Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๓. อฎฺฐสตปริยายวโคฺค

    3. Aṭṭhasatapariyāyavaggo

    ๑. สีวกสุตฺตํ

    1. Sīvakasuttaṃ

    ๒๖๙. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ อถ โข โมฬิยสีวโก ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข โมฬิยสีวโก ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, โภ โคตม, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘ยํ กิญฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฎิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ ปุเพฺพกตเหตู’ติฯ อิธ 1 ภวํ โคตโม กิมาหา’’ติ?

    269. Ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Atha kho moḷiyasīvako paribbājako yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho moḷiyasīvako paribbājako bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘santi, bho gotama, eke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘yaṃ kiñcāyaṃ purisapuggalo paṭisaṃvedeti sukhaṃ vā dukkhaṃ vā adukkhamasukhaṃ vā sabbaṃ taṃ pubbekatahetū’ti. Idha 2 bhavaṃ gotamo kimāhā’’ti?

    ‘‘ปิตฺตสมุฎฺฐานานิปิ โข, สีวก, อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติฯ สามมฺปิ โข เอตํ, สีวก, เวทิตพฺพํ 3 ยถา ปิตฺตสมุฎฺฐานานิปิ อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ; โลกสฺสปิ โข เอตํ, สีวก, สจฺจสมฺมตํ ยถา ปิตฺตสมุฎฺฐานานิปิ อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติฯ ตตฺร, สีวก, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘ยํ กิญฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฎิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ ปุเพฺพกตเหตู’ติฯ ยญฺจ สามํ ญาตํ ตญฺจ อติธาวนฺติ, ยญฺจ โลเก สจฺจสมฺมตํ ตญฺจ อติธาวนฺติฯ ตสฺมา เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ มิจฺฉาติ วทามิฯ

    ‘‘Pittasamuṭṭhānānipi kho, sīvaka, idhekaccāni vedayitāni uppajjanti. Sāmampi kho etaṃ, sīvaka, veditabbaṃ 4 yathā pittasamuṭṭhānānipi idhekaccāni vedayitāni uppajjanti; lokassapi kho etaṃ, sīvaka, saccasammataṃ yathā pittasamuṭṭhānānipi idhekaccāni vedayitāni uppajjanti. Tatra, sīvaka, ye te samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘yaṃ kiñcāyaṃ purisapuggalo paṭisaṃvedeti sukhaṃ vā dukkhaṃ vā adukkhamasukhaṃ vā sabbaṃ taṃ pubbekatahetū’ti. Yañca sāmaṃ ñātaṃ tañca atidhāvanti, yañca loke saccasammataṃ tañca atidhāvanti. Tasmā tesaṃ samaṇabrāhmaṇānaṃ micchāti vadāmi.

    ‘‘เสมฺหสมุฎฺฐานานิปิ โข, สีวก…เป.… วาตสมุฎฺฐานานิปิ โข, สีวก…เป.… สนฺนิปาติกานิปิ โข, สีวก…เป.… อุตุปริณามชานิปิ โข, สีวก…เป.… วิสมปริหารชานิปิ โข, สีวก…เป.… โอปกฺกมิกานิปิ โข, สีวก…เป.… กมฺมวิปากชานิปิ โข, สีวก, อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติฯ สามมฺปิ โข เอตํ, สีวก, เวทิตพฺพํฯ ยถา กมฺมวิปากชานิปิ อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ; โลกสฺสปิ โข เอตํ, สีวก, สจฺจสมฺมตํฯ ยถา กมฺมวิปากชานิปิ อิเธกจฺจานิ เวทยิตานิ อุปฺปชฺชนฺติ; ตตฺร, สีวก, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘ยํ กิญฺจายํ ปุริสปุคฺคโล ปฎิสํเวเทติ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วา สพฺพํ ตํ ปุเพฺพกตเหตู’ติฯ ยญฺจ สามํ ญาตํ ตญฺจ อติธาวนฺติ ยญฺจ โลเก สจฺจสมฺมตํ ตญฺจ อติธาวนฺติฯ ตสฺมา เตสํ สมณพฺราหฺมณานํ มิจฺฉาติ วทามีติฯ เอวํ วุเตฺต, โมฬิยสีวโก ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม …เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’’นฺติฯ

    ‘‘Semhasamuṭṭhānānipi kho, sīvaka…pe… vātasamuṭṭhānānipi kho, sīvaka…pe… sannipātikānipi kho, sīvaka…pe… utupariṇāmajānipi kho, sīvaka…pe… visamaparihārajānipi kho, sīvaka…pe… opakkamikānipi kho, sīvaka…pe… kammavipākajānipi kho, sīvaka, idhekaccāni vedayitāni uppajjanti. Sāmampi kho etaṃ, sīvaka, veditabbaṃ. Yathā kammavipākajānipi idhekaccāni vedayitāni uppajjanti; lokassapi kho etaṃ, sīvaka, saccasammataṃ. Yathā kammavipākajānipi idhekaccāni vedayitāni uppajjanti; tatra, sīvaka, ye te samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘yaṃ kiñcāyaṃ purisapuggalo paṭisaṃvedeti sukhaṃ vā dukkhaṃ vā adukkhamasukhaṃ vā sabbaṃ taṃ pubbekatahetū’ti. Yañca sāmaṃ ñātaṃ tañca atidhāvanti yañca loke saccasammataṃ tañca atidhāvanti. Tasmā tesaṃ samaṇabrāhmaṇānaṃ micchāti vadāmīti. Evaṃ vutte, moḷiyasīvako paribbājako bhagavantaṃ etadavoca – ‘abhikkantaṃ, bho gotama, abhikkantaṃ, bho gotama …pe… upāsakaṃ maṃ bhavaṃ gotamo dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’’nti.

    ‘‘ปิตฺตํ เสมฺหญฺจ วาโต จ, สนฺนิปาตา อุตูนิ จ;

    ‘‘Pittaṃ semhañca vāto ca, sannipātā utūni ca;

    วิสมํ โอปกฺกมิกํ, กมฺมวิปาเกน อฎฺฐมี’’ติฯ ปฐมํ;

    Visamaṃ opakkamikaṃ, kammavipākena aṭṭhamī’’ti. paṭhamaṃ;







    Footnotes:
    1. อิธ ปน (สฺยา. กํ. ปี. ก.)
    2. idha pana (syā. kaṃ. pī. ka.)
    3. เอวํ เวทิตพฺพํ (สฺยา. กํ. ก.)
    4. evaṃ veditabbaṃ (syā. kaṃ. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. สีวกสุตฺตวณฺณนา • 1. Sīvakasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. สีวกสุตฺตวณฺณนา • 1. Sīvakasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact