Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๕. จมฺมกฺขนฺธโก
5. Cammakkhandhako
๑๔๗. โสณโกฬิวิสวตฺถุ
147. Soṇakoḷivisavatthu
๒๔๒. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเตฯ เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อสีติยา คามสหเสฺสสุ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรติฯ เตน โข ปน สมเยน จมฺปายํ โสโณ นาม โกฬิวิโส 1 เสฎฺฐิปุโตฺต สุขุมาโล โหติฯ ตสฺส ปาทตเลสุ โลมานิ ชาตานิ โหนฺติฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ตานิ อสีติ คามิกสหสฺสานิ สนฺนิปาตาเปตฺวา เกนจิเทว กรณีเยน โสณสฺส โกฬิวิสสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – อาคจฺฉตุ โสโณ, อิจฺฉามิ โสณสฺส อาคตนฺติฯ อถ โข โสณสฺส โกฬิวิสสฺส มาตาปิตโร โสณํ โกฬิวิสํ เอตทโวจุํ – ‘‘ราชา เต, ตาต โสณ, ปาเท ทกฺขิตุกาโมฯ มา โข ตฺวํ, ตาต โสณ, เยน ราชา เตน ปาเท อภิปฺปสาเรยฺยาสิฯ รโญฺญ ปุรโต ปลฺลเงฺกน นิสีทฯ นิสินฺนสฺส เต ราชา ปาเท ทกฺขิสฺสตี’’ติฯ อถ โข โสณํ โกฬิวิสํ สิวิกาย อาเนสุํฯ อถ โข โสโณ โกฬิวิโส เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ อภิวาเทตฺวา รโญฺญ ปุรโต ปลฺลเงฺกน นิสีทิฯ อทฺทสา โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร โสณสฺส โกฬิวิสสฺส ปาทตเลสุ โลมานิ ชาตานิฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ตานิ อสีติ คามิกสหสฺสานิ ทิฎฺฐธมฺมิเก อเตฺถ อนุสาสิตฺวา อุโยฺยเชสิ – ‘‘ตุเมฺห ขฺวตฺถ, ภเณ, มยา ทิฎฺฐธมฺมิเก อเตฺถ อนุสาสิตา; คจฺฉถ, ตํ ภควนฺตํ ปยิรุปาสถ; โส โน ภควา สมฺปรายิเก อเตฺถ อนุสาสิสฺสตี’’ติฯ
242. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati gijjhakūṭe pabbate. Tena kho pana samayena rājā māgadho seniyo bimbisāro asītiyā gāmasahassesu issariyādhipaccaṃ rajjaṃ kāreti. Tena kho pana samayena campāyaṃ soṇo nāma koḷiviso 2 seṭṭhiputto sukhumālo hoti. Tassa pādatalesu lomāni jātāni honti. Atha kho rājā māgadho seniyo bimbisāro tāni asīti gāmikasahassāni sannipātāpetvā kenacideva karaṇīyena soṇassa koḷivisassa santike dūtaṃ pāhesi – āgacchatu soṇo, icchāmi soṇassa āgatanti. Atha kho soṇassa koḷivisassa mātāpitaro soṇaṃ koḷivisaṃ etadavocuṃ – ‘‘rājā te, tāta soṇa, pāde dakkhitukāmo. Mā kho tvaṃ, tāta soṇa, yena rājā tena pāde abhippasāreyyāsi. Rañño purato pallaṅkena nisīda. Nisinnassa te rājā pāde dakkhissatī’’ti. Atha kho soṇaṃ koḷivisaṃ sivikāya ānesuṃ. Atha kho soṇo koḷiviso yena rājā māgadho seniyo bimbisāro tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā rājānaṃ māgadhaṃ seniyaṃ bimbisāraṃ abhivādetvā rañño purato pallaṅkena nisīdi. Addasā kho rājā māgadho seniyo bimbisāro soṇassa koḷivisassa pādatalesu lomāni jātāni. Atha kho rājā māgadho seniyo bimbisāro tāni asīti gāmikasahassāni diṭṭhadhammike atthe anusāsitvā uyyojesi – ‘‘tumhe khvattha, bhaṇe, mayā diṭṭhadhammike atthe anusāsitā; gacchatha, taṃ bhagavantaṃ payirupāsatha; so no bhagavā samparāyike atthe anusāsissatī’’ti.
อถ โข ตานิ อสีติ คามิกสหสฺสานิ เยน คิชฺฌกูโฎ ปพฺพโต เตนุปสงฺกมิํสุฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาคโต ภควโต อุปฎฺฐาโก โหติฯ อถ โข ตานิ อสีติ คามิกสหสฺสานิ เยนายสฺมา สาคโต เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาคตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิมานิ, ภเนฺต, อสีติ คามิกสหสฺสานิ อิธูปสงฺกนฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย; สาธุ มยํ, ภเนฺต, ลเภยฺยาม ภควนฺตํ ทสฺสนายา’’ติฯ ‘‘เตน หิ ตุเมฺห อายสฺมโนฺต มุหุตฺตํ อิเธว ตาว โหถ, ยาวาหํ ภควนฺตํ ปฎิเวเทมี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา สาคโต เตสํ อสีติยา คามิกสหสฺสานํ ปุรโต เปกฺขมานานํ ปาฎิกาย นิมุชฺชิตฺวา ภควโต ปุรโต อุมฺมุชฺชิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมานิ, ภเนฺต, อสีติ คามิกสหสฺสานิ อิธูปสงฺกนฺตานิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย; ยสฺส ทานิ, ภเนฺต, ภควา กาลํ มญฺญตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ ตฺวํ, สาคต, วิหารปจฺฉายายํ อาสนํ ปญฺญเปหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา สาคโต ภควโต ปฎิสฺสุณิตฺวา ปีฐํ คเหตฺวา ภควโต ปุรโต นิมุชฺชิตฺวา เตสํ อสีติยา คามิกสหสฺสานํ ปุรโต เปกฺขมานานํ ปาฎิกาย อุมฺมุชฺชิตฺวา วิหารปจฺฉายายํ อาสนํ ปญฺญเปติฯ อถ โข ภควา วิหารา นิกฺขมิตฺวา วิหารปจฺฉายายํ ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข ตานิ อสีติ คามิกสหสฺสานิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ อถ โข ตานิ อสีติ คามิกสหสฺสานิ อายสฺมนฺตํเยว สาคตํ สมนฺนาหรนฺติ, โน ตถา ภควนฺตํฯ อถ โข ภควา เตสํ อสีติยา คามิกสหสฺสานํ เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย อายสฺมนฺตํ สาคตํ อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ ตฺวํ, สาคต, ภิโยฺยโสมตฺตาย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทเสฺสหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา สาคโต ภควโต ปฎิสฺสุณิตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิเกฺข จงฺกมติปิ, ติฎฺฐติปิ, นิสีทติปิ, เสยฺยมฺปิ กเปฺปติ, ธูมายติปิ 3 ปชฺชลติปิ, อนฺตรธายติปิฯ อถ โข อายสฺมา สาคโต อากาเส อนฺตลิเกฺข อเนกวิหิตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทเสฺสตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา เม, ภเนฺต, ภควา; สาวโกหมสฺมิฯ สตฺถา เม, ภเนฺต, ภควา; สาวโกหมสฺมี’’ติฯ อถ โข ตานิ อสีติ คามิกสหสฺสานิ ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ! อพฺภุตํ วต โภ! สาวโกปิ นาม เอวํ มหิทฺธิโก ภวิสฺสติ, เอวํ มหานุภาโว, อโห นูน สตฺถา’’ติ ภควนฺตํเยว สมนฺนาหรนฺติ, โน ตถา อายสฺมนฺตํ สาคตํฯ
Atha kho tāni asīti gāmikasahassāni yena gijjhakūṭo pabbato tenupasaṅkamiṃsu. Tena kho pana samayena āyasmā sāgato bhagavato upaṭṭhāko hoti. Atha kho tāni asīti gāmikasahassāni yenāyasmā sāgato tenupasaṅkamiṃsu, upasaṅkamitvā āyasmantaṃ sāgataṃ etadavocuṃ – ‘‘imāni, bhante, asīti gāmikasahassāni idhūpasaṅkantāni bhagavantaṃ dassanāya; sādhu mayaṃ, bhante, labheyyāma bhagavantaṃ dassanāyā’’ti. ‘‘Tena hi tumhe āyasmanto muhuttaṃ idheva tāva hotha, yāvāhaṃ bhagavantaṃ paṭivedemī’’ti. Atha kho āyasmā sāgato tesaṃ asītiyā gāmikasahassānaṃ purato pekkhamānānaṃ pāṭikāya nimujjitvā bhagavato purato ummujjitvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘imāni, bhante, asīti gāmikasahassāni idhūpasaṅkantāni bhagavantaṃ dassanāya; yassa dāni, bhante, bhagavā kālaṃ maññatī’’ti. ‘‘Tena hi tvaṃ, sāgata, vihārapacchāyāyaṃ āsanaṃ paññapehī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā sāgato bhagavato paṭissuṇitvā pīṭhaṃ gahetvā bhagavato purato nimujjitvā tesaṃ asītiyā gāmikasahassānaṃ purato pekkhamānānaṃ pāṭikāya ummujjitvā vihārapacchāyāyaṃ āsanaṃ paññapeti. Atha kho bhagavā vihārā nikkhamitvā vihārapacchāyāyaṃ paññatte āsane nisīdi. Atha kho tāni asīti gāmikasahassāni yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Atha kho tāni asīti gāmikasahassāni āyasmantaṃyeva sāgataṃ samannāharanti, no tathā bhagavantaṃ. Atha kho bhagavā tesaṃ asītiyā gāmikasahassānaṃ cetasā cetoparivitakkamaññāya āyasmantaṃ sāgataṃ āmantesi – ‘‘tena hi tvaṃ, sāgata, bhiyyosomattāya uttarimanussadhammaṃ iddhipāṭihāriyaṃ dassehī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā sāgato bhagavato paṭissuṇitvā vehāsaṃ abbhuggantvā ākāse antalikkhe caṅkamatipi, tiṭṭhatipi, nisīdatipi, seyyampi kappeti, dhūmāyatipi 4 pajjalatipi, antaradhāyatipi. Atha kho āyasmā sāgato ākāse antalikkhe anekavihitaṃ uttarimanussadhammaṃ iddhipāṭihāriyaṃ dassetvā bhagavato pādesu sirasā nipatitvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘satthā me, bhante, bhagavā; sāvakohamasmi. Satthā me, bhante, bhagavā; sāvakohamasmī’’ti. Atha kho tāni asīti gāmikasahassāni ‘‘acchariyaṃ vata bho! Abbhutaṃ vata bho! Sāvakopi nāma evaṃ mahiddhiko bhavissati, evaṃ mahānubhāvo, aho nūna satthā’’ti bhagavantaṃyeva samannāharanti, no tathā āyasmantaṃ sāgataṃ.
อถ โข ภควา เตสํ อสีติยา คามิกสหสฺสานํ เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ , กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขเมฺม อานิสํสํ ปกาเสสิฯ ยทา เต ภควา อญฺญาสิ กลฺลจิเตฺต, มุทุจิเตฺต, วินีวรณจิเตฺต, อุทคฺคจิเตฺต, ปสนฺนจิเตฺต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํฯ เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฎิคฺคเณฺหยฺย, เอวเมวํ เตสํ อสีติยา คามิกสหสฺสานํ ตสฺมิํเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํกิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติฯ เต ทิฎฺฐธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต, อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺตฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย – ‘‘จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตี’’ติ, เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอเต มยํ, ภเนฺต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามฯ ธมฺมญฺจ, ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสเก โน ภควา ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติฯ
Atha kho bhagavā tesaṃ asītiyā gāmikasahassānaṃ cetasā cetoparivitakkamaññāya anupubbiṃ kathaṃ kathesi, seyyathidaṃ – dānakathaṃ sīlakathaṃ saggakathaṃ , kāmānaṃ ādīnavaṃ okāraṃ saṃkilesaṃ, nekkhamme ānisaṃsaṃ pakāsesi. Yadā te bhagavā aññāsi kallacitte, muducitte, vinīvaraṇacitte, udaggacitte, pasannacitte, atha yā buddhānaṃ sāmukkaṃsikā dhammadesanā, taṃ pakāsesi – dukkhaṃ, samudayaṃ, nirodhaṃ, maggaṃ. Seyyathāpi nāma suddhaṃ vatthaṃ apagatakāḷakaṃ sammadeva rajanaṃ paṭiggaṇheyya, evamevaṃ tesaṃ asītiyā gāmikasahassānaṃ tasmiṃyeva āsane virajaṃ vītamalaṃ dhammacakkhuṃ udapādi – ‘‘yaṃkiñci samudayadhammaṃ, sabbaṃ taṃ nirodhadhamma’’nti. Te diṭṭhadhammā pattadhammā viditadhammā pariyogāḷhadhammā tiṇṇavicikicchā vigatakathaṃkathā vesārajjappattā aparappaccayā satthusāsane bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘abhikkantaṃ, bhante, abhikkantaṃ, bhante. Seyyathāpi, bhante, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya – ‘‘cakkhumanto rūpāni dakkhantī’’ti, evamevaṃ bhagavatā anekapariyāyena dhammo pakāsito. Ete mayaṃ, bhante, bhagavantaṃ saraṇaṃ gacchāma. Dhammañca, bhikkhusaṅghañca. Upāsake no bhagavā dhāretu ajjatagge pāṇupete saraṇaṃ gate’’ti.
โสณสฺส ปพฺพชฺชา
Soṇassa pabbajjā
๒๔๓. อถ โข โสณสฺส โกฬิวิสสฺส เอตทโหสิ ‘‘ยถา ยถา โข อหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ; ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติฯ อถ โข ตานิ อสีติ คามิกสหสฺสานิ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิสุํฯ อถ โข โสโณ โกฬิวิโส อจิรปกฺกเนฺตสุ เตสุ อสีติยา คามิกสหเสฺสสุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข โสโณ โกฬิวิโส ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยถา ยถาหํ, ภเนฺต, ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํฯ อิจฺฉามหํ, ภเนฺต, เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํฯ ปพฺพาเชตุ มํ, ภเนฺต, ภควา’’ติฯ อลตฺถ โข โสโณ โกฬิวิโส ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ อจิรุปสมฺปโนฺน จ ปนายสฺมา โสโณ สีตวเน วิหรติฯ ตสฺส อจฺจารทฺธวีริยสฺส จงฺกมโต ปาทา ภิชฺชิํสุฯ จงฺกโม โลหิเตน ผุโฎ โหติ, เสยฺยถาปิ ควาฆาตนํฯ 5 อถ โข อายสฺมโต โสณสฺส รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘‘เย โข เกจิ ภควโต สาวกา อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ, อหํ เตสํ อญฺญตโรฯ อถ จ ปน เม นานุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม กุเล โภคา; สกฺกา โภเค จ ภุญฺชิตุํ, ปุญฺญานิ จ กาตุํฯ ยํนูนาหํ หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุเญฺชยฺยํ, ปุญฺญานิ จ กเรยฺย’’นฺติฯ อถ โข ภควา อายสฺมโต โสณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย เอวเมว – คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเต อนฺตรหิโต สีตวเน ปาตุรโหสิฯ อถ โข ภควา สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑโนฺต เยนายสฺมโต โสณสฺส จงฺกโม เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข ภควา อายสฺมโต โสณสฺส จงฺกมํ โลหิเตน ผุฎํ, ทิสฺวาน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘กสฺส นฺวายํ, ภิกฺขเว, จงฺกโม โลหิเตน ผุโฎ, เสยฺยถาปิ ควาฆาตน’’นฺติ? ‘‘อายสฺมโต, ภเนฺต, โสณสฺส อจฺจารทฺธวีริยสฺส จงฺกมโต ปาทา ภิชฺชิํสุฯ ตสฺสายํ จงฺกโม โลหิเตน ผุโฎ, เสยฺยถาปิ ควาฆาตน’’นฺติฯ
243. Atha kho soṇassa koḷivisassa etadahosi ‘‘yathā yathā kho ahaṃ bhagavatā dhammaṃ desitaṃ ājānāmi, nayidaṃ sukaraṃ agāraṃ ajjhāvasatā ekantaparipuṇṇaṃ ekantaparisuddhaṃ saṅkhalikhitaṃ brahmacariyaṃ carituṃ; yaṃnūnāhaṃ kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajeyya’’nti. Atha kho tāni asīti gāmikasahassāni bhagavato bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkamisuṃ. Atha kho soṇo koḷiviso acirapakkantesu tesu asītiyā gāmikasahassesu yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho soṇo koḷiviso bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘yathā yathāhaṃ, bhante, bhagavatā dhammaṃ desitaṃ ājānāmi, nayidaṃ sukaraṃ agāraṃ ajjhāvasatā ekantaparipuṇṇaṃ ekantaparisuddhaṃ saṅkhalikhitaṃ brahmacariyaṃ carituṃ. Icchāmahaṃ, bhante, kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajituṃ. Pabbājetu maṃ, bhante, bhagavā’’ti. Alattha kho soṇo koḷiviso bhagavato santike pabbajjaṃ, alattha upasampadaṃ. Acirupasampanno ca panāyasmā soṇo sītavane viharati. Tassa accāraddhavīriyassa caṅkamato pādā bhijjiṃsu. Caṅkamo lohitena phuṭo hoti, seyyathāpi gavāghātanaṃ. 6 Atha kho āyasmato soṇassa rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘‘ye kho keci bhagavato sāvakā āraddhavīriyā viharanti, ahaṃ tesaṃ aññataro. Atha ca pana me nānupādāya āsavehi cittaṃ vimuccati. Saṃvijjanti kho pana me kule bhogā; sakkā bhoge ca bhuñjituṃ, puññāni ca kātuṃ. Yaṃnūnāhaṃ hīnāyāvattitvā bhoge ca bhuñjeyyaṃ, puññāni ca kareyya’’nti. Atha kho bhagavā āyasmato soṇassa cetasā cetoparivitakkamaññāya – seyyathāpi nāma balavā puriso samiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya evameva – gijjhakūṭe pabbate antarahito sītavane pāturahosi. Atha kho bhagavā sambahulehi bhikkhūhi saddhiṃ senāsanacārikaṃ āhiṇḍanto yenāyasmato soṇassa caṅkamo tenupasaṅkami. Addasā kho bhagavā āyasmato soṇassa caṅkamaṃ lohitena phuṭaṃ, disvāna bhikkhū āmantesi – ‘‘kassa nvāyaṃ, bhikkhave, caṅkamo lohitena phuṭo, seyyathāpi gavāghātana’’nti? ‘‘Āyasmato, bhante, soṇassa accāraddhavīriyassa caṅkamato pādā bhijjiṃsu. Tassāyaṃ caṅkamo lohitena phuṭo, seyyathāpi gavāghātana’’nti.
อถ โข ภควา เยนายสฺมโต โสณสฺส วิหาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อายสฺมาปิ โข โสโณ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ โสณํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘นนุ เต, โสณ, รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘เย โข เกจิ ภควโต สาวกา อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ, อหํ เตสํ อญฺญตโรฯ อถ จ ปน เม นานุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม กุเล โภคา; สกฺกา โภเค จ ภุญฺชิตุํ, ปุญฺญานิ จ กาตุํฯ ยํนูนาหํ หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุเญฺชยฺยํ, ปุญฺญานิ จ กเรยฺย’’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ ฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, โสณ, กุสโล ตฺวํ ปุเพฺพ อคาริกภูโต วีณาย ตนฺติสฺสเร’’ติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, โสณ, ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อจฺจายตา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมิํ สมเย สรวตี วา โหติ, กมฺมญฺญา วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, โสณ, ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อติสิถิลา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมิํ สมเย สรวตี วา โหติ, กมฺมญฺญา วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, โสณ, ยทา เต วีณาย ตนฺติโย เนว อจฺจายตา โหนฺติ นาติสิถิลา, สเม คุเณ ปติฎฺฐิตา, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมิํ สมเย สรวตี วา โหติ, กมฺมญฺญา วา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, โสณ, อจฺจารทฺธวีริยํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺตติ , อติลีนวีริยํ โกสชฺชาย สํวตฺตติฯ ตสฺมาติห ตฺวํ, โสณ, วีริยสมตํ อธิฎฺฐห, อินฺทฺริยานญฺจ สมตํ ปฎิวิชฺฌ, ตตฺถ จ นิมิตฺตํ คณฺหาหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา โสโณ ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ โสณํ อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมฺมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย เอวเมว – สีตวเน อายสฺมโต โสณสฺส สมฺมุเข อนฺตรหิโต คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเต ปาตุรโหสิฯ อถ โข อายสฺมา โสโณ อปเรน สมเยน วีริยสมตํ อธิฎฺฐาสิ, อินฺทฺริยานญฺจ สมตํ ปฎิวิชฺฌิ, ตตฺถ จ นิมิตฺตํ อคฺคเหสิฯ อถ โข อายสฺมา โสโณ, เอโก วูปกโฎฺฐ อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหรโนฺต, น จิรเสฺสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ – ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิฯ ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อภิญฺญาสิฯ อญฺญตโร จ ปนายสฺมา โสโณ อรหตํ อโหสิฯ
Atha kho bhagavā yenāyasmato soṇassa vihāro tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Āyasmāpi kho soṇo bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho āyasmantaṃ soṇaṃ bhagavā etadavoca – ‘‘nanu te, soṇa, rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘ye kho keci bhagavato sāvakā āraddhavīriyā viharanti, ahaṃ tesaṃ aññataro. Atha ca pana me nānupādāya āsavehi cittaṃ vimuccati. Saṃvijjanti kho pana me kule bhogā; sakkā bhoge ca bhuñjituṃ, puññāni ca kātuṃ. Yaṃnūnāhaṃ hīnāyāvattitvā bhoge ca bhuñjeyyaṃ, puññāni ca kareyya’’’nti? ‘‘Evaṃ, bhante’’ti . ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, soṇa, kusalo tvaṃ pubbe agārikabhūto vīṇāya tantissare’’ti? ‘‘Evaṃ, bhante’’ti. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, soṇa, yadā te vīṇāya tantiyo accāyatā honti, api nu te vīṇā tasmiṃ samaye saravatī vā hoti, kammaññā vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’ti. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, soṇa, yadā te vīṇāya tantiyo atisithilā honti, api nu te vīṇā tasmiṃ samaye saravatī vā hoti, kammaññā vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’ti. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, soṇa, yadā te vīṇāya tantiyo neva accāyatā honti nātisithilā, same guṇe patiṭṭhitā, api nu te vīṇā tasmiṃ samaye saravatī vā hoti, kammaññā vā’’ti? ‘‘Evaṃ, bhante’’ti. ‘‘Evameva kho, soṇa, accāraddhavīriyaṃ uddhaccāya saṃvattati , atilīnavīriyaṃ kosajjāya saṃvattati. Tasmātiha tvaṃ, soṇa, vīriyasamataṃ adhiṭṭhaha, indriyānañca samataṃ paṭivijjha, tattha ca nimittaṃ gaṇhāhī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā soṇo bhagavato paccassosi. Atha kho bhagavā āyasmantaṃ soṇaṃ iminā ovādena ovaditvā – seyyathāpi nāma balavā puriso sammiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya evameva – sītavane āyasmato soṇassa sammukhe antarahito gijjhakūṭe pabbate pāturahosi. Atha kho āyasmā soṇo aparena samayena vīriyasamataṃ adhiṭṭhāsi, indriyānañca samataṃ paṭivijjhi, tattha ca nimittaṃ aggahesi. Atha kho āyasmā soṇo, eko vūpakaṭṭho appamatto ātāpī pahitatto viharanto, na cirasseva – yassatthāya kulaputtā sammadeva agārasmā anagāriyaṃ pabbajanti – tadanuttaraṃ brahmacariyapariyosānaṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja vihāsi. ‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyā’ti abhiññāsi. Aññataro ca panāyasmā soṇo arahataṃ ahosi.
๒๔๔. อถ โข อายสฺมโต โสณสฺส อรหตฺตปฺปตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ภควโต สนฺติเก อญฺญํ พฺยากเรยฺย’’นฺติฯ อถ โข อายสฺมา โสโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา โสโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – โย โส, ภเนฺต, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสโญฺญชโน สมฺมทญฺญา วิมุโตฺต, โส ฉฎฺฐานานิ อธิมุโตฺต โหติ – เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต โหติ, ปวิเวกาธิมุโตฺต โหติ, อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต โหติ, อุปาทานกฺขยาธิมุโตฺต โหติ, ตณฺหกฺขยาธิมุโตฺต โหติ , อสโมฺมหาธิมุโตฺต โหติฯ
244. Atha kho āyasmato soṇassa arahattappattassa etadahosi – ‘‘yaṃnūnāhaṃ bhagavato santike aññaṃ byākareyya’’nti. Atha kho āyasmā soṇo yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā soṇo bhagavantaṃ etadavoca – yo so, bhante, bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaññojano sammadaññā vimutto, so chaṭṭhānāni adhimutto hoti – nekkhammādhimutto hoti, pavivekādhimutto hoti, abyāpajjādhimutto hoti, upādānakkhayādhimutto hoti, taṇhakkhayādhimutto hoti , asammohādhimutto hoti.
‘‘สิยา โข ปน, ภเนฺต, อิเธกจฺจสฺส อายสฺมโต เอวมสฺส – ‘เกวลํ สทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา นิสฺสาย เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต’ติ, น โข ปเนตํ, ภเนฺต, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ขีณาสโว, ภเนฺต, ภิกฺขุ, วุสิตวา, กตกรณีโย, กรณียมตฺตานํ อสมนุปสฺสโนฺต กตสฺส วา ปฎิจยํ ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต โหติฯ
‘‘Siyā kho pana, bhante, idhekaccassa āyasmato evamassa – ‘kevalaṃ saddhāmattakaṃ nūna ayamāyasmā nissāya nekkhammādhimutto’ti, na kho panetaṃ, bhante, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Khīṇāsavo, bhante, bhikkhu, vusitavā, katakaraṇīyo, karaṇīyamattānaṃ asamanupassanto katassa vā paṭicayaṃ khayā rāgassa vītarāgattā nekkhammādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā nekkhammādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā nekkhammādhimutto hoti.
‘‘สิยา โข ปน, ภเนฺต, อิเธกจฺจสฺส อายสฺมโต เอวมสฺส – ‘ลาภสกฺการสิโลกํ นูน อยมายสฺมา นิกามยมาโน ปวิเวกาธิมุโตฺต’ติฯ น โข ปเนตํ, ภเนฺต, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ขีณาสโว, ภเนฺต, ภิกฺขุ, วุสิตวา, กตกรณีโย, กรณียมตฺตานํ 7 อสมนุปสฺสโนฺต กตสฺส วา ปฎิจยํ, ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา ปวิเวกาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา ปวิเวกาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา ปวิเวกาธิมุโตฺต โหติฯ
‘‘Siyā kho pana, bhante, idhekaccassa āyasmato evamassa – ‘lābhasakkārasilokaṃ nūna ayamāyasmā nikāmayamāno pavivekādhimutto’ti. Na kho panetaṃ, bhante, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Khīṇāsavo, bhante, bhikkhu, vusitavā, katakaraṇīyo, karaṇīyamattānaṃ 8 asamanupassanto katassa vā paṭicayaṃ, khayā rāgassa vītarāgattā pavivekādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā pavivekādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā pavivekādhimutto hoti.
‘‘สิยา โข ปน, ภเนฺต, อิเธกจฺจสฺส อายสฺมโต เอวมสฺส – ‘สีลพฺพตปรามาสํ นูน อยมายสฺมา สารโต ปจฺจาคจฺฉโนฺต อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต’ติฯ น โข ปเนตํ, ภเนฺต, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ขีณาสโว, ภเนฺต, ภิกฺขุ, วุสิตวา, กตกรณีโย, กรณียมตฺตานํ อสมนุปสฺสโนฺต กตสฺส วา ปฎิจยํ, ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต โหติฯ
‘‘Siyā kho pana, bhante, idhekaccassa āyasmato evamassa – ‘sīlabbataparāmāsaṃ nūna ayamāyasmā sārato paccāgacchanto abyāpajjādhimutto’ti. Na kho panetaṃ, bhante, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Khīṇāsavo, bhante, bhikkhu, vusitavā, katakaraṇīyo, karaṇīyamattānaṃ asamanupassanto katassa vā paṭicayaṃ, khayā rāgassa vītarāgattā abyāpajjādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā abyāpajjādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā abyāpajjādhimutto hoti.
‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา อุปาทานกฺขยาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา อุปาทานกฺขยาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา อุปาทานกฺขยาธิมุโตฺต โหติฯ
‘‘Khayā rāgassa vītarāgattā upādānakkhayādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā upādānakkhayādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā upādānakkhayādhimutto hoti.
‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา ตณฺหกฺขยาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา ตณฺหกฺขยาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา ตณฺหกฺขยาธิมุโตฺต โหติฯ
‘‘Khayā rāgassa vītarāgattā taṇhakkhayādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā taṇhakkhayādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā taṇhakkhayādhimutto hoti.
‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา อสโมฺมหาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา อสโมฺมหาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา อสโมฺมหาธิมุโตฺต โหติฯ
‘‘Khayā rāgassa vītarāgattā asammohādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā asammohādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā asammohādhimutto hoti.
‘‘เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส, ภเนฺต, ภิกฺขุโน ภุสา เจปิ จกฺขุวิเญฺญยฺยา รูปา จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติฯ อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ, ฐิตํ, อาเนญฺชปฺปตฺตํ, วยญฺจสฺสานุปสฺสติฯ ภุสา เจปิ โสตวิเญฺญยฺยา สทฺทา…เป.… ฆานวิเญฺญยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิเญฺญยฺยา รสา… กายวิเญฺญยฺยา โผฎฺฐพฺพา… มโนวิเญฺญยฺยา ธมฺมา มนสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ; อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ, ฐิตํ, อาเนญฺชปฺปตฺตํ, วยญฺจสฺสานุปสฺสติฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, เสโล ปพฺพโต อจฺฉิโทฺท อสุสิโร เอกคฺฆโน, ปุรตฺถิมาย เจปิ ทิสาย อาคเจฺฉยฺย ภุสา วาตวุฎฺฐิ, เนว นํ สงฺกเมฺปยฺย น สมฺปกเมฺปยฺย น สมฺปเวเธยฺย; ปจฺฉิมาย เจปิ ทิสาย อาคเจฺฉยฺย ภุสา วาตวุฎฺฐิ…เป.… อุตฺตราย เจปิ ทิสาย…เป.… ทกฺขิณาย เจปิ ทิสาย อาคเจฺฉยฺย ภุสา วาตวุฎฺฐิ, เนว นํ สงฺกเมฺปยฺย น สมฺปกเมฺปยฺย น สมฺปเวเธยฺย, เอวเมว โข, ภเนฺต, เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน ภุสา เจปิ จกฺขุวิเญฺญยฺยา รูปา จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ; อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ, ฐิตํ, อาเนญฺชปฺปตฺตํ, วยญฺจสฺสานุปสฺสติฯ ภุสา เจปิ โสตวิเญฺญยฺยา สทฺทา…เป.… ฆานวิเญฺญยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิเญฺญยฺยา รสา… กายวิเญฺญยฺยา โผฎฺฐพฺพา… มโนวิเญฺญยฺยา ธมฺมา มนสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติ; อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ, ฐิตํ, อาเนญฺชปฺปตฺตํ, วยญฺจสฺสานุปสฺสตี’’ติฯ
‘‘Evaṃ sammā vimuttacittassa, bhante, bhikkhuno bhusā cepi cakkhuviññeyyā rūpā cakkhussa āpāthaṃ āgacchanti, nevassa cittaṃ pariyādiyanti. Amissīkatamevassa cittaṃ hoti, ṭhitaṃ, āneñjappattaṃ, vayañcassānupassati. Bhusā cepi sotaviññeyyā saddā…pe… ghānaviññeyyā gandhā… jivhāviññeyyā rasā… kāyaviññeyyā phoṭṭhabbā… manoviññeyyā dhammā manassa āpāthaṃ āgacchanti, nevassa cittaṃ pariyādiyanti; amissīkatamevassa cittaṃ hoti, ṭhitaṃ, āneñjappattaṃ, vayañcassānupassati. Seyyathāpi, bhante, selo pabbato acchiddo asusiro ekagghano, puratthimāya cepi disāya āgaccheyya bhusā vātavuṭṭhi, neva naṃ saṅkampeyya na sampakampeyya na sampavedheyya; pacchimāya cepi disāya āgaccheyya bhusā vātavuṭṭhi…pe… uttarāya cepi disāya…pe… dakkhiṇāya cepi disāya āgaccheyya bhusā vātavuṭṭhi, neva naṃ saṅkampeyya na sampakampeyya na sampavedheyya, evameva kho, bhante, evaṃ sammā vimuttacittassa bhikkhuno bhusā cepi cakkhuviññeyyā rūpā cakkhussa āpāthaṃ āgacchanti, nevassa cittaṃ pariyādiyanti; amissīkatamevassa cittaṃ hoti, ṭhitaṃ, āneñjappattaṃ, vayañcassānupassati. Bhusā cepi sotaviññeyyā saddā…pe… ghānaviññeyyā gandhā… jivhāviññeyyā rasā… kāyaviññeyyā phoṭṭhabbā… manoviññeyyā dhammā manassa āpāthaṃ āgacchanti, nevassa cittaṃ pariyādiyanti; amissīkatamevassa cittaṃ hoti, ṭhitaṃ, āneñjappattaṃ, vayañcassānupassatī’’ti.
เนกฺขมฺมํ อธิมุตฺตสฺส, ปวิเวกญฺจ เจตโส;
Nekkhammaṃ adhimuttassa, pavivekañca cetaso;
อพฺยาปชฺชาธิมุตฺตสฺส, อุปาทานกฺขยสฺส จฯ
Abyāpajjādhimuttassa, upādānakkhayassa ca.
ตณฺหกฺขยาธิมุตฺตสฺส , อสโมฺมหญฺจ เจตโส;
Taṇhakkhayādhimuttassa , asammohañca cetaso;
ทิสฺวา อายตนุปฺปาทํ, สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ
Disvā āyatanuppādaṃ, sammā cittaṃ vimuccati.
ตสฺส สมฺมาวิมุตฺตสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;
Tassa sammāvimuttassa, santacittassa bhikkhuno;
กตสฺส ปฎิจโย นตฺถิ, กรณียํ น วิชฺชติฯ
Katassa paṭicayo natthi, karaṇīyaṃ na vijjati.
เสโล ยถา เอกคฺฆโน, วาเตน น สมีรติ;
Selo yathā ekagghano, vātena na samīrati;
เอวํ รูปา รสา สทฺทา, คนฺธา ผสฺสา จ เกวลาฯ
Evaṃ rūpā rasā saddā, gandhā phassā ca kevalā.
อิฎฺฐา ธมฺมา อนิฎฺฐา จ, น ปเวเธนฺติ ตาทิโน;
Iṭṭhā dhammā aniṭṭhā ca, na pavedhenti tādino;
ฐิตํ จิตฺตํ วิปฺปมุตฺตํ, วยญฺจสฺสานุปสฺสตีติฯ
Ṭhitaṃ cittaṃ vippamuttaṃ, vayañcassānupassatīti.
โสณโกฬิวิสวตฺถุ นิฎฺฐิตํฯ
Soṇakoḷivisavatthu niṭṭhitaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā
โสณโกฬิวิสวตฺถุกถา • Soṇakoḷivisavatthukathā
โสณสฺส ปพฺพชฺชากถา • Soṇassa pabbajjākathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
โสณโกฬิวิสวตฺถุกถาวณฺณนา • Soṇakoḷivisavatthukathāvaṇṇanā
โสณสฺส ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา • Soṇassa pabbajjākathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā
โสณโกฬิวิสวตฺถุกถาวณฺณนา • Soṇakoḷivisavatthukathāvaṇṇanā
โสณสฺสปพฺพชฺชากถาวณฺณนา • Soṇassapabbajjākathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / โสณโกฬิวิสกถาทิวณฺณนา • Soṇakoḷivisakathādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๔๗. โสณโกฬิวิสวตฺถุกถา • 147. Soṇakoḷivisavatthukathā