Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๓๙๒] ๗. สิงฺฆปุปฺผชาตกวณฺณนา

    [392] 7. Siṅghapupphajātakavaṇṇanā

    ยเมตนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อญฺญตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ โส กิร เชตวนา นิกฺขมิตฺวา โกสลรเฎฺฐ อญฺญตรํ อรญฺญํ นิสฺสาย วิหรโนฺต เอกทิวสํ ปทุมสรํ โอตริตฺวา สุปุปฺผิตปทุมํ ทิสฺวา อโธวาเต ฐตฺวา อุปสิงฺฆิฯ อถ นํ ตสฺมิํ วเน อธิวตฺถา เทวตา ‘‘มาริส, ตฺวํ คนฺธเถโน นาม, อิทํ เต เอกํ เถยฺยงฺค’’นฺติ สํเวเชสิฯ โส ตาย สํเวชิโต ปุน เชตวนํ อาคนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา นิสิโนฺน ‘‘กหํ ภิกฺขุ นิวุโตฺถสี’’ติ ปุโฎฺฐ ‘‘อสุกวนสเณฺฑ นาม, ตตฺถ จ มํ เทวตา เอวํ นาม สํเวเชสี’’ติ อาหฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘น โข ภิกฺขุ ปุปฺผํ อุปสิงฺฆโนฺต ตฺวเมว เทวตาย สํเวชิโต, โปราณกปณฺฑิตาปิ สํเวชิตปุพฺพา’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ

    Yametanti idaṃ satthā jetavane viharanto aññataraṃ bhikkhuṃ ārabbha kathesi. So kira jetavanā nikkhamitvā kosalaraṭṭhe aññataraṃ araññaṃ nissāya viharanto ekadivasaṃ padumasaraṃ otaritvā supupphitapadumaṃ disvā adhovāte ṭhatvā upasiṅghi. Atha naṃ tasmiṃ vane adhivatthā devatā ‘‘mārisa, tvaṃ gandhatheno nāma, idaṃ te ekaṃ theyyaṅga’’nti saṃvejesi. So tāya saṃvejito puna jetavanaṃ āgantvā satthāraṃ vanditvā nisinno ‘‘kahaṃ bhikkhu nivutthosī’’ti puṭṭho ‘‘asukavanasaṇḍe nāma, tattha ca maṃ devatā evaṃ nāma saṃvejesī’’ti āha. Atha naṃ satthā ‘‘na kho bhikkhu pupphaṃ upasiṅghanto tvameva devatāya saṃvejito, porāṇakapaṇḍitāpi saṃvejitapubbā’’ti vatvā tena yācito atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต เอกสฺมิํ กาสิกคาเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต ตกฺกสิลายํ อุคฺคหิตสิโปฺป อปรภาเค อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา เอกํ ปทุมสรํ นิสฺสาย อุปวสโนฺต เอกทิวสํ สรํ โอตริตฺวา สุปุปฺผิตปทุมํ อุปสิงฺฆมาโน อฎฺฐาสิฯ อถ นํ เอกา เทวธีตา รุกฺขกฺขนฺธวิวเร ฐตฺวา สํเวชยมานา ปฐมํ คาถมาห –

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto ekasmiṃ kāsikagāme brāhmaṇakule nibbattitvā vayappatto takkasilāyaṃ uggahitasippo aparabhāge isipabbajjaṃ pabbajitvā ekaṃ padumasaraṃ nissāya upavasanto ekadivasaṃ saraṃ otaritvā supupphitapadumaṃ upasiṅghamāno aṭṭhāsi. Atha naṃ ekā devadhītā rukkhakkhandhavivare ṭhatvā saṃvejayamānā paṭhamaṃ gāthamāha –

    ๑๑๕.

    115.

    ‘‘ยเมตํ วาริชํ ปุปฺผํ, อทินฺนํ อุปสิงฺฆสิ;

    ‘‘Yametaṃ vārijaṃ pupphaṃ, adinnaṃ upasiṅghasi;

    เอกงฺคเมตํ เถยฺยานํ, คนฺธเถโนสิ มาริสา’’ติฯ

    Ekaṅgametaṃ theyyānaṃ, gandhathenosi mārisā’’ti.

    ตตฺถ เอกงฺคเมตนฺติ เอกโกฎฺฐาโส เอสฯ

    Tattha ekaṅgametanti ekakoṭṭhāso esa.

    ตโต โพธิสโตฺต ทุติยํ คาถมาห –

    Tato bodhisatto dutiyaṃ gāthamāha –

    ๑๑๖.

    116.

    ‘‘น หรามิ น ภญฺชามิ, อารา สิงฺฆามิ วาริชํ;

    ‘‘Na harāmi na bhañjāmi, ārā siṅghāmi vārijaṃ;

    อถ เกน นุ วเณฺณน, คนฺธเถโนติ วุจฺจตี’’ติฯ

    Atha kena nu vaṇṇena, gandhathenoti vuccatī’’ti.

    ตตฺถ อารา สิงฺฆามีติ ทูเร ฐิโต ฆายามิฯ วเณฺณนาติ การเณนฯ

    Tattha ārā siṅghāmīti dūre ṭhito ghāyāmi. Vaṇṇenāti kāraṇena.

    ตสฺมิํ ขเณ เอโก ปุริโส ตสฺมิํ สเร ภิสานิ เจว ขณติ, ปุณฺฑรีกานิ จ ภญฺชติ ฯ โพธิสโตฺต ตํ ทิสฺวา ‘‘มํ อารา ฐตฺวา อุปสิงฺฆนฺตํ ‘โจโร’ติ วทสิ, เอตํ ปุริสํ กสฺมา น ภณสี’’ติ ตาย สทฺธิํ สลฺลปโนฺต ตติยํ คาถมาห –

    Tasmiṃ khaṇe eko puriso tasmiṃ sare bhisāni ceva khaṇati, puṇḍarīkāni ca bhañjati . Bodhisatto taṃ disvā ‘‘maṃ ārā ṭhatvā upasiṅghantaṃ ‘coro’ti vadasi, etaṃ purisaṃ kasmā na bhaṇasī’’ti tāya saddhiṃ sallapanto tatiyaṃ gāthamāha –

    ๑๑๗.

    117.

    ‘‘โยยํ ภิสานิ ขณติ, ปุณฺฑรีกานิ ภญฺชติ;

    ‘‘Yoyaṃ bhisāni khaṇati, puṇḍarīkāni bhañjati;

    เอวํ อากิณฺณกมฺมโนฺต, กสฺมา เอโส น วุจฺจตี’’ติฯ

    Evaṃ ākiṇṇakammanto, kasmā eso na vuccatī’’ti.

    ตตฺถ อากิณฺณกมฺมโนฺตติ กกฺขฬกมฺมโนฺต ทารุณกมฺมโนฺตฯ

    Tattha ākiṇṇakammantoti kakkhaḷakammanto dāruṇakammanto.

    อถสฺส อวจนการณํ อาจิกฺขนฺตี เทวตา จตุตฺถปญฺจมคาถา อภาสิ –

    Athassa avacanakāraṇaṃ ācikkhantī devatā catutthapañcamagāthā abhāsi –

    ๑๑๘.

    118.

    ‘‘อากิณฺณลุโทฺท ปุริโส, ธาติเจลํว มกฺขิโต;

    ‘‘Ākiṇṇaluddo puriso, dhāticelaṃva makkhito;

    ตสฺมิํ เม วจนํ นตฺถิ, ตญฺจารหามิ วตฺตเวฯ

    Tasmiṃ me vacanaṃ natthi, tañcārahāmi vattave.

    ๑๑๙.

    119.

    ‘‘อนงฺคณสฺส โปสสฺส, นิจฺจํ สุจิคเวสิโน;

    ‘‘Anaṅgaṇassa posassa, niccaṃ sucigavesino;

    วาลคฺคมตฺตํ ปาปสฺส, อพฺภามตฺตํว ขายตี’’ติฯ

    Vālaggamattaṃ pāpassa, abbhāmattaṃva khāyatī’’ti.

    ตตฺถ ธาติเจลํวาติ เขฬสิงฺฆาณิกมุตฺตคูถมกฺขิตํ ธาติทาสิยา นิวตฺถเจลํ วิย อยํ ปาปมกฺขิโตเยว, เตน การเณน ตสฺมิํ มม วจนํ นตฺถิฯ ตญฺจารหามีติ สมณา ปน โอวาทกฺขมา โหนฺติ ปิยสีลา, ตสฺมา ตํ อปฺปมตฺตกมฺปิ อยุตฺตํ กโรนฺตํ วตฺตุํ อรหามิ สมณาติฯ อนงฺคณสฺสาติ นิโทฺทสสฺส ตุมฺหาทิสสฺสฯ อพฺภามตฺตํว ขายตีติ มหาเมฆปฺปมาณํ หุตฺวา อุปฎฺฐาติ, อิทานิ กสฺมา เอวรูปํ โทสํ อโพฺพหาริกํ กโรสีติฯ

    Tattha dhāticelaṃvāti kheḷasiṅghāṇikamuttagūthamakkhitaṃ dhātidāsiyā nivatthacelaṃ viya ayaṃ pāpamakkhitoyeva, tena kāraṇena tasmiṃ mama vacanaṃ natthi. Tañcārahāmīti samaṇā pana ovādakkhamā honti piyasīlā, tasmā taṃ appamattakampi ayuttaṃ karontaṃ vattuṃ arahāmi samaṇāti. Anaṅgaṇassāti niddosassa tumhādisassa. Abbhāmattaṃva khāyatīti mahāmeghappamāṇaṃ hutvā upaṭṭhāti, idāni kasmā evarūpaṃ dosaṃ abbohārikaṃ karosīti.

    ตาย ปน สํเวชิโต โพธิสโตฺต สํเวคปฺปโตฺต ฉฎฺฐํ คาถมาห –

    Tāya pana saṃvejito bodhisatto saṃvegappatto chaṭṭhaṃ gāthamāha –

    ๑๒๐.

    120.

    ‘‘อทฺธา มํ ยกฺข ชานาสิ, อโถ มํ อนุกมฺปสิ;

    ‘‘Addhā maṃ yakkha jānāsi, atho maṃ anukampasi;

    ปุนปิ ยกฺข วชฺชาสิ, ยทา ปสฺสสิ เอทิส’’นฺติฯ

    Punapi yakkha vajjāsi, yadā passasi edisa’’nti.

    ตตฺถ ยกฺขาติ เทวตํ อาลปติฯ วชฺชาสีติ วเทยฺยาสิฯ ยทา ปสฺสสิ เอทิสนฺติ ยทา มม เอวรูปํ โทสํ ปสฺสสิ, ตทา เอวํ มม วเทยฺยาสีติ วทติฯ

    Tattha yakkhāti devataṃ ālapati. Vajjāsīti vadeyyāsi. Yadā passasi edisanti yadā mama evarūpaṃ dosaṃ passasi, tadā evaṃ mama vadeyyāsīti vadati.

    อถสฺส สา เทวธีตา สตฺตมํ คาถมาห –

    Athassa sā devadhītā sattamaṃ gāthamāha –

    ๑๒๑.

    121.

    ‘‘เนว ตํ อุปชีวามิ, นปิ เต ภตกามฺหเส;

    ‘‘Neva taṃ upajīvāmi, napi te bhatakāmhase;

    ตฺวเมว ภิกฺขุ ชาเนยฺย, เยน คเจฺฉยฺย สุคฺคติ’’นฺติฯ

    Tvameva bhikkhu jāneyya, yena gaccheyya suggati’’nti.

    ตตฺถ ภตกามฺหเสติ ตว ภติหตา กมฺมกราปิ น โหมฯ กิํการณา ตํ สพฺพกาลํ รกฺขมานา วิจริสฺสามาติ ทีเปติฯ เยน คเจฺฉยฺยาติ ภิกฺขุ เยน กเมฺมน ตฺวํ สุคติํ คเจฺฉยฺยาสิ, ตฺวเมว ตํ ชาเนยฺยาสีติฯ

    Tattha bhatakāmhaseti tava bhatihatā kammakarāpi na homa. Kiṃkāraṇā taṃ sabbakālaṃ rakkhamānā vicarissāmāti dīpeti. Yena gaccheyyāti bhikkhu yena kammena tvaṃ sugatiṃ gaccheyyāsi, tvameva taṃ jāneyyāsīti.

    เอวํ สา ตสฺส โอวาทํ ทตฺวา อตฺตโน วิมานเมว ปวิฎฺฐาฯ โพธิสโตฺตปิ ฌานํ นิพฺพเตฺตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิฯ

    Evaṃ sā tassa ovādaṃ datvā attano vimānameva paviṭṭhā. Bodhisattopi jhānaṃ nibbattetvā brahmalokaparāyaṇo ahosi.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne so bhikkhu sotāpattiphale patiṭṭhahi.

    ตทา เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, ตาปโส ปน อหเมว อโหสินฺติฯ

    Tadā devadhītā uppalavaṇṇā ahosi, tāpaso pana ahameva ahosinti.

    สิงฺฆปุปฺผชาตกวณฺณนา สตฺตมาฯ

    Siṅghapupphajātakavaṇṇanā sattamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๙๒. สิงฺฆปุปฺผชาตกํ • 392. Siṅghapupphajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact