Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā

    โสณสฺส ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา

    Soṇassa pabbajjākathāvaṇṇanā

    ๒๔๓. สุตฺตโตฺถ ปน สุตฺตวณฺณนาโตเยว คเหตโพฺพติ เอตฺถายํ สุตฺตวณฺณนาฯ สีตวเนติ (อ. นิ. อฎฺฐ. ๓.๖.๕๕) เอวํนามเก วเนฯ ตสฺมิํ กิร ปฎิปาฎิยา ปญฺจ จงฺกมนสตานิ มาปิตานิ, เตสุ เถโร อตฺตโน สปฺปายํ จงฺกมนํ คเหตฺวา สมณธมฺมํ กโรติฯ ตสฺส อารทฺธวีริยสฺส หุตฺวา จงฺกมโต ปาทตลานิ ภิชฺชิํสุ, ชาณูหิ จงฺกมโต ชาณุกานิปิ หตฺถตลานิปิ ภิชฺชิํสุ, ฉิทฺทานิ อเหสุํฯ เอวํ อารทฺธวีริโย วิหรโนฺต โอภาสนิมิตฺตมตฺตกมฺปิ ทเสฺสตุํ นาสกฺขิฯ ตสฺส วีริเยน กิลมิตกายสฺส จงฺกมนโกฎิยํ ปาสาณผลเก นิสินฺนสฺส โย วิตโกฺก อุทปาทิ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘อถ โข อายสฺมโต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อารทฺธวีริยาติ ปริปุณฺณปคฺคหิตวีริยาฯ น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ ‘‘สเจ อหํ อุคฺฆฎิตญฺญู วา วิปญฺจิตญฺญู วา เนโยฺย วา, น เม จิตฺตํ น วิมุเจฺจยฺย, อทฺธา ปน ปทปรโม, เยน เม จิตฺตํ น มุจฺจตี’’ติ สนฺนิฎฺฐานํ กตฺวา ‘‘สํวิชฺชนฺติ โข ปนา’’ติอาทีนิ จิเนฺตสิฯ ตตฺถ โภคาติ อุปโยคเตฺถ ปจฺจตฺตํฯ

    243. Suttattho pana suttavaṇṇanātoyeva gahetabboti etthāyaṃ suttavaṇṇanā. Sītavaneti (a. ni. aṭṭha. 3.6.55) evaṃnāmake vane. Tasmiṃ kira paṭipāṭiyā pañca caṅkamanasatāni māpitāni, tesu thero attano sappāyaṃ caṅkamanaṃ gahetvā samaṇadhammaṃ karoti. Tassa āraddhavīriyassa hutvā caṅkamato pādatalāni bhijjiṃsu, jāṇūhi caṅkamato jāṇukānipi hatthatalānipi bhijjiṃsu, chiddāni ahesuṃ. Evaṃ āraddhavīriyo viharanto obhāsanimittamattakampi dassetuṃ nāsakkhi. Tassa vīriyena kilamitakāyassa caṅkamanakoṭiyaṃ pāsāṇaphalake nisinnassa yo vitakko udapādi, taṃ dassetuṃ ‘‘atha kho āyasmato’’tiādi vuttaṃ. Tattha āraddhavīriyāti paripuṇṇapaggahitavīriyā. Na anupādāya āsavehi cittaṃ vimuccatīti ‘‘sace ahaṃ ugghaṭitaññū vā vipañcitaññū vā neyyo vā, na me cittaṃ na vimucceyya, addhā pana padaparamo, yena me cittaṃ na muccatī’’ti sanniṭṭhānaṃ katvā ‘‘saṃvijjanti kho panā’’tiādīni cintesi. Tattha bhogāti upayogatthe paccattaṃ.

    ปาตุรโหสีติ เถรสฺส จิตฺตาจารํ ญตฺวา ‘‘อยํ โสโณ อชฺช สีตวเน ปธานภูมิยํ นิสิโนฺน อิมํ วิตกฺกํ วิตเกฺกติ, คนฺตฺวาสฺส วิตกฺกํ สโหฑฺฒํ คณฺหิตฺวา วีโณปมกมฺมฎฺฐานํ กเถสฺสามี’’ติ สีตวเน ปาตุรโหสิฯ ปญฺญเตฺต อาสเนติ ปธานิกภิกฺขู อตฺตโน วสนฎฺฐาเน โอวทิตุํ อาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต นิสีทนตฺถํ ยถาลาเภน อาสนมฺปิ ปญฺญเปตฺวาว ปธานํ กโรนฺติ , อญฺญํ อลภมานา ปุราณปณฺณานิ สงฺฆริตฺวา อุปริ สงฺฆาฎิํ ปญฺญเปนฺติฯ เถโรปิ อาสนํ ปญฺญเปตฺวาว ปธานํ อกาสิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปญฺญเตฺต อาสเน’’ติฯ

    Pāturahosīti therassa cittācāraṃ ñatvā ‘‘ayaṃ soṇo ajja sītavane padhānabhūmiyaṃ nisinno imaṃ vitakkaṃ vitakketi, gantvāssa vitakkaṃ sahoḍḍhaṃ gaṇhitvā vīṇopamakammaṭṭhānaṃ kathessāmī’’ti sītavane pāturahosi. Paññatte āsaneti padhānikabhikkhū attano vasanaṭṭhāne ovadituṃ āgatassa buddhassa bhagavato nisīdanatthaṃ yathālābhena āsanampi paññapetvāva padhānaṃ karonti , aññaṃ alabhamānā purāṇapaṇṇāni saṅgharitvā upari saṅghāṭiṃ paññapenti. Theropi āsanaṃ paññapetvāva padhānaṃ akāsi, taṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘paññatte āsane’’ti.

    ตํ กิํ มญฺญสีติ สตฺถา ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน อวเสสกมฺมฎฺฐาเนน อโตฺถ นตฺถิ, อยํ คนฺธพฺพสิเปฺป เฉโก จิณฺณวสี, อตฺตโน วิสเย กถิยมาเน ขิปฺปเมว สลฺลเกฺขสฺสตี’’ติ วีโณปมํ กเถตุํ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสี’’ติอาทิมาหฯ วีณาย ตนฺติสฺสเร กุสลตา นาม วีณาย วาทนกุสลตา, โส จ ตตฺถ กุสโลฯ มาตาปิตโร หิสฺส ‘‘อมฺหากํ ปุโตฺต อญฺญํ สิปฺปํ สิกฺขโนฺต กาเยน กิลมิสฺสติ, อิทํ ปน อาสเน นิสิเนฺนเนว สกฺกา อุคฺคณฺหิตุ’’นฺติ คนฺธพฺพสิปฺปเมว อุคฺคณฺหาเปสุํฯ ตสฺส –

    Taṃkiṃ maññasīti satthā ‘‘imassa bhikkhuno avasesakammaṭṭhānena attho natthi, ayaṃ gandhabbasippe cheko ciṇṇavasī, attano visaye kathiyamāne khippameva sallakkhessatī’’ti vīṇopamaṃ kathetuṃ ‘‘taṃ kiṃ maññasī’’tiādimāha. Vīṇāya tantissare kusalatā nāma vīṇāya vādanakusalatā, so ca tattha kusalo. Mātāpitaro hissa ‘‘amhākaṃ putto aññaṃ sippaṃ sikkhanto kāyena kilamissati, idaṃ pana āsane nisinneneva sakkā uggaṇhitu’’nti gandhabbasippameva uggaṇhāpesuṃ. Tassa –

    ‘‘สตฺต สรา ตโย คามา, มุจฺฉนา เอกวีสติ;

    ‘‘Satta sarā tayo gāmā, mucchanā ekavīsati;

    ฐานา เอกูนปญฺญาส, อิเจฺจเต สรมณฺฑลา’’ติฯ –

    Ṭhānā ekūnapaññāsa, iccete saramaṇḍalā’’ti. –

    อาทิกํ คนฺธพฺพสิปฺปํ สพฺพเมว ปคุณํ อโหสิฯ อจฺจายตาติ อติอายตา ขรมุจฺฉนาฯ สรวตีติ สรสมฺปนฺนาฯ กมฺมญฺญาติ กมฺมกฺขมา กมฺมโยคฺคาฯ อติสิถิลาติ มนฺทมุจฺฉนาฯ สเม คุเณ ปติฎฺฐิตาติ มชฺฌิเม สเร ฐเปตฺวา มุจฺฉิตาฯ

    Ādikaṃ gandhabbasippaṃ sabbameva paguṇaṃ ahosi. Accāyatāti atiāyatā kharamucchanā. Saravatīti sarasampannā. Kammaññāti kammakkhamā kammayoggā. Atisithilāti mandamucchanā. Same guṇe patiṭṭhitāti majjhime sare ṭhapetvā mucchitā.

    อจฺจารทฺธนฺติ อติคาฬฺหํฯ อุทฺธจฺจาย สํวตฺตตีติ อุทฺธตภาวาย สํวตฺตติฯ อติลีนนฺติ อติสิถิลํฯ โกสชฺชายาติ กุสีตภาวตฺถายฯ วีริยสมถํ อธิฎฺฐาหีติ วีริยสมฺปยุตฺตํ สมถํ อธิฎฺฐาหิ, วีริยํ สมเถน โยเชหีติ อโตฺถฯ อินฺทฺริยานญฺจ สมตํ อธิฎฺฐาหีติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมตํ สมภาวํ อธิฎฺฐาหิฯ ตตฺถ สทฺธํ ปญฺญาย, ปญฺญญฺจ สทฺธาย, วีริยํ สมาธินา, สมาธิญฺจ วีริเยน โยชยตา อินฺทฺริยานํ สมตา อธิฎฺฐิตา นาม โหติฯ สติ ปน สพฺพตฺถิกา, สา สทาปิ พลวตีเยว วฎฺฎติฯ ตญฺจ ปน เนสํ โยชนาวิธานํ วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๖๐-๖๒) อาคตนเยน เวทิตพฺพํฯ ตตฺถ จ นิมิตฺตํ คณฺหาหีติ ตสฺมิญฺจ สมภาเว สติ เยน อาทาเส มุขพิเมฺพเนว นิมิเตฺตน อุปฺปชฺชิตพฺพํ, ตํ สมถนิมิตฺตํ วิปสฺสนานิมิตฺตํ มคฺคนิมิตฺตํ ผลนิมิตฺตญฺจ คณฺห นิพฺพเตฺตหีติ เอวมสฺส สตฺถา อรหเตฺต ปกฺขิปิตฺวา กมฺมฎฺฐานํ กเถสิฯ

    Accāraddhanti atigāḷhaṃ. Uddhaccāya saṃvattatīti uddhatabhāvāya saṃvattati. Atilīnanti atisithilaṃ. Kosajjāyāti kusītabhāvatthāya. Vīriyasamathaṃ adhiṭṭhāhīti vīriyasampayuttaṃ samathaṃ adhiṭṭhāhi, vīriyaṃ samathena yojehīti attho. Indriyānañca samataṃ adhiṭṭhāhīti saddhādīnaṃ indriyānaṃ samataṃ samabhāvaṃ adhiṭṭhāhi. Tattha saddhaṃ paññāya, paññañca saddhāya, vīriyaṃ samādhinā, samādhiñca vīriyena yojayatā indriyānaṃ samatā adhiṭṭhitā nāma hoti. Sati pana sabbatthikā, sā sadāpi balavatīyeva vaṭṭati. Tañca pana nesaṃ yojanāvidhānaṃ visuddhimagge (visuddhi. 1.60-62) āgatanayena veditabbaṃ. Tattha ca nimittaṃ gaṇhāhīti tasmiñca samabhāve sati yena ādāse mukhabimbeneva nimittena uppajjitabbaṃ, taṃ samathanimittaṃ vipassanānimittaṃ magganimittaṃ phalanimittañca gaṇha nibbattehīti evamassa satthā arahatte pakkhipitvā kammaṭṭhānaṃ kathesi.

    ตตฺถ จ นิมิตฺตํ อคฺคเหสีติ สมถนิมิตฺตญฺจ วิปสฺสนานิมิตฺตญฺจ อคฺคเหสิฯ เอโกติ อสหาโยฯ วูปกโฎฺฐติ วตฺถุกาเมหิ จ กิเลสกาเมหิ จ กาเยน เจว จิเตฺตน จ วูปกโฎฺฐฯ อปฺปมโตฺตติ กมฺมฎฺฐาเน สติํ อวิชหโนฺตฯ อาตาปีติ กายิกเจตสิกวีริยาตาเปน อาตาโปฯ อาตปฺปติ กิเลเสหีติ อาตาโป, วีริยํฯ ปหิตโตฺตติ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขตาย เปสิตโตฺต วิสฺสฎฺฐอตฺตภาโว, นิพฺพาเน วา เปสิตจิโตฺตฯ น จิรเสฺสวาติ กมฺมฎฺฐานารมฺภโต น จิเรเนวฯ อญฺญตโรติ เอโกฯ อรหตนฺติ ภควโต สาวกานํ อรหนฺตานํ อพฺภนฺตโร เอโก มหาสาวโก อโหสีติ อโตฺถฯ

    Tattha ca nimittaṃ aggahesīti samathanimittañca vipassanānimittañca aggahesi. Ekoti asahāyo. Vūpakaṭṭhoti vatthukāmehi ca kilesakāmehi ca kāyena ceva cittena ca vūpakaṭṭho. Appamattoti kammaṭṭhāne satiṃ avijahanto. Ātāpīti kāyikacetasikavīriyātāpena ātāpo. Ātappati kilesehīti ātāpo, vīriyaṃ. Pahitattoti kāye ca jīvite ca anapekkhatāya pesitatto vissaṭṭhaattabhāvo, nibbāne vā pesitacitto. Na cirassevāti kammaṭṭhānārambhato na cireneva. Aññataroti eko. Arahatanti bhagavato sāvakānaṃ arahantānaṃ abbhantaro eko mahāsāvako ahosīti attho.

    ๒๔๔. วุสิตวาติ วุตฺถพฺรหฺมจริยวาโสฯ กตกรณีโยติ จตูหิ มเคฺคหิ กตฺตพฺพํ กตฺวา ฐิโตฯ โอหิตภาโรติ ขนฺธภารํ กิเลสภารํ อภิสงฺขารภารญฺจ โอตาเรตฺวา ฐิโตฯ อนุปฺปตฺตสทโตฺถติ สทโตฺถ วุจฺจติ อรหตฺตํ, ตํ ปโตฺตติ อโตฺถฯ ปริกฺขีณภวสํโยชโนติ ขีณภวพนฺธโนฯ สมฺมทญฺญา วิมุโตฺตติ สมฺมา เหตุนา การเณน ชานิตฺวา วิมุโตฺตฯ ฉ ฐานานีติ ฉ การณานิฯ อธิมุโตฺต โหตีติ ปฎิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา ฐิโต โหติฯ เนกฺขมฺมาธิมุโตฺตติอาทิ สพฺพํ อรหตฺตวเสน วุตฺตํฯ อรหตฺตญฺหิ สพฺพกิเลเสหิ นิกฺขนฺตตฺตา เนกฺขมฺมํ, เตเหว ปวิวิตฺตตฺตา ปวิเวโก, พฺยาปชฺชาภาวโต อพฺยาปชฺชํ, อุปาทานสฺส ขยเนฺต อุปฺปนฺนตฺตา อุปาทานกฺขโย, ตณฺหาย ขยเนฺต อุปฺปนฺนตฺตา ตณฺหกฺขโย, สโมฺมหาภาวโต อสโมฺมโหติ จ วุจฺจติฯ

    244.Vusitavāti vutthabrahmacariyavāso. Katakaraṇīyoti catūhi maggehi kattabbaṃ katvā ṭhito. Ohitabhāroti khandhabhāraṃ kilesabhāraṃ abhisaṅkhārabhārañca otāretvā ṭhito. Anuppattasadatthoti sadattho vuccati arahattaṃ, taṃ pattoti attho. Parikkhīṇabhavasaṃyojanoti khīṇabhavabandhano. Sammadaññā vimuttoti sammā hetunā kāraṇena jānitvā vimutto. Cha ṭhānānīti cha kāraṇāni. Adhimutto hotīti paṭivijjhitvā paccakkhaṃ katvā ṭhito hoti. Nekkhammādhimuttotiādi sabbaṃ arahattavasena vuttaṃ. Arahattañhi sabbakilesehi nikkhantattā nekkhammaṃ, teheva pavivittattā paviveko, byāpajjābhāvato abyāpajjaṃ, upādānassa khayante uppannattā upādānakkhayo, taṇhāya khayante uppannattā taṇhakkhayo, sammohābhāvato asammohoti ca vuccati.

    เกวลํ สทฺธามตฺตกนฺติ ปฎิเวธรหิตํ เกวลํ ปฎิเวธปญฺญาย อสมฺมิสฺสํ สทฺธามตฺตกํฯ ปฎิจยนฺติ ปุนปฺปุนํ กรเณน วฑฺฒิํฯ วีตราคตฺตาติ มคฺคปฎิเวเธน ราคสฺส วิหตตฺตาเยว เนกฺขมฺมสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปฎิวิชฺฌิตฺวา สจฺฉิกตฺวา ฐิโต โหติ, ผลสมาปตฺติวิหาเรน วิหรติ, ตนฺนินฺนมานโสเยว โหตีติ อโตฺถฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ

    Kevalaṃ saddhāmattakanti paṭivedharahitaṃ kevalaṃ paṭivedhapaññāya asammissaṃ saddhāmattakaṃ. Paṭicayanti punappunaṃ karaṇena vaḍḍhiṃ. Vītarāgattāti maggapaṭivedhena rāgassa vihatattāyeva nekkhammasaṅkhātaṃ arahattaṃ paṭivijjhitvā sacchikatvā ṭhito hoti, phalasamāpattivihārena viharati, tanninnamānasoyeva hotīti attho. Sesapadesupi eseva nayo.

    ลาภสกฺการสิโลกนฺติ จตุปจฺจยลาภญฺจ เตสํเยว สุกตภาวญฺจ วณฺณภณนญฺจฯ นิกามยมาโนติ อิจฺฉมาโน ปตฺถยมาโนฯ ปวิเวกาธิมุโตฺตติ ‘‘ปวิเวเก อธิมุโตฺต อห’’นฺติ เอวํ อรหตฺตํ พฺยากโรตีติ อโตฺถฯ

    Lābhasakkārasilokanti catupaccayalābhañca tesaṃyeva sukatabhāvañca vaṇṇabhaṇanañca. Nikāmayamānoti icchamāno patthayamāno. Pavivekādhimuttoti ‘‘paviveke adhimutto aha’’nti evaṃ arahattaṃ byākarotīti attho.

    สีลพฺพตปรามาสนฺติ สีลญฺจ วตญฺจ ปรามสิตฺวา คหิตคฺคหณมตฺตํฯ สารโต ปจฺจาคจฺฉโนฺตติ สารภาเวน ชานโนฺตฯ อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺตติ อพฺยาปชฺชํ อรหตฺตํ พฺยากโรติฯ อิมินาว นเยน สพฺพวาเรสุ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ อปิเจตฺถ ‘‘เนกฺขมฺมาธิมุโตฺตติ อิมสฺมิํเยว อรหตฺตํ กถิตํ, เสเสสุ ปญฺจสุ นิพฺพาน’’นฺติ เอเก วทนฺติฯ อปเร ‘‘อสโมฺมหาธิมุโตฺตติ เอเตฺถว นิพฺพานํ กถิตํ, เสเสสุ อรหตฺต’’นฺติ วทนฺติฯ อยํ ปเนตฺถ สาโร – ‘‘สเพฺพเสฺวเวเตสุ อรหตฺตมฺปิ นิพฺพานมฺปิ กถิตเมวาติฯ

    Sīlabbataparāmāsanti sīlañca vatañca parāmasitvā gahitaggahaṇamattaṃ. Sārato paccāgacchantoti sārabhāvena jānanto. Abyāpajjādhimuttoti abyāpajjaṃ arahattaṃ byākaroti. Imināva nayena sabbavāresu attho daṭṭhabbo. Apicettha ‘‘nekkhammādhimuttoti imasmiṃyeva arahattaṃ kathitaṃ, sesesu pañcasu nibbāna’’nti eke vadanti. Apare ‘‘asammohādhimuttoti ettheva nibbānaṃ kathitaṃ, sesesu arahatta’’nti vadanti. Ayaṃ panettha sāro – ‘‘sabbesvevetesu arahattampi nibbānampi kathitamevāti.

    ภุสาติ พลวโนฺต ทิพฺพรูปสทิสาฯ เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺตีติ เอตสฺส ขีณาสวสฺส จิตฺตํ คเหตฺวา ฐาตุํ น สโกฺกนฺติฯ กิเลสา หิ อุปฺปชฺชมานา จิตฺตํ คณฺหนฺติ นามฯ อมิสฺสีกตนฺติ อมิสฺสกตํฯ กิเลสา หิ อารมฺมเณน สทฺธิํ จิตฺตํ มิสฺสํ กโรนฺติ, เตสํ อภาวา อมิสฺสีกตํฯ ฐิตนฺติ ปติฎฺฐิตํฯ อาเนญฺชปฺปตฺตนฺติ อจลนปฺปตฺตํฯ วยญฺจสฺสานุปสฺสตีติ ตสฺส เจส จิตฺตสฺส อุปฺปาทมฺปิ วยมฺปิ ปสฺสติฯ ภุสา วาตวุฎฺฐีติ พลวา วาตกฺขโนฺธฯ เนว นํ สงฺกเมฺปยฺยาติ เอกภาเคน จาเลตุํ น สกฺกุเณยฺยฯ น สมฺปกเมฺปยฺยาติ ถูณํ วิย สพฺพภาคโต กเมฺปตุํ น สกฺกุเณยฺยฯ น สมฺปเวเธยฺยาติ เวเธตฺวา ปเวเธตฺวา ปาเตตุํ น สกฺกุเณยฺยฯ

    Bhusāti balavanto dibbarūpasadisā. Nevassa cittaṃ pariyādiyantīti etassa khīṇāsavassa cittaṃ gahetvā ṭhātuṃ na sakkonti. Kilesā hi uppajjamānā cittaṃ gaṇhanti nāma. Amissīkatanti amissakataṃ. Kilesā hi ārammaṇena saddhiṃ cittaṃ missaṃ karonti, tesaṃ abhāvā amissīkataṃ. Ṭhitanti patiṭṭhitaṃ. Āneñjappattanti acalanappattaṃ. Vayañcassānupassatīti tassa cesa cittassa uppādampi vayampi passati. Bhusā vātavuṭṭhīti balavā vātakkhandho. Neva naṃ saṅkampeyyāti ekabhāgena cāletuṃ na sakkuṇeyya. Na sampakampeyyāti thūṇaṃ viya sabbabhāgato kampetuṃ na sakkuṇeyya. Na sampavedheyyāti vedhetvā pavedhetvā pātetuṃ na sakkuṇeyya.

    เนกฺขมฺมํ อธิมุตฺตสฺสาติ อรหตฺตํ ปฎิวิชฺฌิตฺวา ฐิตสฺสฯ เสสปเทสุปิ อรหตฺตเมว กถิตํฯ อุปาทานกฺขยสฺส จาติ อุปโยคเตฺถ สามิวจนํฯ อสโมฺมหญฺจ เจตโสติ จิตฺตสฺส จ อสโมฺมหํ อธิมุตฺตสฺสฯ ทิสฺวา อายตนุปฺปาทนฺติ อายตนานํ อุปฺปาทญฺจ วยญฺจ ทิสฺวาฯ สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ สมฺมา เหตุนา นเยน อิมาย วิปสฺสนาย ปฎิปตฺติยา ผลสมาปตฺติวเสน จิตฺตํ วิมุจฺจติ, นิพฺพานารมฺมเณ อธิมุจฺจติฯ อถ วา อิมินา ขีณาสวสฺส ปุพฺพภาคปฎิปทา กถิตาฯ ตสฺส หิ อายตนุปฺปาทํ ทิสฺวา อิมาย วิปสฺสนาย อธิคตสฺส อริยมคฺคสฺส อานุภาเวน สพฺพกิเลเสหิ สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ เอวํ ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺส…เป.… น วิชฺชติฯ ตตฺถ สนฺตจิตฺตสฺสาติ นิพฺพุตจิตฺตสฺสฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวฯ

    Nekkhammaṃ adhimuttassāti arahattaṃ paṭivijjhitvā ṭhitassa. Sesapadesupi arahattameva kathitaṃ. Upādānakkhayassa cāti upayogatthe sāmivacanaṃ. Asammohañca cetasoti cittassa ca asammohaṃ adhimuttassa. Disvā āyatanuppādanti āyatanānaṃ uppādañca vayañca disvā. Sammā cittaṃ vimuccatīti sammā hetunā nayena imāya vipassanāya paṭipattiyā phalasamāpattivasena cittaṃ vimuccati, nibbānārammaṇe adhimuccati. Atha vā iminā khīṇāsavassa pubbabhāgapaṭipadā kathitā. Tassa hi āyatanuppādaṃ disvā imāya vipassanāya adhigatassa ariyamaggassa ānubhāvena sabbakilesehi sammā cittaṃ vimuccati. Evaṃ tassa sammā vimuttassa…pe… na vijjati. Tattha santacittassāti nibbutacittassa. Sesamettha uttānatthameva.

    โสณสฺส ปพฺพชฺชากถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Soṇassa pabbajjākathāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๑๔๗. โสณโกฬิวิสวตฺถุ • 147. Soṇakoḷivisavatthu

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / โสณสฺส ปพฺพชฺชากถา • Soṇassa pabbajjākathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / โสณสฺสปพฺพชฺชากถาวณฺณนา • Soṇassapabbajjākathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / โสณโกฬิวิสกถาทิวณฺณนา • Soṇakoḷivisakathādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๔๗. โสณโกฬิวิสวตฺถุกถา • 147. Soṇakoḷivisavatthukathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact