Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā

    ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

    Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa

    ขุทฺทกนิกาเย

    Khuddakanikāye

    อปทาน-อฎฺฐกถา

    Apadāna-aṭṭhakathā

    (ทุติโย ภาโค)

    (Dutiyo bhāgo)

    เถราปทานํ

    Therāpadānaṃ

    ๒. สีหาสนิยวโคฺค

    2. Sīhāsaniyavaggo

    ๑. สีหาสนทายกเตฺถรอปทานวณฺณนา

    1. Sīhāsanadāyakattheraapadānavaṇṇanā

    นิพฺพุเต โลกนาถมฺหีติอาทิกํ อายสฺมโต สีหาสนทายกเตฺถรสฺส อปทานํฯ อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล วิภวสมฺปเนฺน สทฺธาสมฺปเนฺน เอกสฺมิํ กุเล นิพฺพโตฺต, ธรมาเน ภควติ เทวโลเก วสิตฺวา นิพฺพุเต ภควติ อุปฺปนฺนตฺตา วิญฺญุตํ ปโตฺต ภควโต สารีริกเจติยํ ทิสฺวา ‘‘อโห เม อลาภา, ภควโต ธรมาเน กาเล อสมฺปโตฺต’’ติ จิเนฺตตฺวา เจติเย จิตฺตํ ปสาเทตฺวา โสมนสฺสชาโต สพฺพรตนมยํ เทวตานิมฺมิตสทิสํ ธมฺมาสเน สีหาสนํ กาเรตฺวา ชีวมานกพุทฺธสฺส วิย ปูเชสิฯ ตสฺสุปริ เคหมฺปิ ทิพฺพวิมานมิว กาเรสิ, ปาทฎฺฐปนปาทปีฐมฺปิ กาเรสิฯ เอวํ ยาวชีวํ ทีปธูปปุปฺผคนฺธาทีหิ อเนกวิธํ ปูชํ กตฺวา ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพโตฺต ฉ กามสเคฺค อปราปรํ ทิพฺพสมฺปตฺติํ อนุภวิตฺวา มนุเสฺสสุ จกฺกวตฺติสมฺปตฺติํ อเนกกฺขตฺตุํ อนุภวิตฺวา สงฺขฺยาติกฺกนฺตํ ปเทสรชฺชสมฺปตฺติญฺจ อนุภวิตฺวา กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กตฺวา เอตฺถนฺตเร เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท เอกสฺมิํ วิภวสมฺปเนฺน กุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา ฆเฎโนฺต วายมโนฺต นจิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ

    Nibbutelokanāthamhītiādikaṃ āyasmato sīhāsanadāyakattherassa apadānaṃ. Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto siddhatthassa bhagavato kāle vibhavasampanne saddhāsampanne ekasmiṃ kule nibbatto, dharamāne bhagavati devaloke vasitvā nibbute bhagavati uppannattā viññutaṃ patto bhagavato sārīrikacetiyaṃ disvā ‘‘aho me alābhā, bhagavato dharamāne kāle asampatto’’ti cintetvā cetiye cittaṃ pasādetvā somanassajāto sabbaratanamayaṃ devatānimmitasadisaṃ dhammāsane sīhāsanaṃ kāretvā jīvamānakabuddhassa viya pūjesi. Tassupari gehampi dibbavimānamiva kāresi, pādaṭṭhapanapādapīṭhampi kāresi. Evaṃ yāvajīvaṃ dīpadhūpapupphagandhādīhi anekavidhaṃ pūjaṃ katvā tato cuto devaloke nibbatto cha kāmasagge aparāparaṃ dibbasampattiṃ anubhavitvā manussesu cakkavattisampattiṃ anekakkhattuṃ anubhavitvā saṅkhyātikkantaṃ padesarajjasampattiñca anubhavitvā kassapassa bhagavato sāsane pabbajitvā samaṇadhammaṃ katvā etthantare devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde ekasmiṃ vibhavasampanne kule nibbattitvā viññutaṃ patto satthu dhammadesanaṃ sutvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā laddhūpasampado kammaṭṭhānaṃ gahetvā ghaṭento vāyamanto nacirasseva arahattaṃ pāpuṇi.

    . เอวํ ปตฺตอรหตฺตผโล อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสํ อุปฺปาเทตฺวา ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสโนฺต นิพฺพุเต โลกนาถมฺหีติอาทิมาหฯ ตตฺถ โลกสฺส นาโถ ปธาโนติ โลกนาโถ, โลกตฺตยสามีติ อโตฺถฯ โลกนาเถ สิทฺธตฺถมฺหิ นิพฺพุเตติ สมฺพโนฺธฯ วิตฺถาริเต ปาวจเนติ ปาวจเน ปิฎกตฺตเย วิตฺถาริเต ปตฺถเฎ ปากเฎติ อโตฺถฯ พาหุชญฺญมฺหิ สาสเนติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิเต พุทฺธสาสเน อเนกสตสหสฺสโกฎิขีณาสวสงฺขาเตหิ พหุชเนหิ ญาเต อธิคเตติ อโตฺถฯ

    1. Evaṃ pattaarahattaphalo attano pubbakammaṃ saritvā somanassaṃ uppādetvā pubbacaritāpadānaṃ pakāsento nibbute lokanāthamhītiādimāha. Tattha lokassa nātho padhānoti lokanātho, lokattayasāmīti attho. Lokanāthe siddhatthamhi nibbuteti sambandho. Vitthārite pāvacaneti pāvacane piṭakattaye vitthārite patthaṭe pākaṭeti attho. Bāhujaññamhi sāsaneti sikkhattayasaṅgahite buddhasāsane anekasatasahassakoṭikhīṇāsavasaṅkhātehi bahujanehi ñāte adhigateti attho.

    ๒-๓. ปสนฺนจิโตฺต สุมโนติ ตทา อหํ พุทฺธสฺส ธรมานกาเล อสมฺปโตฺต นิพฺพุเต ตสฺมิํ เทวโลกา จวิตฺวา มนุสฺสโลกํ อุปปโนฺน ตสฺส ภควโต สารีริกธาตุเจติยํ ทิสฺวา ปสนฺนจิโตฺต สทฺธาสมฺปยุตฺตมโน สุนฺทรมโน ‘‘อโห มมาคมนํ สฺวาคมน’’นฺติ สญฺชาตปสาทพหุมาโน ‘‘มยา นิพฺพานาธิคมาย เอกํ ปุญฺญํ กาตุํ วฎฺฎตี’’ติ จิเนฺตตฺวา ภควโต เจติยสมีเป ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส หิรญฺญสุวณฺณรตนาทีหิ อลงฺกริตฺวาว สีหาสนํ อกาสิฯ ตตฺร นิสินฺนสฺส ปาทฎฺฐปนตฺถาย ปาทปีฐญฺจ กาเรสิฯ สีหาสนสฺส อเตมนตฺถาย ตสฺสุปริ ฆรญฺจ กาเรสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘สีหาสนมกาสหํ…เป.… ฆรํ ตตฺถ อกาสห’’นฺติฯ เตน จิตฺตปฺปสาเทนาติ ธรมานสฺส วิย ภควโต สีหาสนํ มยา กตํ, เตน จิตฺตปฺปสาเทนฯ ตุสิตํ อุปปชฺชหนฺติ ตุสิตภวเน อุปปชฺชินฺติ อโตฺถฯ

    2-3.Pasannacitto sumanoti tadā ahaṃ buddhassa dharamānakāle asampatto nibbute tasmiṃ devalokā cavitvā manussalokaṃ upapanno tassa bhagavato sārīrikadhātucetiyaṃ disvā pasannacitto saddhāsampayuttamano sundaramano ‘‘aho mamāgamanaṃ svāgamana’’nti sañjātapasādabahumāno ‘‘mayā nibbānādhigamāya ekaṃ puññaṃ kātuṃ vaṭṭatī’’ti cintetvā bhagavato cetiyasamīpe bhagavantaṃ uddissa hiraññasuvaṇṇaratanādīhi alaṅkaritvāva sīhāsanaṃ akāsi. Tatra nisinnassa pādaṭṭhapanatthāya pādapīṭhañca kāresi. Sīhāsanassa atemanatthāya tassupari gharañca kāresi. Tena vuttaṃ – ‘‘sīhāsanamakāsahaṃ…pe… gharaṃ tattha akāsaha’’nti. Tena cittappasādenāti dharamānassa viya bhagavato sīhāsanaṃ mayā kataṃ, tena cittappasādena. Tusitaṃ upapajjahanti tusitabhavane upapajjinti attho.

    . อายาเมน จตุพฺพีสาติ ตตฺรุปปนฺนสฺส เทวภูตสฺส สโต มยฺหํ สุกตํ ปุเญฺญน นิพฺพตฺติตํ ปาตุภูตํ อายาเมน อุจฺจโต จตุพฺพีสโยชนํ วิตฺถาเรน ติริยโต จตุทฺทสโยชนํ ตาวเทว นิพฺพตฺติกฺขเณเยว อาสิ อโหสีติ อโตฺถฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    4.Āyāmena catubbīsāti tatrupapannassa devabhūtassa sato mayhaṃ sukataṃ puññena nibbattitaṃ pātubhūtaṃ āyāmena uccato catubbīsayojanaṃ vitthārena tiriyato catuddasayojanaṃ tāvadeva nibbattikkhaṇeyeva āsi ahosīti attho. Sesaṃ suviññeyyameva.

    . จตุนฺนวุเต อิโต กเปฺปติ อิโต กปฺปโต จตุนวุเต กเปฺป ยํ กมฺมํ อกริํ อกาสิํ, ตทา ตโต ปฎฺฐาย ปุญฺญพเลน กญฺจิ ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, น อนุภูตปุพฺพา กาจิ ทุคฺคตีติ อโตฺถฯ

    9.Catunnavuteito kappeti ito kappato catunavute kappe yaṃ kammaṃ akariṃ akāsiṃ, tadā tato paṭṭhāya puññabalena kañci duggatiṃ nābhijānāmi, na anubhūtapubbā kāci duggatīti attho.

    ๑๐. เตสตฺตติมฺหิโต กเปฺปติ อิโต กปฺปโต เตสตฺตติกเปฺปฯ อินฺทนามา ตโย ชนาติ อินฺทนามกา ตโย จกฺกวตฺติราชาโน เอกสฺมิํ กเปฺป ตีสุ ชาตีสุ อิโนฺท นาม จกฺกวตฺตี ราชา อโหสินฺติ อโตฺถฯ เทฺวสตฺตติมฺหิโต กเปฺปติ อิโต เทฺวสตฺตติกเปฺปฯ สุมนนามกา ตโย ชนา ติกฺขตฺตุํ จกฺกวตฺติราชาโน อเหสุํฯ

    10.Tesattatimhito kappeti ito kappato tesattatikappe. Indanāmā tayo janāti indanāmakā tayo cakkavattirājāno ekasmiṃ kappe tīsu jātīsu indo nāma cakkavattī rājā ahosinti attho. Dvesattatimhitokappeti ito dvesattatikappe. Sumananāmakā tayo janā tikkhattuṃ cakkavattirājāno ahesuṃ.

    ๑๑. สมสตฺตติโต กเปฺปติ อิโต กปฺปโต อนูนาธิเก สตฺตติเม กเปฺป วรุณนามกา วรุโณ จกฺกวตฺตีติ เอวํนามกา ตโย จกฺกวตฺติราชาโน จกฺกรตนสมฺปนฺนา จตุทีปมฺหิ อิสฺสรา อเหสุนฺติ อโตฺถฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวาติฯ

    11.Samasattatito kappeti ito kappato anūnādhike sattatime kappe varuṇanāmakā varuṇo cakkavattīti evaṃnāmakā tayo cakkavattirājāno cakkaratanasampannā catudīpamhi issarā ahesunti attho. Sesaṃ suviññeyyamevāti.

    สีหาสนทายกเตฺถรอปทานวณฺณนา สมตฺตาฯ

    Sīhāsanadāyakattheraapadānavaṇṇanā samattā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi / ๑. สีหาสนทายกเตฺถรอปทานํ • 1. Sīhāsanadāyakattheraapadānaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact