Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๒. สีหนาทวโคฺค
2. Sīhanādavaggo
๑. สีหนาทสุตฺตวณฺณนา
1. Sīhanādasuttavaṇṇanā
๑๑. ทุติยสฺส ปฐเม เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ‘‘สเจ สตฺถา จาริกํ ปกฺกมิตุกาโม อสฺส , อิมสฺมิํ กาเล ปกฺกเมยฺยฯ หนฺทาหํ จาริกํ คมนตฺถาย สตฺถารํ อาปุจฺฉามี’’ติ จิเนฺตตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อุปสงฺกมิฯ อายสฺมา มํ, ภเนฺตติ โส กิร ภิกฺขุ เถรํ มหตา ภิกฺขุปริวาเรน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิเม ภิกฺขู ตถาคตํ ปหาย สาริปุตฺตํ ปริวาเรตฺวา นิกฺขนฺตา, คมนวิเจฺฉทมสฺส กริสฺสามี’’ติ อฎฺฐาเน โกปํ พนฺธิตฺวา เอวมาหฯ ตตฺถ อาสชฺชาติ ฆเฎฺฎตฺวาฯ อปฺปฎินิสฺสชฺชาติ อกฺขมาเปตฺวา อจฺจยํ อเทเสตฺวาฯ กิสฺมิํ ปน โส การเณ อาฆาตํ พนฺธีติ? เถรสฺส กิร ทสพลํ วนฺทิตฺวา อุฎฺฐาย คจฺฉโต จีวรกโณฺณ ตสฺส สรีรํ ผุสิ, วาโต ปหรีติปิ วทนฺติฯ เอตฺตเกน อาฆาตํ พนฺธิตฺวา เถรํ มหตา ปริวาเรน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อุสูยมาโน ‘‘คมนวิเจฺฉทมสฺส กริสฺสามี’’ติ เอวมาหฯ เอหิ ตฺวํ ภิกฺขูติ สตฺถา ตสฺส ภิกฺขุโน วจนํ สุตฺวา ‘‘น ตํ ภิกฺขุ สาริปุโตฺต ปหรีติ วุเตฺต, ‘ภเนฺต, ตุเมฺห อตฺตโน อคฺคสาวกเสฺสว ปกฺขํ วหถ, น มยฺห’นฺติ มยิ มโนปโทสํ กตฺวา อปาเย นิพฺพเตฺตยฺยา’’ติ ญตฺวา ‘‘สาริปุตฺตํ ปโกฺกสาเปตฺวา อิมมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ เอกํ ภิกฺขุํ อามเนฺตตฺวา เอวมาหฯ อวาปุรณํ อาทายาติ กุญฺจิกํ คเหตฺวาฯ สีหนาทนฺติ เสฎฺฐนาทํ ปมุขนาทํ อปฺปฎิวตฺติยนาทํฯ เอวํ ทฺวีหิ มหาเถเรหิ อาโรจิโต ภิกฺขุสโงฺฆ รตฺติฎฺฐานทิวาฎฺฐานานิ ปหาย สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิฯ ขียนธมฺมนฺติ กถาธมฺมํฯ
11. Dutiyassa paṭhame yena bhagavā tenupasaṅkamīti ‘‘sace satthā cārikaṃ pakkamitukāmo assa , imasmiṃ kāle pakkameyya. Handāhaṃ cārikaṃ gamanatthāya satthāraṃ āpucchāmī’’ti cintetvā bhikkhusaṅghaparivuto upasaṅkami. Āyasmā maṃ, bhanteti so kira bhikkhu theraṃ mahatā bhikkhuparivārena gacchantaṃ disvā ‘‘ime bhikkhū tathāgataṃ pahāya sāriputtaṃ parivāretvā nikkhantā, gamanavicchedamassa karissāmī’’ti aṭṭhāne kopaṃ bandhitvā evamāha. Tattha āsajjāti ghaṭṭetvā. Appaṭinissajjāti akkhamāpetvā accayaṃ adesetvā. Kismiṃ pana so kāraṇe āghātaṃ bandhīti? Therassa kira dasabalaṃ vanditvā uṭṭhāya gacchato cīvarakaṇṇo tassa sarīraṃ phusi, vāto paharītipi vadanti. Ettakena āghātaṃ bandhitvā theraṃ mahatā parivārena gacchantaṃ disvā usūyamāno ‘‘gamanavicchedamassa karissāmī’’ti evamāha. Ehi tvaṃ bhikkhūti satthā tassa bhikkhuno vacanaṃ sutvā ‘‘na taṃ bhikkhu sāriputto paharīti vutte, ‘bhante, tumhe attano aggasāvakasseva pakkhaṃ vahatha, na mayha’nti mayi manopadosaṃ katvā apāye nibbatteyyā’’ti ñatvā ‘‘sāriputtaṃ pakkosāpetvā imamatthaṃ pucchissāmī’’ti ekaṃ bhikkhuṃ āmantetvā evamāha. Avāpuraṇaṃ ādāyāti kuñcikaṃ gahetvā. Sīhanādanti seṭṭhanādaṃ pamukhanādaṃ appaṭivattiyanādaṃ. Evaṃ dvīhi mahātherehi ārocito bhikkhusaṅgho rattiṭṭhānadivāṭṭhānāni pahāya satthu santikaṃ agamāsi. Khīyanadhammanti kathādhammaṃ.
คูถคตนฺติ คูถเมวฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ ปถวีสเมนาติ อกุชฺฌนเฎฺฐน ปถวิยา สมาเนนฯ น หิ ปถวี ‘‘มยิ สุจิํ นิกฺขิปนฺตี’’ติ โสมนสฺสํ กโรติ, น ‘‘อสุจิํ นิกฺขิปนฺตี’’ติ โทมนสฺสํฯ มยฺหมฺปิ เอวรูปํ จิตฺตนฺติ ทเสฺสติฯ วิปุเลนาติ อปริเตฺตนฯ มหคฺคเตนาติ มหนฺตภาวํ คเตนฯ อปฺปมาเณนาติ วฑฺฒิตปฺปมาเณนฯ อเวเรนาติ อกุสลเวรปุคฺคลเวรรหิเตนฯ อพฺยาปเชฺฌนาติ นิทฺทุเกฺขน วิคตโทมนเสฺสนฯ โส อิธาติ โส อนุปฎฺฐิตกายานุปสฺสนาสติปฎฺฐาโน ภิกฺขุ เอวํ กเรยฺย, มาทิโส กถํ เอวรูปํ กริสฺสติ, ภเนฺตติ ปฐมํ สีหนาทํ นทิฯ เอวํ สพฺพตฺถ โยชนา เวทิตพฺพาฯ
Gūthagatanti gūthameva. Sesesupi eseva nayo. Pathavīsamenāti akujjhanaṭṭhena pathaviyā samānena. Na hi pathavī ‘‘mayi suciṃ nikkhipantī’’ti somanassaṃ karoti, na ‘‘asuciṃ nikkhipantī’’ti domanassaṃ. Mayhampi evarūpaṃ cittanti dasseti. Vipulenāti aparittena. Mahaggatenāti mahantabhāvaṃ gatena. Appamāṇenāti vaḍḍhitappamāṇena. Averenāti akusalaverapuggalaverarahitena. Abyāpajjhenāti niddukkhena vigatadomanassena. So idhāti so anupaṭṭhitakāyānupassanāsatipaṭṭhāno bhikkhu evaṃ kareyya, mādiso kathaṃ evarūpaṃ karissati, bhanteti paṭhamaṃ sīhanādaṃ nadi. Evaṃ sabbattha yojanā veditabbā.
รโชหรณนฺติ รชสมฺมชฺชนโจฬกํ, ปาทปุญฺฉนฺติ, ตเสฺสว นามํฯ กโฬปิหโตฺถติ ปจฺฉิหโตฺถ อุกฺขลิหโตฺถ วาฯ นนฺตกวาสีติ อนฺตจฺฉินฺนปิโลติกวสโนฯ สูรโตติ สุจิสีโล โสรเจฺจน สมนฺนาคโตฯ สุทโนฺตติ สุฎฺฐุ ทมถํ อุปคโตฯ สุวินีโตติ สุฎฺฐุ สิกฺขิโตฯ น กญฺจิ หิํสตีติ วิสาณาทีสุ คณฺหนฺตมฺปิ ปิฎฺฐิํ ปริมชฺชนฺตมฺปิ น กญฺจิ วิเหเฐติฯ อุสภฉินฺนวิสาณสเมนาติ อุสภสฺส ฉินฺนวิสาณสฺส จิตฺตสทิเสนฯ
Rajoharaṇanti rajasammajjanacoḷakaṃ, pādapuñchanti, tasseva nāmaṃ. Kaḷopihatthoti pacchihattho ukkhalihattho vā. Nantakavāsīti antacchinnapilotikavasano. Sūratoti sucisīlo soraccena samannāgato. Sudantoti suṭṭhu damathaṃ upagato. Suvinītoti suṭṭhu sikkhito. Na kañci hiṃsatīti visāṇādīsu gaṇhantampi piṭṭhiṃ parimajjantampi na kañci viheṭheti. Usabhachinnavisāṇasamenāti usabhassa chinnavisāṇassa cittasadisena.
อฎฺฎีเยยฺยาติ อโฎฺฎ ปีฬิโต ภเวยฺยฯ หราเยยฺยาติ ลเชฺชยฺยฯ ชิคุเจฺฉยฺยาติ ชิคุจฺฉํ อาปเชฺชยฺยฯ
Aṭṭīyeyyāti aṭṭo pīḷito bhaveyya. Harāyeyyāti lajjeyya. Jiguccheyyāti jigucchaṃ āpajjeyya.
เมทกถาลิกนฺติ เมทกถาลิกา วุจฺจติ สูนการเกหิ ยูสนิกฺขมนตฺถาย ตตฺถ ตตฺถ กตฉิทฺทา ถาลิกาฯ ปริหเรยฺยาติ มํสสฺส ปูเรตฺวา อุกฺขิปิตฺวา คเจฺฉยฺยฯ ฉิทฺทาวฉิทฺทนฺติ ปริตฺตมหเนฺตหิ ฉิเทฺทหิ สมนฺนาคตํฯ อุคฺฆรนฺตนฺติ อุปริมุเขหิ ฉิเทฺทหิ นิกฺขมมานยูสํฯ ปคฺฆรนฺตนฺติ อโธมุเขหิ นิกฺขมมานยูสํฯ เอวมสฺส สกลสรีรํ ยูสมกฺขิตํ ภเวยฺยฯ ฉิทฺทาวฉิทฺทนฺติ นวหิ วณมุเขหิ ปริตฺตมหนฺต ฉิทฺทํฯ เอวเมตฺถ อฎฺฐมนวเมหิ ทฺวีหิ อเงฺคหิ เถโร อตฺตโน สรีเร นิจฺฉนฺทราคตํ กเถสิฯ
Medakathālikanti medakathālikā vuccati sūnakārakehi yūsanikkhamanatthāya tattha tattha katachiddā thālikā. Parihareyyāti maṃsassa pūretvā ukkhipitvā gaccheyya. Chiddāvachiddanti parittamahantehi chiddehi samannāgataṃ. Uggharantanti uparimukhehi chiddehi nikkhamamānayūsaṃ. Paggharantanti adhomukhehi nikkhamamānayūsaṃ. Evamassa sakalasarīraṃ yūsamakkhitaṃ bhaveyya. Chiddāvachiddanti navahi vaṇamukhehi parittamahanta chiddaṃ. Evamettha aṭṭhamanavamehi dvīhi aṅgehi thero attano sarīre nicchandarāgataṃ kathesi.
อถ โข โส ภิกฺขูติ เอวํ เถเรน นวหิ การเณหิ สีหนาเท นทิเต อถ โส ภิกฺขุฯ อจฺจโยติ อปราโธฯ มํ อจฺจคมาติ มํ อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปวโตฺตฯ ปติคฺคณฺหตูติ ขมตุฯ อายติํ สํวรายาติ อนาคเต สํวรณตฺถาย, ปุน เอวรูปสฺส อปราธสฺส อกรณตฺถายฯ ตคฺฆาติ เอกํเสนฯ ยถาธมฺมํ ปฎิกโรสีติ ยถา ธโมฺม ฐิโต, ตเถว กโรสิ, ขมาเปสีติ วุตฺตํ โหติฯ ตํ เต มยํ ปฎิคฺคณฺหามาติ ตํ ตว อปราธํ มยํ ขมามฯ วุทฺธิเหสา ภิกฺขุ อริยสฺส วินเยติ เอสา ภิกฺขุ อริยสฺส วินเย พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน วุฑฺฒิ นามฯ กตมา? อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฎิกริตฺวา อายติํ สํวราปชฺชนาฯ เทสนํ ปน ปุคฺคลาธิฎฺฐานํ กโรโนฺต โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฎิกโรติ, อายติํ สํวรํ อาปชฺชตีติ อาหฯ ผลตีติ สเจ หิ เถโร น ขเมยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ตเตฺถว สตฺตธา มุทฺธา ผเลยฺยฯ ตสฺมา ภควา เอวมาหฯ สเจ มํ โสติ สเจ มํ อยํ ภิกฺขุ ขมาหีติ เอวํ วทติฯ ขมตุ จ เม โสติ อยมฺปิ จายสฺมา มยฺหํ ขมตูติ เอวํ เถโร ตสฺส อจฺจยํ ปฎิคฺคณฺหิตฺวา สยมฺปิ ตํ สตฺถุ สมฺมุเข ขมาเปสีติฯ
Atha kho so bhikkhūti evaṃ therena navahi kāraṇehi sīhanāde nadite atha so bhikkhu. Accayoti aparādho. Maṃ accagamāti maṃ atikkamma abhibhavitvā pavatto. Patiggaṇhatūti khamatu. Āyatiṃ saṃvarāyāti anāgate saṃvaraṇatthāya, puna evarūpassa aparādhassa akaraṇatthāya. Tagghāti ekaṃsena. Yathādhammaṃ paṭikarosīti yathā dhammo ṭhito, tatheva karosi, khamāpesīti vuttaṃ hoti. Taṃ te mayaṃ paṭiggaṇhāmāti taṃ tava aparādhaṃ mayaṃ khamāma. Vuddhihesā bhikkhu ariyassa vinayeti esā bhikkhu ariyassa vinaye buddhassa bhagavato sāsane vuḍḍhi nāma. Katamā? Accayaṃ accayato disvā yathādhammaṃ paṭikaritvā āyatiṃ saṃvarāpajjanā. Desanaṃ pana puggalādhiṭṭhānaṃ karonto yo accayaṃ accayatodisvā yathādhammaṃ paṭikaroti, āyatiṃ saṃvaraṃ āpajjatīti āha. Phalatīti sace hi thero na khameyya, tassa bhikkhuno tattheva sattadhā muddhā phaleyya. Tasmā bhagavā evamāha. Sace maṃ soti sace maṃ ayaṃ bhikkhu khamāhīti evaṃ vadati. Khamatu ca me soti ayampi cāyasmā mayhaṃ khamatūti evaṃ thero tassa accayaṃ paṭiggaṇhitvā sayampi taṃ satthu sammukhe khamāpesīti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑. สีหนาทสุตฺตํ • 1. Sīhanādasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑. สีหนาทสุตฺตวณฺณนา • 1. Sīhanādasuttavaṇṇanā