Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๓. เสรีสุตฺตวณฺณนา
3. Serīsuttavaṇṇanā
๑๐๔. ยํ ทานํ เทมีติ ยํ เทยฺยธมฺมํ ปรสฺส เทมิฯ ตสฺส ปติ หุตฺวาติ ตพฺพิสยํ โลภํ สุฎฺฐุ อภิภวโนฺต ตสฺส อธิปติ หุตฺวา เทมิ เตน อนากฑฺฒนียตฺตาฯ ‘‘น ทาโส น สหาโย’’ติ วตฺวา ตทุภยํ อนฺวยโต พฺยติเรกโต ทเสฺสตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ทาโส หุตฺวา เทติ ตณฺหาย ทาสพฺยสฺส อุปคตตฺตาฯ สหาโย หุตฺวา เทติ ตสฺส ปิยภาวาวิสฺสชฺชนโตฯ สามี หุตฺวา เทติ ตณฺหาทาสพฺยโต อตฺตานํ โมเจตฺวา อภิภุยฺย ปวตฺตนโตฯ สามิปริโภคสทิสา เหตสฺสายํ ปวตฺตตีติฯ
104.Yaṃdānaṃ demīti yaṃ deyyadhammaṃ parassa demi. Tassa pati hutvāti tabbisayaṃ lobhaṃ suṭṭhu abhibhavanto tassa adhipati hutvā demi tena anākaḍḍhanīyattā. ‘‘Na dāso na sahāyo’’ti vatvā tadubhayaṃ anvayato byatirekato dassetuṃ ‘‘yo hī’’tiādi vuttaṃ. Dāso hutvā deti taṇhāya dāsabyassa upagatattā. Sahāyo hutvā deti tassa piyabhāvāvissajjanato. Sāmī hutvā deti taṇhādāsabyato attānaṃ mocetvā abhibhuyya pavattanato. Sāmiparibhogasadisā hetassāyaṃ pavattatīti.
อถ วา โย ทานสีลตาย ทายโก ปุคฺคโล, โส ทาเน ปวตฺติเภเทน ทานทาโส ทานสหาโย ทานปตีติ ติปฺปกาโร โหตีติ ทเสฺสติฯ ตทสฺส ติปฺปการตํ วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ทาตพฺพเฎฺฐน ทานํ, อนฺนปานาทิฯ ตตฺถ ยํ อตฺตนา ปริภุญฺชติ ตณฺหาธิปนฺนตาย, ตสฺส วเส วตฺตนโต ทาโส วิย โหติฯ ยํ ปเรสํ ทียติ, ตตฺถปิ อนฺนปานสามเญฺญน อิทํ วุตฺตํ ‘‘ทานสงฺขาตสฺส เทยฺยธมฺมสฺส ทาโส หุตฺวา เทตี’’ติฯ สหาโย หุตฺวา เทติ อตฺตนา ปริภุญฺชิตพฺพสฺส ปเรสํ ทาตพฺพสฺส จ สมสมฎฺฐปเนนฯ ปติ หุตฺวา เทติ สยํ เทยฺยธมฺมสฺส วเส อวตฺติตฺวา ตสฺส อตฺตโน วเส วตฺตาปนโตฯ
Atha vā yo dānasīlatāya dāyako puggalo, so dāne pavattibhedena dānadāso dānasahāyo dānapatīti tippakāro hotīti dasseti. Tadassa tippakārataṃ vibhajitvā dassetuṃ ‘‘yo hī’’tiādi vuttaṃ. Dātabbaṭṭhena dānaṃ, annapānādi. Tattha yaṃ attanā paribhuñjati taṇhādhipannatāya, tassa vase vattanato dāso viya hoti. Yaṃ paresaṃ dīyati, tatthapi annapānasāmaññena idaṃ vuttaṃ ‘‘dānasaṅkhātassa deyyadhammassa dāso hutvā detī’’ti. Sahāyo hutvā deti attanā paribhuñjitabbassa paresaṃ dātabbassa ca samasamaṭṭhapanena. Pati hutvā deti sayaṃ deyyadhammassa vase avattitvā tassa attano vase vattāpanato.
อปโร นโย – โย อตฺตนา ปณีตํ ปริภุญฺชิตฺวา ปเรสํ นิหีนํ เทติ, โส ทานทาโส นาม ตนฺนิมิตฺตนิหีนภาวาปตฺติโตฯ โย ยาทิสํ อตฺตนา ปริภุญฺชติ, ตาทิสเมว ปเรสํ เทติ, โส ทานสหาโย นาม ตนฺนิมิตฺตนิหีนาธิกภาววิสฺสชฺชเนน สทิสภาวาปตฺติโตฯ โย อตฺตนา นิหีนํ ปริภุญฺชิตฺวา ปเรสํ ปณีตํ เทติ, โส ทานปติ นาม ตนฺนิมิตฺตเสฎฺฐภาวปฺปตฺติโตฯ กมฺมสริกฺขโก หิ วิปาโก, ตสฺมา เทวปุโตฺต ‘‘ทานปตี’’ติ วทโนฺต ‘‘อหํ ตาทิโส อโหสิ’’นฺติ ทเสฺสติฯ
Aparo nayo – yo attanā paṇītaṃ paribhuñjitvā paresaṃ nihīnaṃ deti, so dānadāso nāma tannimittanihīnabhāvāpattito. Yo yādisaṃ attanā paribhuñjati, tādisameva paresaṃ deti, so dānasahāyo nāma tannimittanihīnādhikabhāvavissajjanena sadisabhāvāpattito. Yo attanā nihīnaṃ paribhuñjitvā paresaṃ paṇītaṃ deti, so dānapati nāma tannimittaseṭṭhabhāvappattito. Kammasarikkhako hi vipāko, tasmā devaputto ‘‘dānapatī’’ti vadanto ‘‘ahaṃ tādiso ahosi’’nti dasseti.
‘‘จตูสุ ทฺวาเรสุ ทานํ ทียิตฺถา’’ติ ปาฬิยํ สเงฺขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ทานนฺติ ยิฎฺฐํ, ตญฺจ โข สพฺพสาธารณวเสน กตนฺติ อาห ‘‘สมณ …เป.… ยาจกาน’’นฺติฯ ปพฺพชฺชูปคตาติ ยํ กิญฺจิ ปพฺพชฺชํ อุปคตาฯ โภวาทิโนติ ชาติมตฺตพฺราหฺมเณ วทติฯ นาลตฺถ พุทฺธสุญฺญตฺตา ตทา โลกสฺสฯ ทุคฺคตาติ ทุกฺขชีวิกกปฺปกา กสิรวุตฺติกาฯ เตนาห ‘‘ทลิทฺทมนุสฺสา’’ติฯ กสิวาณิชฺชาทิชีวิกํ อนุฎฺฐาตุํ อสมตฺถา อิธ ‘‘กปณา’’ติ อธิเปฺปตาติ อาห ‘‘กาณกุณิอาทโย’’ติฯ ปถาวิโนติ อทฺธิกาฯ วนิพฺพกาติ ทายกานํ คุณกิตฺตนกมฺมผลกิตฺตนวเสน ยาจกา เสยฺยถาปิ นคฺคาทโยฯ เตนาห ‘‘อิฎฺฐํ ทินฺน’’นฺติอาทิฯ ปสตมตฺตนฺติ วีหิตณฺฑุลาทิวเสน วุตฺตํฯ สราวมตฺตนฺติ ยาคุภตฺตาทิวเสนฯ ยถา คามลาโภ คาเม อุปฺปชฺชนโก อายลาโภ, เอวํ ตตฺถ ทฺวารลาโภติ อาห ‘‘ตตฺถ อุปฺปชฺชนกสตสหเสฺส’’ติฯ มหนฺตตรํ ทานํ อทํสุ อญฺญสฺสปิ ธนสฺส วินิโยคํ คตตฺตาฯ ตํ สนฺธายาติ ตํ มหนฺตตรํ ทานํ กตํ สนฺธายฯ รโญฺญ หิ ตตฺถ ทานํ อิตฺถาคารสฺส ทาเนน มหตา อภิภูตํ วิย ปฎินิวตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘ปฎินิวตฺตี’’ติฯ โกจีติ ภุมฺมเตฺถ ปจฺจตฺตวจนํฯ เตนาห ‘‘กตฺถจี’’ติฯ อเนกวสฺสสหสฺสายุกกาเล ตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา อสีติวสฺสสหสฺสานิ โส ราชา ทานมทาสีติฯ
‘‘Catūsu dvāresu dānaṃ dīyitthā’’ti pāḷiyaṃ saṅkhepato vuttamatthaṃ vitthāretvā dassetuṃ ‘‘tassa kirā’’tiādi vuttaṃ. Dānanti yiṭṭhaṃ, tañca kho sabbasādhāraṇavasena katanti āha ‘‘samaṇa…pe… yācakāna’’nti. Pabbajjūpagatāti yaṃ kiñci pabbajjaṃ upagatā. Bhovādinoti jātimattabrāhmaṇe vadati. Nālattha buddhasuññattā tadā lokassa. Duggatāti dukkhajīvikakappakā kasiravuttikā. Tenāha ‘‘daliddamanussā’’ti. Kasivāṇijjādijīvikaṃ anuṭṭhātuṃ asamatthā idha ‘‘kapaṇā’’ti adhippetāti āha ‘‘kāṇakuṇiādayo’’ti. Pathāvinoti addhikā. Vanibbakāti dāyakānaṃ guṇakittanakammaphalakittanavasena yācakā seyyathāpi naggādayo. Tenāha ‘‘iṭṭhaṃ dinna’’ntiādi. Pasatamattanti vīhitaṇḍulādivasena vuttaṃ. Sarāvamattanti yāgubhattādivasena. Yathā gāmalābho gāme uppajjanako āyalābho, evaṃ tattha dvāralābhoti āha ‘‘tattha uppajjanakasatasahasse’’ti. Mahantataraṃ dānaṃ adaṃsu aññassapi dhanassa viniyogaṃ gatattā. Taṃ sandhāyāti taṃ mahantataraṃ dānaṃ kataṃ sandhāya. Rañño hi tattha dānaṃ itthāgārassa dānena mahatā abhibhūtaṃ viya paṭinivattaṃ hotīti āha ‘‘paṭinivattī’’ti. Kocīti bhummatthe paccattavacanaṃ. Tenāha ‘‘katthacī’’ti. Anekavassasahassāyukakāle tassa uppannattā asītivassasahassāni so rājā dānamadāsīti.
เสรีสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Serīsuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. เสรีสุตฺตํ • 3. Serīsuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓-๔. เสรีสุตฺตาทิวณฺณนา • 3-4. Serīsuttādivaṇṇanā