Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๘๘] ๘. สีหโกตฺถุชาตกวณฺณนา
[188] 8. Sīhakotthujātakavaṇṇanā
สีหงฺคุลี สีหนโขติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต โกกาลิกํ อารพฺภ กเถสิฯ เอกทิวสํ กิร โกกาลิโก อเญฺญสุ พหุสฺสุเตสุ ธมฺมํ กเถเนฺตสุ สยมฺปิ กเถตุกาโม อโหสีติ สพฺพํ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํฯ ตํ ปน ปวตฺติํ สุตฺวา สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, โกกาลิโก อิทาเนว อตฺตโน สเทฺทน ปากโฎ ชาโต, ปุเพฺพปิ ปากโฎ อโหสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Sīhaṅgulī sīhanakhoti idaṃ satthā jetavane viharanto kokālikaṃ ārabbha kathesi. Ekadivasaṃ kira kokāliko aññesu bahussutesu dhammaṃ kathentesu sayampi kathetukāmo ahosīti sabbaṃ heṭṭhā vuttanayeneva vitthāretabbaṃ. Taṃ pana pavattiṃ sutvā satthā ‘‘na, bhikkhave, kokāliko idāneva attano saddena pākaṭo jāto, pubbepi pākaṭo ahosī’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต หิมวนฺตปเทเส สีโห หุตฺวา เอกาย สิงฺคาลิยา สทฺธิํ สํวาสมนฺวาย ปุตฺตํ ปฎิลภิฯ โส องฺคุลีหิ นเขหิ เกสเรน วเณฺณน สณฺฐาเนนาติ อิเมหิ อากาเรหิ ปิตุสทิโส อโหสิ, สเทฺทน มาตุสทิโสฯ อเถกทิวสํ เทเว วสฺสิตฺวา วิคเต สีเหสุ นทิตฺวา สีหกีฬํ กีฬเนฺตสุ โสปิ เตสํ อนฺตเร นทิตุกาโม หุตฺวา สิงฺคาลิกํ นาทํ นทิฯ อถสฺส สทฺทํ สุตฺวา สีหา ตุณฺหี อเหสุํฯ ตสฺส สทฺทํ สุตฺวา อปโร โพธิสตฺตสฺส สชาติปุโตฺต ‘‘ตาต, อยํ สีโห วณฺณาทีหิ อเมฺหหิ สมาโน, สโทฺท ปนสฺส อญฺญาทิโส, โก นาเมโส’’ติ ปุจฺฉโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto himavantapadese sīho hutvā ekāya siṅgāliyā saddhiṃ saṃvāsamanvāya puttaṃ paṭilabhi. So aṅgulīhi nakhehi kesarena vaṇṇena saṇṭhānenāti imehi ākārehi pitusadiso ahosi, saddena mātusadiso. Athekadivasaṃ deve vassitvā vigate sīhesu naditvā sīhakīḷaṃ kīḷantesu sopi tesaṃ antare naditukāmo hutvā siṅgālikaṃ nādaṃ nadi. Athassa saddaṃ sutvā sīhā tuṇhī ahesuṃ. Tassa saddaṃ sutvā aparo bodhisattassa sajātiputto ‘‘tāta, ayaṃ sīho vaṇṇādīhi amhehi samāno, saddo panassa aññādiso, ko nāmeso’’ti pucchanto paṭhamaṃ gāthamāha –
๗๕.
75.
‘‘สีหงฺคุลี สีหนโข, สีหปาทปติฎฺฐิโต;
‘‘Sīhaṅgulī sīhanakho, sīhapādapatiṭṭhito;
โส สีโห สีหสงฺฆมฺหิ, เอโก นทติ อญฺญถา’’ติฯ
So sīho sīhasaṅghamhi, eko nadati aññathā’’ti.
ตตฺถ สีหปาทปติฎฺฐิโตติ สีหปาเทเหว ปติฎฺฐิโตฯ เอโก นทติ อญฺญถาติ เอโกว อวเสสสีเหหิ อสทิเสน สิงฺคาลสเทฺทน นทโนฺต อญฺญถา นทติฯ
Tattha sīhapādapatiṭṭhitoti sīhapādeheva patiṭṭhito. Eko nadati aññathāti ekova avasesasīhehi asadisena siṅgālasaddena nadanto aññathā nadati.
ตํ สุตฺวา โพธิสโตฺต ‘‘ตาต, เอส ตว ภาตา สิงฺคาลิยา ปุโตฺต, รูเปน มยา สทิโส, สเทฺทน มาตรา สทิโส’’ติ วตฺวา สิงฺคาลิปุตฺตํ อามเนฺตตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ อิโต ปฎฺฐาย อิธ วสโนฺต อปฺปสโทฺท วส, สเจ ปุน นทิสฺสสิ, สิงฺคาลภาวํ เต ชานิสฺสนฺตี’’ติ โอวทโนฺต ทุติยํ คาถมาห –
Taṃ sutvā bodhisatto ‘‘tāta, esa tava bhātā siṅgāliyā putto, rūpena mayā sadiso, saddena mātarā sadiso’’ti vatvā siṅgāliputtaṃ āmantetvā ‘‘tāta, tvaṃ ito paṭṭhāya idha vasanto appasaddo vasa, sace puna nadissasi, siṅgālabhāvaṃ te jānissantī’’ti ovadanto dutiyaṃ gāthamāha –
๗๖.
76.
‘‘มา ตฺวํ นทิ ราชปุตฺต, อปฺปสโทฺท วเน วส;
‘‘Mā tvaṃ nadi rājaputta, appasaddo vane vasa;
สเรน โข ตํ ชาเนยฺยุํ, น หิ เต เปตฺติโก สโร’’ติฯ
Sarena kho taṃ jāneyyuṃ, na hi te pettiko saro’’ti.
ตตฺถ ราชปุตฺตาติ สีหสฺส มิครโญฺญ ปุตฺตฯ อิมญฺจ ปน โอวาทํ สุตฺวา ปุน โส นทิตุํ นาม น อุสฺสหิฯ
Tattha rājaputtāti sīhassa migarañño putta. Imañca pana ovādaṃ sutvā puna so nadituṃ nāma na ussahi.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สิงฺคาโล โกกาลิโก อโหสิ, สชาติปุโตฺต ราหุโล, มิคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā siṅgālo kokāliko ahosi, sajātiputto rāhulo, migarājā pana ahameva ahosi’’nti.
สีหโกตฺถุชาตกวณฺณนา อฎฺฐมาฯ
Sīhakotthujātakavaṇṇanā aṭṭhamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๘๘. สีหโกตฺถุชาตกํ • 188. Sīhakotthujātakaṃ