘ahaṃ pure’ti, upāsakattaṃ paṭivedayitvā;

    ปกฺกามิ สโตฺถ อนุโมทมาโน, ยกฺขิทฺธิยา อนุมโต ปุนปฺปุนํฯ

    Pakkāmi sattho anumodamāno, yakkhiddhiyā anumato punappunaṃ.

    ๑๒๗๙.

    1279.

    ‘‘คนฺตฺวาน เต สินฺธุโสวีรภูมิํ, ธนตฺถิกา อุทฺทยํ 47 ปตฺถยานา;

    ‘‘Gantvāna te sindhusovīrabhūmiṃ, dhanatthikā uddayaṃ 48 patthayānā;

    ยถาปโยคา ปริปุณฺณลาภา, ปจฺจาคมุํ ปาฎลิปุตฺตมกฺขตํฯ

    Yathāpayogā paripuṇṇalābhā, paccāgamuṃ pāṭaliputtamakkhataṃ.

    ๑๒๘๐.

    1280.

    ‘‘คนฺตฺวาน เต สงฺฆรํ โสตฺถิวโนฺต,

    ‘‘Gantvāna te saṅgharaṃ sotthivanto,

    ปุเตฺตหิ ทาเรหิ สมงฺคิภูตา;

    Puttehi dārehi samaṅgibhūtā;

    อานนฺที วิตฺตา 49 สุมนา ปตีตา,

    Ānandī vittā 50 sumanā patītā,

    อกํสุ เสรีสมหํ อุฬารํ;

    Akaṃsu serīsamahaṃ uḷāraṃ;

    เสรีสกํ เต ปริเวณํ มาปยิํสุฯ

    Serīsakaṃ te pariveṇaṃ māpayiṃsu.

    ๑๒๘๑.

    1281.

    เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา,

    Etādisā sappurisāna sevanā,

    มหตฺถิกา ธมฺมคุณาน เสวนา;

    Mahatthikā dhammaguṇāna sevanā;

    เอกสฺส อตฺถาย อุปาสกสฺส,

    Ekassa atthāya upāsakassa,

    สเพฺพว สตฺตา สุขิตา 51 อเหสุนฺติฯ

    Sabbeva sattā sukhitā 52 ahesunti.

    เสรีสกวิมานํ ทสมํฯ

    Serīsakavimānaṃ dasamaṃ.







    Footnotes:
    1. เป. ว. ๖๐๔
    2. pe. va. 604
    3. นาโม (สี.)
    4. nāmo (sī.)
    5. ธงฺกํภยา (ก.)
    6. dhaṅkaṃbhayā (ka.)
    7. เกน นุ (สฺยา. ก.)
    8. kena nu (syā. ka.)
    9. สเพฺพ เต (ก.)
    10. sabbe te (ka.)
    11. วนํ (สฺยา.), วณฺณํ (ก.)
    12. เวตฺตํ ปรํ (สฺยา.), เวตฺตาจารํ (ก.)
    13. vanaṃ (syā.), vaṇṇaṃ (ka.)
    14. vettaṃ paraṃ (syā.), vettācāraṃ (ka.)
    15. ปหูตมาลฺยา (สฺยา.)
    16. pahūtamālyā (syā.)
    17. ทุมา จ เต (สฺยา. ก.)
    18. dumā ca te (syā. ka.)
    19. วคฺคุ สุมุโข สุสงฺคโต (สี.)
    20. vaggu sumukho susaṅgato (sī.)
    21. นฬิญฺญํ (ก.)
    22. naḷiññaṃ (ka.)
    23. เสริสฺสโก (สี. สฺยา.)
    24. serissako (sī. syā.)
    25. อกาสิ (สี.)
    26. akāsi (sī.)
    27. ตาหํ (ก.)
    28. tāhaṃ (ka.)
    29. อิเม สิรีสูปวนา จ (สี.), อิเมปิ สิรีสวนา จ (ปี. ก.)
    30. ทิพฺพา จ (ปี. ก.)
    31. สุรภิํ (สี. ก.)
    32. สมฺปวายนฺติ (ก.)
    33. ime sirīsūpavanā ca (sī.), imepi sirīsavanā ca (pī. ka.)
    34. dibbā ca (pī. ka.)
    35. surabhiṃ (sī. ka.)
    36. sampavāyanti (ka.)
    37. สมุจฺฉิโตสฺมีติ (ปี. ก.)
    38. samucchitosmīti (pī. ka.)
    39. โส (?)
    40. so (?)
    41. ภสฺมิ (สฺยา.), ภสฺม (ก.)
    42. bhasmi (syā.), bhasma (ka.)
    43. วเทสิ (สี.)
    44. vadesi (sī.)
    45. ปุรกฺขิปิตฺวา (สี.)
    46. purakkhipitvā (sī.)
    47. อุทย (ปี. ก.)
    48. udaya (pī. ka.)
    49. อานนฺทจิตฺตา (สฺยา.), อานนฺทีจิตฺตา (ก.)
    50. ānandacittā (syā.), ānandīcittā (ka.)
    51. สุขิโน (ปี. ก.)
    52. sukhino (pī. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā / ๑๐. เสรีสกวิมานวณฺณนา • 10. Serīsakavimānavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact