Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Dīgha Nikāya, English translation

    ทีฆ นิกาย ๔

    Long Discourses 4

    โสณทณฺฑสุตฺต

    With Soṇadaṇḍa

    ๑ฯ จมฺเปยฺยกพฺราหฺมณคหปติกา

    1. The Brahmins and Householders of Campā

    เอวํ เม สุตํ—เอกํ สมยํ ภควา องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน จมฺปา ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรฯ

    So I have heard. At one time the Buddha was wandering in the land of the Aṅgas together with a large Saṅgha of five hundred bhikkhus when he arrived at Campā, where he stayed by the banks of the Gaggarā Lotus Pond.

    เตน โข ปน สมเยน โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ จมฺปํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโฐทกํ สธญฺญํ ราชโภคฺคํ รญฺญา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํฯ

    Now at that time the brahmin Soṇadaṇḍa was living in Campā. It was a crown property given by King Seniya Bimbisāra of Magadha, teeming with living creatures, full of hay, wood, water, and grain, a royal park endowed to a brahmin.

    อโสฺสสุํ โข จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา:

    The brahmins and householders of Campā heard:

    “สมโณ ขลุ โภ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ จมฺปํ อนุปฺปตฺโต จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต: ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา'ฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี”ติฯ อถ โข จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา จมฺปาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมนฺติฯ

    “It seems the ascetic Gotama—a Sakyan, gone forth from a Sakyan family—has arrived at Campā and is staying on the banks of the Gaggarā Lotus Pond. He has this good reputation: ‘That Blessed One is perfected, a fully awakened Buddha, accomplished in knowledge and conduct, holy, knower of the world, supreme guide for those who wish to train, teacher of gods and humans, awakened, blessed.’ He has realized with his own insight this world—with its gods, Māras and Brahmās, this population with its ascetics and brahmins, gods and humans—and he makes it known to others. He teaches Dhamma that’s good in the beginning, good in the middle, and good in the end, meaningful and well-phrased. And he reveals a spiritual practice that’s entirely full and pure. It’s good to see such perfected ones.” Then, having departed Campā, they formed into companies and headed to the Gaggarā Lotus Pond.

    เตน โข ปน สมเยน โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อุปริปาสาเท ทิวาเสยฺยํ อุปคโต โหติฯ อทฺทสา โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ จมฺเปยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก จมฺปาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูเต เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมนฺเตฯ ทิสฺวา ขตฺตํ อามนฺเตสิ: “กึ นุ โข, โภ ขตฺเต, จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา จมฺปาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมนฺตี”ติ?

    Now at that time the brahmin Soṇadaṇḍa had retired to the upper floor of his stilt longhouse for his midday nap. He saw the brahmins and householders heading for the lotus pond, and addressed his steward, “My steward, why are the brahmins and householders headed for the Gaggarā Lotus Pond?”

    “อตฺถิ โข, โภ, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ จมฺปํ อนุปฺปตฺโต จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต: ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา'ติฯ ตเมเต ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺตี”ติฯ

    “The ascetic Gotama has arrived at Campā and is staying on the banks of the Gaggarā Lotus Pond. He has this good reputation: ‘That Blessed One is perfected, a fully awakened Buddha, accomplished in knowledge and conduct, holy, knower of the world, supreme guide for those who wish to train, teacher of gods and humans, awakened, blessed.’ They’re going to see that Master Gotama.”

    “เตน หิ, โภ ขตฺเต, เยน จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกม, อุปสงฺกมิตฺวา จมฺเปยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอวํ วเทหิ: ‘โสณทณฺโฑ, โภ, พฺราหฺมโณ เอวมาห—อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, โสณทณฺโฑปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี'”ติฯ

    “Well then, go to the brahmins and householders and say to them: ‘Sirs, the brahmin Soṇadaṇḍa asks you to wait, as he will also go to see the ascetic Gotama.’”

    “เอวํ, โภ”ติ โข โส ขตฺตา โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน จมฺเปยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จมฺเปยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอตทโวจ: “โสณทณฺโฑ โภ พฺราหฺมโณ เอวมาห: ‘อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, โสณทณฺโฑปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี'”ติฯ

    “Yes, sir,” replied the steward, and did as he was asked.

    ๒ฯ โสณทณฺฑคุณกถา

    2. The Qualities of Soṇadaṇḍa

    เตน โข ปน สมเยน นานาเวรชฺชกานํ พฺราหฺมณานํ ปญฺจมตฺตานิ พฺราหฺมณสตานิ จมฺปายํ ปฏิวสนฺติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อโสฺสสุํ โข เต พฺราหฺมณา: “โสณทณฺโฑ กิร พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี”ติฯ อถ โข เต พฺราหฺมณา เยน โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ: “สจฺจํ กิร ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี”ติ?

    Now at that time around five hundred brahmins from abroad were residing in Campā on some business. They heard that the brahmin Soṇadaṇḍa was going to see the ascetic Gotama. They approached Soṇadaṇḍa and said to him, “Is it really true that you are going to see the ascetic Gotama?”

    “เอวํ โข เม, โภ, โหติ: ‘อหมฺปิ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามี'”ติฯ

    “Yes, gentlemen, it is true.”

    “มา ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิฯ น อรหติ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ สเจ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสติ, โภโต โสณทณฺฑสฺส ยโส หายิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ยโส อภิวฑฺฒิสฺสติฯ ยมฺปิ โภโต โสณทณฺฑสฺส ยโส หายิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ยโส อภิวฑฺฒิสฺสติ, อิมินาปงฺเคน น อรหติ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; สมโณ เตฺวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ โสณทณฺฑํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ

    “Please don’t, master Soṇadaṇḍa! It’s not appropriate for you to go to see the ascetic Gotama. For if you do so, your reputation will diminish and his will increase. For this reason it’s not appropriate for you to go to see the ascetic Gotama; it’s appropriate that he comes to see you.

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทนฯ ยมฺปิ ภวํ โสณทณฺโฑ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน, อิมินาปงฺเคน น อรหติ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; สมโณ เตฺวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ โสณทณฺฑํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ

    You are well born on both your mother’s and father’s side, of pure descent, with irrefutable and impeccable genealogy back to the seventh paternal generation. For this reason it’s not appropriate for you to go to see the ascetic Gotama; it’s appropriate that he comes to see you.

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค …เป…

    You’re rich, affluent, and wealthy. …

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ อชฺฌายโก มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย …เป…

    You recite and remember the hymns, and have mastered the three Vedas, together with their vocabularies, ritual, phonology and etymology, and the testament as fifth. You know philology and grammar, and are well versed in cosmology and the marks of a great man. …

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย …เป…

    You are attractive, good-looking, lovely, of surpassing beauty. You are magnificent and splendid as Brahmā, remarkable to behold. …

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ สีลวา วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต …เป…

    You are ethical, mature in ethical conduct. …

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ กลฺยาณวาโจ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺฐาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา …เป…

    You’re a good speaker, with a polished, clear, and articulate voice that expresses the meaning. …

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ พหูนํ อาจริยปาจริโย ตีณิ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจติฯ พหู โข ปน นานาทิสา นานาชนปทา มาณวกา อาคจฺฉนฺติ โภโต โสณทณฺฑสฺส สนฺติเก มนฺตตฺถิกา มนฺเต อธิยิตุกามา …เป…

    You teach the teachers of many, and teach three hundred students to recite the hymns. Many students come from various districts and countries for the sake of the hymns, wishing to learn the hymns. …

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต; สมโณ โคตโม ตรุโณ เจว ตรุณปพฺพชิโต จ …เป…

    You’re old, elderly and senior, advanced in years, and have reached the final stage of life. The ascetic Gotama is young, and has newly gone forth. …

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ รญฺโญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต …เป…

    You’re honored, respected, revered, venerated, and esteemed by King Bimbisāra of Magadha …

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต …เป…

    and the brahmin Pokkharasādi. …

    ภวญฺหิ โสณทณฺโฑ จมฺปํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโฐทกํ สธญฺญํ ราชโภคฺคํ, รญฺญา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ, ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํฯ ยมฺปิ ภวํ โสณทณฺโฑ จมฺปํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโฐทกํ สธญฺญํ ราชโภคฺคํ, รญฺญา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ, ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํฯ อิมินาปงฺเคน น อรหติ ภวํ โสณทณฺโฑ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; สมโณ เตฺวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ โสณทณฺฑํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุนฺ”ติฯ

    You live in Campā, a crown property given by King Seniya Bimbisāra of Magadha, teeming with living creatures, full of hay, wood, water, and grain, a royal park endowed to a brahmin. For this reason, too, it’s not appropriate for you to go to see the ascetic Gotama; it’s appropriate that he comes to see you.”

    ๓ฯ พุทฺธคุณกถา

    3. The Qualities of the Buddha

    เอวํ วุตฺเต, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ:

    When they had spoken, Soṇadaṇḍa said to those brahmins:

    “เตน หิ, โภ, มมปิ สุณาถ, ยถา มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; น เตฺวว อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา, อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทนฯ ยมฺปิ, โภ, สมโณ โคตโม อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา, อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน, อิมินาปงฺเคน น อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ; อถ โข มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ

    “Well then, gentlemen, listen to why it’s appropriate for me to go to see the ascetic Gotama, and it’s not appropriate for him to come to see me. He is well born on both his mother’s and father’s side, of pure descent, with irrefutable and impeccable genealogy back to the seventh paternal generation. For this reason it’s not appropriate for the ascetic Gotama to come to see me; rather, it’s appropriate for me to go to see him.

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม มหนฺตํ ญาติสงฺฆํ โอหาย ปพฺพชิโต …เป…

    When he went forth he abandoned a large family circle. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ปหูตํ หิรญฺญสุวณฺณํ โอหาย ปพฺพชิโต ภูมิคตญฺจ เวหาสฏฺฐํ จ …เป…

    When he went forth he abandoned abundant gold coin and bullion stored in dungeons and towers. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ทหโรว สมาโน ยุวา สุสุกาฬเกโส ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ปฐเมน วยสา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต …เป…

    He went forth from the lay life to homelessness while still a youth, young, black-haired, blessed with youth, in the prime of life. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อกามกานํ มาตาปิตูนํ อสฺสุมุขานํ รุทนฺตานํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต …เป…

    Though his mother and father wished otherwise, weeping with tearful faces, he shaved off his hair and beard, dressed in ocher robes, and went forth from the lay life to homelessness. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, พฺรหฺมวณฺณี, พฺรหฺมวจฺฉสี, อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย …เป…

    He is attractive, good-looking, lovely, of surpassing beauty. He is magnificent and splendid as Brahmā, remarkable to behold. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สีลวา อริยสีลี กุสลสีลี กุสลสีเลน สมนฺนาคโต …เป…

    He is ethical, possessing ethical conduct that is noble and skillful. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม กลฺยาณวาโจ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺฐาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา …เป…

    He’s a good speaker, with a polished, clear, and articulate voice that expresses the meaning. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม พหูนํ อาจริยปาจริโย …เป…

    He’s a teacher of teachers. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ขีณกามราโค วิคตจาปโลฺล …เป…

    He has ended sensual desire, and is rid of caprice. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม กมฺมวาที กิริยวาที อปาปปุเรกฺขาโร พฺรหฺมญฺญาย ปชาย …เป…

    He teaches the efficacy of deeds and action. He doesn’t wish any harm upon the community of brahmins. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อุจฺจา กุลา ปพฺพชิโต อสมฺภินฺนขตฺติยกุลา …เป…

    He went forth from an eminent family of unbroken aristocratic lineage. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อฑฺฒา กุลา ปพฺพชิโต มหทฺธนา มหาโภคา …เป…

    He went forth from a rich, affluent, and wealthy family. …

    สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ติโรรฏฺฐา ติโรชนปทา ปญฺหํ ปุจฺฉิตุํ อาคจฺฉนฺติ …เป…

    People come from distant lands and distant countries to question him. …

    สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ ปาเณหิ สรณํ คตานิ …เป…

    Many thousands of deities have gone for refuge for life to him. …

    สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต: ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา'ติ …เป…

    He has this good reputation: ‘That Blessed One is perfected, a fully awakened Buddha, accomplished in knowledge and conduct, holy, knower of the world, supreme guide for those who wish to train, teacher of gods and humans, awakened, blessed.’ …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต …เป…

    He has the thirty-two marks of a great man. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม เอหิสฺวาคตวาที สขิโล สมฺโมทโก อพฺภากุฏิโก อุตฺตานมุโข ปุพฺพภาสี …เป…

    He is welcoming, congenial, polite, smiling, open, the first to speak. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม จตุนฺนํ ปริสานํ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต …เป…

    He’s honored, respected, revered, venerated, and esteemed by the four assemblies. …

    สมเณ ขลุ, โภ, โคตเม พหู เทวา จ มนุสฺสา จ อภิปฺปสนฺนา …เป…

    Many gods and humans are devoted to him. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา ปฏิวสติ, น ตสฺมึ คาเม วา นิคเม วา อมนุสฺสา มนุเสฺส วิเหเฐนฺติ …เป…

    While he is residing in a village or town, non-human entities do not harass them. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สงฺฆี คณี คณาจริโย ปุถุติตฺถกรานํ อคฺคมกฺขายติฯ ยถา โข ปน, โภ, เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ ยถา วา ตถา วา ยโส สมุทาคจฺฉติ, น เหวํ สมณสฺส โคตมสฺส ยโส สมุทาคโตฯ อถ โข อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย สมณสฺส โคตมสฺส ยโส สมุทาคโต …เป…

    He leads an order and a community, and teaches a community, and is said to be the best of the various religious founders. He didn’t come by his fame in the same ways as those other ascetics and brahmins. Rather, he came by his fame due to his supreme knowledge and conduct. …

    สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ปาเณหิ สรณํ คโต …เป…

    King Seniya Bimbisāra of Magadha and his wives and children have gone for refuge for life to the ascetic Gotama. …

    สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ราชา ปเสนทิ โกสโล สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ปาเณหิ สรณํ คโต …เป…

    King Pasenadi of Kosala and his wives and children have gone for refuge for life to the ascetic Gotama. …

    สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ปาเณหิ สรณํ คโต …เป…

    The brahmin Pokkharasādi and his wives and children have gone for refuge for life to the ascetic Gotama. …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม รญฺโญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต …เป…

    He’s honored, respected, revered, venerated, and esteemed by King Bimbisāra of Magadha …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม รญฺโญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต …เป…

    King Pasenadi of Kosala …

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต …เป…

    and the brahmin Pokkharasādi.

    สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม จมฺปํ อนุปฺปตฺโต, จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรฯ เย โข ปน, โภ, เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อมฺหากํ คามเขตฺตํ อาคจฺฉนฺติ อติถี โน เต โหนฺติฯ อติถี โข ปนเมฺหหิ สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา อปเจตพฺพาฯ ยมฺปิ, โภ, สมโณ โคตโม จมฺปํ อนุปฺปตฺโต จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร, อติถิมฺหากํ สมโณ โคตโม; อติถิ โข ปนเมฺหหิ สกฺกาตพฺโพ ครุกาตพฺโพ มาเนตพฺโพ ปูเชตพฺโพ อปเจตพฺโพฯ อิมินาปงฺเคน น อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ อถ โข มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ เอตฺตเก โข อหํ, โภ, ตสฺส โภโต โคตมสฺส วณฺเณ ปริยาปุณามิ, โน จ โข โส ภวํ โคตโม เอตฺตกวณฺโณฯ อปริมาณวณฺโณ หิ โส ภวํ โคตโม”ติฯ

    The ascetic Gotama has arrived at Campā and is staying at the Gaggarā Lotus Pond. Any ascetic or brahmin who comes to stay in our village district is our guest, and should be honored and respected as such. For this reason, too, it’s not appropriate for Master Gotama to come to see me; rather, it’s appropriate for me to go to see him. This is the extent of Master Gotama’s praise that I have learned. But his praises are not confined to this, for the praise of Master Gotama is limitless.”

    เอวํ วุตฺเต, เต พฺราหฺมณา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ: “ยถา โข ภวํ โสณทณฺโฑ สมณสฺส โคตมสฺส วณฺเณ ภาสติ อิโต เจปิ โส ภวํ โคตโม โยชนสเต วิหรติ, อลเมว สทฺเธน กุลปุตฺเตน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ อปิ ปุโฏเสนา”ติฯ

    When he had spoken, those brahmins said to him, “According to Soṇadaṇḍa’s praises, if Master Gotama were staying within a hundred leagues, it’d be worthwhile for a faithful gentleman to go to see him, even if he had to carry his own provisions in a shoulder bag.”

    “เตน หิ, โภ, สพฺเพว มยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามา”ติฯ

    “Well then, gentlemen, let’s all go to see the ascetic Gotama.”

    ๔ฯ โสณทณฺฑปริวิตกฺก

    4. Soṇadaṇḍa Has Second Thoughts

    อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ มหตา พฺราหฺมณคเณน สทฺธึ เยน คคฺครา โปกฺขรณี เตนุปสงฺกมิฯ

    Then Soṇadaṇḍa together with a large group of brahmins went to see the Buddha.

    อถ โข โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส ติโรวนสณฺฑคตสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ: “อหญฺเจว โข ปน สมณํ โคตมํ ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺยํ; ตตฺร เจ มํ สมโณ โคตโม เอวํ วเทยฺย: ‘น โข เอส, พฺราหฺมณ, ปโญฺห เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ, เอวํ นาเมส, พฺราหฺมณ, ปโญฺห ปุจฺฉิตพฺโพ'ติ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย: ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต, นาสกฺขิ สมณํ โคตมํ โยนิโส ปญฺหํ ปุจฺฉิตุนฺ'ติฯ ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถฯ ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํฯ ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคาฯ

    But as he reached the far side of the forest, this thought came to mind, “Suppose I was to ask the ascetic Gotama a question. He might say to me: ‘Brahmin, you shouldn’t ask your question like that. This is how you should ask it.’ And the assembly might disparage me for that: ‘Soṇadaṇḍa is foolish and incompetent. He’s not able to ask the ascetic Gotama a rational question.’ And when you’re disparaged by the assembly, your reputation diminishes. When your reputation diminishes, your wealth also diminishes. But my wealth relies on my reputation.

    มมญฺเจว โข ปน สมโณ โคตโม ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺย, ตสฺส จาหํ ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ น อาราเธยฺยํ; ตตฺร เจ มํ สมโณ โคตโม เอวํ วเทยฺย: ‘น โข เอส, พฺราหฺมณ, ปโญฺห เอวํ พฺยากาตพฺโพ, เอวํ นาเมส, พฺราหฺมณ, ปโญฺห พฺยากาตพฺโพ'ติ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย: ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต, นาสกฺขิ สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธตุนฺ'ติฯ ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถฯ ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํฯ ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคาฯ

    Or if the ascetic Gotama asks me a question, I might not satisfy him with my answer. He might say to me: ‘Brahmin, you shouldn’t answer the question like that. This is how you should answer it.’ And the assembly might disparage me for that: ‘Soṇadaṇḍa is foolish and incompetent. He’s not able to satisfy the ascetic Gotama’s mind with his answer.’ And when you’re disparaged by the assembly, your reputation diminishes. When your reputation diminishes, your wealth also diminishes. But my wealth relies on my reputation.

    อหญฺเจว โข ปน เอวํ สมีปคโต สมาโน อทิสฺวาว สมณํ โคตมํ นิวตฺเตยฺยํ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย: ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต มานถทฺโธ ภีโต จ, โน วิสหติ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ, กถญฺหิ นาม เอวํ สมีปคโต สมาโน อทิสฺวา สมณํ โคตมํ นิวตฺติสฺสตี'ติฯ ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถฯ ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํ, ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคา”ติฯ

    On the other hand, if I were to turn back after having come so far without having seen the ascetic Gotama, the assembly might disparage me for that: ‘Soṇadaṇḍa is foolish and incompetent. He’s stuck-up and scared. He doesn’t dare to go and see the ascetic Gotama. For how on earth can he turn back after having come so far without having seen the ascetic Gotama!’ And when you’re disparaged by the assembly, your reputation diminishes. When your reputation diminishes, your wealth also diminishes. But my wealth relies on my reputation.”

    อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ จมฺเปยฺยกาปิ โข พฺราหฺมณคหปติกา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนญฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุฯ

    Then Soṇadaṇḍa went up to the Buddha, and exchanged greetings with him. When the greetings and polite conversation were over, he sat down to one side. Before sitting down to one side, some of the brahmins and householders of Campā bowed, some exchanged greetings and polite conversation, some held up their joined palms toward the Buddha, some announced their name and clan, while some kept silent.

    ตตฺรปิ สุทํ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เอตเทว พหุลมนุวิตกฺเกนฺโต นิสินฺโน โหติ: “อหญฺเจว โข ปน สมณํ โคตมํ ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺยํ; ตตฺร เจ มํ สมโณ โคตโม เอวํ วเทยฺย: ‘น โข เอส, พฺราหฺมณ, ปโญฺห เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ, เอวํ นาเมส, พฺราหฺมณ, ปโญฺห ปุจฺฉิตพฺโพ'ติ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย: ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต, นาสกฺขิ สมณํ โคตมํ โยนิโส ปญฺหํ ปุจฺฉิตุนฺ'ติฯ ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถฯ ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํฯ ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคาฯ มมญฺเจว โข ปน สมโณ โคตโม ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺย, ตสฺส จาหํ ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ น อาราเธยฺยํ; ตตฺร เจ มํ สมโณ โคตโม เอวํ วเทยฺย: ‘น โข เอส, พฺราหฺมณ, ปโญฺห เอวํ พฺยากาตพฺโพ, เอวํ นาเมส, พฺราหฺมณ, ปโญฺห พฺยากาตพฺโพ'ติ, เตน มํ อยํ ปริสา ปริภเวยฺย: ‘พาโล โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺยตฺโต, นาสกฺขิ สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธตุนฺ'ติฯ ยํ โข ปนายํ ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถฯ ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํฯ ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคาฯ อโห วต มํ สมโณ โคตโม สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺย, อทฺธา วตสฺสาหํ จิตฺตํ อาราเธยฺยํ ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณนา”ติฯ

    But while sitting there, Soṇadaṇḍa continued to be plagued by many second thoughts. He thought, “If only the ascetic Gotama would ask me about my own teacher’s scriptural heritage of the three Vedas! Then I could definitely satisfy his mind with my answer.”

    ๕ฯ พฺราหฺมณปญฺญตฺติ

    5. What Makes a Brahmin

    อถ โข ภควโต โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย เอตทโหสิ: “วิหญฺญติ โข อยํ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สเกน จิตฺเตนฯ ยนฺนูนาหํ โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺยนฺ”ติฯ

    Then the Buddha, knowing what Soṇadaṇḍa was thinking, thought, “This brahmin Soṇadaṇḍa is worried by his own thoughts. Why don’t I ask him about his own teacher’s scriptural heritage of the three Vedas?”

    อถ โข ภควา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ: “กติหิ ปน, พฺราหฺมณ, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ?

    So he said to Soṇadaṇḍa, “Brahmin, how many factors must a brahmin possess for the brahmins to describe him as a brahmin; and so that when he says ‘I am a brahmin’ he speaks rightly, without falling into falsehood?”

    อถ โข โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ: “ยํ วต โน อโหสิ อิจฺฉิตํ, ยํ อากงฺขิตํ, ยํ อธิปฺเปตํ, ยํ อภิปตฺถิตํ: ‘อโห วต มํ สมโณ โคตโม สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺย, อทฺธา วตสฺสาหํ จิตฺตํ อาราเธยฺยํ ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณนา'ติ, ตตฺร มํ สมโณ โคตโม สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปญฺหํ ปุจฺฉติฯ อทฺธา วตสฺสาหํ จิตฺตํ อาราเธสฺสามิ ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณนา”ติฯ

    Then Soṇadaṇḍa thought, “The ascetic Gotama has asked me about exactly what I wanted, what I wished for, what I desired, what I yearned for; that is, my own scriptural heritage. I can definitely satisfy his mind with my answer.”

    อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺภุนฺนาเมตฺวา กายํ อนุวิโลเกตฺวา ปริสํ ภควนฺตํ เอตทโวจ: “ปญฺจหิ, โภ โคตม, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน; อชฺฌายโก โหติ มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย; อภิรูโป โหติ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย; สีลวา โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํฯ อิเมหิ โข, โภ โคตม, ปญฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติฯ

    Then Soṇadaṇḍa straightened his back, looked around the assembly, and said to the Buddha, “Master Gotama, a brahmin must possess five factors for the brahmins to describe him as a brahmin; and so that when he says ‘I am a brahmin’ he speaks rightly, without falling into falsehood. What five? It’s when a brahmin is well born on both his mother’s and father’s side, of pure descent, with irrefutable and impeccable genealogy back to the seventh paternal generation. He recites and remembers the hymns, and has mastered the three Vedas, together with their vocabularies, ritual, phonology and etymology, and the testament as fifth. He knows philology and grammar, and is well versed in cosmology and the marks of a great man. He is attractive, good-looking, lovely, of surpassing beauty. He is magnificent and splendid as Brahmā, remarkable to behold. He is ethical, mature in ethical conduct. He’s astute and clever, being the first or second to hold the sacrificial ladle. These are the five factors which a brahmin must possess for the brahmins to describe him as a brahmin; and so that when he says ‘I am a brahmin’ he speaks rightly, without falling into falsehood.”

    “อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, ปญฺจนฺนํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ฐปยิตฺวา จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ?

    “But brahmin, is it possible to set aside one of these five factors and still rightly describe someone as a brahmin?”

    “สกฺกา, โภ โคตมฯ อิเมสญฺหิ, โภ โคตม, ปญฺจนฺนํ องฺคานํ วณฺณํ ฐปยามฯ กิญฺหิ วณฺโณ กริสฺสติ? ยโต โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน; อชฺฌายโก จ โหติ มนฺตธโร จ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย; สีลวา จ โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํฯ อิเมหิ โข, โภ โคตม, จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติฯ

    “It is possible, Master Gotama. We could leave appearance out of the five factors. For what does appearance matter? A brahmin must possess the remaining four factors for the brahmins to rightly describe him as a brahmin.”

    “อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, จตุนฺนํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ฐปยิตฺวา ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ?

    “But brahmin, is it possible to set aside one of these four factors and still rightly describe someone as a brahmin?”

    “สกฺกา, โภ โคตมฯ อิเมสญฺหิ, โภ โคตม, จตุนฺนํ องฺคานํ มนฺเต ฐปยามฯ กิญฺหิ มนฺตา กริสฺสนฺติ? ยโต โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน; สีลวา จ โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํฯ อิเมหิ โข, โภ โคตม, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติฯ

    “It is possible, Master Gotama. We could leave the hymns out of the four factors. For what do the hymns matter? A brahmin must possess the remaining three factors for the brahmins to rightly describe him as a brahmin.”

    “อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, ติณฺณํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ฐปยิตฺวา ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ?

    “But brahmin, is it possible to set aside one of these three factors and still rightly describe someone as a brahmin?”

    “สกฺกา, โภ โคตมฯ อิเมสญฺหิ, โภ โคตม, ติณฺณํ องฺคานํ ชาตึ ฐปยามฯ กิญฺหิ ชาติ กริสฺสติ? ยโต โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ สีลวา โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํฯ อิเมหิ โข, โภ โคตม, ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติฯ

    “It is possible, Master Gotama. We could leave birth out of the three factors. For what does birth matter? It’s when a brahmin is ethical, mature in ethical conduct; and he’s astute and clever, being the first or second to hold the sacrificial ladle. A brahmin must possess these two factors for the brahmins to rightly describe him as a brahmin.”

    เอวํ วุตฺเต, เต พฺราหฺมณา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ: “มา ภวํ โสณทณฺโฑ เอวํ อวจ, มา ภวํ โสณทณฺโฑ เอวํ อวจฯ อปวทเตว ภวํ โสณทณฺโฑ วณฺณํ, อปวทติ มนฺเต, อปวทติ ชาตึ, เอกํเสน ภวํ โสณทณฺโฑ สมณเสฺสว โคตมสฺส วาทํ อนุปกฺขนฺทตี”ติฯ

    When he had spoken, those brahmins said to him, “Please don’t say that, Master Soṇadaṇḍa, please don’t say that! You’re just condemning appearance, the hymns, and birth! You’re totally going over to the ascetic Gotama’s doctrine!”

    อถ โข ภควา เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ: “สเจ โข ตุมฺหากํ พฺราหฺมณานํ เอวํ โหติ: ‘อปฺปสฺสุโต จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, อกลฺยาณวากฺกรโณ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ทุปฺปญฺโญ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, น จ ปโหติ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สมเณน โคตเมน สทฺธึ อสฺมึ วจเน ปฏิมนฺเตตุนฺ'ติ, ติฏฺฐตุ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ตุเมฺห มยา สทฺธึ มนฺตโวฺห อสฺมึ วจเนฯ สเจ ปน ตุมฺหากํ พฺราหฺมณานํ เอวํ โหติ: ‘พหุสฺสุโต จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, กลฺยาณวากฺกรโณ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ปณฺฑิโต จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ปโหติ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สมเณน โคตเมน สทฺธึ อสฺมึ วจเน ปฏิมนฺเตตุนฺ'ติ, ติฏฺฐถ ตุเมฺห, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ มยา สทฺธึ ปฏิมนฺเตตู”ติฯ

    So the Buddha said to them, “Well, brahmins, if you think that Soṇadaṇḍa is unlearned, a poor speaker, witless, and not capable of having a dialogue with me about this, then leave him aside and you can have a dialogue with me. But if you think that he’s learned, a good speaker, astute, and capable of having a dialogue with me about this, then you should stand aside and let him have a dialogue with me.”

    เอวํ วุตฺเต, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ: “ติฏฺฐตุ ภวํ โคตโม, ตุณฺหี ภวํ โคตโม โหตุ, อหเมว เตสํ สหธมฺเมน ปฏิวจนํ กริสฺสามี”ติฯ อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ: “มา ภวนฺโต เอวํ อวจุตฺถ, มา ภวนฺโต เอวํ อวจุตฺถ: ‘อปวทเตว ภวํ โสณทณฺโฑ วณฺณํ, อปวทติ มนฺเต, อปวทติ ชาตึ, เอกํเสน ภวํ โสณทณฺโฑ สมณเสฺสว โคตมสฺส วาทํ อนุปกฺขนฺทตี'ติฯ นาหํ, โภ, อปวทามิ วณฺณํ วา มนฺเต วา ชาตึ วา”ติฯ

    When he said this, Soṇadaṇḍa said to the Buddha, “Let it be, Master Gotama, be silent. I myself will respond to them in a legitimate manner.” Then he said to those brahmins, “Don’t say this, gentlemen, don’t say this: ‘You’re just condemning appearance, the hymns, and birth! You’re totally going over to the ascetic Gotama’s doctrine!’ I’m not condemning appearance, hymns, or birth.”

    เตน โข ปน สมเยน โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส ภาคิเนโยฺย องฺคโก นาม มาณวโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติฯ อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ: “ปสฺสนฺติ โน โภนฺโต อิมํ องฺคกํ มาณวกํ อมฺหากํ ภาคิเนยฺยนฺ”ติ?

    Now at that time Soṇadaṇḍa’s nephew, the student Aṅgaka was sitting in that assembly. Then Soṇadaṇḍa said to those brahmins, “Gentlemen, do you see my nephew, the student Aṅgaka?”

    “เอวํ, โภ”ฯ

    “Yes, sir.”

    “องฺคโก โข, โภ, มาณวโก อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย, นาสฺส อิมิสฺสํ ปริสายํ สมสโม อตฺถิ วณฺเณน ฐเปตฺวา สมณํ โคตมํฯ องฺคโก โข มาณวโก อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโยฯ อหมสฺส มนฺเต วาเจตาฯ องฺคโก โข มาณวโก อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทนฯ อหมสฺส มาตาปิตโร ชานามิฯ องฺคโก โข มาณวโก ปาณมฺปิ หเนยฺย, อทินฺนมฺปิ อาทิเยยฺย, ปรทารมฺปิ คจฺเฉยฺย, มุสาวาทมฺปิ ภเณยฺย, มชฺชมฺปิ ปิเวยฺย, เอตฺถ ทานิ, โภ, กึ วณฺโณ กริสฺสติ, กึ มนฺตา, กึ ชาติ? ยโต โข, โภ, พฺราหฺมโณ สีลวา จ โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต, ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํฯ อิเมหิ โข, โภ, ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติฯ

    “Aṅgaka is attractive, good-looking, lovely, of surpassing beauty. He is magnificent and splendid as Brahmā, remarkable to behold. There’s no-one in this assembly so good-looking, apart from the ascetic Gotama. Aṅgaka recites and remembers the hymns, and has mastered the three Vedas, together with their vocabularies, ritual, phonology and etymology, and the testament as fifth. He knows philology and grammar, and is well versed in cosmology and the marks of a great man. And I am the one who teaches him the hymns. Aṅgaka is well born on both his mother’s and father’s side, of pure descent, with irrefutable and impeccable genealogy back to the seventh paternal generation. And I know his mother and father. But if Aṅgaka were to kill living creatures, steal, commit adultery, lie, and drink alcohol, then what’s the use of his appearance, his hymns, or his birth? It’s when a brahmin is ethical, mature in ethical conduct; and he’s astute and clever, being the first or second to hold the sacrificial ladle. A brahmin must possess these two factors for the brahmins to rightly describe him as a brahmin.”

    ๖ฯ สีลปญฺญากถา

    6. The Discussion of Ethics and Wisdom

    “อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, ทฺวินฺนํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ฐปยิตฺวา เอเกน องฺเคน สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี'ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ?

    “But brahmin, is it possible to set aside one of these two factors and still rightly describe someone as a brahmin?”

    “โน หิทํ, โภ โคตมฯ สีลปริโธตา หิ, โภ โคตม, ปญฺญา; ปญฺญาปริโธตํ สีลํฯ ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปญฺญา, ยตฺถ ปญฺญา ตตฺถ สีลํฯ สีลวโต ปญฺญา, ปญฺญวโต สีลํฯ สีลปญฺญาณญฺจ ปน โลกสฺมึ อคฺคมกฺขายติฯ เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, หตฺเถน วา หตฺถํ โธเวยฺย, ปาเทน วา ปาทํ โธเวยฺย; เอวเมว โข, โภ โคตม, สีลปริโธตา ปญฺญา, ปญฺญาปริโธตํ สีลํฯ ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปญฺญา, ยตฺถ ปญฺญา ตตฺถ สีลํฯ สีลวโต ปญฺญา, ปญฺญวโต สีลํฯ สีลปญฺญาณญฺจ ปน โลกสฺมึ อคฺคมกฺขายตี”ติฯ

    “No, Master Gotama. For wisdom is cleansed by ethics, and ethics are cleansed by wisdom. Ethics and wisdom always go together. An ethical person is wise, and a wise person ethical. And ethics and wisdom are said to be the best things in the world. It’s just like when you clean one hand with the other, or clean one foot with the other. In the same way, wisdom is cleansed by ethics, and ethics are cleansed by wisdom. Ethics and wisdom always go together. An ethical person is wise, and a wise person ethical. And ethics and wisdom are said to be the best things in the world.”

    “เอวเมตํ, พฺราหฺมณ, เอวเมตํ, พฺราหฺมณ, สีลปริโธตา หิ, พฺราหฺมณ, ปญฺญา, ปญฺญาปริโธตํ สีลํฯ ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปญฺญา, ยตฺถ ปญฺญา ตตฺถ สีลํฯ สีลวโต ปญฺญา, ปญฺญวโต สีลํฯ สีลปญฺญาณญฺจ ปน โลกสฺมึ อคฺคมกฺขายติฯ เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, หตฺเถน วา หตฺถํ โธเวยฺย, ปาเทน วา ปาทํ โธเวยฺย; เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, สีลปริโธตา ปญฺญา, ปญฺญาปริโธตํ สีลํฯ ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปญฺญา, ยตฺถ ปญฺญา ตตฺถ สีลํฯ สีลวโต ปญฺญา, ปญฺญวโต สีลํฯ สีลปญฺญาณญฺจ ปน โลกสฺมึ อคฺคมกฺขายติฯ

    “That’s so true, brahmin, that’s so true! For wisdom is cleansed by ethics, and ethics are cleansed by wisdom. Ethics and wisdom always go together. An ethical person is wise, and a wise person ethical. And ethics and wisdom are said to be the best things in the world. It’s just like when you clean one hand with the other, or clean one foot with the other. In the same way, wisdom is cleansed by ethics, and ethics are cleansed by wisdom. Ethics and wisdom always go together. An ethical person is wise, and a wise person ethical. And ethics and wisdom are said to be the best things in the world.

    กตมํ ปน ตํ, พฺราหฺมณ, สีลํ? กตมา สา ปญฺญา”ติ?

    But what, brahmin, is that ethical conduct? And what is that wisdom?”

    “เอตฺตกปรมาว มยํ, โภ โคตม, เอตสฺมึ อตฺเถฯ สาธุ วต ภวนฺตํเยว โคตมํ ปฏิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ”ติฯ

    “That’s all I know about this matter, Master Gotama. May Master Gotama himself please clarify the meaning of this.”

    “เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุโณหิ, สาธุกํ มนสิกโรหิ, ภาสิสฺสามี”ติฯ

    “Well then, brahmin, listen and apply your mind well, I will speak.”

    “เอวํ, โภ”ติ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ ภควา เอตทโวจ:

    “Yes sir,” Soṇadaṇḍa replied. The Buddha said this:

    “อิธ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ …เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติฯ อิทํ โข ตํ, พฺราหฺมณ, สีลํ …เป… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ … ทุติยํ ฌานํ … ตติยํ ฌานํ … จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ …เป… ญาณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ, อภินินฺนาเมติ …เป… อิทมฺปิสฺส โหติ ปญฺญาย …เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติฯ อิทมฺปิสฺส โหติ ปญฺญาย อยํ โข สา, พฺราหฺมณ, ปญฺญา”ติฯ

    “It’s when a Realized One arises in the world, perfected, a fully awakened Buddha … That’s how a bhikkhu is accomplished in ethics. This, brahmin, is that ethical conduct. … They enter and remain in the first jhāna … second jhāna … third jhāna … fourth jhāna … They extend and project the mind toward knowledge and vision … This pertains to their wisdom. … They understand: ‘… there is no return to any state of existence.’ This pertains to their wisdom. This, brahmin, is that wisdom.”

    ๗ฯ โสณทณฺเฑาปาสกตฺตปฏิเวทนา

    7. Soṇadaṇḍa Declares Himself a Lay Follower

    เอวํ วุตฺเต, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ: “อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมฯ เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย: ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี'ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมญฺจ, ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํฯ อธิวาเสตุ จ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา”ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

    When he had spoken, Soṇadaṇḍa said to the Buddha, “Excellent, Master Gotama! Excellent! As if he were righting the overturned, or revealing the hidden, or pointing out the path to the lost, or lighting a lamp in the dark so people with clear eyes can see what’s there, Master Gotama has made the Teaching clear in many ways. I go for refuge to Master Gotama, to the teaching, and to the bhikkhu Saṅgha. From this day forth, may Master Gotama remember me as a lay follower who has gone for refuge for life. Would you and the bhikkhu Saṅgha please accept a meal from me tomorrow?” The Buddha consented with silence.

    อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ: “กาโล, โภ โคตม, นิฏฺฐิตํ ภตฺตนฺ”ติฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิฯ

    Then, knowing that the Buddha had consented, Soṇadaṇḍa got up from his seat, bowed, and respectfully circled the Buddha, keeping him on his right, before leaving. And when the night had passed Soṇadaṇḍa had delicious fresh and cooked foods prepared in his own home. Then he had the Buddha informed of the time, saying, “It’s time, Master Gotama, the meal is ready.” Then the Buddha robed up in the morning and, taking his bowl and robe, went to the home of Soṇadaṇḍa together with the bhikkhu Saṅgha, where he sat on the seat spread out. Then Soṇadaṇḍa served and satisfied the bhikkhu Saṅgha headed by the Buddha with his own hands with delicious fresh and cooked foods.

    อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ: “อหญฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ปริสคโต สมาโน อาสนา วุฏฺฐหิตฺวา ภวนฺตํ โคตมํ อภิวาเทยฺยํ, เตน มํ สา ปริสา ปริภเวยฺยฯ ยํ โข ปน สา ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถฯ ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํฯ ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคาฯ อหญฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ปริสคโต สมาโน อญฺชลึ ปคฺคเณฺหยฺยํ, อาสนา เม ตํ ภวํ โคตโม ปจฺจุฏฺฐานํ ธาเรตุฯ อหญฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ปริสคโต สมาโน เวฐนํ โอมุญฺเจยฺยํ, สิรสา เม ตํ ภวํ โคตโม อภิวาทนํ ธาเรตุฯ อหญฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ยานคโต สมาโน ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ภวนฺตํ โคตมํ อภิวาเทยฺยํ, เตน มํ สา ปริสา ปริภเวยฺยฯ ยํ โข ปน สา ปริสา ปริภเวยฺย, ยโสปิ ตสฺส หาเยถ, ยสฺส โข ปน ยโส หาเยถ, โภคาปิ ตสฺส หาเยยฺยุํฯ ยโสลทฺธา โข ปนมฺหากํ โภคาฯ อหญฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ยานคโต สมาโน ปโตทลฏฺฐึ อพฺภุนฺนาเมยฺยํ, ยานา เม ตํ ภวํ โคตโม ปจฺโจโรหนํ ธาเรตุฯ อหญฺเจว โข ปน, โภ โคตม, ยานคโต สมาโน ฉตฺตํ อปนาเมยฺยํ, สิรสา เม ตํ ภวํ โคตโม อภิวาทนํ ธาเรตู”ติฯ

    When the Buddha had eaten and washed his hand and bowl, Soṇadaṇḍa took a low seat and sat to one side. Seated to one side he said to the Buddha: “Master Gotama, if, when I have gone to an assembly, I rise from my seat and bow to the Buddha, that assembly might disparage me for that. And when you’re disparaged by the assembly, your reputation diminishes. When your reputation diminishes, your wealth also diminishes. But my wealth relies on my reputation. If, when I have gone to an assembly, I raise my joined palms, please take it that I have risen from my seat. And if I undo my turban, please take it that I have bowed. And Master Gotama, if, when I am in a carriage, I get down from my carriage and bow to the Buddha, that assembly might disparage me for that. If, when I am in a carriage, I hold up my goad, please take it that I have got down from my carriage. And if I lower my sunshade, please take it that I have bowed.”

    อถ โข ภควา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามีติฯ

    Then the Buddha educated, encouraged, fired up, and inspired the brahmin Soṇadaṇḍa with a Dhamma talk, after which he got up from his seat and left.

    โสณทณฺฑสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ จตุตฺถํฯ





    The authoritative text of the Dīgha Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact