Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๓. สีหสุตฺตวณฺณนา
3. Sīhasuttavaṇṇanā
๓๓. ตติเย สีโหติ ปริสฺสยสหนโต ปฎิปกฺขหนนโต จ ‘‘สีโห’’ติ ลทฺธนาโม มิคาธิปติฯ จตฺตาโรติ สมาเนปิ สีหชาติภาเว วณฺณวิเสสาทิสิเทฺธน วิเสเสน จตฺตาโร สีหาฯ เต อิทานิ นามโต วณฺณโต อาหารโต ทเสฺสตฺวา อิธาธิเปฺปตสีหํ นานปฺปการโต วิภาเวตุํ ‘‘ติณสีโห’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ติณภโกฺข สีโห ติณสีโห ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘สากปตฺถิโว’’ติ (ปาณินิ ๒.๑.๖๐)ฯ กาฬวณฺณตาย กาฬสีโหฯ ตถา ปณฺฑุสีโหฯ เตนาห ‘‘กาฬคาวิสทิโส, ปณฺฑุปลาสวณฺณคาวิสทิโส’’ติ จฯ รตฺตกมฺพลสฺส วิย เกสโร เกสรกโลโม เอตสฺส อตฺถีติ เกสรีฯ ลาขาปริกมฺมกเตหิ วิย ปาทปริยเนฺตหีติ จ โยชนาฯ
33. Tatiye sīhoti parissayasahanato paṭipakkhahananato ca ‘‘sīho’’ti laddhanāmo migādhipati. Cattāroti samānepi sīhajātibhāve vaṇṇavisesādisiddhena visesena cattāro sīhā. Te idāni nāmato vaṇṇato āhārato dassetvā idhādhippetasīhaṃ nānappakārato vibhāvetuṃ ‘‘tiṇasīho’’tiādi āraddhaṃ. Tiṇabhakkho sīho tiṇasīho purimapade uttarapadalopena yathā ‘‘sākapatthivo’’ti (pāṇini 2.1.60). Kāḷavaṇṇatāya kāḷasīho. Tathā paṇḍusīho. Tenāha ‘‘kāḷagāvisadiso, paṇḍupalāsavaṇṇagāvisadiso’’ti ca. Rattakambalassa viya kesaro kesarakalomo etassa atthīti kesarī. Lākhāparikammakatehi viya pādapariyantehīti ca yojanā.
กมฺมานุภาวสิทฺธอธิปจฺจมเหสกฺขตาหิ สพฺพมิคคณสฺส ราชาฯ สุวณฺณคุหโต วาติอาทิ ‘‘สีหสฺส วิหาโร กิริยา เอวํ โหตี’’ติ กตฺวา วุตฺตํฯ
Kammānubhāvasiddhaadhipaccamahesakkhatāhi sabbamigagaṇassa rājā. Suvaṇṇaguhato vātiādi ‘‘sīhassa vihāro kiriyā evaṃ hotī’’ti katvā vuttaṃ.
สมํ ปติฎฺฐาเปตฺวาติ สพฺพภาเคหิ สมเมว ภูมิยํ ปติฎฺฐาเปตฺวาฯ อากฑฺฒิตฺวาติ ปุรโต อากฑฺฒิตฺวาฯ อภิหริตฺวาติ อภิมุขํ หริตฺวาฯ สงฺฆาตนฺติ วินาสํฯ วีสติยฎฺฐิกํ ฐานํ อุสภํฯ
Samaṃ patiṭṭhāpetvāti sabbabhāgehi samameva bhūmiyaṃ patiṭṭhāpetvā. Ākaḍḍhitvāti purato ākaḍḍhitvā. Abhiharitvāti abhimukhaṃ haritvā. Saṅghātanti vināsaṃ. Vīsatiyaṭṭhikaṃ ṭhānaṃ usabhaṃ.
สมสีโหติ สมชาติโก สมปฺปภาโว จ สีโหฯ สมาโนสฺมีติ เทสนามตฺตํ, สมปฺปภาวตาย เอว น ภายติฯ สกฺกายทิฎฺฐิพลวตายาติ ‘‘เก อเญฺญ อเมฺหหิ อุตฺตริตรา, อถ โข มยเมว มหาพลา’’ติ เอวํ พลาติมานนิมิตฺตาย อหํการเหตุภูตาย สกฺกายทิฎฺฐิยา พลวภาเวนฯ สกฺกายทิฎฺฐิยา ปหีนตฺตาติ นิรหํการตฺตา อตฺตสิเนหสฺส สุฎฺฐุ สมุคฺฆาตตฺตา น ภายติฯ
Samasīhoti samajātiko samappabhāvo ca sīho. Samānosmīti desanāmattaṃ, samappabhāvatāya eva na bhāyati. Sakkāyadiṭṭhibalavatāyāti ‘‘ke aññe amhehi uttaritarā, atha kho mayameva mahābalā’’ti evaṃ balātimānanimittāya ahaṃkārahetubhūtāya sakkāyadiṭṭhiyā balavabhāvena. Sakkāyadiṭṭhiyā pahīnattāti nirahaṃkārattā attasinehassa suṭṭhu samugghātattā na bhāyati.
ตถา ตถาติ สีหสทิสตาทินา เตน เตน ปกาเรน อตฺตานํ กเถสีติ วตฺวา ตมตฺถํ วิวริตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘สีโหติ โข’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
Tathātathāti sīhasadisatādinā tena tena pakārena attānaṃ kathesīti vatvā tamatthaṃ vivaritvā dassetuṃ ‘‘sīhoti kho’’tiādi vuttaṃ.
กตมหาภินีหารสฺส โลกนาถสฺส โพธิยา นิยตภาวปฺปตฺติยา เอกนฺตภาวี พุทฺธภาโวติ กตฺวา ‘‘ตีสุ ปาสาเทสุ นิวาสกาโล , มคธรโญฺญ ปฎิญฺญาทานกาโล, ปายาสสฺส ปริภุตฺตกาโล’’ติอาทินา อภิสโมฺพธิโต ปุริมาวตฺถาปิ สีหสทิสา กตฺวา ทสฺสิตาฯ ภาวินิ ภูตูปจาโรปิ หิ โลกโวหาโรฯ วิชฺชาภาวสามญฺญโต ทฺวิวิชฺชํ อิตรวิชฺชมฺปิ เอกชฺฌํ คเหตฺวา ปฎิจฺจสมุปฺปาทสมฺมสนโต ตํ ปุเรตรสิทฺธํ วิย กตฺวา อาห ‘‘ติโสฺส วิชฺชา โสเธตฺวา’’ติฯ อนุโลมปฎิโลมโต ปวตฺตญาณสฺส วเสน ‘‘ยมกญาณมนฺถเนนา’’ติ วุตฺตํฯ
Katamahābhinīhārassa lokanāthassa bodhiyā niyatabhāvappattiyā ekantabhāvī buddhabhāvoti katvā ‘‘tīsu pāsādesu nivāsakālo , magadharañño paṭiññādānakālo, pāyāsassa paribhuttakālo’’tiādinā abhisambodhito purimāvatthāpi sīhasadisā katvā dassitā. Bhāvini bhūtūpacāropi hi lokavohāro. Vijjābhāvasāmaññato dvivijjaṃ itaravijjampi ekajjhaṃ gahetvā paṭiccasamuppādasammasanato taṃ puretarasiddhaṃ viya katvā āha ‘‘tisso vijjā sodhetvā’’ti. Anulomapaṭilomato pavattañāṇassa vasena ‘‘yamakañāṇamanthanenā’’ti vuttaṃ.
ตตฺถ วิหรนฺตสฺสาติ อชปาลนิโคฺรธมูเล วิหรนฺตสฺสฯ เอกาทสเม ทิวเสติ สตฺตสตฺตาหโต ปรํ เอกาทสเม ทิวเสฯ อจลปลฺลเงฺกติ อิสิปตเน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ นิสินฺนปลฺลเงฺกฯ ตมฺปิ หิ เกนจิ อปฺปฎิวตฺติยํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ นิสชฺชาติ กตฺวา วชิราสนํ วิย อจลปลฺลงฺกํ วุจฺจติฯ อิมสฺมิญฺจ ปน ปเทติ ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติอาทินยปฺปวเตฺต จ อิมสฺมิํ สทฺธมฺมโกฎฺฐาเสฯ ธมฺมโฆโส…เป.… ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ปฎิจฺฉาเทสิ ‘‘สพฺพตฺถ ฐิตา สุณนฺตู’’ติ อธิฎฺฐาเนนฯ โสฬสหากาเรหีติ ทุกฺขปริญฺญา, สมุทยปฺปหานํ, นิโรธสจฺฉิกิริยา, มคฺคภาวนาติ เอเกกสฺมิํ มเคฺค จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา โสฬสหิ อากาเรหิฯ
Tattha viharantassāti ajapālanigrodhamūle viharantassa. Ekādasame divaseti sattasattāhato paraṃ ekādasame divase. Acalapallaṅketi isipatane dhammacakkappavattanatthaṃ nisinnapallaṅke. Tampi hi kenaci appaṭivattiyaṃ dhammacakkappavattanatthaṃ nisajjāti katvā vajirāsanaṃ viya acalapallaṅkaṃ vuccati. Imasmiñca pana padeti ‘‘dveme, bhikkhave, antā’’tiādinayappavatte ca imasmiṃ saddhammakoṭṭhāse. Dhammaghoso…pe… dasasahassilokadhātuṃ paṭicchādesi ‘‘sabbattha ṭhitā suṇantū’’ti adhiṭṭhānena. Soḷasahākārehīti dukkhapariññā, samudayappahānaṃ, nirodhasacchikiriyā, maggabhāvanāti ekekasmiṃ magge cattāri cattāri katvā soḷasahi ākārehi.
ปฐเมน นเยน อภิสโมฺพธิโต ปุริมตราวตฺถาปิ อวสฺสํภาวิตาย คเหตฺวา สีหสทิสตํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ อภิสมฺพุทฺธาวตฺถาสุ เอว สีหสทิสตํ ทเสฺสตุํ ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิ อารทฺธํฯ อฎฺฐหิ การเณหีติ ‘‘ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธเมฺม ยาถาวโต อภิสมฺพุโทฺธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนเฎฺฐน ตถาคโต’’ติ (ที. นิ. อฎฺฐ. ๑.๗; ม. นิ. อฎฺฐ. ๑.๑๒; สํ. นิ. อฎฺฐ. ๒.๓.๗๘; อ. นิ. อฎฺฐ. ๑.๑.๑๗๐; อุทา. อฎฺฐ. ๑๘; อิติวุ. อฎฺฐ. ๓๘; เถรคา. อฎฺฐ. ๑.๓; พุ. วํ. อฎฺฐ. ๑.๒ นิทานกถา; มหานิ. อฎฺฐ. ๑๔; ปฎิ. ม. ๑.๓๗) เอวํ วุเตฺตหิ อฎฺฐหิ ตถาคตสาธเกหิ การเณหิฯ ยทิปิ ภควา โพธิปลฺลเงฺก นิสินฺนมเตฺตว อภิสมฺพุโทฺธ น ชาโต, ตถาปิ ตาย นิสชฺชาย นิสิโนฺนว ปนุชฺช สพฺพํ ปริสฺสยํ อภิสมฺพุโทฺธ ชาโตฯ ตถา หิ ตํ ‘‘อปราชิตปลฺลงฺก’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘ยาว โพธิปลฺลงฺกา วา’’ติ วตฺวา เตน อปริตุสฺสโนฺต ‘‘ยาว อรหตฺตมคฺคญาณา วา’’ติ อาหฯ
Paṭhamena nayena abhisambodhito purimatarāvatthāpi avassaṃbhāvitāya gahetvā sīhasadisataṃ dassetvā idāni abhisambuddhāvatthāsu eva sīhasadisataṃ dassetuṃ ‘‘aparo nayo’’tiādi āraddhaṃ. Aṭṭhahi kāraṇehīti ‘‘tathā āgatoti tathāgato, tathā gatoti tathāgato, tathalakkhaṇaṃ āgatoti tathāgato, tathadhamme yāthāvato abhisambuddhoti tathāgato, tathadassitāya tathāgato, tathavāditāya tathāgato, tathākāritāya tathāgato, abhibhavanaṭṭhena tathāgato’’ti (dī. ni. aṭṭha. 1.7; ma. ni. aṭṭha. 1.12; saṃ. ni. aṭṭha. 2.3.78; a. ni. aṭṭha. 1.1.170; udā. aṭṭha. 18; itivu. aṭṭha. 38; theragā. aṭṭha. 1.3; bu. vaṃ. aṭṭha. 1.2 nidānakathā; mahāni. aṭṭha. 14; paṭi. ma. 1.37) evaṃ vuttehi aṭṭhahi tathāgatasādhakehi kāraṇehi. Yadipi bhagavā bodhipallaṅke nisinnamatteva abhisambuddho na jāto, tathāpi tāya nisajjāya nisinnova panujja sabbaṃ parissayaṃ abhisambuddho jāto. Tathā hi taṃ ‘‘aparājitapallaṅka’’nti vuccati, tasmā ‘‘yāva bodhipallaṅkā vā’’ti vatvā tena aparitussanto ‘‘yāva arahattamaggañāṇā vā’’ti āha.
อิติ สกฺกาโยติ เอตฺถ อิติสโทฺท นิทสฺสนโตฺถฯ เตน สกฺกาโย สรูปโต ปริมาณโต ปริเจฺฉทโต จ ทสฺสิโตติ อาห ‘‘อยํ สกฺกาโย’’ติอาทิฯ ‘‘อยํ สกฺกาโย’’ติ อิมินา ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา สรูปโต ทสฺสิตาฯ ‘‘เอตฺตโก สกฺกาโย’’ติ อิมินา เต ปริมาณโต ทสฺสิตาฯ ตสฺส จ ปริมาณสฺส เอกนฺติกภาวํ ทเสฺสเนฺตน ‘‘น อิโต ภิโยฺย สกฺกาโย อตฺถี’’ติ วุตฺตํฯ สภาวโตติ สลกฺขณโตฯ สรสโตติ สกิจฺจโตฯ ปริยนฺตโตติ ปริมาณปริยนฺตโตฯ ปริเจฺฉทโตติ ยตฺตเก ฐาเน ตสฺส ปวตฺติตสฺส ปริจฺฉินฺทนโตฯ ปริวฎุมโตติ ปริโยสานปฺปวตฺติโตฯ สเพฺพปิ ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทสฺสิตา โหนฺติ ยถาวุเตฺตน วิภาเคนฯ อยํ สกฺกายสฺส สมุทโย นามาติ อยํ อาหาราทิสกฺกายสฺส สมุทโย นามฯ เตนาห ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิฯ อตฺถงฺคโมติ นิโรโธฯ ‘‘อาหารสมุทยา อาหารนิโรธา’’ติ จ อสาธารณเมว ตํ คเหตฺวา เสเสสุ อาทิ-สเทฺทน สงฺคณฺหาติฯ
Itisakkāyoti ettha itisaddo nidassanattho. Tena sakkāyo sarūpato parimāṇato paricchedato ca dassitoti āha ‘‘ayaṃ sakkāyo’’tiādi. ‘‘Ayaṃ sakkāyo’’ti iminā pañcupādānakkhandhā sarūpato dassitā. ‘‘Ettako sakkāyo’’ti iminā te parimāṇato dassitā. Tassa ca parimāṇassa ekantikabhāvaṃ dassentena ‘‘na ito bhiyyo sakkāyo atthī’’ti vuttaṃ. Sabhāvatoti salakkhaṇato. Sarasatoti sakiccato. Pariyantatoti parimāṇapariyantato. Paricchedatoti yattake ṭhāne tassa pavattitassa paricchindanato. Parivaṭumatoti pariyosānappavattito. Sabbepi pañcupādānakkhandhā dassitā honti yathāvuttena vibhāgena. Ayaṃ sakkāyassa samudayo nāmāti ayaṃ āhārādisakkāyassa samudayo nāma. Tenāha ‘‘ettāvatā’’tiādi. Atthaṅgamoti nirodho. ‘‘Āhārasamudayā āhāranirodhā’’ti ca asādhāraṇameva taṃ gahetvā sesesu ādi-saddena saṅgaṇhāti.
ปณฺณาสลกฺขณปฎิมณฺฑิตนฺติ ปณฺณาสอุทยวยลกฺขณวิภูสิตํ สมุทยตฺถงฺคมคฺคหณโตฯ ขีณาสวตฺตาติ อนวเสสํ สาวเสสญฺจ อาสวานํ ปริกฺขีณตฺตาฯ อนาคามีนมฺปิ หิ ภยํ จิตฺตุตฺราสญฺจ น โหตีติฯ ญาณสํเวโค ภยตุปฎฺฐานปญฺญาฯ อิตราสํ ปน เทวตานนฺติ อขีณาสวเทเว สนฺธาย วทติฯ โภติ ธมฺมาลปนมตฺตนฺติ สภาวกถนมตฺตํฯ
Paṇṇāsalakkhaṇapaṭimaṇḍitanti paṇṇāsaudayavayalakkhaṇavibhūsitaṃ samudayatthaṅgamaggahaṇato. Khīṇāsavattāti anavasesaṃ sāvasesañca āsavānaṃ parikkhīṇattā. Anāgāmīnampi hi bhayaṃ cittutrāsañca na hotīti. Ñāṇasaṃvego bhayatupaṭṭhānapaññā. Itarāsaṃ pana devatānanti akhīṇāsavadeve sandhāya vadati. Bhoti dhammālapanamattanti sabhāvakathanamattaṃ.
จกฺกนฺติ สตฺถุ อาณาจกฺกํฯ ตํ ปน ธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํฯ ตตฺถ อริยสาวกานํ ปฎิเวธธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํฯ อิตเรสํ เทสนาธมฺมโต อาคตนฺติ ธมฺมจกฺกํฯ ทุวิเธปิ ญาณํ ปธานนฺติ ญาณสีเสน วุตฺตํ ‘‘ปฎิเวธญาณมฺปิ เทสนาญาณมฺปี’’ติฯ อิทานิ ตํ ญาณํ สรูปโต ทเสฺสตุํ ‘‘ปฎิเวธญาณํ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ยสฺมา ตสฺส ญาณสฺส ปฎิวิทฺธตฺตา ภควา ตานิ สฎฺฐิ นยสหสฺสานิ เวเนยฺยานํ ทเสฺสตุํ สมโตฺถ อโหสิ, ตสฺมา ตานิ สฎฺฐิ นยสหสฺสานิ เตน ญาเณน สทฺธิํเยว สิทฺธานีติ กตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘สฎฺฐิยา จ นยสหเสฺสหิ ปฎิวิชฺฌี’’ติ อาหฯ ติปริวฎฺฎนฺติ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ จ ‘‘ปริเญฺญยฺย’’นฺติ จ ‘‘ปริญฺญาต’’นฺติ จ เอวํ ติปริวฎฺฎํ, ตํเยว ทฺวาทสาการํฯ ตนฺติ เทสนาญาณํฯ เอส ภควาฯ อปฺปฎิปุคฺคโลติ ปฎินิธิภูตปุคฺคลรหิโตฯ เอกสทิสสฺสาติ นิพฺพิการสฺสฯ
Cakkanti satthu āṇācakkaṃ. Taṃ pana dhammato āgatanti dhammacakkaṃ. Tattha ariyasāvakānaṃ paṭivedhadhammato āgatanti dhammacakkaṃ. Itaresaṃ desanādhammato āgatanti dhammacakkaṃ. Duvidhepi ñāṇaṃ padhānanti ñāṇasīsena vuttaṃ ‘‘paṭivedhañāṇampi desanāñāṇampī’’ti. Idāni taṃ ñāṇaṃ sarūpato dassetuṃ ‘‘paṭivedhañāṇaṃ nāmā’’tiādi vuttaṃ. Yasmā tassa ñāṇassa paṭividdhattā bhagavā tāni saṭṭhi nayasahassāni veneyyānaṃ dassetuṃ samattho ahosi, tasmā tāni saṭṭhi nayasahassāni tena ñāṇena saddhiṃyeva siddhānīti katvā dassento ‘‘saṭṭhiyā ca nayasahassehi paṭivijjhī’’ti āha. Tiparivaṭṭanti ‘‘idaṃ dukkha’’nti ca ‘‘pariññeyya’’nti ca ‘‘pariññāta’’nti ca evaṃ tiparivaṭṭaṃ, taṃyeva dvādasākāraṃ. Tanti desanāñāṇaṃ. Esa bhagavā. Appaṭipuggaloti paṭinidhibhūtapuggalarahito. Ekasadisassāti nibbikārassa.
สีหสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sīhasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๓. สีหสุตฺตํ • 3. Sīhasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. สีหสุตฺตวณฺณนา • 3. Sīhasuttavaṇṇanā