Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๙. สิริวฑฺฒสุตฺตํ
9. Sirivaḍḍhasuttaṃ
๓๙๕. เอกํ สมยํ อายสฺมา อานโนฺท ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน สิริวโฑฺฒ 1 คหปติ อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ อถ โข สิริวโฑฺฒ คหปติ อญฺญตรํ ปุริสํ อามเนฺตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อโมฺภ ปุริส, เยนายสฺมา อานโนฺท เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปาเท สิรสา วนฺท – ‘สิริวโฑฺฒ, ภเนฺต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ โส อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติฯ เอวญฺจ วเทหิ – ‘สาธุ กิร, ภเนฺต, อายสฺมา อานโนฺท เยน สิริวฑฺฒสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข โส ปุริโส สิริวฑฺฒสฺส คหปติสฺส ปฎิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา อานโนฺท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข โส ปุริโส อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สิริวโฑฺฒ, ภเนฺต, คหปติ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน, โส อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติฯ เอวญฺจ วเทติ – ‘สาธุ กิร, ภเนฺต, อายสฺมา อานโนฺท เยน สิริวฑฺฒสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’’ติฯ อธิวาเสสิ โข อายสฺมา อานโนฺท ตุณฺหีภาเวนฯ
395. Ekaṃ samayaṃ āyasmā ānando rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena sirivaḍḍho 2 gahapati ābādhiko hoti dukkhito bāḷhagilāno. Atha kho sirivaḍḍho gahapati aññataraṃ purisaṃ āmantesi – ‘‘ehi tvaṃ, ambho purisa, yenāyasmā ānando tenupasaṅkama; upasaṅkamitvā mama vacanena āyasmato ānandassa pāde sirasā vanda – ‘sirivaḍḍho, bhante, gahapati ābādhiko dukkhito bāḷhagilāno. So āyasmato ānandassa pāde sirasā vandatī’ti. Evañca vadehi – ‘sādhu kira, bhante, āyasmā ānando yena sirivaḍḍhassa gahapatissa nivesanaṃ tenupasaṅkamatu anukampaṃ upādāyā’’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho so puriso sirivaḍḍhassa gahapatissa paṭissutvā yenāyasmā ānando tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ ānandaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho so puriso āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘sirivaḍḍho, bhante, gahapati ābādhiko dukkhito bāḷhagilāno, so āyasmato ānandassa pāde sirasā vandati. Evañca vadeti – ‘sādhu kira, bhante, āyasmā ānando yena sirivaḍḍhassa gahapatissa nivesanaṃ tenupasaṅkamatu anukampaṃ upādāyā’’’ti. Adhivāsesi kho āyasmā ānando tuṇhībhāvena.
อถ โข อายสฺมา อานโนฺท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สิริวฑฺฒสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข อายสฺมา อานโนฺท สิริวฑฺฒํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, คหปติ, ขมนียํ กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ทุกฺขา เวทนา ปฎิกฺกมนฺติ, โน อภิกฺกมนฺติ; ปฎิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน อภิกฺกโม’’ติ? ‘‘น เม, ภเนฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโม’’ติฯ
Atha kho āyasmā ānando pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena sirivaḍḍhassa gahapatissa nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Nisajja kho āyasmā ānando sirivaḍḍhaṃ gahapatiṃ etadavoca – ‘‘kacci te, gahapati, khamanīyaṃ kacci yāpanīyaṃ, kacci dukkhā vedanā paṭikkamanti, no abhikkamanti; paṭikkamosānaṃ paññāyati, no abhikkamo’’ti? ‘‘Na me, bhante, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo’’ti.
‘‘ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘กาเย กายานุปสฺสี วิหริสฺสามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ…เป.… จิเตฺต…เป.… ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหริสฺสามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’นฺติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ
‘‘Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘kāye kāyānupassī viharissāmi ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ; vedanāsu…pe… citte…pe… dhammesu dhammānupassī viharissāmi ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassa’nti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabba’’nti.
‘‘เยเม, ภเนฺต, ภควตา จตฺตาโร สติปฎฺฐานา เทสิตา สํวิชฺชนฺติ, เต ธมฺมา 3 มยิ, อหญฺจ เตสุ ธเมฺมสุ สนฺทิสฺสามิฯ อหญฺหิ, ภเนฺต, กาเย กายานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ…เป.… จิเตฺต…เป.… ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ ยานิ จิมานิ, ภเนฺต, ภควตา ปโญฺจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ เทสิตานิ, นาหํ, ภเนฺต, เตสํ กิญฺจิ อตฺตนิ อปฺปหีนํ สมนุปสฺสามี’’ติฯ ‘‘ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ! อนาคามิผลํ ตยา, คหปติ, พฺยากต’’นฺติฯ นวมํฯ
‘‘Yeme, bhante, bhagavatā cattāro satipaṭṭhānā desitā saṃvijjanti, te dhammā 4 mayi, ahañca tesu dhammesu sandissāmi. Ahañhi, bhante, kāye kāyānupassī viharāmi ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ; vedanāsu…pe… citte…pe… dhammesu dhammānupassī viharāmi ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ. Yāni cimāni, bhante, bhagavatā pañcorambhāgiyāni saṃyojanāni desitāni, nāhaṃ, bhante, tesaṃ kiñci attani appahīnaṃ samanupassāmī’’ti. ‘‘Lābhā te, gahapati, suladdhaṃ te, gahapati! Anāgāmiphalaṃ tayā, gahapati, byākata’’nti. Navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘-๑๐. โลกสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-10. Lokasuttādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๘-๑๐. โลกสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-10. Lokasuttādivaṇṇanā