Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๓๑๐] ๑๐. เสยฺยชาตกวณฺณนา

    [310] 10. Seyyajātakavaṇṇanā

    สสมุทฺทปริยายนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อุกฺกณฺฐิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ โส หิ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรโนฺต เอกํ อภิรูปํ อลงฺกตปฎิยตฺตํ อิตฺถิํ ทิสฺวา อุกฺกณฺฐิโต สาสเน นาภิรมิฯ อถ ภิกฺขู ภควโต อาโรเจสุํฯ โส ภควตา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺฐิโตสี’’ติ ปุโฎฺฐ ‘‘สจฺจํ, ภเนฺต’’ติ วตฺวา ‘‘โก ตํ อุกฺกณฺฐาเปสี’’ติ วุเตฺต ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ สตฺถา ‘‘กสฺมา ตฺวํ เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา อุกฺกณฺฐิโตสิ, ปุเพฺพ ปณฺฑิตา ปุโรหิตฎฺฐานํ ลภนฺตาปิ ตํ ปฎิกฺขิปิตฺวา ปพฺพชิํสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Sasamuddapariyāyanti idaṃ satthā jetavane viharanto ukkaṇṭhitabhikkhuṃ ārabbha kathesi. So hi sāvatthiyaṃ piṇḍāya caranto ekaṃ abhirūpaṃ alaṅkatapaṭiyattaṃ itthiṃ disvā ukkaṇṭhito sāsane nābhirami. Atha bhikkhū bhagavato ārocesuṃ. So bhagavatā ‘‘saccaṃ kira tvaṃ bhikkhu ukkaṇṭhitosī’’ti puṭṭho ‘‘saccaṃ, bhante’’ti vatvā ‘‘ko taṃ ukkaṇṭhāpesī’’ti vutte tamatthaṃ ārocesi. Satthā ‘‘kasmā tvaṃ evarūpe niyyānikasāsane pabbajitvā ukkaṇṭhitosi, pubbe paṇḍitā purohitaṭṭhānaṃ labhantāpi taṃ paṭikkhipitvā pabbajiṃsū’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฎิสนฺธิํ คณฺหิตฺวา รโญฺญ ปุเตฺตน สทฺธิํ เอกทิวเส วิชายิฯ ราชา ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ เม ปุเตฺตน สทฺธิํ เอกทิวเส ชาโต’’ติ อมเจฺจ ปุจฺฉิฯ ‘‘อตฺถิ, มหาราช, ปุโรหิตสฺส ปุโตฺต’’ติฯ ราชา ตํ อาหราเปตฺวา ธาตีนํ ทตฺวา ปุเตฺตน สทฺธิํ เอกโตว ปฎิชคฺคาเปสิฯ อุภินฺนํ อาภรณานิ เจว ปานโภชนาทีนิ จ เอกสทิสาเนว อเหสุํฯ เต วยปฺปตฺตา เอกโตว ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคมํสุฯ ราชา ปุตฺตสฺส โอปรชฺชํ อทาสิ, มหายโส อโหสิฯ ตโต ปฎฺฐาย โพธิสโตฺต ราชปุเตฺตน สทฺธิํ เอกโตว ขาทติ ปิวติ สยติ, อญฺญมญฺญํ วิสฺสาโส ถิโร อโหสิฯ

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto purohitassa brāhmaṇiyā kucchimhi paṭisandhiṃ gaṇhitvā rañño puttena saddhiṃ ekadivase vijāyi. Rājā ‘‘atthi nu kho koci me puttena saddhiṃ ekadivase jāto’’ti amacce pucchi. ‘‘Atthi, mahārāja, purohitassa putto’’ti. Rājā taṃ āharāpetvā dhātīnaṃ datvā puttena saddhiṃ ekatova paṭijaggāpesi. Ubhinnaṃ ābharaṇāni ceva pānabhojanādīni ca ekasadisāneva ahesuṃ. Te vayappattā ekatova takkasilaṃ gantvā sabbasippāni uggaṇhitvā āgamaṃsu. Rājā puttassa oparajjaṃ adāsi, mahāyaso ahosi. Tato paṭṭhāya bodhisatto rājaputtena saddhiṃ ekatova khādati pivati sayati, aññamaññaṃ vissāso thiro ahosi.

    อปรภาเค ราชปุโตฺต ปิตุ อจฺจเยน รเชฺช ปติฎฺฐาย มหาสมฺปตฺติํ อนุภวิฯ โพธิสโตฺต จิเนฺตสิ ‘‘มยฺหํ สหาโย รชฺชมนุสาสติ, สลฺลกฺขิตกฺขเณเยว โข ปน มยฺหํ ปุโรหิตฎฺฐานํ ทสฺสติ, กิํ เม ฆราวาเสน, ปพฺพชิตฺวา วิเวกมนุพฺรูเหสฺสามี’’ติ? โส มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตฺวา มหาสมฺปตฺติํ ฉเฑฺฑตฺวา เอกโกว นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา มโนรเม ภูมิภาเค ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพเตฺตตฺวา ฌานกีฬํ กีฬโนฺต วิหาสิฯ ตทา ราชา ตํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘มยฺหํ สหาโย น ปญฺญายติ, กหํ โส’’ติ ปุจฺฉิฯ อมจฺจา ตสฺส ปพฺพชิตภาวํ อาโรเจตฺวา ‘‘รมณีเย กิร วนสเณฺฑ วสตี’’ติ อาหํสุฯ ราชา ตสฺส วสโนกาสํ ปุจฺฉิตฺวา เสยฺยํ นาม อมจฺจํ ‘‘คจฺฉ สหายํ เม คเหตฺวา เอหิ, ปุโรหิตฎฺฐานมสฺส ทสฺสามี’’ติ อาหฯ โส ‘‘สาธู’’ติ ปฎิสฺสุณิตฺวา พาราณสิโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุเพฺพน ปจฺจนฺตคามํ ปตฺวา ตตฺถ ขนฺธาวารํ ฐเปตฺวา วนจรเกหิ สทฺธิํ โพธิสตฺตสฺส วสโนกาสํ คนฺตฺวา โพธิสตฺตํ ปณฺณสาลทฺวาเร สุวณฺณปฎิมํ วิย นิสินฺนํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา กตปฎิสนฺถาโร ‘‘ภเนฺต, ราชา ตุยฺหํ ปุโรหิตฎฺฐานํ ทาตุกาโม, อาคมนํ เต อิจฺฉตี’’ติ อาหฯ

    Aparabhāge rājaputto pitu accayena rajje patiṭṭhāya mahāsampattiṃ anubhavi. Bodhisatto cintesi ‘‘mayhaṃ sahāyo rajjamanusāsati, sallakkhitakkhaṇeyeva kho pana mayhaṃ purohitaṭṭhānaṃ dassati, kiṃ me gharāvāsena, pabbajitvā vivekamanubrūhessāmī’’ti? So mātāpitaro vanditvā pabbajjaṃ anujānāpetvā mahāsampattiṃ chaḍḍetvā ekakova nikkhamitvā himavantaṃ pavisitvā manorame bhūmibhāge paṇṇasālaṃ māpetvā isipabbajjaṃ pabbajitvā abhiññā ca samāpattiyo ca nibbattetvā jhānakīḷaṃ kīḷanto vihāsi. Tadā rājā taṃ anussaritvā ‘‘mayhaṃ sahāyo na paññāyati, kahaṃ so’’ti pucchi. Amaccā tassa pabbajitabhāvaṃ ārocetvā ‘‘ramaṇīye kira vanasaṇḍe vasatī’’ti āhaṃsu. Rājā tassa vasanokāsaṃ pucchitvā seyyaṃ nāma amaccaṃ ‘‘gaccha sahāyaṃ me gahetvā ehi, purohitaṭṭhānamassa dassāmī’’ti āha. So ‘‘sādhū’’ti paṭissuṇitvā bārāṇasito nikkhamitvā anupubbena paccantagāmaṃ patvā tattha khandhāvāraṃ ṭhapetvā vanacarakehi saddhiṃ bodhisattassa vasanokāsaṃ gantvā bodhisattaṃ paṇṇasāladvāre suvaṇṇapaṭimaṃ viya nisinnaṃ disvā vanditvā ekamantaṃ nisīditvā katapaṭisanthāro ‘‘bhante, rājā tuyhaṃ purohitaṭṭhānaṃ dātukāmo, āgamanaṃ te icchatī’’ti āha.

    โพธิสโตฺต ‘‘ติฎฺฐตุ ปุโรหิตฎฺฐานํ, อหํ สกลํ กาสิโกสลชมฺพุทีปรชฺชํ จกฺกวตฺติสิริเมว วา ลภโนฺตปิ น คจฺฉิสฺสามิ, น หิ ปณฺฑิตา สกิํ ชหิตกิเลเส ปุน คณฺหนฺติ, สกิํ ชหิตญฺหิ นิฎฺฐุภเขฬสทิสํ โหตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

    Bodhisatto ‘‘tiṭṭhatu purohitaṭṭhānaṃ, ahaṃ sakalaṃ kāsikosalajambudīparajjaṃ cakkavattisirimeva vā labhantopi na gacchissāmi, na hi paṇḍitā sakiṃ jahitakilese puna gaṇhanti, sakiṃ jahitañhi niṭṭhubhakheḷasadisaṃ hotī’’ti vatvā imā gāthā abhāsi –

    ๓๗.

    37.

    ‘‘สสมุทฺทปริยายํ, มหิํ สาครกุณฺฑลํ;

    ‘‘Sasamuddapariyāyaṃ, mahiṃ sāgarakuṇḍalaṃ;

    น อิเจฺฉ สห นินฺทาย, เอวํ เสยฺย วิชานหิฯ

    Na icche saha nindāya, evaṃ seyya vijānahi.

    ๓๘.

    38.

    ‘‘ธิรตฺถุ ตํ ยสลาภํ, ธนลาภญฺจ พฺราหฺมณ;

    ‘‘Dhiratthu taṃ yasalābhaṃ, dhanalābhañca brāhmaṇa;

    ยา วุตฺติ วินิปาเตน, อธมฺมจรเณน วาฯ

    Yā vutti vinipātena, adhammacaraṇena vā.

    ๓๙.

    39.

    ‘‘อปิ เจ ปตฺตมาทาย, อนคาโร ปริพฺพเช;

    ‘‘Api ce pattamādāya, anagāro paribbaje;

    สาเยว ชีวิกา เสโยฺย, ยา จาธเมฺมน เอสนาฯ

    Sāyeva jīvikā seyyo, yā cādhammena esanā.

    ๔๐.

    40.

    ‘‘อปิ เจ ปตฺตมาทาย, อนคาโร ปริพฺพเช;

    ‘‘Api ce pattamādāya, anagāro paribbaje;

    อญฺญํ อหิํสยํ โลเก, อปิ รเชฺชน ตํ วร’’นฺติฯ

    Aññaṃ ahiṃsayaṃ loke, api rajjena taṃ vara’’nti.

    ตตฺถ สสมุทฺทปริยายนฺติ ปริยาโย วุจฺจติ ปริวาโร, สมุทฺทํ ปริวาเรตฺวา ฐิเตน จกฺกวาฬปพฺพเตน สทฺธิํ, สมุทฺทสงฺขาเตน วา ปริวาเรน สทฺธินฺติ อโตฺถฯ สาครกุณฺฑลนฺติ สาครมเชฺฌ ทีปวเสน ฐิตตฺตา ตสฺส กุณฺฑลภูตนฺติ อโตฺถฯ นินฺทายาติ ฌานสุขสมฺปนฺนํ ปพฺพชฺชํ ฉเฑฺฑตฺวา อิสฺสริยํ คณฺหีติ อิมาย นินฺทายฯ เสยฺยาติ ตํ นาเมนาลปติฯ วิชานหีติ ธมฺมํ วิชานาหิฯ ยา วุตฺติ วินิปาเตนาติ ยา ปุโรหิตฎฺฐานวเสน ลทฺธา ยสลาภธนลาภวุตฺติ ฌานสุขโต อตฺตวินิปาตนสงฺขาเตน วินิปาเตน อิโต คนฺตฺวา อิสฺสริยมทมตฺตสฺส อธมฺมจรเณน วา โหติ, ตํ วุตฺติํ ธิรตฺถุฯ

    Tattha sasamuddapariyāyanti pariyāyo vuccati parivāro, samuddaṃ parivāretvā ṭhitena cakkavāḷapabbatena saddhiṃ, samuddasaṅkhātena vā parivārena saddhinti attho. Sāgarakuṇḍalanti sāgaramajjhe dīpavasena ṭhitattā tassa kuṇḍalabhūtanti attho. Nindāyāti jhānasukhasampannaṃ pabbajjaṃ chaḍḍetvā issariyaṃ gaṇhīti imāya nindāya. Seyyāti taṃ nāmenālapati. Vijānahīti dhammaṃ vijānāhi. Yā vutti vinipātenāti yā purohitaṭṭhānavasena laddhā yasalābhadhanalābhavutti jhānasukhato attavinipātanasaṅkhātena vinipātena ito gantvā issariyamadamattassa adhammacaraṇena vā hoti, taṃ vuttiṃ dhiratthu.

    ปตฺตมาทายาติ ภิกฺขาภาชนํ คเหตฺวาฯ อนคาโรติ อปิ อหํ อคารวิรหิโต ปรกุเลสุ จเรยฺยํฯ สาเยว ชีวิกาติ สา เอว เม ชีวิกา เสโยฺย วรตราฯ ยา จาธเมฺมน เอสนาติ ยา จ อธเมฺมน เอสนาฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยา อธเมฺมน เอสนา, ตโต เอสาว ชีวิกา สุนฺทรตราติฯ อหิํสยนฺติ อวิเหเฐโนฺตฯ อปิ รเชฺชนาติ เอวํ ปรํ อวิเหเฐโนฺต กปาลหตฺถสฺส มม ชีวิกกปฺปนํ รเชฺชนาปิ วรํ อุตฺตมนฺติฯ

    Pattamādāyāti bhikkhābhājanaṃ gahetvā. Anagāroti api ahaṃ agāravirahito parakulesu careyyaṃ. Sāyeva jīvikāti sā eva me jīvikā seyyo varatarā. Yā cādhammena esanāti yā ca adhammena esanā. Idaṃ vuttaṃ hoti – yā adhammena esanā, tato esāva jīvikā sundaratarāti. Ahiṃsayanti aviheṭhento. Api rajjenāti evaṃ paraṃ aviheṭhento kapālahatthassa mama jīvikakappanaṃ rajjenāpi varaṃ uttamanti.

    อิติ โส ปุนปฺปุนํ ยาจนฺตมฺปิ ตํ ปฎิกฺขิปิฯ เสโยฺยปิ ตสฺส มนํ อลภิตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา คนฺตฺวา ตสฺส อนาคมนภาวํ รโญฺญ อาโรเจสิฯ

    Iti so punappunaṃ yācantampi taṃ paṭikkhipi. Seyyopi tassa manaṃ alabhitvā taṃ vanditvā gantvā tassa anāgamanabhāvaṃ rañño ārocesi.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺฐิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิ, อปเรปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ สจฺฉิกริํสุฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne ukkaṇṭhitabhikkhu sotāpattiphale patiṭṭhahi, aparepi bahū sotāpattiphalādīni sacchikariṃsu.

    ตทา ราชา อานโนฺท อโหสิ, เสโยฺย สาริปุโตฺต, ปุโรหิตปุโตฺต ปน อหเมว อโหสินฺติฯ

    Tadā rājā ānando ahosi, seyyo sāriputto, purohitaputto pana ahameva ahosinti.

    เสยฺยชาตกวณฺณนา ทสมาฯ

    Seyyajātakavaṇṇanā dasamā.

    กาลิงฺควโคฺค ปฐโมฯ

    Kāliṅgavaggo paṭhamo.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๑๐. เสยฺยชาตกํ • 310. Seyyajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact