Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๒. ทุติยปณฺณาสกํ

    2. Dutiyapaṇṇāsakaṃ

    ๖. มหาวโคฺค

    6. Mahāvaggo

    ๑. โสณสุตฺตวณฺณนา

    1. Soṇasuttavaṇṇanā

    ๕๕. ฉฎฺฐสฺส ปฐเม โสโณติ สุขุมาลโสณเตฺถโรฯ สีตวเนติ เอวํนามเก สุสาเนฯ ตสฺมิํ กิร ปฎิปาฎิยา ปญฺจ จงฺกมนปณฺณสาลาสตานิ มาปิตานิ, เตสุ เถโร อตฺตโน สปฺปายจงฺกมนํ คเหตฺวา สมณธมฺมํ กโรติฯ ตสฺส อารทฺธวีริยสฺส หุตฺวา จงฺกมโต ปาทตลานิ ภิชฺชิํสุ, ชาณูหิ จงฺกมโต ชาณุกานิปิ หตฺถตลานิปิ ภิชฺชิํสุ, ฉิทฺทานิ อเหสุํฯ เอวํ อารทฺธวีริโย วิหรโนฺต โอภาสนิมิตฺตมตฺตกมฺปิ ทเสฺสตุํ นาสกฺขิฯ ตสฺส วีริเยน กิลมิตกายสฺส โกฎิยํ ปาสาณผลเก นิสินฺนสฺส โย วิตโกฺก อุทปาทิ, ตํ ทเสฺสตุํ อถ โข อายสฺมโตติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อารทฺธวีริยาติ ปริปุณฺณปคฺคหิตวีริยาฯ น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ สเจ หิ อหํ อุคฺฆฎิตญฺญู วา อสฺสํ วิปญฺจิตญฺญู วา เนโยฺย วา, นูน เม จิตฺตํ วิมุเจฺจยฺยฯ อทฺธา ปนสฺมิ ปทปรโม, เยน เม จิตฺตํ น วิมุจฺจตีติ สนฺนิฎฺฐานํ กตฺวา สํวิชฺชนฺติ โข ปนาติอาทีนิ จิเนฺตสิฯ ตตฺถ โภคาติ อุปโยคเตฺถ ปจฺจตฺตํฯ

    55. Chaṭṭhassa paṭhame soṇoti sukhumālasoṇatthero. Sītavaneti evaṃnāmake susāne. Tasmiṃ kira paṭipāṭiyā pañca caṅkamanapaṇṇasālāsatāni māpitāni, tesu thero attano sappāyacaṅkamanaṃ gahetvā samaṇadhammaṃ karoti. Tassa āraddhavīriyassa hutvā caṅkamato pādatalāni bhijjiṃsu, jāṇūhi caṅkamato jāṇukānipi hatthatalānipi bhijjiṃsu, chiddāni ahesuṃ. Evaṃ āraddhavīriyo viharanto obhāsanimittamattakampi dassetuṃ nāsakkhi. Tassa vīriyena kilamitakāyassa koṭiyaṃ pāsāṇaphalake nisinnassa yo vitakko udapādi, taṃ dassetuṃ atha kho āyasmatotiādi vuttaṃ. Tattha āraddhavīriyāti paripuṇṇapaggahitavīriyā. Na anupādāya āsavehi cittaṃ vimuccatīti sace hi ahaṃ ugghaṭitaññū vā assaṃ vipañcitaññū vā neyyo vā, nūna me cittaṃ vimucceyya. Addhā panasmi padaparamo, yena me cittaṃ na vimuccatīti sanniṭṭhānaṃ katvā saṃvijjanti kho panātiādīni cintesi. Tattha bhogāti upayogatthe paccattaṃ.

    ปาตุรโหสีติ เถรสฺส จิตฺตาจารํ ญตฺวา ‘‘อยํ โสโณ อชฺช สีตวเน ปธานภูมิยํ นิสิโนฺน อิมํ วิตกฺกํ วิตเกฺกติ, คนฺตฺวาสฺส วิตกฺกํ สโหตฺถํ คณฺหิตฺวา วีโณปมํ กมฺมฎฺฐานํ กเถสฺสามี’’ติ ปมุเข ปากโฎ อโหสิฯ ปญฺญเตฺต อาสเนติ ปธานิกภิกฺขู อตฺตโน วสนฎฺฐาเน โอวทิตุํ อาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต นิสีทนตฺถํ ยถาลาเภน อาสนํ ปญฺญาเปตฺวาว ปธานํ กโรนฺติ, อญฺญํ อลภมานา ปุราณปณฺณานิปิ สนฺถริตฺวา อุปริ สงฺฆาฎิํ ปญฺญเปนฺติฯ เถโรปิ อาสนํ ปญฺญาเปตฺวา ปธานํ อกาสิฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปญฺญเตฺต อาสเน’’ติฯ

    Pāturahosīti therassa cittācāraṃ ñatvā ‘‘ayaṃ soṇo ajja sītavane padhānabhūmiyaṃ nisinno imaṃ vitakkaṃ vitakketi, gantvāssa vitakkaṃ sahotthaṃ gaṇhitvā vīṇopamaṃ kammaṭṭhānaṃ kathessāmī’’ti pamukhe pākaṭo ahosi. Paññatte āsaneti padhānikabhikkhū attano vasanaṭṭhāne ovadituṃ āgatassa buddhassa bhagavato nisīdanatthaṃ yathālābhena āsanaṃ paññāpetvāva padhānaṃ karonti, aññaṃ alabhamānā purāṇapaṇṇānipi santharitvā upari saṅghāṭiṃ paññapenti. Theropi āsanaṃ paññāpetvā padhānaṃ akāsi. Taṃ sandhāya vuttaṃ – ‘‘paññatte āsane’’ti.

    ตํ กิํ มญฺญสีติ สตฺถา ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน อวเสสกมฺมฎฺฐาเนหิ อโตฺถ นตฺถิ, อยํ คนฺธพฺพสิเปฺป เฉโก จิณฺณวสี, อตฺตโน วิสเย กถิยมานํ ขิปฺปเมว สลฺลเกฺขสฺสตี’’ติ วีโณปมํ กเถตุํ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสี’’ติอาทิมาหฯ วีณาย ตนฺติสฺสเร กุสลตา นาม วีณาย วาทนกุสลตา, โส จ ตตฺถ กุสโลฯ มาตาปิตโร หิสฺส ‘‘อมฺหากํ ปุโตฺต อญฺญํ สิปฺปํ สิกฺขโนฺต กาเยน กิลมิสฺสติ, อิทํ ปน สยเน นิสิเนฺนเนว สกฺกา อุคฺคณฺหิตุ’’นฺติ คนฺธพฺพสิปฺปเมว อุคฺคณฺหาเปสุํฯ ตสฺส –

    Taṃ kiṃ maññasīti satthā ‘‘imassa bhikkhuno avasesakammaṭṭhānehi attho natthi, ayaṃ gandhabbasippe cheko ciṇṇavasī, attano visaye kathiyamānaṃ khippameva sallakkhessatī’’ti vīṇopamaṃ kathetuṃ ‘‘taṃ kiṃ maññasī’’tiādimāha. Vīṇāya tantissare kusalatā nāma vīṇāya vādanakusalatā, so ca tattha kusalo. Mātāpitaro hissa ‘‘amhākaṃ putto aññaṃ sippaṃ sikkhanto kāyena kilamissati, idaṃ pana sayane nisinneneva sakkā uggaṇhitu’’nti gandhabbasippameva uggaṇhāpesuṃ. Tassa –

    ‘‘สตฺต สรา ตโย คามา, มุจฺฉนา เอกวีสติ;

    ‘‘Satta sarā tayo gāmā, mucchanā ekavīsati;

    ฐานา เอกูนปญฺญาส, อิเจฺจเต สรมณฺฑลา’’ติฯ –

    Ṭhānā ekūnapaññāsa, iccete saramaṇḍalā’’ti. –

    อาทิกํ คนฺธพฺพสิปฺปํ สพฺพเมว ปคุณํ อโหสิฯ อจฺจายตาติ อติอายตา ขรมุจฺฉนาฯ สรวตีติ สรสมฺปนฺนาฯ กมฺมญฺญาติ กมฺมกฺขมา กมฺมโยคฺคาฯ อติสิถิลาติ มนฺทมุจฺฉนาฯ สเม คุเณ ปติฎฺฐิตาติ มชฺฌิเม สเร ฐเปตฺวา มุจฺฉิตาฯ

    Ādikaṃ gandhabbasippaṃ sabbameva paguṇaṃ ahosi. Accāyatāti atiāyatā kharamucchanā. Saravatīti sarasampannā. Kammaññāti kammakkhamā kammayoggā. Atisithilāti mandamucchanā. Same guṇe patiṭṭhitāti majjhime sare ṭhapetvā mucchitā.

    อจฺจารทฺธนฺติ อติคาฬฺหํฯ อุทฺธจฺจาย สํวตฺตตีติ อุทฺธตภาวาย สํวตฺตติฯ อติลีนนฺติ อติสิถิลํฯ โกสชฺชายาติ กุสีตภาวตฺถายฯ วีริยสมถํ อธิฎฺฐหาติ วีริยสมฺปยุตฺตํ สมถํ อธิฎฺฐห, วีริยํ สมเถน โยเชหีติ อโตฺถฯ อินฺทฺริยานญฺจ สมตํ ปฎิวิชฺฌาติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมตํ สมภาวํ อธิฎฺฐาหิฯ ตตฺถ สทฺธํ ปญฺญาย, ปญฺญญฺจ สทฺธาย, วีริยํ สมาธินา, สมาธิญฺจ วีริเยน โยชยตา อินฺทฺริยานํ สมตา อธิฎฺฐิตา นาม โหติฯ สติ ปน สพฺพตฺถิกา, สา สทา พลวตีเยว วฎฺฎติฯ ตญฺจ ปน เตสํ โยชนาวิธานํ วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๖๐-๖๒) ปกาสิตเมวฯ ตตฺถ จ นิมิตฺตํ คณฺหาหีติ ตสฺมิญฺจ สมภาเว สติ เยน อาทาเส มุขพิเมฺพเนว นิมิเตฺตน อุปฺปชฺชิตพฺพํ, ตํ สมถนิมิตฺตํ วิปสฺสนานิมิตฺตํ มคฺคนิมิตฺตํ ผลนิมิตฺตญฺจ คณฺหาหิ นิพฺพเตฺตหีติ เอวมสฺส สตฺถา อรหเตฺต ปกฺขิปิตฺวา กมฺมฎฺฐานํ กเถสิฯ

    Accāraddhanti atigāḷhaṃ. Uddhaccāya saṃvattatīti uddhatabhāvāya saṃvattati. Atilīnanti atisithilaṃ. Kosajjāyāti kusītabhāvatthāya. Vīriyasamathaṃ adhiṭṭhahāti vīriyasampayuttaṃ samathaṃ adhiṭṭhaha, vīriyaṃ samathena yojehīti attho. Indriyānañca samataṃ paṭivijjhāti saddhādīnaṃ indriyānaṃ samataṃ samabhāvaṃ adhiṭṭhāhi. Tattha saddhaṃ paññāya, paññañca saddhāya, vīriyaṃ samādhinā, samādhiñca vīriyena yojayatā indriyānaṃ samatā adhiṭṭhitā nāma hoti. Sati pana sabbatthikā, sā sadā balavatīyeva vaṭṭati. Tañca pana tesaṃ yojanāvidhānaṃ visuddhimagge (visuddhi. 1.60-62) pakāsitameva. Tattha ca nimittaṃ gaṇhāhīti tasmiñca samabhāve sati yena ādāse mukhabimbeneva nimittena uppajjitabbaṃ, taṃ samathanimittaṃ vipassanānimittaṃ magganimittaṃ phalanimittañca gaṇhāhi nibbattehīti evamassa satthā arahatte pakkhipitvā kammaṭṭhānaṃ kathesi.

    ตตฺถ จ นิมิตฺตํ อคฺคเหสีติ สมถนิมิตฺตญฺจ วิปสฺสนานิมิตฺตญฺจ อคฺคเหสิฯ ฉ ฐานานีติ ฉ การณานิฯ อธิมุโตฺต โหตีติ ปฎิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา ฐิโต โหติฯ เนกฺขมฺมาธิมุโตฺตติอาทิ สพฺพํ อรหตฺตวเสเนว วุตฺตํฯ อรหตฺตญฺหิ สพฺพกิเลเสหิ นิกฺขนฺตตฺตา เนกฺขมฺมํ, เตเหว ปวิวิตฺตตฺตา ปวิเวโก, พฺยาปชฺฌาภาวโต อพฺยาปชฺฌํ, ตณฺหากฺขยเนฺต อุปฺปนฺนตฺตา ตณฺหากฺขโย , อุปาทานกฺขยเนฺต อุปฺปนฺนตฺตา อุปาทานกฺขโย, สโมฺมหาภาวโต อสโมฺมโหติ วุจฺจติฯ

    Tattha ca nimittaṃ aggahesīti samathanimittañca vipassanānimittañca aggahesi. Cha ṭhānānīti cha kāraṇāni. Adhimutto hotīti paṭivijjhitvā paccakkhaṃ katvā ṭhito hoti. Nekkhammādhimuttotiādi sabbaṃ arahattavaseneva vuttaṃ. Arahattañhi sabbakilesehi nikkhantattā nekkhammaṃ, teheva pavivittattā paviveko, byāpajjhābhāvato abyāpajjhaṃ, taṇhākkhayante uppannattā taṇhākkhayo, upādānakkhayante uppannattā upādānakkhayo, sammohābhāvato asammohoti vuccati.

    เกวลํ สทฺธามตฺตกนฺติ ปฎิเวธรหิตํ เกวลํ ปฎิเวธปญฺญาย อสมฺมิสฺสกํ สทฺธามตฺตกํฯ ปฎิจยนฺติ ปุนปฺปุนํ กรเณน วฑฺฒิํฯ วีตราคตฺตาติ มคฺคปฎิเวเธน ราคสฺส วิคตตฺตาเยว เนกฺขมฺมสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปฎิวิชฺฌิตฺวา สจฺฉิกตฺวา ฐิโต โหติ, ผลสมาปตฺติวิหาเรน วิหรติ, ตนฺนินฺนมานโสเยว จ โหตีติ อโตฺถฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ

    Kevalaṃ saddhāmattakanti paṭivedharahitaṃ kevalaṃ paṭivedhapaññāya asammissakaṃ saddhāmattakaṃ. Paṭicayanti punappunaṃ karaṇena vaḍḍhiṃ. Vītarāgattāti maggapaṭivedhena rāgassa vigatattāyeva nekkhammasaṅkhātaṃ arahattaṃ paṭivijjhitvā sacchikatvā ṭhito hoti, phalasamāpattivihārena viharati, tanninnamānasoyeva ca hotīti attho. Sesapadesupi eseva nayo.

    ลาภสกฺการสิโลกนฺติ จตุปจฺจยลาภญฺจ เตสเญฺญว สุกตภาวญฺจ วณฺณภณนญฺจฯ นิกามยมาโนติ อิจฺฉมาโน ปตฺถยมาโนฯ ปวิเวกาธิมุโตฺตติ ปวิเวเก อธิมุโตฺต อรหนฺติ เอวํ อรหตฺตํ พฺยากโรตีติ อโตฺถฯ

    Lābhasakkārasilokanti catupaccayalābhañca tesaññeva sukatabhāvañca vaṇṇabhaṇanañca. Nikāmayamānoti icchamāno patthayamāno. Pavivekādhimuttoti paviveke adhimutto arahanti evaṃ arahattaṃ byākarotīti attho.

    สีลพฺพตปรามาสนฺติ สีลญฺจ วตญฺจ ปรามสิตฺวา คหิตํ คหณมตฺตํฯ สารโต ปจฺจาคจฺฉโนฺตติ สารภาเวน ชานโนฺตฯ อพฺยาปชฺฌาธิมุโตฺตติ อพฺยาปชฺฌํ อรหตฺตํ พฺยากโรติฯ อิมินาว นเยน สพฺพฎฺฐาเนสุ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ อปิเจตฺถ ‘‘เนกฺขมฺมาธิมุโตฺตติ อิมสฺมิํเยว อรหตฺตํ กถิตํ, เสเสสุ ปญฺจสุ นิพฺพาน’’นฺติ เอเก วทนฺติฯ อปเร ‘‘อสโมฺมหาธิมุโตฺตติ เอเตฺถว นิพฺพานํ กถิตํ, เสเสสุ อรหตฺต’’นฺติ วทนฺติฯ อยํ ปเนตฺถ สาโร – สเพฺพเสฺวว เตสุ อรหตฺตมฺปิ นิพฺพานมฺปิ กถิตเมวาติฯ

    Sīlabbataparāmāsanti sīlañca vatañca parāmasitvā gahitaṃ gahaṇamattaṃ. Sāratopaccāgacchantoti sārabhāvena jānanto. Abyāpajjhādhimuttoti abyāpajjhaṃ arahattaṃ byākaroti. Imināva nayena sabbaṭṭhānesu attho daṭṭhabbo. Apicettha ‘‘nekkhammādhimuttoti imasmiṃyeva arahattaṃ kathitaṃ, sesesu pañcasu nibbāna’’nti eke vadanti. Apare ‘‘asammohādhimuttoti ettheva nibbānaṃ kathitaṃ, sesesu arahatta’’nti vadanti. Ayaṃ panettha sāro – sabbesveva tesu arahattampi nibbānampi kathitamevāti.

    ภุสาติ พลวโนฺต ทิพฺพรูปสทิสาฯ เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺตีติ เอตสฺส ขีณาสวสฺส จิตฺตํ คเหตฺวา ฐาตุํ น สโกฺกนฺติฯ กิเลสา หิ อุปฺปชฺชมานา จิตฺตํ คณฺหนฺติ นามฯ อมิสฺสีกตนฺติ กิเลสา หิ อารมฺมเณน สทฺธิํ จิตฺตํ มิสฺสํ กโรนฺติ, เตสํ อภาวา อมิสฺสีกตํฯ ฐิตนฺติ ปติฎฺฐิตํฯ อาเนญฺชปฺปตฺตนฺติ อจลปฺปตฺตํฯ วยญฺจสฺสานุปสฺสตีติ ตสฺส เจส จิตฺตสฺส อุปฺปาทมฺปิ วยมฺปิ ปสฺสติฯ ภุสา วาตวุฎฺฐีติ พลวา วาตกฺขโนฺธฯ เนว สมฺปกเมฺปยฺยาติ เอกภาเคน จาเลตุํ น สกฺกุเณยฺยฯ น สมฺปกเมฺปยฺยาติ ถูณํ วิย สพฺพภาคโต กเมฺปตุํ น สกฺกุเณยฺยฯ น สมฺปเวเธยฺยาติ เวเธตฺวา ปเวเธตฺวา ปาเตตุํ น สกฺกุเณยฺยฯ

    Bhusāti balavanto dibbarūpasadisā. Nevassa cittaṃ pariyādiyantīti etassa khīṇāsavassa cittaṃ gahetvā ṭhātuṃ na sakkonti. Kilesā hi uppajjamānā cittaṃ gaṇhanti nāma. Amissīkatanti kilesā hi ārammaṇena saddhiṃ cittaṃ missaṃ karonti, tesaṃ abhāvā amissīkataṃ. Ṭhitanti patiṭṭhitaṃ. Āneñjappattanti acalappattaṃ. Vayañcassānupassatīti tassa cesa cittassa uppādampi vayampi passati. Bhusā vātavuṭṭhīti balavā vātakkhandho. Neva sampakampeyyāti ekabhāgena cāletuṃ na sakkuṇeyya. Na sampakampeyyāti thūṇaṃ viya sabbabhāgato kampetuṃ na sakkuṇeyya. Na sampavedheyyāti vedhetvā pavedhetvā pātetuṃ na sakkuṇeyya.

    เนกฺขมฺมํ อธิมุตฺตสฺสาติ อรหตฺตํ ปฎิวิชฺฌิตฺวา ฐิตสฺส ขีณาสวสฺสฯ เสสปเทสุปิ อรหตฺตเมว กถิตํฯ อุปาทานกฺขยสฺส จาติ อุปโยคเตฺถ สามิวจนํฯ อสโมฺมหญฺจ เจตโสติ จิตฺตสฺส จ อสโมฺมหํ อธิมุตฺตสฺสฯ ทิสฺวา อายตนุปฺปาทนฺติ อายตนานํ อุปฺปาทญฺจ วยญฺจ ทิสฺวาฯ สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจตีติ สมฺมา เหตุนา นเยน อิมาย วิปสฺสนาปฎิปตฺติยา ผลสมาปตฺติวเสน จิตฺตํ วิมุจฺจติ, นิพฺพานารมฺมเณ อธิมุจฺจติฯ อถ วา อิมินา ขีณาสวสฺส ปฎิปทา กถิตาฯ ตสฺส หิ อายตนุปฺปาทํ ทิสฺวา อิมาย วิปสฺสนาย อธิคตสฺส อริยมคฺคสฺสานุภาเวน สพฺพกิเลเสหิ สมฺมา จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ เอวํ ตสฺส สมฺมา วิมุตฺตสฺส…เป.… น วิชฺชติฯ ตตฺถ สนฺตจิตฺตสฺสาติ นิพฺพุตจิตฺตสฺสฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ

    Nekkhammaṃadhimuttassāti arahattaṃ paṭivijjhitvā ṭhitassa khīṇāsavassa. Sesapadesupi arahattameva kathitaṃ. Upādānakkhayassa cāti upayogatthe sāmivacanaṃ. Asammohañca cetasoti cittassa ca asammohaṃ adhimuttassa. Disvā āyatanuppādanti āyatanānaṃ uppādañca vayañca disvā. Sammā cittaṃ vimuccatīti sammā hetunā nayena imāya vipassanāpaṭipattiyā phalasamāpattivasena cittaṃ vimuccati, nibbānārammaṇe adhimuccati. Atha vā iminā khīṇāsavassa paṭipadā kathitā. Tassa hi āyatanuppādaṃ disvā imāya vipassanāya adhigatassa ariyamaggassānubhāvena sabbakilesehi sammā cittaṃ vimuccati. Evaṃ tassa sammā vimuttassa…pe… na vijjati. Tattha santacittassāti nibbutacittassa. Sesamettha uttānatthamevāti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑. โสณสุตฺตํ • 1. Soṇasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑. โสณสุตฺตวณฺณนา • 1. Soṇasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact