Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๒. สิริมิตฺตเตฺถรคาถาวณฺณนา

    2. Sirimittattheragāthāvaṇṇanā

    อโกฺกธโนติอาทิกา อายสฺมโต สิริมิตฺตเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห มหทฺธนกุฎุมฺพิกสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, สิริมิโตฺตติ ลทฺธนาโมฯ ตสฺส กิร มาตา สิริคุตฺตสฺส ภคินีฯ ตสฺส วตฺถุ ธมฺมปทวณฺณนายํ (ธ. ป. อฎฺฐ. ๑.ครหทินฺนวตฺถุ) อาคตเมวฯ โส สิริคุตฺตสฺส ภาคิเนโยฺย สิริมิโตฺต วยปฺปโตฺต สตฺถุ ธนปาลทมเน ลทฺธปฺปสาโท ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรโนฺต นจิรเสฺสว อรหตฺตํ ปโตฺตฯ เอกทิวสํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ อาสนํ อภิรุหิตฺวา จิตฺตพีชนิํ คเหตฺวา นิสิโนฺน ภิกฺขูนํ ธมฺมํ กเถสิฯ กเถโนฺต จ อุฬารตเร คุเณ วิภชิตฺวา ทเสฺสโนฺต –

    Akkodhanotiādikā āyasmato sirimittattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ kusalaṃ upacinitvā imasmiṃ buddhuppāde rājagahe mahaddhanakuṭumbikassa putto hutvā nibbatti, sirimittoti laddhanāmo. Tassa kira mātā siriguttassa bhaginī. Tassa vatthu dhammapadavaṇṇanāyaṃ (dha. pa. aṭṭha. 1.garahadinnavatthu) āgatameva. So siriguttassa bhāgineyyo sirimitto vayappatto satthu dhanapāladamane laddhappasādo pabbajitvā vipassanāya kammaṃ karonto nacirasseva arahattaṃ patto. Ekadivasaṃ pātimokkhaṃ uddisituṃ āsanaṃ abhiruhitvā cittabījaniṃ gahetvā nisinno bhikkhūnaṃ dhammaṃ kathesi. Kathento ca uḷāratare guṇe vibhajitvā dassento –

    ๕๐๒.

    502.

    ‘‘อโกฺกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

    ‘‘Akkodhanonupanāhī, amāyo rittapesuṇo;

    ส เว ตาทิสโก ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติฯ

    Sa ve tādisako bhikkhu, evaṃ pecca na socati.

    ๕๐๓.

    503.

    ‘‘อโกฺกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

    ‘‘Akkodhanonupanāhī, amāyo rittapesuṇo;

    คุตฺตทฺวาโร สทา ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติฯ

    Guttadvāro sadā bhikkhu, evaṃ pecca na socati.

    ๕๐๔.

    504.

    ‘‘อโกฺกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

    ‘‘Akkodhanonupanāhī, amāyo rittapesuṇo;

    กลฺยาณสีโล โส ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติฯ

    Kalyāṇasīlo so bhikkhu, evaṃ pecca na socati.

    ๕๐๕.

    505.

    ‘‘อโกฺกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

    ‘‘Akkodhanonupanāhī, amāyo rittapesuṇo;

    กลฺยาณมิโตฺต โส ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติฯ

    Kalyāṇamitto so bhikkhu, evaṃ pecca na socati.

    ๕๐๖.

    506.

    ‘‘อโกฺกธโนนุปนาหี, อมาโย ริตฺตเปสุโณ;

    ‘‘Akkodhanonupanāhī, amāyo rittapesuṇo;

    กลฺยาณปโญฺญ โส ภิกฺขุ, เอวํ เปจฺจ น โสจติฯ

    Kalyāṇapañño so bhikkhu, evaṃ pecca na socati.

    ๕๐๗.

    507.

    ‘‘ยสฺส สทฺธา ตถาคเต, อจลา สุปฺปติฎฺฐิตา;

    ‘‘Yassa saddhā tathāgate, acalā suppatiṭṭhitā;

    สีลญฺจ ยสฺส กลฺยาณํ, อริยกนฺตํ ปสํสิตํฯ

    Sīlañca yassa kalyāṇaṃ, ariyakantaṃ pasaṃsitaṃ.

    ๕๐๘.

    508.

    ‘‘สเงฺฆ ปสาโท ยสฺสตฺถิ, อุชุภูตญฺจ ทสฺสนํ;

    ‘‘Saṅghe pasādo yassatthi, ujubhūtañca dassanaṃ;

    อทลิโทฺทติ ตํ อาหุ, อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํฯ

    Adaliddoti taṃ āhu, amoghaṃ tassa jīvitaṃ.

    ๕๐๙.

    509.

    ‘‘ตสฺมา สทฺธญฺจ สีลญฺจ, ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ;

    ‘‘Tasmā saddhañca sīlañca, pasādaṃ dhammadassanaṃ;

    อนุยุเญฺชถ เมธาวี, สรํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติฯ – อิมา คาถา อภาสิ;

    Anuyuñjetha medhāvī, saraṃ buddhāna sāsana’’nti. – imā gāthā abhāsi;

    ตตฺถ อโกฺกธโนติ อกุชฺฌนสีโลฯ อุปฎฺฐิเต หิ โกธุปฺปตฺตินิมิเตฺต อธิวาสนขนฺติยํ ฐตฺวา โกปสฺส อนุปฺปาทโกฯ อนุปนาหีติ น อุปนาหโก, ปเรหิ กตํ อปราธํ ปฎิจฺจ ‘‘อโกฺกจฺฉิ มํ อวธิ มํ, อชินิ มํ อหาสิ เม’’ติอาทินา (ธ. ป. ๓; มหาว. ๔๖๔; ม. นิ. ๓.๒๓๗) โกธสฺส อนุปนยฺหนสีโลฯ สนฺตโทสปฎิจฺฉาทนลกฺขณาย มายาย อภาวโต อมาโยฯ ปิสุณวาจาวิรหิตโต ริตฺตเปสุโณ, ส เว ตาทิสโก ภิกฺขูติ โส ตถารูโป ตถาชาติโก ยถาวุตฺตคุณสมนฺนาคโต ภิกฺขุ ฯ เอวํ ยถาวุตฺตปฎิปตฺติยา เปจฺจ ปรโลเก น โสจติ โสกนิมิตฺตสฺส อภาวโตฯ จกฺขุทฺวาราทโย กายทฺวาราทโย จ คุตฺตา ปิหิตา สํวุตา เอตสฺสาติ คุตฺตทฺวาโรฯ กลฺยาณสีโลติ สุนฺทรสีโล สุวิสุทฺธสีโลฯ กลฺยาณมิโตฺตติ –

    Tattha akkodhanoti akujjhanasīlo. Upaṭṭhite hi kodhuppattinimitte adhivāsanakhantiyaṃ ṭhatvā kopassa anuppādako. Anupanāhīti na upanāhako, parehi kataṃ aparādhaṃ paṭicca ‘‘akkocchi maṃ avadhi maṃ, ajini maṃ ahāsi me’’tiādinā (dha. pa. 3; mahāva. 464; ma. ni. 3.237) kodhassa anupanayhanasīlo. Santadosapaṭicchādanalakkhaṇāya māyāya abhāvato amāyo. Pisuṇavācāvirahitato rittapesuṇo, sa ve tādisako bhikkhūti so tathārūpo tathājātiko yathāvuttaguṇasamannāgato bhikkhu . Evaṃ yathāvuttapaṭipattiyā pecca paraloke na socati sokanimittassa abhāvato. Cakkhudvārādayo kāyadvārādayo ca guttā pihitā saṃvutā etassāti guttadvāro. Kalyāṇasīloti sundarasīlo suvisuddhasīlo. Kalyāṇamittoti –

    ‘‘ปิโย ครุภาวนิโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;

    ‘‘Piyo garubhāvaniyo, vattā ca vacanakkhamo;

    คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา, โน จฎฺฐาเน นิโยชเย’’ติฯ (อ. นิ. ๗.๓๗) –

    Gambhīrañca kathaṃ kattā, no caṭṭhāne niyojaye’’ti. (a. ni. 7.37) –

    เอวํ วิภาวิตลกฺขโณ กลฺยาณมิโตฺต เอตสฺสาติ กลฺยาณมิโตฺตฯ กลฺยาณปโญฺญติ สุนฺทรปโญฺญฯ ยทิปิ ปญฺญา นาม อสุนฺทรา นตฺถิ, นิยฺยานิกาย ปน ปญฺญาย วเสน เอวํ วุตฺตํ

    Evaṃ vibhāvitalakkhaṇo kalyāṇamitto etassāti kalyāṇamitto. Kalyāṇapaññoti sundarapañño. Yadipi paññā nāma asundarā natthi, niyyānikāya pana paññāya vasena evaṃ vuttaṃ

    เอวเมตฺถ โกธาทีนํ วิกฺขมฺภนวเสน สมุเจฺฉทวเสน จ อโกฺกธนาทิมุเขน, ปุคฺคลาธิฎฺฐานาย คาถาย สมฺมาปฎิปตฺติํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ นิปฺผตฺติตโลกุตฺตรสทฺธาทิเก อุทฺธริตฺวา ปุคฺคลาธิฎฺฐานาย เอว คาถาย สมฺมาปฎิปตฺติํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ยสฺส สทฺธา’’ติอาทิมาหฯ ตสฺสโตฺถ – ยสฺส ปุคฺคลสฺส ตถาคเต สมฺมาสมฺพุเทฺธ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา มเคฺคนาคตสทฺธา, ตโต เอว อจลา อวิกมฺปา สุฎฺฐุ ปติฎฺฐิตาฯ ‘‘อตฺถี’’ติ, ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํฯ อริยกนฺตนฺติ อริยานํ กนฺตํ ปิยายิตํ ภวนฺตเรปิ อวิชหนโตฯ ปสํสิตนฺติ พุทฺธาทีหิ ปสฎฺฐํ, วณฺณิตํ โถมิตํ อตฺถีติ โยชนาฯ ตํ ปเนตํ สีลํ คหฎฺฐสีลํ ปพฺพชิตสีลนฺติ ทุวิธํฯ ตตฺถ คหฎฺฐสีลํ นาม ปญฺจสิกฺขาปทสีลํ, ยํ คหเฎฺฐน รกฺขิตุํ สกฺกาฯ ปพฺพชิตสีลํ นาม ทสสิกฺขาปทสีลํ อุปาทาย สพฺพํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ, ตยิทํ สพฺพมฺปิ อขณฺฑาทิภาเวน อปรามฎฺฐตาย ‘‘กลฺยาณ’’นฺติ เวทิตพฺพํฯ

    Evamettha kodhādīnaṃ vikkhambhanavasena samucchedavasena ca akkodhanādimukhena, puggalādhiṭṭhānāya gāthāya sammāpaṭipattiṃ dassetvā idāni nipphattitalokuttarasaddhādike uddharitvā puggalādhiṭṭhānāya eva gāthāya sammāpaṭipattiṃ dassento ‘‘yassa saddhā’’tiādimāha. Tassattho – yassa puggalassa tathāgate sammāsambuddhe ‘‘itipi so bhagavā’’tiādinayappavattā maggenāgatasaddhā, tato eva acalā avikampā suṭṭhu patiṭṭhitā. ‘‘Atthī’’ti, padaṃ ānetvā sambandhitabbaṃ. Ariyakantanti ariyānaṃ kantaṃ piyāyitaṃ bhavantarepi avijahanato. Pasaṃsitanti buddhādīhi pasaṭṭhaṃ, vaṇṇitaṃ thomitaṃ atthīti yojanā. Taṃ panetaṃ sīlaṃ gahaṭṭhasīlaṃ pabbajitasīlanti duvidhaṃ. Tattha gahaṭṭhasīlaṃ nāma pañcasikkhāpadasīlaṃ, yaṃ gahaṭṭhena rakkhituṃ sakkā. Pabbajitasīlaṃ nāma dasasikkhāpadasīlaṃ upādāya sabbaṃ catupārisuddhisīlaṃ, tayidaṃ sabbampi akhaṇḍādibhāvena aparāmaṭṭhatāya ‘‘kalyāṇa’’nti veditabbaṃ.

    สเงฺฆ ปสาโท ยสฺสตฺถีติ ‘‘สุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ’’ติอาทินา อริยสเงฺฆ ปสาโท สทฺธา ยสฺส ปุคฺคลสฺส อตฺถิ อจโล สุปฺปติฎฺฐิโตติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํฯ อุชุภูตญฺจ ทสฺสนนฺติ ทิฎฺฐิวงฺกาภาวโต กิเลสวงฺกาภาวโต จ อุชุภูตํฯ อกุฎิลํ อชิมฺหํ กมฺมสฺสกตาทสฺสนเญฺจว สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนญฺจาติ ทุวิธมฺปิ ทสฺสนํ ยสฺส อตฺถิ อจลํ สุปฺปติฎฺฐิตนฺติ โยชนาฯ อทลิโทฺทติ ตํ อาหุ สทฺธาธนํ, สีลธนํ, สุตธนํ, จาคธนํ, ปญฺญาธนนฺติ อิเมสํ สุวิสุทฺธานํ ธนานํ อตฺถิตาย ‘‘อทลิโทฺท’’ติ ตํ ตาทิสํ ปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาหุฯ อโมฆํ ตสฺส ชีวิตํ ตสฺส ตถารูปสฺส ชีวิตํ ทิฎฺฐธมฺมิกาทิอตฺถาธิคเมน อโมฆํ อวญฺฌํ สผลเมวาติ อาหูติ อโตฺถฯ

    Saṅghe pasādo yassatthīti ‘‘suppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho’’tiādinā ariyasaṅghe pasādo saddhā yassa puggalassa atthi acalo suppatiṭṭhitoti ānetvā yojetabbaṃ. Ujubhūtañca dassananti diṭṭhivaṅkābhāvato kilesavaṅkābhāvato ca ujubhūtaṃ. Akuṭilaṃ ajimhaṃ kammassakatādassanañceva sappaccayanāmarūpadassanañcāti duvidhampi dassanaṃ yassa atthi acalaṃ suppatiṭṭhitanti yojanā. Adaliddoti taṃ āhu saddhādhanaṃ, sīladhanaṃ, sutadhanaṃ, cāgadhanaṃ, paññādhananti imesaṃ suvisuddhānaṃ dhanānaṃ atthitāya ‘‘adaliddo’’ti taṃ tādisaṃ puggalaṃ buddhādayo ariyā āhu. Amoghaṃ tassa jīvitaṃ tassa tathārūpassa jīvitaṃ diṭṭhadhammikādiatthādhigamena amoghaṃ avañjhaṃ saphalamevāti āhūti attho.

    ตสฺมาติ , ยสฺมา ยถาวุตฺตสทฺธาทิคุณสมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘อทลิโทฺท อโมฆชีวิโต’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา อหมฺปิ ตถารูโป ภเวยฺยนฺติฯ สทฺธญฺจ…เป.… สาสนนฺติ ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทินา (ธ. ป. ๑๘๓; ที. นิ. ๒.๙๐) วุตฺตํ พุทฺธานํ สาสนํ อนุสฺสรโนฺต กุลปุโตฺต วุตฺตปฺปเภทํ สทฺธเญฺจว สีลญฺจ ธมฺมทสฺสนเหตุกํ ธเมฺม สุนิจฺฉยา วิโมกฺขภูตํ ปสาทญฺจ อนุยุเญฺชยฺย วเฑฺฒยฺยาติฯ

    Tasmāti , yasmā yathāvuttasaddhādiguṇasamannāgato puggalo ‘‘adaliddo amoghajīvito’’ti vuccati, tasmā ahampi tathārūpo bhaveyyanti. Saddhañca…pe… sāsananti ‘‘sabbapāpassa akaraṇa’’ntiādinā (dha. pa. 183; dī. ni. 2.90) vuttaṃ buddhānaṃ sāsanaṃ anussaranto kulaputto vuttappabhedaṃ saddhañceva sīlañca dhammadassanahetukaṃ dhamme sunicchayā vimokkhabhūtaṃ pasādañca anuyuñjeyya vaḍḍheyyāti.

    เอวํ เถโร ภิกฺขูนํ ธมฺมเทสนามุเขน อตฺตนิ วิชฺชมาเน คุเณ ปกาเสโนฺต อญฺญํ พฺยากาสิฯ

    Evaṃ thero bhikkhūnaṃ dhammadesanāmukhena attani vijjamāne guṇe pakāsento aññaṃ byākāsi.

    สิริมิตฺตเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Sirimittattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๒. สิริมิตฺตเตฺถรคาถา • 2. Sirimittattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact