Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā |
๓๙. อวฎผลวโคฺค
39. Avaṭaphalavaggo
๙. โสณโกฎิวีสเตฺถรอปทานวณฺณนา
9. Soṇakoṭivīsattheraapadānavaṇṇanā
นวมาปทาเน ปน วิปสฺสิโน ปาวจเนติอาทิกํ อายสฺมโต โสณสฺส โกฎิวีสเตฺถรสฺส อปทานํฯ อยมฺปิ เถโร ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยานิ ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล มหาวิภเว เสฎฺฐิกุเล นิพฺพโตฺต วุทฺธิปฺปโตฺต เสฎฺฐิ หุตฺวา อุปาสเกหิ สทฺธิํ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺนมานโส ภควโต จงฺกมนฎฺฐาเน สุธาย ปริกมฺมํ กาเรตฺวา เอกญฺจ เลณํ กาเรตฺวา นานาวิราควเตฺถหิ เลณภูมิยา สนฺถริตฺวา อุปริ วิตานญฺจ กตฺวา จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส นิยฺยาเทตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ทตฺวา ปณิธานํ อกาสิฯ สตฺถา อนุโมทนํ อกาสิฯ โส เตน กุสลกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อุภยสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา อิมสฺมิํ กเปฺป ปรินิพฺพุเต กสฺสปทสพเล อนุปฺปเนฺน อมฺหากํ ภควติ พาราณสิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต คงฺคาตีเร ปณฺณสาลํ กริตฺวา วสนฺตํ เอกํ ปเจฺจกพุทฺธํ เตมาสํ จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฎฺฐหิฯ ปเจฺจกพุโทฺธ วุฎฺฐวโสฺส ปริปุณฺณปริกฺขาโร คนฺธมาทนเมว อคมาสิฯ โสปิ กุลปุโตฺต ยาวชีวํ ตตฺถ ปุญฺญานิ กตฺวา ตโต จวิตฺวา เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อมฺหากํ ภควโต กาเล จมฺปานคเร อคฺคเสฎฺฐิสฺส เคเห ปฎิสนฺธิํ คณฺหิฯ ตสฺส ปฎิสนฺธิคฺคหณกาลโต ปฎฺฐาย เสฎฺฐิสฺส มหาโภคกฺขโนฺธ อภิวฑฺฒิฯ ตสฺส มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนทิวเส สกลนคเร มหาลาภสกฺการสมฺมาโน อโหสิ, ตสฺส ปุเพฺพ ปเจฺจกพุทฺธสฺส สตสหสฺสคฺฆนิกรตฺตกมฺพลปริจฺจาเคน สุวณฺณวโณฺณ สุขุมาลตโร จ อตฺตภาโว อโหสิ, เตนสฺส โสโณติ นามํ อกํสุฯ โส มหตา ปริวาเรน อภิวฑฺฒิฯ ตสฺส หตฺถปาทตลานิ พนฺธุชีวกปุปฺผวณฺณานิ อเหสุํ, เตสํ สตวารํ วิหตกปฺปาสํ วิย มุทุสมฺผโสฺส อโหสิฯ ปาทตเลสุ มณิกุณฺฑลาวฎฺฎวณฺณโลมานิ ชายิํสุฯ วยปฺปตฺตสฺส ตสฺส ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเก ตโย ปาสาเท การาเปตฺวา นาฎกิตฺถิโย อุปฎฺฐาเปสุํฯ โส ตตฺถ มหติํ สมฺปตฺติํ อนุภวโนฺต เทวกุมาโร วิย ปฎิวสติฯ
Navamāpadāne pana vipassino pāvacanetiādikaṃ āyasmato soṇassa koṭivīsattherassa apadānaṃ. Ayampi thero purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayāni puññāni upacinanto vipassissa bhagavato kāle mahāvibhave seṭṭhikule nibbatto vuddhippatto seṭṭhi hutvā upāsakehi saddhiṃ vihāraṃ gantvā satthu dhammadesanaṃ sutvā pasannamānaso bhagavato caṅkamanaṭṭhāne sudhāya parikammaṃ kāretvā ekañca leṇaṃ kāretvā nānāvirāgavatthehi leṇabhūmiyā santharitvā upari vitānañca katvā cātuddisassa saṅghassa niyyādetvā sattāhaṃ mahādānaṃ datvā paṇidhānaṃ akāsi. Satthā anumodanaṃ akāsi. So tena kusalakammena devamanussesu saṃsaranto ubhayasampattiyo anubhavitvā imasmiṃ kappe parinibbute kassapadasabale anuppanne amhākaṃ bhagavati bārāṇasiyaṃ kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto gaṅgātīre paṇṇasālaṃ karitvā vasantaṃ ekaṃ paccekabuddhaṃ temāsaṃ catūhi paccayehi sakkaccaṃ upaṭṭhahi. Paccekabuddho vuṭṭhavasso paripuṇṇaparikkhāro gandhamādanameva agamāsi. Sopi kulaputto yāvajīvaṃ tattha puññāni katvā tato cavitvā devamanussesu saṃsaranto amhākaṃ bhagavato kāle campānagare aggaseṭṭhissa gehe paṭisandhiṃ gaṇhi. Tassa paṭisandhiggahaṇakālato paṭṭhāya seṭṭhissa mahābhogakkhandho abhivaḍḍhi. Tassa mātukucchito nikkhamanadivase sakalanagare mahālābhasakkārasammāno ahosi, tassa pubbe paccekabuddhassa satasahassagghanikarattakambalapariccāgena suvaṇṇavaṇṇo sukhumālataro ca attabhāvo ahosi, tenassa soṇoti nāmaṃ akaṃsu. So mahatā parivārena abhivaḍḍhi. Tassa hatthapādatalāni bandhujīvakapupphavaṇṇāni ahesuṃ, tesaṃ satavāraṃ vihatakappāsaṃ viya mudusamphasso ahosi. Pādatalesu maṇikuṇḍalāvaṭṭavaṇṇalomāni jāyiṃsu. Vayappattassa tassa tiṇṇaṃ utūnaṃ anucchavike tayo pāsāde kārāpetvā nāṭakitthiyo upaṭṭhāpesuṃ. So tattha mahatiṃ sampattiṃ anubhavanto devakumāro viya paṭivasati.
อถ อมฺหากํ ภควติ สพฺพญฺญุตํ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจเกฺก ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรเนฺต พิมฺพิสารรญฺญา ปโกฺกสาปิโต เตหิ อสีติยา คามิกสหเสฺสหิ สทฺธิํ ราชคหํ อาคโต สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา ชนสํสคฺคปริหรณตฺถํ สีตวเน วิหาสิฯ โส ตตฺถ วสโนฺต ‘‘มม สรีรํ สุขุมาลํ, น จ สกฺกา สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตุํ, กายํ กิลเมตฺวาปิ สมณธมฺมํ กาตุํ วฎฺฎตี’’ติ จิเนฺตตฺวา ฐานจงฺกมเมว อธิฎฺฐาย ปธานมนุยุญฺชโนฺต ปาทตเลสุ โผเฎสุ อุฎฺฐิเตสุปิ เวทนํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ทฬฺหํ วีริยํ กโรโนฺต อจฺจารทฺธวีริยตาย วิเสสํ นิพฺพเตฺตตุํ อสโกฺกโนฺต ‘‘เอวํ อหํ วายมโนฺตปิ มคฺคผลานิ นิพฺพเตฺตตุํ น สโกฺกมิ, กิํ เม ปพฺพชฺชาย, หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุญฺชามิ, ปุญฺญานิ จ กริสฺสามี’’ติ จิเนฺตสิฯ อถ สตฺถา ตสฺส จิตฺตาจารํ ญตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา วีโณปโมวาเทน (มหาว. ๒๔๓) โอวทิตฺวา วีริยสมตาโยชนวิธิํ ทเสฺสโนฺต กมฺมฎฺฐานํ โสเธตฺวา คิชฺฌกูฎํ คโตฯ โสโณปิ โข สตฺถุ สนฺติกา โอวาทํ ลภิตฺวา วีริยสมตํ โยเชตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหเตฺต ปติฎฺฐาสิฯ
Atha amhākaṃ bhagavati sabbaññutaṃ patvā pavattitavaradhammacakke rājagahaṃ upanissāya viharante bimbisāraraññā pakkosāpito tehi asītiyā gāmikasahassehi saddhiṃ rājagahaṃ āgato satthu santikaṃ gantvā dhammaṃ sutvā paṭiladdhasaddho mātāpitaro anujānāpetvā bhagavato santike pabbajitvā laddhūpasampado satthu santike kammaṭṭhānaṃ gahetvā janasaṃsaggapariharaṇatthaṃ sītavane vihāsi. So tattha vasanto ‘‘mama sarīraṃ sukhumālaṃ, na ca sakkā sukheneva sukhaṃ adhigantuṃ, kāyaṃ kilametvāpi samaṇadhammaṃ kātuṃ vaṭṭatī’’ti cintetvā ṭhānacaṅkamameva adhiṭṭhāya padhānamanuyuñjanto pādatalesu phoṭesu uṭṭhitesupi vedanaṃ ajjhupekkhitvā daḷhaṃ vīriyaṃ karonto accāraddhavīriyatāya visesaṃ nibbattetuṃ asakkonto ‘‘evaṃ ahaṃ vāyamantopi maggaphalāni nibbattetuṃ na sakkomi, kiṃ me pabbajjāya, hīnāyāvattitvā bhoge ca bhuñjāmi, puññāni ca karissāmī’’ti cintesi. Atha satthā tassa cittācāraṃ ñatvā tattha gantvā vīṇopamovādena (mahāva. 243) ovaditvā vīriyasamatāyojanavidhiṃ dassento kammaṭṭhānaṃ sodhetvā gijjhakūṭaṃ gato. Soṇopi kho satthu santikā ovādaṃ labhitvā vīriyasamataṃ yojetvā vipassanaṃ ussukkāpetvā arahatte patiṭṭhāsi.
๔๙. โส อรหา หุตฺวา อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสโนฺต วิปสฺสิโน ปาวจเนติอาทิมาหฯ ตตฺถ วิปสฺสีติ วิเสเสน, วิวิธํ วา ปสฺสตีติ วิปสฺสีฯ ปาวจเนติ ปกาเรน วุจฺจตีติ ปาวจนํ, ปิฎกตฺตยํฯ ตสฺส วิปสฺสิโน ตสฺมิํ ปาวจเนติ อโตฺถฯ เลณนฺติ ลินเนฺต นิลียเนฺต เอตฺถาติ เลณํ วิหารํฯ พนฺธุมาราชธานิยาติ พนฺธนฺติ กุลปรมฺปราย วเสน อญฺญมญฺญํ สมฺพชฺฌนฺตีติ พนฺธู, ญาตกาฯ เต เอตฺถ ปฎิวสนฺตีติ พนฺธุมา, พนฺธุ อสฺส อตฺถีติ วา พนฺธุมาฯ ราชูนํ วสนฎฺฐานนฺติ ราชธานี, พนฺธุมา จ สา ราชธานี เจติ พนฺธุมาราชธานี, ตสฺสา พนฺธุมาราชธานิยา, เลณํ มยา กตนฺติ สมฺพโนฺธฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
49. So arahā hutvā attano pubbakammaṃ saritvā somanassajāto pubbacaritāpadānaṃ pakāsento vipassino pāvacanetiādimāha. Tattha vipassīti visesena, vividhaṃ vā passatīti vipassī. Pāvacaneti pakārena vuccatīti pāvacanaṃ, piṭakattayaṃ. Tassa vipassino tasmiṃ pāvacaneti attho. Leṇanti linante nilīyante etthāti leṇaṃ vihāraṃ. Bandhumārājadhāniyāti bandhanti kulaparamparāya vasena aññamaññaṃ sambajjhantīti bandhū, ñātakā. Te ettha paṭivasantīti bandhumā, bandhu assa atthīti vā bandhumā. Rājūnaṃ vasanaṭṭhānanti rājadhānī, bandhumā ca sā rājadhānī ceti bandhumārājadhānī, tassā bandhumārājadhāniyā, leṇaṃ mayā katanti sambandho. Sesamettha uttānatthamevāti.
โสณโกฎิวีสเตฺถรอปทานวณฺณนา สมตฺตาฯ
Soṇakoṭivīsattheraapadānavaṇṇanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi / ๙. โสณโกฎิวีสเตฺถรอปทานํ • 9. Soṇakoṭivīsattheraapadānaṃ