Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๗๑. สีมานุชานนกถา
71. Sīmānujānanakathā
๑๓๘. นิมิตฺตา กิเตฺตตพฺพาติ นิมิตฺตานิ กิเตฺตตพฺพานิฯ นิการสฺส หิ อากาโรฯ นิมิตฺตํ กโตติ เอโส ปพฺพโต นิมิตฺตํ กโตติ โยชนาฯ เอเสว นโย ปรโตปิฯ ‘‘เอเสว นโย’’ติ อิมินา ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย กิํ นิมิตฺตํ? ปาสาโณ ภเนฺต, เอโส ปาสาโณ นิมิตฺต’’นฺติ อตฺถํ อติทิสติฯ เอเสว นโย เสเสสุปิฯ เกวลํ ปน วนอุทเกสุ ‘‘เอตํ วนํ, เอตํ อุทก’’นฺติ วตฺตพฺพํฯ นทิยํ ‘‘เอสา นที’’ติ วตฺตพฺพาฯ เอตฺถ ปนาติ เอติสฺสํ อุตฺตรายํ อนุทิสายํ ปนฯ หีติ ผลโชตโกฯ ตตฺถาติ ‘‘นิมิตฺตา กิเตฺตตพฺพา’’ติ วจเนฯ สีมมณฺฑลนฺติ สีมพิมฺพํฯ สมฺพนฺธเนฺตนาติ ปุริมนิมิเตฺตน ปจฺฉิมนิมิตฺตํ สมฺพนฺธเนฺตนฯ อิมินา เอกนฺตริกาทิวเสน นิมิตฺตกิตฺตนํ น วฎฺฎติ นิมิเตฺตนปิ นิมิตฺตานํ สมฺพนฺธาภาวโตติ ทเสฺสติฯ ปุริมนิมิเตฺตน ปจฺฉิมนิมิตฺตสฺส สมฺพเนฺธ สติ อชฺช เอกํ นิมิตฺตํ กิเตฺตตฺวา เสฺว เอกํ นิมิตฺตํ กิเตฺตตฺวาติ เอวํ กาลนฺตเรปิ นิมิตฺตํ กิเตฺตตฺวา สมฺมนิตุํ วฎฺฎตีติ วทนฺติฯ
138.Nimittā kittetabbāti nimittāni kittetabbāni. Nikārassa hi ākāro. Nimittaṃ katoti eso pabbato nimittaṃ katoti yojanā. Eseva nayo paratopi. ‘‘Eseva nayo’’ti iminā ‘‘puratthimāya disāya kiṃ nimittaṃ? Pāsāṇo bhante, eso pāsāṇo nimitta’’nti atthaṃ atidisati. Eseva nayo sesesupi. Kevalaṃ pana vanaudakesu ‘‘etaṃ vanaṃ, etaṃ udaka’’nti vattabbaṃ. Nadiyaṃ ‘‘esā nadī’’ti vattabbā. Ettha panāti etissaṃ uttarāyaṃ anudisāyaṃ pana. Hīti phalajotako. Tatthāti ‘‘nimittā kittetabbā’’ti vacane. Sīmamaṇḍalanti sīmabimbaṃ. Sambandhantenāti purimanimittena pacchimanimittaṃ sambandhantena. Iminā ekantarikādivasena nimittakittanaṃ na vaṭṭati nimittenapi nimittānaṃ sambandhābhāvatoti dasseti. Purimanimittena pacchimanimittassa sambandhe sati ajja ekaṃ nimittaṃ kittetvā sve ekaṃ nimittaṃ kittetvāti evaṃ kālantarepi nimittaṃ kittetvā sammanituṃ vaṭṭatīti vadanti.
ปพฺพโตติ เอตฺถ ปพฺพํ วุจฺจติ ผฬุ, ตํ เอตสฺมิํ อตฺถีติ ปพฺพโตฯ วาลิกราสิสฺส สุทฺธปํสุปพฺพตปสงฺคตฺตา วุตฺตํ ‘‘วาลิกราสิ ปน น วฎฺฎตี’’ติฯ อิตโรปีติ วาลิกราสิโต อโญฺญปิ ติวิโธ ปพฺพโตฯ หตฺถิปฺปมาณโตติ อฑฺฒฎฺฐมรตนหตฺถิปมาณโตฯ จตูสุ ทิสาสูติ วิหารสฺส จตูสุ ทิสาสุฯ จตูหิ วา ตีหิ วาติ เอตฺถ วาสเทฺทน ตโต อธิกานิปิ คเหตพฺพานิฯ เอเกน วา นิมิเตฺตนาติ โยชนาฯ อิโตติ ปพฺพตนิมิตฺตโตฯ ตสฺมาติ ยสฺมา เอเกน นิมิเตฺตน น วฎฺฎติ, ตสฺมาฯ ตนฺติ ปพฺพตํฯ ตสฺมาติ เอกเสฺสว นิมิตฺตสฺส กิตฺติตตฺตาฯ โย ปพฺพโต อตฺถิ, ตํ ปพฺพตนฺติ โยชนาฯ อโนฺตติ ปพฺพตสฺส อโนฺตฯ
Pabbatoti ettha pabbaṃ vuccati phaḷu, taṃ etasmiṃ atthīti pabbato. Vālikarāsissa suddhapaṃsupabbatapasaṅgattā vuttaṃ ‘‘vālikarāsi pana na vaṭṭatī’’ti. Itaropīti vālikarāsito aññopi tividho pabbato. Hatthippamāṇatoti aḍḍhaṭṭhamaratanahatthipamāṇato. Catūsu disāsūti vihārassa catūsu disāsu. Catūhi vā tīhi vāti ettha vāsaddena tato adhikānipi gahetabbāni. Ekena vā nimittenāti yojanā. Itoti pabbatanimittato. Tasmāti yasmā ekena nimittena na vaṭṭati, tasmā. Tanti pabbataṃ. Tasmāti ekasseva nimittassa kittitattā. Yo pabbato atthi, taṃ pabbatanti yojanā. Antoti pabbatassa anto.
ตติยภาคํ วาติ เอตฺถ วาสเทฺทน ปฐมภาโคปิ เอกเทโสปิ คเหตโพฺพฯ ตสฺสาติ ตตฺตกสฺส ปเทสสฺสฯ ตติยภาคาทิโต อปรํ สพฺพปพฺพตํ อโนฺตกตฺวา สมฺมตํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิฯ
Tatiyabhāgaṃ vāti ettha vāsaddena paṭhamabhāgopi ekadesopi gahetabbo. Tassāti tattakassa padesassa. Tatiyabhāgādito aparaṃ sabbapabbataṃ antokatvā sammataṃ dassento āha ‘‘sace’’tiādi.
ปาสาณนิมิเตฺต เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ ปสติ ฆนภาเวน พนฺธตีติ ปาสาโณฯ อยคุโฬปิ ปาสาณสงฺขเมว คจฺฉติ เตน ตสฺส สทิสตฺตาฯ อยคุโฬปีติ เอตฺถ ปิสเทฺทน ตมฺพกํสวฎฺฎโลหสุวณฺณรชตาทโยปิ สงฺคณฺหาติฯ โย โกจีติ สิลาปวาฬมณิอาทีสุ โย โกจิฯ ทฺวตฺติํสปลคุฬปิณฺฑปริมาณตา สณฺฐานโต คเหตพฺพา, น ตุลิตฺวา คณนวเสนฯ ขุทฺทกตโร ปาสาโณติ โยชนาฯ โย ปิฎฺฐิปาสาโณ วา โย อุฎฺฐิตปาสาโณ วาติ โยชนา กาตพฺพา – อุตฺตรวาเกฺย ตสทฺทสฺส อนิยมนิเทฺทสวจนตฺตา ‘‘ปาสาณสงฺขํเยวา’’ติ เอตฺถ เอวกาเรน ‘‘น ปพฺพตสงฺข’’นฺติ อตฺถํ ทเสฺสติฯ มหโต ปิฎฺฐิปาสาณสฺสาติ อายามวิตฺถารุเพฺพธโต มหนฺตสฺส ปิฎฺฐิปาสาณสฺส สกฺกสฺส ปณฺฑุกมฺพลปิฎฺฐิปาสาณสฺส วิยฯ ตนฺติ ปิฎฺฐิปาสาณํฯ น วฎฺฎตีติ กิเตฺตตุํ น วฎฺฎติฯ หีติ ลทฺธโทสโชตโกฯ ตนฺติ ปิฎฺฐิปาสาณํฯ สีมายาติ สีมโตฯ วิหาโรปีติ น เกวลํ นิมิตฺตเมว, วิหาโรปิฯ ปิฎฺฐิปาสาโณ น กิเตฺตตโพฺพติ สมฺพโนฺธฯ กิเตฺตตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปิฎฺฐิปาสาณ’’นฺติ โยเชตพฺพํฯ
Pāsāṇanimitte evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Pasati ghanabhāvena bandhatīti pāsāṇo. Ayaguḷopi pāsāṇasaṅkhameva gacchati tena tassa sadisattā. Ayaguḷopīti ettha pisaddena tambakaṃsavaṭṭalohasuvaṇṇarajatādayopi saṅgaṇhāti. Yo kocīti silāpavāḷamaṇiādīsu yo koci. Dvattiṃsapalaguḷapiṇḍaparimāṇatā saṇṭhānato gahetabbā, na tulitvā gaṇanavasena. Khuddakataro pāsāṇoti yojanā. Yo piṭṭhipāsāṇo vā yo uṭṭhitapāsāṇo vāti yojanā kātabbā – uttaravākye tasaddassa aniyamaniddesavacanattā ‘‘pāsāṇasaṅkhaṃyevā’’ti ettha evakārena ‘‘na pabbatasaṅkha’’nti atthaṃ dasseti. Mahato piṭṭhipāsāṇassāti āyāmavitthārubbedhato mahantassa piṭṭhipāsāṇassa sakkassa paṇḍukambalapiṭṭhipāsāṇassa viya. Tanti piṭṭhipāsāṇaṃ. Na vaṭṭatīti kittetuṃ na vaṭṭati. Hīti laddhadosajotako. Tanti piṭṭhipāsāṇaṃ. Sīmāyāti sīmato. Vihāropīti na kevalaṃ nimittameva, vihāropi. Piṭṭhipāsāṇo na kittetabboti sambandho. Kittetvāti ettha ‘‘piṭṭhipāsāṇa’’nti yojetabbaṃ.
วนนิมิเตฺต เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ วนิยติ มยูรโกกิลาทีหิ สเตฺตหิ สมฺภชิยตีติ วนํ, วนนฺติ สมฺภชนฺติ เอตฺถาติ วา วนํฯ ตโจ เอว สาโร เอเตสนฺติ ตจสาโร, ตาลนาฬิเกราทโยฯ อาทิสเทฺทน เวณุอาทโย สงฺคณฺหาติฯ อโนฺต สาโร เอเตสนฺติ อโนฺตสารา, สากสาลาทโยฯ อาทิสเทฺทน ขทิราทโย สงฺคณฺหาติฯ อโนฺตสารมิสฺสกานนฺติ อโนฺตสาเรหิ รุเกฺขหิ มิสฺสกานํฯ รุกฺขานํ วนนฺติ เอตฺถ อวยวอวยวิภาเวน สมฺพโนฺธ เวทิตโพฺพฯ อิมินา ติณวนํ รุกฺขวนนฺติ เอตฺถ ‘‘ติณานํ วน’’นฺติ วา ‘‘รุกฺขานํ วน’’นฺติ วา อตฺถํ ทเสฺสติฯ ติณเมว วนํ, รุโกฺขเยว วนนฺติ อโตฺถปิ ยุชฺชเตวฯ จตฺตาโร วา ปญฺจ วา รุกฺขาติ จตุปญฺจรุกฺขา, เต มตฺตํ ปมาณเมตฺถาติ จตุปญฺจรุกฺขมตฺตํ วนํ, ตโตติ จตุปญฺจรุกฺขมตฺตโตฯ เอกเทสนฺติ วนสฺส เอกเทสํฯ วนมเชฺฌติ วนสฺส เวมเชฺฌ, วนสฺสูปรีติ อโตฺถฯ รุกฺขนฺตเรสุ เอว หิ วิหารํ กโรนฺติฯ เอกเทสนฺติ วนสฺส เอกเทสํฯ ตตฺถาติ วเนฯ ‘‘ฐิตวน’’นฺติ ปทํ ‘‘กิเตฺตตฺวา’’ติ ปเท อวุตฺตกมฺมํ, ‘‘น กิเตฺตตพฺพ’’นฺติ ปเท วุตฺตกมฺมํฯ
Vananimitte evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Vaniyati mayūrakokilādīhi sattehi sambhajiyatīti vanaṃ, vananti sambhajanti etthāti vā vanaṃ. Taco eva sāro etesanti tacasāro, tālanāḷikerādayo. Ādisaddena veṇuādayo saṅgaṇhāti. Anto sāro etesanti antosārā, sākasālādayo. Ādisaddena khadirādayo saṅgaṇhāti. Antosāramissakānanti antosārehi rukkhehi missakānaṃ. Rukkhānaṃ vananti ettha avayavaavayavibhāvena sambandho veditabbo. Iminā tiṇavanaṃ rukkhavananti ettha ‘‘tiṇānaṃ vana’’nti vā ‘‘rukkhānaṃ vana’’nti vā atthaṃ dasseti. Tiṇameva vanaṃ, rukkhoyeva vananti atthopi yujjateva. Cattāro vā pañca vā rukkhāti catupañcarukkhā, te mattaṃ pamāṇametthāti catupañcarukkhamattaṃ vanaṃ, tatoti catupañcarukkhamattato. Ekadesanti vanassa ekadesaṃ. Vanamajjheti vanassa vemajjhe, vanassūparīti attho. Rukkhantaresu eva hi vihāraṃ karonti. Ekadesanti vanassa ekadesaṃ. Tatthāti vane. ‘‘Ṭhitavana’’nti padaṃ ‘‘kittetvā’’ti pade avuttakammaṃ, ‘‘na kittetabba’’nti pade vuttakammaṃ.
รุกฺขนิมิเตฺต เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ รุกฺขิยติ ผลาทิกาเมหิ สํวริยติ รกฺขิยตีติ รุโกฺข, มหิยํ รุหตีติ วา รุโกฺขฯ ชีวมานโกติ โลกโวหารวเสน มูลงฺกุราทิหริตสงฺขาตชีวมานโก ฯ ปริณาหโตติ วิสาลภาวโตฯ สูจิทณฺฑกปมาโณติ สูจิยา เลขนิยา ทณฺฑภูตเวฬุปมาโณฯ โส เวฬุ กนิฎฺฐงฺคุลิปมาโณติ ทฎฺฐโพฺพฯ ตโตติ อฎฺฐงฺคุลุเพฺพธสูจิทณฺฑกปมาณปริณาหรุกฺขโตฯ วํสนฬกสราวาทีสูติ วํโส จ นฬโก จ สราโว จ วํสนฬกสราวา, เต อาทโย เยสํ กปาลาทีนนฺติ วํสนฬกสราวาทโย, เตสุฯ ตโตติ วํสาทิโตฯ ตํขณมฺปีติ ตสฺมิํ นิมิตฺตกฺขเณปิฯ อการณนฺติ อปมาณํฯ เอตนฺติ นวมูลสาขานิคฺคมนํฯ วตฺตุํ วฎฺฎตีติ สามญฺญนาเมนปิ วิเสสนาเมนปิ วตฺตุํ วฎฺฎติฯ อิมินา ปพฺพตาทีสุปิ ‘‘ปพฺพโต’’ติ สามญฺญนาเมนปิ ‘‘วงฺกปพฺพโต เวปุลฺลปพฺพโต’’ติ วิเสสนาเมนปิ วตฺตุํ วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ
Rukkhanimitte evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Rukkhiyati phalādikāmehi saṃvariyati rakkhiyatīti rukkho, mahiyaṃ ruhatīti vā rukkho. Jīvamānakoti lokavohāravasena mūlaṅkurādiharitasaṅkhātajīvamānako . Pariṇāhatoti visālabhāvato. Sūcidaṇḍakapamāṇoti sūciyā lekhaniyā daṇḍabhūtaveḷupamāṇo. So veḷu kaniṭṭhaṅgulipamāṇoti daṭṭhabbo. Tatoti aṭṭhaṅgulubbedhasūcidaṇḍakapamāṇapariṇāharukkhato. Vaṃsanaḷakasarāvādīsūti vaṃso ca naḷako ca sarāvo ca vaṃsanaḷakasarāvā, te ādayo yesaṃ kapālādīnanti vaṃsanaḷakasarāvādayo, tesu. Tatoti vaṃsādito. Taṃkhaṇampīti tasmiṃ nimittakkhaṇepi. Akāraṇanti apamāṇaṃ. Etanti navamūlasākhāniggamanaṃ. Vattuṃ vaṭṭatīti sāmaññanāmenapi visesanāmenapi vattuṃ vaṭṭati. Iminā pabbatādīsupi ‘‘pabbato’’ti sāmaññanāmenapi ‘‘vaṅkapabbato vepullapabbato’’ti visesanāmenapi vattuṃ vaṭṭatīti dasseti.
มคฺคนิมิเตฺต เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ มคฺคิยติ ปถิเกหิ, มคฺคมูเฬฺหหิ วา อเนฺวสิยตีติ มโคฺคฯ โย ยาทิโส ชงฺฆมโคฺค วา สกฎมโคฺค วา วินิวิชฺฌิตฺวา เทฺว ตีณิ คามนฺตรานิ คจฺฉติ, โส ตาทิโส ชงฺฆมโคฺค วา สกฎมโคฺค วา วฎฺฎตีติ โยชนาฯ อุกฺกมิตฺวาติ ปกฺกมิตฺวาฯ โย ชงฺฆมโคฺค โอตรติ, โส น วฎฺฎตีติ โยชนาฯ อวฬญฺชาติ อปริโภคาฯ คมนํ ชเนตีติ ชโงฺฆฯ ชณฺณุโคปฺผกานํ มชฺฌปเทโสฯ สห อเตฺถน ปณิยธเนนาติ สโตฺถ, ชเงฺฆน วิจรโนฺต สโตฺถ ชงฺฆสโตฺถฯ สกติ สมเตฺถติ ภารํ วหิตุนฺติ สกโฎ, เตน วิจรโนฺต สโตฺถ สกฎสโตฺถฯ ชงฺฆสโตฺถ จ สกฎสโตฺถ จ ชงฺฆสกฎสตฺถา, เตหิฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ เอตนฺติ นิมิตฺตํฯ
Magganimitte evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Maggiyati pathikehi, maggamūḷhehi vā anvesiyatīti maggo. Yo yādiso jaṅghamaggo vā sakaṭamaggo vā vinivijjhitvā dve tīṇi gāmantarāni gacchati, so tādiso jaṅghamaggo vā sakaṭamaggo vā vaṭṭatīti yojanā. Ukkamitvāti pakkamitvā. Yo jaṅghamaggo otarati, so na vaṭṭatīti yojanā. Avaḷañjāti aparibhogā. Gamanaṃ janetīti jaṅgho. Jaṇṇugopphakānaṃ majjhapadeso. Saha atthena paṇiyadhanenāti sattho, jaṅghena vicaranto sattho jaṅghasattho. Sakati samattheti bhāraṃ vahitunti sakaṭo, tena vicaranto sattho sakaṭasattho. Jaṅghasattho ca sakaṭasattho ca jaṅghasakaṭasatthā, tehi. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Etanti nimittaṃ.
โกณนฺติ วิหารโกณํฯ คตํ ปน มคฺคนฺติ โยชนาฯ ปรภาเคติ วิหารํ ปริกฺขิปิตฺวา คจฺฉเนฺตหิ จตูหิ มเคฺคหิ ปรภาเคฯ ทสสุ นาเมสูติ สติปฎฺฐานฎฺฐกถาทีสุ อาคเตสุ ‘‘มโคฺค ปโนฺถ ปโถ ปโชฺช’’ติอาทีสุ, อภิธานาทีสุ (ที. นิ. อฎฺฐ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฎฺฐ. ๑.๑๐๖) จ อาคเตสุ ‘‘มโคฺค ปโนฺถ ปโถ อทฺธา’’ติอาทีสุ ทสสุ มคฺคนาเมสุฯ เยน เกนจิ นาเมนาติ อิมินา ปพฺพตาทีสุปิ ‘‘ปพฺพโต คิริ เสโล อทฺทิ นโค อจโล สิลุจฺจโย สิขรี ภูธโร’’ติอาทีสุ อเนเกสุ นาเมสุ เยน เกนจิ นาเมน กิเตฺตตุํ วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ
Koṇanti vihārakoṇaṃ. Gataṃ pana magganti yojanā. Parabhāgeti vihāraṃ parikkhipitvā gacchantehi catūhi maggehi parabhāge. Dasasu nāmesūti satipaṭṭhānaṭṭhakathādīsu āgatesu ‘‘maggo pantho patho pajjo’’tiādīsu, abhidhānādīsu (dī. ni. aṭṭha. 2.373; ma. ni. aṭṭha. 1.106) ca āgatesu ‘‘maggo pantho patho addhā’’tiādīsu dasasu magganāmesu. Yena kenaci nāmenāti iminā pabbatādīsupi ‘‘pabbato giri selo addi nago acalo siluccayo sikharī bhūdharo’’tiādīsu anekesu nāmesu yena kenaci nāmena kittetuṃ vaṭṭatīti dasseti.
วมฺมิกนิมิเตฺต เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ อุปจิกาหิ วมิยติ, สรพูฆรโคลิกาทโย สเตฺต วมตีติ วา วมฺมิโกฯ ตํทิวสชาโตติ ตสฺมิํ นิมิตฺตกิตฺติตทิวเส ชาโตฯ ตโตติ อฎฺฐงฺคุลุเพฺพธโควิสาณปมาณวมฺมีกโตฯ
Vammikanimitte evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Upacikāhi vamiyati, sarabūgharagolikādayo satte vamatīti vā vammiko. Taṃdivasajātoti tasmiṃ nimittakittitadivase jāto. Tatoti aṭṭhaṅgulubbedhagovisāṇapamāṇavammīkato.
นทีนิมิเตฺต เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ นทติ สนฺทตีติ นที, นทโนฺต เอติ คจฺฉตีติ วา นทีฯ ยสฺสาติ นทิยา, โสตนฺติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อนฺวทฺธมาส’’นฺติอาทินา เอกปเกฺข ติกฺขตฺตุํ เอกมาเส ฉกฺขตฺตุํ วสฺสนฺตภาวํ ทีเปติฯ วิคตมเตฺต สตีติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อีทิเส’’ติ อิมินา ‘‘อนฺวทฺธมาส’’นฺติอาทิอตฺถํ อติทิสติฯ ติมณฺฑลนฺติ เหฎฺฐา ชาณุมณฺฑลํ, อุปริ นาภิมณฺฑลนฺติ ติมณฺฑลํฯ ยตฺถ กตฺถจีติ ติเตฺถ วา อติเตฺถ วาฯ อุทเกน เตมิยตีติ โยชนา, ตินฺติยตีติ อโตฺถฯ น เกวลํ นิมิเตฺตเยว อยํ นที โหติ, อถ โข นทีปารคมนาทิเกปีติ อาห ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติอาทิฯ อิทํ ‘‘นทีปารคมเนปี’’ติ ปเทเนว สมฺพนฺธิตพฺพํฯ
Nadīnimitte evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Nadati sandatīti nadī, nadanto eti gacchatīti vā nadī. Yassāti nadiyā, sotanti sambandho. ‘‘Anvaddhamāsa’’ntiādinā ekapakkhe tikkhattuṃ ekamāse chakkhattuṃ vassantabhāvaṃ dīpeti. Vigatamatte satīti sambandho. ‘‘Īdise’’ti iminā ‘‘anvaddhamāsa’’ntiādiatthaṃ atidisati. Timaṇḍalanti heṭṭhā jāṇumaṇḍalaṃ, upari nābhimaṇḍalanti timaṇḍalaṃ. Yattha katthacīti titthe vā atitthe vā. Udakena temiyatīti yojanā, tintiyatīti attho. Na kevalaṃ nimitteyeva ayaṃ nadī hoti, atha kho nadīpāragamanādikepīti āha ‘‘bhikkhuniyā’’tiādi. Idaṃ ‘‘nadīpāragamanepī’’ti padeneva sambandhitabbaṃ.
ยา ปนาติ นที ปน, คตาติ โยชนาฯ ตนฺติ นทิํฯ วตินฺติ ปาฬิํฯ รุกฺขปาเทติ รุกฺขสฺส มูเลฯ อุทกญฺจ อาวรณํ อโชฺฌตฺถริตฺวา ปวตฺตติเยวาติ โยชนาฯ ยถาติ เยนากาเรนฯ อปวตฺตมานา โหตีติ สมฺพโนฺธฯ
Yā panāti nadī pana, gatāti yojanā. Tanti nadiṃ. Vatinti pāḷiṃ. Rukkhapādeti rukkhassa mūle. Udakañca āvaraṇaṃ ajjhottharitvā pavattatiyevāti yojanā. Yathāti yenākārena. Apavattamānā hotīti sambandho.
ทุพฺพุฎฺฐิกาเลติ คิมฺหสทิเส ทุพฺพุฎฺฐิกาเลฯ ‘‘นิรุทกภาเวนา’’ติ อิมินา ‘‘อาวรณภาเวนา’’ติ วิเสสนํ นิวเตฺตติฯ สาติ อุทกมาติกาฯ สมฺปาเทนฺตี หุตฺวา นิจฺจํ ปวตฺตตีติ โยชนาฯ นิมิตฺตํ กาตุํ น วฎฺฎตีติ มนุเสฺสหิ นีหฎตฺตา, สยญฺจ อคมนตฺตา น วฎฺฎติฯ ยา ปนาติ อุทกมาติกา ปนฯ มูเลติ ปฐมกาเลฯ กาลนฺตเรน นที โหตีติ สมฺพโนฺธฯ ตนฺติ อุทกมาติกํฯ
Dubbuṭṭhikāleti gimhasadise dubbuṭṭhikāle. ‘‘Nirudakabhāvenā’’ti iminā ‘‘āvaraṇabhāvenā’’ti visesanaṃ nivatteti. Sāti udakamātikā. Sampādentī hutvā niccaṃ pavattatīti yojanā. Nimittaṃ kātuṃ na vaṭṭatīti manussehi nīhaṭattā, sayañca agamanattā na vaṭṭati. Yā panāti udakamātikā pana. Mūleti paṭhamakāle. Kālantarena nadī hotīti sambandho. Tanti udakamātikaṃ.
อุทกนิมิเตฺต เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ อุทติ ปสวตีติ อุทกํฯ ภูมิคตเมว อุทกนฺติ สมฺพโนฺธฯ ตญฺจาติ ภูมิคตอุทกญฺจฯ อาวาฎ…เป.… สมุทฺทาทีสุ ฐิตํ อปวตฺตนกอุทกนฺติ โยชนาฯ อุเกฺขปิมนฺติ อุกฺขิปิตฺวา คหิตํฯ ตนฺติ วจนํฯ สูกรขตายปีติ สูกเรหิ ขตาย วาปิยาปิฯ ตํขณเญฺญวาติ ตสฺมิํ นิมิเตฺต กิตฺตนกฺขเณเยวฯ อาวาโฎเยว ขุทฺทกเฎฺฐน อาวาฎกํฯ ตนฺติ นิมิตฺตสญฺญากรณํฯ กาตุญฺจาติ สยํ กาตุญฺจฯ การาเปตุญฺจาติ ปเรหิ การาเปตุญฺจฯ กสฺมา ลาภสีมายํ น วฎฺฎติ? ลาภสีมา หิ อเญฺญสํ ปีฬนํ กโรตีติฯ อิติ อิมมตฺถํ นยโต ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สมานสํวาสกสีมา’’ติอาทิฯ เอตฺถาติ สมานสํวาสกสีมายํฯ
Udakanimitte evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Udati pasavatīti udakaṃ. Bhūmigatameva udakanti sambandho. Tañcāti bhūmigataudakañca. Āvāṭa…pe… samuddādīsu ṭhitaṃ apavattanakaudakanti yojanā. Ukkhepimanti ukkhipitvā gahitaṃ. Tanti vacanaṃ. Sūkarakhatāyapīti sūkarehi khatāya vāpiyāpi. Taṃkhaṇaññevāti tasmiṃ nimitte kittanakkhaṇeyeva. Āvāṭoyeva khuddakaṭṭhena āvāṭakaṃ. Tanti nimittasaññākaraṇaṃ. Kātuñcāti sayaṃ kātuñca. Kārāpetuñcāti parehi kārāpetuñca. Kasmā lābhasīmāyaṃ na vaṭṭati? Lābhasīmā hi aññesaṃ pīḷanaṃ karotīti. Iti imamatthaṃ nayato dassento āha ‘‘samānasaṃvāsakasīmā’’tiādi. Etthāti samānasaṃvāsakasīmāyaṃ.
อฎฺฐทิสํ สนฺธาย อฎฺฐ นิมิตฺตานิ วุตฺตานีติ ทฎฺฐพฺพํฯ สาติ สีมาฯ เอเกน วา นิมิเตฺตนาติ โยชนาฯ ติณฺณํ นิมิตฺตานํ กิตฺตเน นิมิตฺตานํ ฐิตทิสํ สลฺลเกฺขตฺวา ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสายา’’ติอาทินา กิเตฺตตพฺพํฯ นิมิตฺตานํ สตกิตฺตเน สีมาย อฎฺฐทิสํ สลฺลเกฺขตฺวา เอกิสฺสายปิ ทิสาย พหุนิมิตฺตานิ กิเตฺตตพฺพานิฯ สิงฺฆาฎกสณฺฐานาติ ติณฺณํ มคฺคานํ สมาคมฎฺฐาเน สิงฺฆาฎกสณฺฐานา, ติโกณา นาม โหตีติ อธิปฺปาโยฯ จตุรสฺสาติ สมจตุรสฺสาฯ สิงฺฆาฎกสณฺฐานาติ จตุนฺนํ มคฺคานํ สโมธานฎฺฐาเน สิงฺฆาฎกสณฺฐานาฯ อฑฺฒจนฺทมุทิงฺคาทิสณฺฐานา ปน นิมิตฺตานํ ฐิตสณฺฐาเนน โหตีติ ทฎฺฐพฺพาฯ ตนฺติ สีมํฯ พนฺธิตุกาเมหิ นิสฺสญฺจารสมเย พนฺธิตพฺพาติ สมฺพโนฺธฯ พทฺธสีมวิหารานนฺติ พทฺธา สีมา เอเตสูติ พทฺธสีมา, เต เอว วิหาราติ พทฺธสีมวิหารา, เตสํฯ ทิสาจาริกภิกฺขูนนฺติ ทิสาสุ จาริกภิกฺขูนํฯ ตตฺถาติ ตสฺมิํ เอกคามเขเตฺต, ภิกฺขูนํ เปเสตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ เอกชฺฌนฺติ เอกโตฯ อญฺญานิปีติ สีมพนฺธคามเขตฺตโต อญฺญานิปิฯ มหาปทุมเตฺถโร ปน อาหาติ โยชนาฯ ตโตติ เตหิ นานาคามเขเตฺตหิฯ อาคนฺตพฺพนฺติ สามีจิทสฺสนวเสน วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘อาคมนมฺปิ อนาคมนมฺปิ วฎฺฎตี’’ติฯ เอกสีมภาวโต วุตฺตํ ‘‘อโนฺตนิมิตฺตคเตหิ อาคนฺตพฺพ’’นฺติฯ
Aṭṭhadisaṃ sandhāya aṭṭha nimittāni vuttānīti daṭṭhabbaṃ. Sāti sīmā. Ekena vā nimittenāti yojanā. Tiṇṇaṃ nimittānaṃ kittane nimittānaṃ ṭhitadisaṃ sallakkhetvā ‘‘puratthimāya disāyā’’tiādinā kittetabbaṃ. Nimittānaṃ satakittane sīmāya aṭṭhadisaṃ sallakkhetvā ekissāyapi disāya bahunimittāni kittetabbāni. Siṅghāṭakasaṇṭhānāti tiṇṇaṃ maggānaṃ samāgamaṭṭhāne siṅghāṭakasaṇṭhānā, tikoṇā nāma hotīti adhippāyo. Caturassāti samacaturassā. Siṅghāṭakasaṇṭhānāti catunnaṃ maggānaṃ samodhānaṭṭhāne siṅghāṭakasaṇṭhānā. Aḍḍhacandamudiṅgādisaṇṭhānā pana nimittānaṃ ṭhitasaṇṭhānena hotīti daṭṭhabbā. Tanti sīmaṃ. Bandhitukāmehi nissañcārasamaye bandhitabbāti sambandho. Baddhasīmavihārānanti baddhā sīmā etesūti baddhasīmā, te eva vihārāti baddhasīmavihārā, tesaṃ. Disācārikabhikkhūnanti disāsu cārikabhikkhūnaṃ. Tatthāti tasmiṃ ekagāmakhette, bhikkhūnaṃ pesetabbanti sambandho. Ekajjhanti ekato. Aññānipīti sīmabandhagāmakhettato aññānipi. Mahāpadumatthero pana āhāti yojanā. Tatoti tehi nānāgāmakhettehi. Āgantabbanti sāmīcidassanavasena vuttaṃ. Tenāha ‘‘āgamanampi anāgamanampi vaṭṭatī’’ti. Ekasīmabhāvato vuttaṃ ‘‘antonimittagatehi āgantabba’’nti.
เอวํ สนฺนิปติเตสุ สเนฺตสุ สีมา พนฺธิตพฺพาติ สมฺพโนฺธฯ ปริยนฺตํ กตฺวาติ เหฎฺฐิมปริยนฺตํ กตฺวาฯ
Evaṃ sannipatitesu santesu sīmā bandhitabbāti sambandho. Pariyantaṃ katvāti heṭṭhimapariyantaṃ katvā.
ปพฺพชฺชูปสมฺปทาทีนนฺติ เอตฺถ ภณฺฑุกมฺมาปุจฺฉนํ (มหาว. อฎฺฐ. ๙๘; วิ. สงฺค. อฎฺฐ. ๑๔๔) สนฺธาย ปพฺพชฺชาคหณํ วุตฺตํฯ ขณฺฑสีมาติ วิหารปจฺจนฺตํ ขณฺฑิตํ วิย ฉินฺทิตํ วิย ปวตฺตา สีมา ขณฺฑสีมาฯ ตนฺติ ขณฺฑสีมํฯ วตฺตํ ชานิตพฺพนฺติ เอตฺถ วตฺตํ วิตฺถาเรโนฺต อาห ‘‘สเจ หี’’ติอาทิฯ สีมนฺติ ขณฺฑสีมํฯ ยถาติ เยนากาเรน พนฺธิยมาเนติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺสา ปมาณํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สา’’ติอาทิฯ สาติ ขณฺฑสีมาฯ อพฺภานกเมฺม สทฺธิํ กมฺมารเหน วีสติ ภิกฺขู สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เอกวีสติ ภิกฺขู’’ติฯ ตโตติ เอกวีสติภิกฺขุโตฯ คณฺหนฺตีปีติ เอตฺถ ปิสโทฺท สหสฺสโต โอรํ ปน ปเควาติ ทเสฺสติฯ สหสฺสโต อธิกํ คณฺหนฺตีปิ วิหารปจฺจเนฺต ขณฺฑิเต ขณฺฑสีมาเยว นามฯ ตนฺติ ขณฺฑสีมํฯ
Pabbajjūpasampadādīnanti ettha bhaṇḍukammāpucchanaṃ (mahāva. aṭṭha. 98; vi. saṅga. aṭṭha. 144) sandhāya pabbajjāgahaṇaṃ vuttaṃ. Khaṇḍasīmāti vihārapaccantaṃ khaṇḍitaṃ viya chinditaṃ viya pavattā sīmā khaṇḍasīmā. Tanti khaṇḍasīmaṃ. Vattaṃ jānitabbanti ettha vattaṃ vitthārento āha ‘‘sace hī’’tiādi. Sīmanti khaṇḍasīmaṃ. Yathāti yenākārena bandhiyamāneti sambandho. Tassā pamāṇaṃ dassento āha ‘‘sā’’tiādi. Sāti khaṇḍasīmā. Abbhānakamme saddhiṃ kammārahena vīsati bhikkhū sandhāya vuttaṃ ‘‘ekavīsati bhikkhū’’ti. Tatoti ekavīsatibhikkhuto. Gaṇhantīpīti ettha pisaddo sahassato oraṃ pana pagevāti dasseti. Sahassato adhikaṃ gaṇhantīpi vihārapaccante khaṇḍite khaṇḍasīmāyeva nāma. Tanti khaṇḍasīmaṃ.
ตตฺราติ ขณฺฑสีมมหาสีมาสุ อาธาเร ภุมฺมํฯ อถาติ อนนฺตรํฯ เอวนฺติ อิมาย อวิปฺปวาสกมฺมวาจาย สมฺมนิยมาเนฯ หีติ ผลโชตโกฯ สีมนฺติ สมานสํวาสกสีมํฯ น สกฺขิสฺสนฺตีติ ปฐมํ อวิปฺปวาสํ อสมูหนิตฺวา สีมํ สมูหนิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติฯ สีมนฺตริกปาสาณาติ ทฺวินฺนํ สีมานํ อนฺตเร เวมเชฺฌ ฐปิตา ปาสาณาฯ จตุรงฺคุลปมาณาปีติ ปิสโทฺท เอกงฺคุลิปมาณาปิ วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ
Tatrāti khaṇḍasīmamahāsīmāsu ādhāre bhummaṃ. Athāti anantaraṃ. Evanti imāya avippavāsakammavācāya sammaniyamāne. Hīti phalajotako. Sīmanti samānasaṃvāsakasīmaṃ. Na sakkhissantīti paṭhamaṃ avippavāsaṃ asamūhanitvā sīmaṃ samūhanituṃ na sakkhissanti. Sīmantarikapāsāṇāti dvinnaṃ sīmānaṃ antare vemajjhe ṭhapitā pāsāṇā. Caturaṅgulapamāṇāpīti pisaddo ekaṅgulipamāṇāpi vaṭṭatīti dasseti.
สมนฺตาติ ขณฺฑสีมาย สมนฺตาฯ อนุปริยายเนฺตหีติ อนุกฺกเมน ขณฺฑสีมปริยายเนฺตหิ ภิกฺขูหีติ สมฺพโนฺธฯ ตโตติ เตหิ สีมนฺตริกปาสาเณหิ, ทฺวินฺนํ สีมานํ นิมิตฺตานิ ปฐมํ กิเตฺตตฺวา ปจฺฉา ตาสุ ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ พนฺธิตพฺพภาวํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิฯ ยถิจฺฉิตํ พนฺธิตุํ วฎฺฎโนฺตปิ โปราณาจิณฺณํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘เอวํ สเนฺตปี’’ติอาทิฯ อุภินฺนมฺปีติ ทฺวีสุ สีมาสุ ฐิตานํ อุภินฺนมฺปิ กมฺมนฺติ สมฺพโนฺธฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ
Samantāti khaṇḍasīmāya samantā. Anupariyāyantehīti anukkamena khaṇḍasīmapariyāyantehi bhikkhūhīti sambandho. Tatoti tehi sīmantarikapāsāṇehi, dvinnaṃ sīmānaṃ nimittāni paṭhamaṃ kittetvā pacchā tāsu yaṃ icchanti, taṃ bandhitabbabhāvaṃ dassento āha ‘‘sace panā’’tiādi. Yathicchitaṃ bandhituṃ vaṭṭantopi porāṇāciṇṇaṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘evaṃ santepī’’tiādi. Ubhinnampīti dvīsu sīmāsu ṭhitānaṃ ubhinnampi kammanti sambandho. Hīti saccaṃ, yasmā vā.
จสโทฺท วากฺยารมฺภโชตโกฯ เอสา สีมา นามาติ โยชนาฯ ตตฺถาติ ปิฎฺฐิปาสาณาทีสุ ปญฺจสุ ฐาเนสุฯ นิมิตฺตปาสาณา ยถาฐาเน น ติฎฺฐนฺตีติ ปิฎฺฐิปาสาณสฺสุปริ นิมิตฺตปาสาณํ ฐปิตมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ปิฎฺฐิปาสาณํ ปน วิชฺฌิตฺวา นิมิตฺตปาสาณํ ตตฺถ นิขณิตฺวา ยถา ฐานา น จาเวนฺติ, ตถา ฐเปนฺติฯ เอวํ สเนฺต ยถาฐาเน ติฎฺฐนฺติเยวาติ ทฎฺฐพฺพํฯ น สีมาติ สีมาย ปถวิสนฺธารกํ อุทกํ ปริยนฺตํกตฺวา คตตฺตา สีมา น ฌายติฯ
Casaddo vākyārambhajotako. Esā sīmā nāmāti yojanā. Tatthāti piṭṭhipāsāṇādīsu pañcasu ṭhānesu. Nimittapāsāṇā yathāṭhāne na tiṭṭhantīti piṭṭhipāsāṇassupari nimittapāsāṇaṃ ṭhapitamattaṃ sandhāya vuttaṃ. Piṭṭhipāsāṇaṃ pana vijjhitvā nimittapāsāṇaṃ tattha nikhaṇitvā yathā ṭhānā na cāventi, tathā ṭhapenti. Evaṃ sante yathāṭhāne tiṭṭhantiyevāti daṭṭhabbaṃ. Na sīmāti sīmāya pathavisandhārakaṃ udakaṃ pariyantaṃkatvā gatattā sīmā na jhāyati.
กุฎิเคเหปีติ เอตฺถ กุฎีติ จ เคหนฺติ จ อคารเสฺสว นามํฯ อคารญฺหิ สีตาทิทุกฺขสฺส กุฎนเฎฺฐน ฉินฺทนเฎฺฐน จ นานาทพฺพสมฺภารสฺส คหณเฎฺฐน จ กุฎิเคหนฺติ วุจฺจติฯ กุฎิ เอว เคหํ กุฎิเคหํ, ตสฺมิมฺปิฯ ภิตฺติํ อกิเตฺตตฺวาติ อิทํ อิฎฺฐกทารุมยํ ภิตฺติํ สนฺธาย วุตฺตํฯ สเจ สิลามยา ภิตฺติ นิมิตฺตูปคา ภเวยฺย, ภิตฺติปิ กิเตฺตตพฺพาฯ อโนฺต กริตฺวาติ กุฎิเคหสฺส ภิตฺติยา วา อโนฺต กตฺวาฯ ปมุเขติ กุฎิเคหสฺส อาลิเนฺทฯ นิโพฺพทกปตนฎฺฐาเนติ นิคฺคลิตฺวา อุทกสฺส ปตนฎฺฐาเนฯ เอวํ สมฺมตาย สีมายาติ โยชนาฯ
Kuṭigehepīti ettha kuṭīti ca gehanti ca agārasseva nāmaṃ. Agārañhi sītādidukkhassa kuṭanaṭṭhena chindanaṭṭhena ca nānādabbasambhārassa gahaṇaṭṭhena ca kuṭigehanti vuccati. Kuṭi eva gehaṃ kuṭigehaṃ, tasmimpi. Bhittiṃ akittetvāti idaṃ iṭṭhakadārumayaṃ bhittiṃ sandhāya vuttaṃ. Sace silāmayā bhitti nimittūpagā bhaveyya, bhittipi kittetabbā. Anto karitvāti kuṭigehassa bhittiyā vā anto katvā. Pamukheti kuṭigehassa ālinde. Nibbodakapatanaṭṭhāneti niggalitvā udakassa patanaṭṭhāne. Evaṃ sammatāya sīmāyāti yojanā.
‘‘กุฎฺฎํ อกิเตฺตตฺวา’’ติ อิทํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํฯ อโนฺตติ เลณสฺส, กุฎฺฎสฺส วา อโนฺตฯ โอกาเสติ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาเสฯ เอวนฺติ อิมินากาเรน สมฺมนิยมาเนฯ อโนฺตติ ภิตฺติยา อโนฺตฯ
‘‘Kuṭṭaṃ akittetvā’’ti idaṃ purimanayeneva veditabbaṃ. Antoti leṇassa, kuṭṭassa vā anto. Okāseti ekavīsatiyā bhikkhūnaṃ okāse. Evanti iminākārena sammaniyamāne. Antoti bhittiyā anto.
เหฎฺฐา น โอตรตีติ เหฎฺฐา อากาสตลตฺตา น โอตรติฯ นนุ ถเมฺภ อนุสาริตฺวา โอตรโณ ภเวยฺย, กสฺมา น โอตรตีติ? ถมฺภานมุปริ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสาภาวโตติ ทฎฺฐพฺพํฯ เหฎฺฐา โอตรณาการํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิฯ ตุลานนฺติ ถมฺภานมุปริ ติริยวเสน ฐิตานํ รุกฺขวิเสสานํฯ อุฎฺฐหิตฺวาติ ภูมิโต อุฎฺฐหิตฺวาฯ ตุลารุเกฺขหีติ ตุลาสงฺขาเตหิ รุเกฺขหิฯ ‘‘เอกสมฺพโนฺธ’’ติ อิมินา น เกวลํ ตุลารุเกฺขเหว เอกสมฺพโนฺธ, จตูสุ ทิสาสุ จตุนฺนํ ภิตฺตีนํ อญฺญมญฺญมฺปิ สมฺพโนฺธติ ทเสฺสติฯ เหฎฺฐาปิ โอตรตีติ ภิตฺตีนมุปริ เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาสปโหนกตฺตา วุตฺตํฯ สเจ ถมฺภมตฺถเก…เป.… โหตีติ อิมินา พหูหิ ถเมฺภหิ กตปาสาทสฺส เอเกกสฺมิํ ถมฺภมตฺถเก เอกวีสติยา ภิกฺขูนํ โอกาเส สติ เหฎฺฐา โอตรตีติ ทเสฺสติฯ นิยฺยูหกาทีสูติ นาคทนฺตกาทีสุฯ อาทิสเทฺทน ภิตฺติขิลาทโย สงฺคณฺหาติฯ ภิตฺติ จาติ อิฎฺฐกทารุมยา ภิตฺติ จฯ สเจ สิลามยา ภิตฺติ จ ถมฺภา จ โหนฺติ, กิเตฺตตพฺพาฯ ภิตฺติลเคฺคติ ภิตฺตีสุ ลเคฺค, ภิตฺตีนํ วา ลคฺคฎฺฐาเนฯ เหฎฺฐาปาสาทสฺสาติ เหฎฺฐาปาสาเท ‘‘ฐิต’’อิติ ปเท สมฺพโนฺธฯ เหฎฺฐาปาสาทสฺส วา ถมฺภานนฺติ โยชนาฯ เหฎฺฐา สมฺมตาย สีมาย อุปริ อาโรหนาการํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิฯ นิโพฺพทกปตนฎฺฐาเนติ ฉทนโกฎิยํฯ
Heṭṭhā na otaratīti heṭṭhā ākāsatalattā na otarati. Nanu thambhe anusāritvā otaraṇo bhaveyya, kasmā na otaratīti? Thambhānamupari ekavīsatiyā bhikkhūnaṃ okāsābhāvatoti daṭṭhabbaṃ. Heṭṭhā otaraṇākāraṃ dassento āha ‘‘sace panā’’tiādi. Tulānanti thambhānamupari tiriyavasena ṭhitānaṃ rukkhavisesānaṃ. Uṭṭhahitvāti bhūmito uṭṭhahitvā. Tulārukkhehīti tulāsaṅkhātehi rukkhehi. ‘‘Ekasambandho’’ti iminā na kevalaṃ tulārukkheheva ekasambandho, catūsu disāsu catunnaṃ bhittīnaṃ aññamaññampi sambandhoti dasseti. Heṭṭhāpi otaratīti bhittīnamupari ekavīsatiyā bhikkhūnaṃ okāsapahonakattā vuttaṃ. Sace thambhamatthake…pe… hotīti iminā bahūhi thambhehi katapāsādassa ekekasmiṃ thambhamatthake ekavīsatiyā bhikkhūnaṃ okāse sati heṭṭhā otaratīti dasseti. Niyyūhakādīsūti nāgadantakādīsu. Ādisaddena bhittikhilādayo saṅgaṇhāti. Bhitti cāti iṭṭhakadārumayā bhitti ca. Sace silāmayā bhitti ca thambhā ca honti, kittetabbā. Bhittilaggeti bhittīsu lagge, bhittīnaṃ vā laggaṭṭhāne. Heṭṭhāpāsādassāti heṭṭhāpāsāde ‘‘ṭhita’’iti pade sambandho. Heṭṭhāpāsādassa vā thambhānanti yojanā. Heṭṭhā sammatāya sīmāya upari ārohanākāraṃ dassento āha ‘‘sace panā’’tiādi. Nibbodakapatanaṭṭhāneti chadanakoṭiyaṃ.
ตตฺถาติ ตสฺมิํ ตเลฯ ปิฎฺฐิปาสาเณ สีมํ พนฺธนฺติ วิย พนฺธนฺตีติ โยชนาฯ เตเนว ปริเจฺฉเทนาติ เตเนว ตลปริเจฺฉเทนฯ ตาลมูลปพฺพเตปีติ เอตฺถ ตาลมูลํ นาม เหฎฺฐา มหนฺตํ หุตฺวา อนุปุเพฺพน ตนุกํ โหติ, เตน สทิเส ปพฺพเตปิฯ วิตานสณฺฐาโนติ อุโลฺลจสฺส สณฺฐาโนฯ จตูสุ ทิสาสุ นิคฺคตสาขรุกฺขสณฺฐาโน วา ขุชฺชรุกฺขสณฺฐาโน วา โหติฯ ยถา ปพฺพโต วิตานสณฺฐาโน โหติ, เอวํ มุทิงฺคสณฺฐาโน วา โหติ ปณวสณฺฐาโน วาติ โยชนาฯ ตตฺถ มุทิโงฺค มเชฺฌ ถูโล โหติ, มูเล จ อเนฺต จ ตนุโกฯ ปณโว มเชฺฌ ตนุโก โหติ, มูเล จ อเคฺค จ ถูโลฯ เตสํ สณฺฐาโน มุทิงฺคสณฺฐาโน วา ปณวสณฺฐาโน วาฯ เหฎฺฐา วาติ มุทิงฺคสณฺฐานสฺส ปพฺพตสฺส เหฎฺฐา วาฯ มเชฺฌ วาติ ปณวสณฺฐานสฺส มเชฺฌ วาฯ เทฺว กูฎานีติ เทฺว สิขรานิฯ กูฎนฺตรนฺติ กูฎานํ มชฺฌํฯ จินิตฺวา วาติ อิฎฺฐกสิลาหิ จินิตฺวา วาฯ ปูเรตฺวา วาติ ปํสุวาลิกาหิ ปูเรตฺวา วาฯ
Tatthāti tasmiṃ tale. Piṭṭhipāsāṇe sīmaṃ bandhanti viya bandhantīti yojanā. Teneva paricchedenāti teneva talaparicchedena. Tālamūlapabbatepīti ettha tālamūlaṃ nāma heṭṭhā mahantaṃ hutvā anupubbena tanukaṃ hoti, tena sadise pabbatepi. Vitānasaṇṭhānoti ullocassa saṇṭhāno. Catūsu disāsu niggatasākharukkhasaṇṭhāno vā khujjarukkhasaṇṭhāno vā hoti. Yathā pabbato vitānasaṇṭhāno hoti, evaṃ mudiṅgasaṇṭhāno vā hoti paṇavasaṇṭhāno vāti yojanā. Tattha mudiṅgo majjhe thūlo hoti, mūle ca ante ca tanuko. Paṇavo majjhe tanuko hoti, mūle ca agge ca thūlo. Tesaṃ saṇṭhāno mudiṅgasaṇṭhāno vā paṇavasaṇṭhāno vā. Heṭṭhā vāti mudiṅgasaṇṭhānassa pabbatassa heṭṭhā vā. Majjhe vāti paṇavasaṇṭhānassa majjhe vā. Dve kūṭānīti dve sikharāni. Kūṭantaranti kūṭānaṃ majjhaṃ. Cinitvā vāti iṭṭhakasilāhi cinitvā vā. Pūretvā vāti paṃsuvālikāhi pūretvā vā.
สปฺปผณสทิโสติ สปฺปสฺส ผเณน สทิโส, ขุโชฺช ปพฺพโตติ อโตฺถฯ อากาสปพฺภารนฺติ ภิตฺติยา อปริกฺขิตฺตํ อากาสสงฺขาตํ ปพฺภารํฯ สีมปฺปมาโณติ สทฺธิํ อโนฺตสุสิเรน สีมปฺปมาโณฯ อคฺคโกฎินฺติ อคฺคสงฺขาตํ โกฎิํฯ สเจ ปน ปพฺพตสฺส เหฎฺฐา อโนฺตเลณํ โหตีติ สมฺพโนฺธฯ อุปริมสฺสาติ อโนฺตเลณสฺส อุปริ ฐิตสฺสฯ ปารโตติ พาหิรโตฯ อสฺสาติ ปพฺพตสฺส พหีติ สมฺพโนฺธฯ โอรโตติ อนฺตโตฯ เลณํ โหตีติ สมฺพโนฺธฯ กิตฺตกํ มหนฺตนฺติ อาห ‘‘สีมาปริเจฺฉทมติกฺกมิตฺวา ฐิต’’นฺติฯ กิตฺตกํ ขุทฺทกนฺติ อาห ‘‘สพฺพปจฺฉิมสีมาปริมาณ’’นฺติฯ ตนฺติ ขุทฺทกํ เลณํ ฯ อติขุทฺทกนฺติ สพฺพปจฺฉิมสีมาปริมาณาภาวโต อติขุทฺทกํฯ ตโตติ อุปริสีมโตฯ พหีติ สีมโต พหิฯ ‘‘ยทิ สีมปฺปมาณํ, สีมา โหติเยวา’’ติ อิมินา ยทิ น สีมปฺปมาณํ, น สีมา โหติเยวาติ ทเสฺสติฯ
Sappaphaṇasadisoti sappassa phaṇena sadiso, khujjo pabbatoti attho. Ākāsapabbhāranti bhittiyā aparikkhittaṃ ākāsasaṅkhātaṃ pabbhāraṃ. Sīmappamāṇoti saddhiṃ antosusirena sīmappamāṇo. Aggakoṭinti aggasaṅkhātaṃ koṭiṃ. Sace pana pabbatassa heṭṭhā antoleṇaṃ hotīti sambandho. Uparimassāti antoleṇassa upari ṭhitassa. Pāratoti bāhirato. Assāti pabbatassa bahīti sambandho. Oratoti antato. Leṇaṃ hotīti sambandho. Kittakaṃ mahantanti āha ‘‘sīmāparicchedamatikkamitvā ṭhita’’nti. Kittakaṃ khuddakanti āha ‘‘sabbapacchimasīmāparimāṇa’’nti. Tanti khuddakaṃ leṇaṃ . Atikhuddakanti sabbapacchimasīmāparimāṇābhāvato atikhuddakaṃ. Tatoti uparisīmato. Bahīti sīmato bahi. ‘‘Yadi sīmappamāṇaṃ, sīmā hotiyevā’’ti iminā yadi na sīmappamāṇaṃ, na sīmā hotiyevāti dasseti.
ตนฺติ ขณฺฑสีมํฯ ปูเรตฺวาติ อิฎฺฐกมตฺติกาทีหิ ปูเรตฺวาฯ อฎฺฎํ พนฺธิตฺวาติ อฎฺฎาลกํ พนฺธิตฺวาฯ อุมงฺคนทีติ เอตฺถ อุกาโร โอการวิปรีโต, ตสฺมา ปถวิยํ โอตริตฺวา ปวิสิตฺวา มงฺคติ คจฺฉตีติ อุมงฺคาติ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ อุมงฺคาจ สา นที เจติ อุมงฺคนทีฯ ตตฺถาติ อุมงฺคนทิยํฯ เหฎฺฐาปถวิตเล ฐิโตติ สีมาย เหฎฺฐาปถวิตเล อิทฺธิยา ฐิโตฯ
Tanti khaṇḍasīmaṃ. Pūretvāti iṭṭhakamattikādīhi pūretvā. Aṭṭaṃ bandhitvāti aṭṭālakaṃ bandhitvā. Umaṅganadīti ettha ukāro okāraviparīto, tasmā pathaviyaṃ otaritvā pavisitvā maṅgati gacchatīti umaṅgāti attho daṭṭhabbo. Umaṅgāca sā nadī ceti umaṅganadī. Tatthāti umaṅganadiyaṃ. Heṭṭhāpathavitale ṭhitoti sīmāya heṭṭhāpathavitale iddhiyā ṭhito.
สีมามาฬเกติ ขณฺฑสีมาย มาฬเกฯ วฎรุโกฺขติ นิโคฺรธรุโกฺขฯ ตโตติ วฎรุกฺขโตฯ นิคฺคตปาโรโหติ ปวทฺธํว หุตฺวา รุโกฺข อาโรหติ อเนนาติ ปาโรโห, เอโก มูลวิเสโสฯ นิคฺคโต ปาโรโห นิคฺคตปาโรโหฯ มหาสีมํ โสเธตฺวาติ เอตฺถ โสธนํ นาม มหาสีมคตานํ ภิกฺขูนํ หตฺถปาสานยนํ, สีมโต วา พหิกรณํฯ พหิทฺธาติ ทฺวีหิ สีมาหิ พหิทฺธาฯ ‘‘พหิฎฺฐา’’ติปิ ปาโฐฯ พหิ ฐิตา กาตพฺพาติ อโตฺถฯ อนาหจฺจาติ มหาสีมาย ปถวีตลํ วา ตตฺถชาตรุกฺขาทีนิ วา น อาหนิตฺวาฯ เอวนฺติ ยถา ขณฺฑสีมาย, เอวํ ตถาติ อโตฺถฯ สีมามาฬเกติ ขณฺฑสีมามาฬเกฯ
Sīmāmāḷaketi khaṇḍasīmāya māḷake. Vaṭarukkhoti nigrodharukkho. Tatoti vaṭarukkhato. Niggatapārohoti pavaddhaṃva hutvā rukkho ārohati anenāti pāroho, eko mūlaviseso. Niggato pāroho niggatapāroho. Mahāsīmaṃ sodhetvāti ettha sodhanaṃ nāma mahāsīmagatānaṃ bhikkhūnaṃ hatthapāsānayanaṃ, sīmato vā bahikaraṇaṃ. Bahiddhāti dvīhi sīmāhi bahiddhā. ‘‘Bahiṭṭhā’’tipi pāṭho. Bahi ṭhitā kātabbāti attho. Anāhaccāti mahāsīmāya pathavītalaṃ vā tatthajātarukkhādīni vā na āhanitvā. Evanti yathā khaṇḍasīmāya, evaṃ tathāti attho. Sīmāmāḷaketi khaṇḍasīmāmāḷake.
สีมามาฬเกติ ทฺวินฺนํ สีมานํ องฺคเณฯ สีมามาฬกสฺสาติ กมฺมสฺส กตฎฺฐานสฺส สีมามาฬกสฺสฯ เวหาสฎฺฐิตสาขายาติ กมฺมสฺส อกตฎฺฐาเน สีมามาฬเก อุฎฺฐิตาย เวหาเส ฐิตาย สาขายฯ ตสฺสาติ ภิกฺขุโน ปาทา วา นิวาสนปารุปนํ วาติ สมฺพโนฺธฯ ปุริมนเยปีติ ‘‘สีมามาฬเก วฎรุโกฺข โหตี’’ติอาทินา วุเตฺต ปุริมนเยปิฯ ตตฺราติ ปุริมนเยฯ อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ น วฎฺฎตีติ ทฺวีหิ สีมาหิ อุฎฺฐิตรุกฺขสฺส สาขา วา ตโต นิคฺคตปาโรโห วา ทฺวีสุ สีมาสุ ปถวีตลํ วา ตตฺถ ชาตรุกฺขาทีนิ วา อาหจฺจ ฐิตตฺตา อุกฺขิปาเปตฺวา กาตุํ น วฎฺฎติฯ อาเนตโพฺพติ เอตฺถ ทฺวิกมฺมิกาย นีธาตุยา อปธานกมฺมเสฺสว วุตฺตตฺตา ‘‘ภิกฺขู’’ติ ปธานกมฺมํ อชฺฌาหริตพฺพํ ฯ อพฺภุคฺคจฺฉตีติ อพฺภํ อากาสํ อุคฺคจฺฉติฯ ตตฺราติ ปพฺพเตฯ กสฺมา อาเนตโพฺพติ อาห ‘‘พชฺฌมานาเยว หี’’ติอาทิฯ ตตฺถ พชฺฌมานาเยวาติ กมฺมวาจาย พชฺฌมานาเยวฯ อิมินา อพทฺธสีมา ปมาณรหิตํ เทสํ โอตรตีติ ทเสฺสติฯ ยํกิญฺจีติ ยํกิญฺจิ ปพฺพตาทิฯ ยตฺถ กตฺถจีติ ยสฺมิํ กสฺมิํจิ ฐาเนฯ เอกสมฺพเนฺธนาติ พทฺธสีมาย เอกสมฺพเนฺธนฯ อิตีติ ตสฺมา อาเนตโพฺพติ โยชนาฯ
Sīmāmāḷaketi dvinnaṃ sīmānaṃ aṅgaṇe. Sīmāmāḷakassāti kammassa kataṭṭhānassa sīmāmāḷakassa. Vehāsaṭṭhitasākhāyāti kammassa akataṭṭhāne sīmāmāḷake uṭṭhitāya vehāse ṭhitāya sākhāya. Tassāti bhikkhuno pādā vā nivāsanapārupanaṃ vāti sambandho. Purimanayepīti ‘‘sīmāmāḷake vaṭarukkho hotī’’tiādinā vutte purimanayepi. Tatrāti purimanaye. Ukkhipāpetvā kātuṃ na vaṭṭatīti dvīhi sīmāhi uṭṭhitarukkhassa sākhā vā tato niggatapāroho vā dvīsu sīmāsu pathavītalaṃ vā tattha jātarukkhādīni vā āhacca ṭhitattā ukkhipāpetvā kātuṃ na vaṭṭati. Ānetabboti ettha dvikammikāya nīdhātuyā apadhānakammasseva vuttattā ‘‘bhikkhū’’ti padhānakammaṃ ajjhāharitabbaṃ . Abbhuggacchatīti abbhaṃ ākāsaṃ uggacchati. Tatrāti pabbate. Kasmā ānetabboti āha ‘‘bajjhamānāyeva hī’’tiādi. Tattha bajjhamānāyevāti kammavācāya bajjhamānāyeva. Iminā abaddhasīmā pamāṇarahitaṃ desaṃ otaratīti dasseti. Yaṃkiñcīti yaṃkiñci pabbatādi. Yattha katthacīti yasmiṃ kasmiṃci ṭhāne. Ekasambandhenāti baddhasīmāya ekasambandhena. Itīti tasmā ānetabboti yojanā.
๑๔๐. ตีณิ โยชนานิ ติโยชนํฯ ‘‘ปมาณ’’นฺติ อิมินา ปรมสทฺทสฺส อติเรกอุตฺตมเตฺถ นิวเตฺตติฯ เอติสฺสาติ สีมายฯ สมฺมนเนฺตน ภิกฺขุนาติ สมฺพโนฺธฯ โกณโต มินิตํ โกณนฺติ โยชนาฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ อาปตฺติญฺจาติ ทุกฺกฎาปตฺติญฺจฯ
140. Tīṇi yojanāni tiyojanaṃ. ‘‘Pamāṇa’’nti iminā paramasaddassa atirekauttamatthe nivatteti. Etissāti sīmāya. Sammanantena bhikkhunāti sambandho. Koṇato minitaṃ koṇanti yojanā. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Āpattiñcāti dukkaṭāpattiñca.
ปารยตีติ อโชฺฌตฺถรติฯ ‘‘กิตกาภิเธยฺยลิงฺคา’’ติ (กจฺจายนสาเร ๔๕ คาถายํ) วจนโต อภิเธยฺยภูตํ สีมํ สนฺธาย อิตฺถิลิงฺควเสน ปาราติ วุตฺตํฯ นทิยาติ อุปโยคเตฺถ สามิวจนํฯ นทินฺติ หิ อโตฺถฯ นทิํ อโชฺฌตฺถรมานํ สีมนฺติ สมฺพโนฺธฯ เอตฺถาติ นทิปารสีมายํฯ ยตฺถสฺสาติ เอตฺถ ยตฺถ อสฺสาติ ปทวิภาคํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยตฺถ นทิยา’’ติอาทิฯ ‘‘นทิยา’’ติ อิมินา ยํสทฺทสฺส วิสยํ ทเสฺสติฯ ธุวนาวาติ เอตฺถ ธุวสโทฺท นิจฺจโตฺถติ อาห ‘‘นิจฺจสญฺจรณนาวา’’ติฯ อิมินา ธุเวน นิเจฺจน สญฺจรณนาวา ธุวนาวาติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ อสฺสาติ โหติ, ภเวยฺย วาฯ นาวาย ปมาณํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ยาติ นาวาฯ ปาชนปุริเสนาติ เอตฺถ ปาชนํ นาม เอโก นาวาย คมนูปกรณวิเสโสฯ โส หิ ปชติ นาวา คจฺฉติ อเนนาติ ปาชนนฺติ วุจฺจติฯ ชการสฺส จการํ กตฺวา ปาจนนฺติปิ ยุชฺชเตวฯ ตสฺส คาหเกน ปุริเสน สทฺธินฺติ อโตฺถฯ สา นาวา นีตาติ สมฺพโนฺธฯ อุทฺธํ วา อโธ วาติ นทิยา ปฎิโสตํ วา เหฎฺฐาโสตํ วาฯ เถเนหิ วาติ โจเรหิ วาฯ กิญฺจาปิ หฎา, ปน ตถาปิ อวสฺสํ ลพฺภเนยฺยา, ธุวนาวาว โหตีติ โยชนาฯ วาเตน วาติ มาลุเตน วา ‘‘ฉินฺน’’อิติ สมฺพโนฺธฯ วีจีหีติ ตรเงฺคหิฯ ตรโงฺค หิ วิจิตฺตากาเรน จิโนติ วฑฺฒตีติ วีจีติ วุจฺจติฯ กิญฺจาปิ นทีมชฺฌํ นีตา, ปน ตถาปิ อวสฺสํ อาหริตพฺพา, ธุวนาวาว โหตีติ โยชนาฯ โอคเตติ โอตริตฺวา คเตฯ ถลํ อุสฺสาริตาติ ถลํ อุกฺขิปิตฺวา สาริตา ปาปิตา นาวาปีติ สมฺพโนฺธฯ วิสงฺขตปทราติ สงฺขตวิรหิตผลกา วาฯ ธุวนาวาว โหตีติ นิมิตฺตกิตฺตนกาเล นิจฺจสญฺจรณนาวตฺตา ธุวนาวาว โหตีติ อธิปฺปาโยฯ ตตฺราติ ‘‘ธุวนาวา’’ติวจเนฯ นิมิตฺตํ วา สีมา วา กมฺมวาจาย คจฺฉตีติ เอตฺถ กิญฺจาปิ น นิมิตฺตํ กมฺมวาจาย คจฺฉติ, สีมาย ปน อวินาภาวโต วุตฺตํ ‘‘กมฺมวาจาย คจฺฉตี’’ติฯ ตสฺมาติ ยสฺมาว นาวาย อาคจฺฉนฺตาปิ ภควตา อนุญฺญาตา, ตสฺมาฯ
Pārayatīti ajjhottharati. ‘‘Kitakābhidheyyaliṅgā’’ti (kaccāyanasāre 45 gāthāyaṃ) vacanato abhidheyyabhūtaṃ sīmaṃ sandhāya itthiliṅgavasena pārāti vuttaṃ. Nadiyāti upayogatthe sāmivacanaṃ. Nadinti hi attho. Nadiṃ ajjhottharamānaṃ sīmanti sambandho. Etthāti nadipārasīmāyaṃ. Yatthassāti ettha yattha assāti padavibhāgaṃ dassento āha ‘‘yattha nadiyā’’tiādi. ‘‘Nadiyā’’ti iminā yaṃsaddassa visayaṃ dasseti. Dhuvanāvāti ettha dhuvasaddo niccatthoti āha ‘‘niccasañcaraṇanāvā’’ti. Iminā dhuvena niccena sañcaraṇanāvā dhuvanāvāti vacanatthaṃ dasseti. Assāti hoti, bhaveyya vā. Nāvāya pamāṇaṃ dassento āha ‘‘yā’’tiādi. Tattha yāti nāvā. Pājanapurisenāti ettha pājanaṃ nāma eko nāvāya gamanūpakaraṇaviseso. So hi pajati nāvā gacchati anenāti pājananti vuccati. Jakārassa cakāraṃ katvā pācanantipi yujjateva. Tassa gāhakena purisena saddhinti attho. Sā nāvā nītāti sambandho. Uddhaṃ vā adho vāti nadiyā paṭisotaṃ vā heṭṭhāsotaṃ vā. Thenehi vāti corehi vā. Kiñcāpi haṭā, pana tathāpi avassaṃ labbhaneyyā, dhuvanāvāva hotīti yojanā. Vātena vāti mālutena vā ‘‘chinna’’iti sambandho. Vīcīhīti taraṅgehi. Taraṅgo hi vicittākārena cinoti vaḍḍhatīti vīcīti vuccati. Kiñcāpi nadīmajjhaṃ nītā, pana tathāpi avassaṃ āharitabbā, dhuvanāvāva hotīti yojanā. Ogateti otaritvā gate. Thalaṃ ussāritāti thalaṃ ukkhipitvā sāritā pāpitā nāvāpīti sambandho. Visaṅkhatapadarāti saṅkhatavirahitaphalakā vā. Dhuvanāvāva hotīti nimittakittanakāle niccasañcaraṇanāvattā dhuvanāvāva hotīti adhippāyo. Tatrāti ‘‘dhuvanāvā’’tivacane. Nimittaṃ vā sīmā vā kammavācāya gacchatīti ettha kiñcāpi na nimittaṃ kammavācāya gacchati, sīmāya pana avinābhāvato vuttaṃ ‘‘kammavācāya gacchatī’’ti. Tasmāti yasmāva nāvāya āgacchantāpi bhagavatā anuññātā, tasmā.
ยตฺถาติ นทิปารสีมสมฺมนนฎฺฐาเนฯ รุกฺขสงฺฆาฎมโยติ รุกฺขสมูเหน กโตฯ ปทรพโทฺธติ ผลเกหิ พโทฺธฯ สญฺจรณโยโคฺคติ สญฺจรณกฺขโมฯ ปาฬิยํ ‘‘อสฺสา’’ติ ฐาเน อฎฺฐกถายํ ‘‘อตฺถี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อสฺสา’’ติปทสฺส โหตีติ อโตฺถเยว ทฎฺฐโพฺพฯ ตํขณเญฺญวาติ ตสฺมิํ นิมิตฺตกิตฺตกฺขเณเยวฯ รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา กโตติ สมฺพโนฺธฯ เอกปทิกเสตูติ เอเกน ปเทน คมนโยโคฺค เอกปทิโก, โสเยว เสตูติ เอกปทิกเสตุฯ อกปฺปิยเสตุํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิฯ เตนาติ เสตุนาฯ สญฺจริตุํ น สกฺกา โหตีติ โยชนาฯ
Yatthāti nadipārasīmasammananaṭṭhāne. Rukkhasaṅghāṭamayoti rukkhasamūhena kato. Padarabaddhoti phalakehi baddho. Sañcaraṇayoggoti sañcaraṇakkhamo. Pāḷiyaṃ ‘‘assā’’ti ṭhāne aṭṭhakathāyaṃ ‘‘atthī’’ti vuttattā ‘‘assā’’tipadassa hotīti atthoyeva daṭṭhabbo. Taṃkhaṇaññevāti tasmiṃ nimittakittakkhaṇeyeva. Rukkhaṃ chinditvā katoti sambandho. Ekapadikasetūti ekena padena gamanayoggo ekapadiko, soyeva setūti ekapadikasetu. Akappiyasetuṃ dassento āha ‘‘sace panā’’tiādi. Tenāti setunā. Sañcarituṃ na sakkā hotīti yojanā.
ยตฺถาติ ยสฺมิํ นทิปารสีมสมฺมนนฎฺฐาเนฯ อภิมุขติเตฺถเยวาติ สีมาย อภิมุขติเตฺถ เอวฯ ธุวนาวา วา ธุวเสตุ วา อภิมุขติตฺถโต อีสกํ อุทฺธํ อาโรหโนฺตปิ อโธ โอโรหโนฺตปิ กปฺปตีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สเจ’’ติอาทิฯ อีสกนฺติ เอกอุสภ ทฺวิอุสภาทิวเสน มนํ อปฺปมตฺตํฯ อุทฺธํ วาติ อภิมุขติตฺถโต อุปริ วาฯ อโธ วาติ ตโต เหฎฺฐา วาฯ คาวุตมตฺตพฺภนฺตเรติ คาวุตปมาณสฺส ฐานสฺส อพฺภนฺตเรฯ
Yatthāti yasmiṃ nadipārasīmasammananaṭṭhāne. Abhimukhatittheyevāti sīmāya abhimukhatitthe eva. Dhuvanāvā vā dhuvasetu vā abhimukhatitthato īsakaṃ uddhaṃ ārohantopi adho orohantopi kappatīti dassento āha ‘‘sace’’tiādi. Īsakanti ekausabha dviusabhādivasena manaṃ appamattaṃ. Uddhaṃ vāti abhimukhatitthato upari vā. Adho vāti tato heṭṭhā vā. Gāvutamattabbhantareti gāvutapamāṇassa ṭhānassa abbhantare.
สหนิมิตฺตกิตฺตนวิธินา สมฺมนิตพฺพวิธิํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อิมญฺจ ปนา’’ติอาทิฯ ทฺวีสุ ตีเรสุ ฐาตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา วุตฺตํ ‘‘เอกสฺมิํ ตีเร ฐตฺวา’’ติฯ ตโตติ นิมิตฺตโตฯ อตฺตานนฺติ นิมิตฺตกิตฺตนํ วินยธรํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ปริกฺขิปเนฺตนาติ ปริยายเนฺตนฯ ตสฺสาติ ตตฺตกสฺส ปริเจฺฉทสฺสฯ สมฺมุขฎฺฐาเนติ อโธโสเต นทิตีเร ฐิตสฺส นิมิตฺตสฺส สมฺมุขฎฺฐาเนฯ ตโตติ นิมิตฺตโตฯ ตสฺสาติ ตตฺตกสฺส ปริเจฺฉทสฺสฯ สมฺมุขา นทิตีเร นิมิตฺตํ อตฺถีติ สมฺพโนฺธฯ สงฺฆเฎตพฺพนฺติ สมฺพนฺธิตพฺพํฯ อถาติ นิมิตฺตกิตฺตนโต ปจฺฉาฯ ‘‘สพฺพนิมิตฺตานํ อโนฺต ฐิเต ภิกฺขู หตฺถปาสคเต กตฺวา’’ติ อิทํ สพฺพํ เอกํ คามเขตฺตํ พฺยาเปตฺวา สมฺมนิตภาวํ สนฺธาย วุตฺตํฯ สเจ สกลํ คามเขตฺตํ อพฺยาเปตฺวา เอกเทเส สมฺมนิตํ โหติ, นิมิตฺตโต พหิ ฐิเต ภิกฺขูปิ หตฺถปาสคเต กตฺวา สมฺมนิตพฺพาฯ กมฺมนฺติ สีมสมฺมุติกมฺมํฯ ‘‘ฐเปตฺวา นทิ’’นฺติวจนสฺส การณํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘นที ปน พทฺธสีมสงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติฯ
Sahanimittakittanavidhinā sammanitabbavidhiṃ dassento āha ‘‘imañca panā’’tiādi. Dvīsu tīresu ṭhātumasakkuṇeyyattā vuttaṃ ‘‘ekasmiṃ tīre ṭhatvā’’ti. Tatoti nimittato. Attānanti nimittakittanaṃ vinayadharaṃ sandhāya vuttaṃ. Parikkhipantenāti pariyāyantena. Tassāti tattakassa paricchedassa. Sammukhaṭṭhāneti adhosote naditīre ṭhitassa nimittassa sammukhaṭṭhāne. Tatoti nimittato. Tassāti tattakassa paricchedassa. Sammukhā naditīre nimittaṃ atthīti sambandho. Saṅghaṭetabbanti sambandhitabbaṃ. Athāti nimittakittanato pacchā. ‘‘Sabbanimittānaṃ anto ṭhite bhikkhū hatthapāsagate katvā’’ti idaṃ sabbaṃ ekaṃ gāmakhettaṃ byāpetvā sammanitabhāvaṃ sandhāya vuttaṃ. Sace sakalaṃ gāmakhettaṃ abyāpetvā ekadese sammanitaṃ hoti, nimittato bahi ṭhite bhikkhūpi hatthapāsagate katvā sammanitabbā. Kammanti sīmasammutikammaṃ. ‘‘Ṭhapetvā nadi’’ntivacanassa kāraṇaṃ dassento āha ‘‘nadī pana baddhasīmasaṅkhyaṃ na gacchatī’’ti.
ทีปโก โหตีติ เอตฺถ ทีโปติ อนฺตรทีโปฯ โส หิ ยสฺมา ชลมเชฺฌ ทิปฺปติ, ยสฺมา จ ทฺวิธา อาโป เอตฺถ สนฺทติ, ตสฺมา ทีโปติ วุจฺจติ, โสเยว ขุทฺทกเฎฺฐน ทีปโกฯ กกาโร หิ ขุทฺทกตฺถวาจโกฯ ตนฺติ ทีปกํฯ อตฺตนาติ วินยธเรนฯ โอริมเนฺต จ ปาริมเนฺต จาติ อโธโสเต นทิตีเร ฐิตสฺส นิมิตฺตสฺส สมฺมุเข โอริมเนฺต จ ปาริมเนฺต จฯ ปรตีเร นิมิตฺตํ กิเตฺตตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ กิสฺส สมฺมุขฎฺฐาเน นิมิตฺตนฺติ อาห ‘‘นทิยา โอริมตีเร นิมิตฺตสฺส สมฺมุขฎฺฐาเน’’ติฯ ตโตติ นิมิตฺตโตฯ สมฺมุขา นิมิตฺตํ อตฺถีติ สมฺพโนฺธฯ ปาริมเนฺต จ โอริมเนฺต จาติ ปรตีเร อุปริโสเต ฐิตสฺส นิมิตฺตสฺส สมฺมุเข ปาริมเนฺต จ โอริมเนฺต จฯ ปฐมกิตฺติตนิมิเตฺตนาติ โอริมตีเร อุปริโสเต ปฐมํ กิตฺติเตน นิมิเตฺตนฯ เอกา สีมา อิมสฺสาติ เอกสีโม, ทีปโกฯ ‘‘ตีรทฺวยญฺจา’’ติ ปทมเปกฺขิตฺวา ‘‘เอกสีม’’นฺติ สมฺพนฺธิตพฺพํฯ วจฺจมนเปกฺขิตฺวา ‘‘เอกสีมา’’ติปิ นิจฺจอิตฺถิลิงฺควเสน ปาโฐ อตฺถิฯ
Dīpako hotīti ettha dīpoti antaradīpo. So hi yasmā jalamajjhe dippati, yasmā ca dvidhā āpo ettha sandati, tasmā dīpoti vuccati, soyeva khuddakaṭṭhena dīpako. Kakāro hi khuddakatthavācako. Tanti dīpakaṃ. Attanāti vinayadharena. Orimante ca pārimante cāti adhosote naditīre ṭhitassa nimittassa sammukhe orimante ca pārimante ca. Paratīre nimittaṃ kittetvāti sambandho. Kissa sammukhaṭṭhāne nimittanti āha ‘‘nadiyā orimatīre nimittassa sammukhaṭṭhāne’’ti. Tatoti nimittato. Sammukhā nimittaṃ atthīti sambandho. Pārimante ca orimante cāti paratīre uparisote ṭhitassa nimittassa sammukhe pārimante ca orimante ca. Paṭhamakittitanimittenāti orimatīre uparisote paṭhamaṃ kittitena nimittena. Ekā sīmā imassāti ekasīmo, dīpako. ‘‘Tīradvayañcā’’ti padamapekkhitvā ‘‘ekasīma’’nti sambandhitabbaṃ. Vaccamanapekkhitvā ‘‘ekasīmā’’tipi niccaitthiliṅgavasena pāṭho atthi.
อุทฺธํ วา อโธ วาติ เอตฺถ วาสโทฺท อนิยมวิกปฺปโตฺถฯ อถาติ ตสฺมิํ อธิกตเร สตีติ โยชนาฯ วิหารสีมปริเจฺฉทนิมิตฺตสฺส อุชุกเมวาติ สเจ ทีปโก อโธ อธิกตโร โหติ, โอริมตีเร อโธโสเต ฐิตสฺส วิหารสีมปริเจฺฉทนิมิตฺตสฺส อุชุกเมว ฯ สิขรนฺติ สิงฺคํฯ ตญฺหิ สิขํ มตฺถกํ ราติ คณฺหาตีติ สิขรนฺติ วุจฺจติฯ ตโตติ ทีปกสฺส ปาริมนฺตนิมิตฺตโตฯ ปรตีรนิมิตฺตานิ กิเตฺตตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ อยํ ทีปกสฺส วิหารสีมปริเจฺฉทโต อโธ อธิกตเร วินิจฺฉโยฯ อุทฺธํ อธิกตเรปิ อิมินานุสาเรน เวทิตโพฺพติ โส น ทสฺสิโตฯ ปพฺพตสณฺฐานาติ ปพฺพเตน สมํ ฐานํ เอติสฺสาติ ปพฺพตสณฺฐานาฯ
Uddhaṃ vā adho vāti ettha vāsaddo aniyamavikappattho. Athāti tasmiṃ adhikatare satīti yojanā. Vihārasīmaparicchedanimittassa ujukamevāti sace dīpako adho adhikataro hoti, orimatīre adhosote ṭhitassa vihārasīmaparicchedanimittassa ujukameva . Sikharanti siṅgaṃ. Tañhi sikhaṃ matthakaṃ rāti gaṇhātīti sikharanti vuccati. Tatoti dīpakassa pārimantanimittato. Paratīranimittāni kittetvāti sambandho. Ayaṃ dīpakassa vihārasīmaparicchedato adho adhikatare vinicchayo. Uddhaṃ adhikatarepi iminānusārena veditabboti so na dassito. Pabbatasaṇṭhānāti pabbatena samaṃ ṭhānaṃ etissāti pabbatasaṇṭhānā.
อุทฺธมฺปิ อโธปีติ ปิสโทฺท สมุจฺจยโตฺถฯ อุโภปิ สิขรานีติ อุทฺธํ สิขรํ, อโธ สิขรนฺติ อุโภปิ สิขรานิฯ มุทิงฺคสณฺฐานาติ มูเล จ อเคฺค จ ตนุกสฺส มเชฺฌ ถูลสฺส มุทิงฺคสฺส สณฺฐานาฯ
Uddhampi adhopīti pisaddo samuccayattho. Ubhopi sikharānīti uddhaṃ sikharaṃ, adho sikharanti ubhopi sikharāni. Mudiṅgasaṇṭhānāti mūle ca agge ca tanukassa majjhe thūlassa mudiṅgassa saṇṭhānā.
สพฺพปฐเมน นเยนาติ อุทฺธํ อธิกนยสฺส, อโธ อธิกนยสฺส, อุทฺธํอโธอธิกนยสฺส จาติ สเพฺพสํ นยานํ ปฐเมน วิหารสีมทีปกานํ สเมน นเยนฯ ปณวสณฺฐานาติ มูเล จ อเคฺค จ ถูลสฺส มเชฺฌตนุกสฺส ปณวสฺส สณฺฐานาฯ
Sabbapaṭhamena nayenāti uddhaṃ adhikanayassa, adho adhikanayassa, uddhaṃadhoadhikanayassa cāti sabbesaṃ nayānaṃ paṭhamena vihārasīmadīpakānaṃ samena nayena. Paṇavasaṇṭhānāti mūle ca agge ca thūlassa majjhetanukassa paṇavassa saṇṭhānā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๗๑. สีมานุชานนา • 71. Sīmānujānanā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / สีมานุชานนกถา • Sīmānujānanakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / สีมานุชานนกถาวณฺณนา • Sīmānujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / สีมานุชานนกถาวณฺณนา • Sīmānujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / สีมานุชานนกถาวณฺณนา • Sīmānujānanakathāvaṇṇanā