Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๒. ทุติยปณฺณาสกํ

    2. Dutiyapaṇṇāsakaṃ

    ๖. มหาวโคฺค

    6. Mahāvaggo

    ๑. โสณสุตฺตํ

    1. Soṇasuttaṃ

    ๕๕. 1 เอวํ , เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเตฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา โสโณ ราชคเห วิหรติ สีตวนสฺมิํฯ อถ โข อายสฺมโต โสณสฺส รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘‘เย โข เกจิ ภควโต สาวกา อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ, อหํ เตสํ อญฺญตโรฯ อถ จ ปน เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม กุเล โภคา, สกฺกา โภคา จ ภุญฺชิตุํ ปุญฺญานิ จ กาตุํฯ ยํนูนาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุเญฺชยฺยํ ปุญฺญานิ จ กเรยฺย’’นฺติฯ

    55.2 Evaṃ , me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati gijjhakūṭe pabbate. Tena kho pana samayena āyasmā soṇo rājagahe viharati sītavanasmiṃ. Atha kho āyasmato soṇassa rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘‘ye kho keci bhagavato sāvakā āraddhavīriyā viharanti, ahaṃ tesaṃ aññataro. Atha ca pana me na anupādāya āsavehi cittaṃ vimuccati, saṃvijjanti kho pana me kule bhogā, sakkā bhogā ca bhuñjituṃ puññāni ca kātuṃ. Yaṃnūnāhaṃ sikkhaṃ paccakkhāya hīnāyāvattitvā bhoge ca bhuñjeyyaṃ puññāni ca kareyya’’nti.

    อถ โข ภควา อายสฺมโต โสณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมฺมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมฺมิเญฺชยฺย, เอวเมวํ โข – คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเต อนฺตรหิโต สีตวเน อายสฺมโต โสณสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญเตฺต อาสเนฯ อายสฺมาปิ โข โสโณ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ โสณํ ภควา เอตทโวจ –

    Atha kho bhagavā āyasmato soṇassa cetasā cetoparivitakkamaññāya – seyyathāpi nāma balavā puriso sammiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ sammiñjeyya, evamevaṃ kho – gijjhakūṭe pabbate antarahito sītavane āyasmato soṇassa sammukhe pāturahosi. Nisīdi bhagavā paññatte āsane. Āyasmāpi kho soṇo bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho āyasmantaṃ soṇaṃ bhagavā etadavoca –

    ‘‘นนุ เต, โสณ, รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘เย โข เกจิ ภควโต สาวกา อารทฺธวีริยา วิหรนฺติ, อหํ เตสํ อญฺญตโรฯ อถ จ ปน เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม กุเล โภคา, สกฺกา โภคา 3 จ ภุญฺชิตุํ ปุญฺญานิ จ กาตุํฯ ยํนูนาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุเญฺชยฺยํ ปุญฺญานิ จ กเรยฺย’’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Nanu te, soṇa, rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘ye kho keci bhagavato sāvakā āraddhavīriyā viharanti, ahaṃ tesaṃ aññataro. Atha ca pana me na anupādāya āsavehi cittaṃ vimuccati, saṃvijjanti kho pana me kule bhogā, sakkā bhogā 4 ca bhuñjituṃ puññāni ca kātuṃ. Yaṃnūnāhaṃ sikkhaṃ paccakkhāya hīnāyāvattitvā bhoge ca bhuñjeyyaṃ puññāni ca kareyya’’’nti? ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, โสณ, กุสโล ตฺวํ ปุเพฺพ อคาริยภูโต 5 วีณาย ตนฺติสฺสเร’’ติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, โสณ, ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อจฺจายตา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมิํ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมญฺญา วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, soṇa, kusalo tvaṃ pubbe agāriyabhūto 6 vīṇāya tantissare’’ti? ‘‘Evaṃ, bhante’’. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, soṇa, yadā te vīṇāya tantiyo accāyatā honti, api nu te vīṇā tasmiṃ samaye saravatī vā hoti kammaññā vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, โสณ, ยทา เต วีณาย ตนฺติโย อติสิถิลา โหนฺติ, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมิํ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมญฺญา วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, soṇa, yadā te vīṇāya tantiyo atisithilā honti, api nu te vīṇā tasmiṃ samaye saravatī vā hoti kammaññā vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘ยทา ปน เต, โสณ, วีณาย ตนฺติโย น อจฺจายตา โหนฺติ นาติสิถิลา สเม คุเณ ปติฎฺฐิตา, อปิ นุ เต วีณา ตสฺมิํ สมเย สรวตี วา โหติ กมฺมญฺญา วา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Yadā pana te, soṇa, vīṇāya tantiyo na accāyatā honti nātisithilā same guṇe patiṭṭhitā, api nu te vīṇā tasmiṃ samaye saravatī vā hoti kammaññā vā’’ti? ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘เอวเมวํ โข, โสณ, อจฺจารทฺธวีริยํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺตติ, อติสิถิลวีริยํ โกสชฺชาย สํวตฺตติฯ ตสฺมาติห ตฺวํ, โสณ, วีริยสมถํ อธิฎฺฐหํ, อินฺทฺริยานญฺจ สมตํ ปฎิวิชฺฌ, ตตฺถ จ นิมิตฺตํ คณฺหาหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา โสโณ ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ โสณํ อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย, เอวเมวํ โข – สีตวเน อนฺตรหิโต คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเต ปาตุรโหสิฯ

    ‘‘Evamevaṃ kho, soṇa, accāraddhavīriyaṃ uddhaccāya saṃvattati, atisithilavīriyaṃ kosajjāya saṃvattati. Tasmātiha tvaṃ, soṇa, vīriyasamathaṃ adhiṭṭhahaṃ, indriyānañca samataṃ paṭivijjha, tattha ca nimittaṃ gaṇhāhī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā soṇo bhagavato paccassosi. Atha kho bhagavā āyasmantaṃ soṇaṃ iminā ovādena ovaditvā – seyyathāpi nāma balavā puriso samiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya, evamevaṃ kho – sītavane antarahito gijjhakūṭe pabbate pāturahosi.

    อถ โข อายสฺมา โสโณ อปเรน สมเยน วีริยสมถํ อธิฎฺฐาสิ, อินฺทฺริยานญฺจ สมตํ ปฎิวิชฺฌิ, ตตฺถ จ นิมิตฺตํ อคฺคเหสิฯ อถ โข อายสฺมา โสโณ เอโก วูปกโฎฺฐ อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหรโนฺต นจิรเสฺสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนาคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิฯ ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภญฺญาสิฯ อญฺญตโร จ ปนายสฺมา โสโณ อรหตํ อโหสิฯ

    Atha kho āyasmā soṇo aparena samayena vīriyasamathaṃ adhiṭṭhāsi, indriyānañca samataṃ paṭivijjhi, tattha ca nimittaṃ aggahesi. Atha kho āyasmā soṇo eko vūpakaṭṭho appamatto ātāpī pahitatto viharanto nacirasseva – yassatthāya kulaputtā sammadeva agārasmā anāgāriyaṃ pabbajanti tadanuttaraṃ – brahmacariyapariyosānaṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja vihāsi. ‘‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyā’’ti abbhaññāsi. Aññataro ca panāyasmā soṇo arahataṃ ahosi.

    อถ โข อายสฺมโต โสณสฺส อรหตฺตปฺปตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ เยน ภควา เตนุปสงฺกเมยฺยํ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต สนฺติเก อญฺญํ พฺยากเรยฺย’’นฺติฯ อถ โข อายสฺมา โสโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา โสโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

    Atha kho āyasmato soṇassa arahattappattassa etadahosi – ‘‘yaṃnūnāhaṃ yena bhagavā tenupasaṅkameyyaṃ; upasaṅkamitvā bhagavato santike aññaṃ byākareyya’’nti. Atha kho āyasmā soṇo yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā soṇo bhagavantaṃ etadavoca –

    ‘‘โย โส, ภเนฺต, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญาวิมุโตฺต, โส ฉ ฐานานิ อธิมุโตฺต โหติ – เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต โหติ, ปวิเวกาธิมุโตฺต โหติ, อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต 7 โหติ, ตณฺหากฺขยาธิมุโตฺต โหติ, อุปาทานกฺขยาธิมุโตฺต โหติ, อสโมฺมหาธิมุโตฺต โหติฯ

    ‘‘Yo so, bhante, bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññāvimutto, so cha ṭhānāni adhimutto hoti – nekkhammādhimutto hoti, pavivekādhimutto hoti, abyāpajjādhimutto 8 hoti, taṇhākkhayādhimutto hoti, upādānakkhayādhimutto hoti, asammohādhimutto hoti.

    ‘‘สิยา โข ปน, ภเนฺต, อิเธกจฺจสฺส อายสฺมโต เอวมสฺส – ‘เกวลํสทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา นิสฺสาย เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต’ติ ฯ น โข ปเนตํ, ภเนฺต, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ขีณาสโว, ภเนฺต, ภิกฺขุ วุสิตวา กตกรณีโย กรณียํ อตฺตโน อสมนุปสฺสโนฺต กตสฺส วา ปฎิจยํ ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต โหติฯ

    ‘‘Siyā kho pana, bhante, idhekaccassa āyasmato evamassa – ‘kevalaṃsaddhāmattakaṃ nūna ayamāyasmā nissāya nekkhammādhimutto’ti . Na kho panetaṃ, bhante, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Khīṇāsavo, bhante, bhikkhu vusitavā katakaraṇīyo karaṇīyaṃ attano asamanupassanto katassa vā paṭicayaṃ khayā rāgassa vītarāgattā nekkhammādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā nekkhammādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā nekkhammādhimutto hoti.

    ‘‘สิยา โข ปน, ภเนฺต, อิเธกจฺจสฺส อายสฺมโต เอวมสฺส – ‘ลาภสกฺการสิโลกํ นูน อยมายสฺมา นิกามยมาโน ปวิเวกาธิมุโตฺต’ติฯ น โข ปเนตํ, ภเนฺต, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ขีณาสโว, ภเนฺต, ภิกฺขุ วุสิตวา กตกรณีโย กรณียํ อตฺตโน อสมนุปสฺสโนฺต กตสฺส วา ปฎิจยํ ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา ปวิเวกาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา ปวิเวกาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา ปวิเวกาธิมุโตฺต โหติฯ

    ‘‘Siyā kho pana, bhante, idhekaccassa āyasmato evamassa – ‘lābhasakkārasilokaṃ nūna ayamāyasmā nikāmayamāno pavivekādhimutto’ti. Na kho panetaṃ, bhante, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Khīṇāsavo, bhante, bhikkhu vusitavā katakaraṇīyo karaṇīyaṃ attano asamanupassanto katassa vā paṭicayaṃ khayā rāgassa vītarāgattā pavivekādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā pavivekādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā pavivekādhimutto hoti.

    ‘‘สิยา โข ปน, ภเนฺต, อิเธกจฺจสฺส อายสฺมโต เอวมสฺส – ‘สีลพฺพตปรามาสํ นูน อยมายสฺมา สารโต ปจฺจาคจฺฉโนฺต อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต’ติฯ น โข ปเนตํ, ภเนฺต, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ขีณาสโว, ภเนฺต, ภิกฺขุ วุสิตวา กตกรณีโย กรณียํ อตฺตโน อสมนุปสฺสโนฺต กตสฺส วา ปฎิจยํ ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา อพฺยาปชฺชาธิมุโตฺต โหติฯ

    ‘‘Siyā kho pana, bhante, idhekaccassa āyasmato evamassa – ‘sīlabbataparāmāsaṃ nūna ayamāyasmā sārato paccāgacchanto abyāpajjādhimutto’ti. Na kho panetaṃ, bhante, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Khīṇāsavo, bhante, bhikkhu vusitavā katakaraṇīyo karaṇīyaṃ attano asamanupassanto katassa vā paṭicayaṃ khayā rāgassa vītarāgattā abyāpajjādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā abyāpajjādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā abyāpajjādhimutto hoti.

    ‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา ตณฺหากฺขยาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา ตณฺหากฺขยาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา ตณฺหากฺขยาธิมุโตฺต โหติฯ

    ‘‘Khayā rāgassa vītarāgattā taṇhākkhayādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā taṇhākkhayādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā taṇhākkhayādhimutto hoti.

    ‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา อุปาทานกฺขยาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา อุปาทานกฺขยาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา อุปาทานกฺขยาธิมุโตฺต โหติฯ

    ‘‘Khayā rāgassa vītarāgattā upādānakkhayādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā upādānakkhayādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā upādānakkhayādhimutto hoti.

    ‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา อสโมฺมหาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา อสโมฺมหาธิมุโตฺต โหติ, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตา อสโมฺมหาธิมุโตฺต โหติฯ

    ‘‘Khayā rāgassa vītarāgattā asammohādhimutto hoti, khayā dosassa vītadosattā asammohādhimutto hoti, khayā mohassa vītamohattā asammohādhimutto hoti.

    ‘‘เอวํ สมฺมา วิมุตฺตจิตฺตสฺส, ภเนฺต, ภิกฺขุโน ภุสา เจปิ จกฺขุวิเญฺญยฺยา รูปา จกฺขุสฺส อาปาถํ 9 อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติฯ อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ฐิตํ อาเนญฺชปฺปตฺตํ วยญฺจสฺสานุปสฺสติ ฯ ภุสา เจปิ โสตวิเญฺญยฺยา สทฺทา…เป.… ฆานวิเญฺญยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิเญฺญยฺยา รสา… กายวิเญฺญยฺยา โผฎฺฐพฺพา… มโนวิเญฺญยฺยา ธมฺมา มนสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติฯ อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ฐิตํ อาเนญฺชปฺปตฺตํ วยญฺจสฺสานุปสฺสติฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, เสโล ปพฺพโต อจฺฉิโทฺท อสุสิโร เอกคฺฆโนฯ อถ ปุรตฺถิมาย เจปิ ทิสาย อาคเจฺฉยฺย ภุสา วาตวุฎฺฐิ เนว นํ สงฺกเมฺปยฺย น สมฺปกเมฺปยฺย น สมฺปเวเธยฺย, อถ ปจฺฉิมาย เจปิ ทิสาย อาคเจฺฉยฺย ภุสา วาตวุฎฺฐิ…เป.… อถ อุตฺตราย เจปิ ทิสาย อาคเจฺฉยฺย ภุสา วาตวุฎฺฐิ… อถ ทกฺขิณาย เจปิ ทิสาย อาคเจฺฉยฺย ภุสา วาตวุฎฺฐิ เนว นํ สงฺกเมฺปยฺย น สมฺปกเมฺปยฺย น สมฺปเวเธยฺย; เอวเมวํ โข, ภเนฺต, เอวํ สมฺมาวิมุตฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน ภุสา เจปิ จกฺขุวิเญฺญยฺยา รูปา จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติฯ อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ฐิตํ อาเนญฺชปฺปตฺตํ วยญฺจสฺสานุปสฺสติฯ ภุสา เจปิ โสตวิเญฺญยฺยา สทฺทา…เป.… ฆานวิเญฺญยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิเญฺญยฺยา รสา… กายวิเญฺญยฺยา โผฎฺฐพฺพา… มโนวิเญฺญยฺยา ธมฺมา มนสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺติฯ อมิสฺสีกตเมวสฺส จิตฺตํ โหติ ฐิตํ อาเนญฺชปฺปตฺตํ วยญฺจสฺสานุปสฺสตี’’ติฯ

    ‘‘Evaṃ sammā vimuttacittassa, bhante, bhikkhuno bhusā cepi cakkhuviññeyyā rūpā cakkhussa āpāthaṃ 10 āgacchanti, nevassa cittaṃ pariyādiyanti. Amissīkatamevassa cittaṃ hoti ṭhitaṃ āneñjappattaṃ vayañcassānupassati . Bhusā cepi sotaviññeyyā saddā…pe… ghānaviññeyyā gandhā… jivhāviññeyyā rasā… kāyaviññeyyā phoṭṭhabbā… manoviññeyyā dhammā manassa āpāthaṃ āgacchanti, nevassa cittaṃ pariyādiyanti. Amissīkatamevassa cittaṃ hoti ṭhitaṃ āneñjappattaṃ vayañcassānupassati. Seyyathāpi, bhante, selo pabbato acchiddo asusiro ekagghano. Atha puratthimāya cepi disāya āgaccheyya bhusā vātavuṭṭhi neva naṃ saṅkampeyya na sampakampeyya na sampavedheyya, atha pacchimāya cepi disāya āgaccheyya bhusā vātavuṭṭhi…pe… atha uttarāya cepi disāya āgaccheyya bhusā vātavuṭṭhi… atha dakkhiṇāya cepi disāya āgaccheyya bhusā vātavuṭṭhi neva naṃ saṅkampeyya na sampakampeyya na sampavedheyya; evamevaṃ kho, bhante, evaṃ sammāvimuttacittassa bhikkhuno bhusā cepi cakkhuviññeyyā rūpā cakkhussa āpāthaṃ āgacchanti, nevassa cittaṃ pariyādiyanti. Amissīkatamevassa cittaṃ hoti ṭhitaṃ āneñjappattaṃ vayañcassānupassati. Bhusā cepi sotaviññeyyā saddā…pe… ghānaviññeyyā gandhā… jivhāviññeyyā rasā… kāyaviññeyyā phoṭṭhabbā… manoviññeyyā dhammā manassa āpāthaṃ āgacchanti, nevassa cittaṃ pariyādiyanti. Amissīkatamevassa cittaṃ hoti ṭhitaṃ āneñjappattaṃ vayañcassānupassatī’’ti.

    ‘‘เนกฺขมฺมํ อธิมุตฺตสฺส, ปวิเวกญฺจ เจตโส;

    ‘‘Nekkhammaṃ adhimuttassa, pavivekañca cetaso;

    อพฺยาปชฺชาธิมุตฺตสฺส, อุปาทานกฺขยสฺส จฯ

    Abyāpajjādhimuttassa, upādānakkhayassa ca.

    ‘‘ตณฺหากฺขยาธิมุตฺตสฺส , อสโมฺมหญฺจ เจตโส;

    ‘‘Taṇhākkhayādhimuttassa , asammohañca cetaso;

    ทิสฺวา อายตนุปฺปาทํ, สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ

    Disvā āyatanuppādaṃ, sammā cittaṃ vimuccati.

    ‘‘ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

    ‘‘Tassa sammā vimuttassa, santacittassa bhikkhuno;

    กตสฺส ปฎิจโย นตฺถิ, กรณียํ น วิชฺชติฯ

    Katassa paṭicayo natthi, karaṇīyaṃ na vijjati.

    ‘‘เสโล ยถา เอกคฺฆโน, วาเตน น สมีรติ;

    ‘‘Selo yathā ekagghano, vātena na samīrati;

    เอวํ รูปา รสา สทฺทา, คนฺธา ผสฺสา จ เกวลาฯ

    Evaṃ rūpā rasā saddā, gandhā phassā ca kevalā.

    ‘‘อิฎฺฐา ธมฺมา อนิฎฺฐา จ, นปฺปเวเธนฺติ ตาทิโน;

    ‘‘Iṭṭhā dhammā aniṭṭhā ca, nappavedhenti tādino;

    ฐิตํ จิตฺตํ วิปฺปมุตฺตํ 11, วยญฺจสฺสานุปสฺสตี’’ติฯ ปฐมํ;

    Ṭhitaṃ cittaṃ vippamuttaṃ 12, vayañcassānupassatī’’ti. paṭhamaṃ;







    Footnotes:
    1. มหาว. ๒๔๓ อาคตํ
    2. mahāva. 243 āgataṃ
    3. โภเค (มหาว. ๒๔๓)
    4. bhoge (mahāva. 243)
    5. อาคาริกภูโต (สฺยา.), อคาริกภูโต (มหาว. ๒๔๓)
    6. āgārikabhūto (syā.), agārikabhūto (mahāva. 243)
    7. อพฺยาปชฺฌาธิมุโตฺต (ก.) มหาว. ๒๔๔ ปสฺสิตพฺพํ
    8. abyāpajjhādhimutto (ka.) mahāva. 244 passitabbaṃ
    9. อาปาตํ (ก.)
    10. āpātaṃ (ka.)
    11. วิมุตญฺจ (ก.) มหาว. ๒๔๔; กถา. ๒๖๖
    12. vimutañca (ka.) mahāva. 244; kathā. 266



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑. โสณสุตฺตวณฺณนา • 1. Soṇasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑. โสณสุตฺตวณฺณนา • 1. Soṇasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact