Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi

    ๑๔. ติํสนิปาโต

    14. Tiṃsanipāto

    ๑. สุภาชีวกมฺพวนิกาเถรีคาถา

    1. Subhājīvakambavanikātherīgāthā

    ๓๖๘.

    368.

    ชีวกมฺพวนํ รมฺมํ, คจฺฉนฺติํ ภิกฺขุนิํ สุภํ;

    Jīvakambavanaṃ rammaṃ, gacchantiṃ bhikkhuniṃ subhaṃ;

    ธุตฺตโก สนฺนิวาเรสิ 1, ตเมนํ อพฺรวี สุภาฯ

    Dhuttako sannivāresi 2, tamenaṃ abravī subhā.

    ๓๖๙.

    369.

    ‘‘กิํ เต อปราธิตํ มยา, ยํ มํ โอวริยาน ติฎฺฐสิ;

    ‘‘Kiṃ te aparādhitaṃ mayā, yaṃ maṃ ovariyāna tiṭṭhasi;

    น หิ ปพฺพชิตาย อาวุโส, ปุริโส สมฺผุสนาย กปฺปติฯ

    Na hi pabbajitāya āvuso, puriso samphusanāya kappati.

    ๓๗๐.

    370.

    ‘‘ครุเก มม สตฺถุสาสเน, ยา สิกฺขา สุคเตน เทสิตา;

    ‘‘Garuke mama satthusāsane, yā sikkhā sugatena desitā;

    ปริสุทฺธปทํ อนงฺคณํ, กิํ มํ โอวริยาน ติฎฺฐสิฯ

    Parisuddhapadaṃ anaṅgaṇaṃ, kiṃ maṃ ovariyāna tiṭṭhasi.

    ๓๗๑.

    371.

    ‘‘อาวิลจิโตฺต อนาวิลํ, สรโช วีตรชํ อนงฺคณํ;

    ‘‘Āvilacitto anāvilaṃ, sarajo vītarajaṃ anaṅgaṇaṃ;

    สพฺพตฺถ วิมุตฺตมานสํ, กิํ มํ โอวริยาน ติฎฺฐสิ’’ฯ

    Sabbattha vimuttamānasaṃ, kiṃ maṃ ovariyāna tiṭṭhasi’’.

    ๓๗๒.

    372.

    ‘‘ทหรา จ อปาปิกา จสิ, กิํ เต ปพฺพชฺชา กริสฺสติ;

    ‘‘Daharā ca apāpikā casi, kiṃ te pabbajjā karissati;

    นิกฺขิป กาสายจีวรํ, เอหิ รมาม สุปุปฺผิเต 3 วเนฯ

    Nikkhipa kāsāyacīvaraṃ, ehi ramāma supupphite 4 vane.

    ๓๗๓.

    373.

    ‘‘มธุรญฺจ ปวนฺติ สพฺพโส, กุสุมรเชน สมุฎฺฐิตา ทุมา;

    ‘‘Madhurañca pavanti sabbaso, kusumarajena samuṭṭhitā dumā;

    ปฐมวสโนฺต สุโข อุตุ, เอหิ รมาม สุปุปฺผิเต วเนฯ

    Paṭhamavasanto sukho utu, ehi ramāma supupphite vane.

    ๓๗๔.

    374.

    ‘‘กุสุมิตสิขรา จ ปาทปา, อภิคชฺชนฺติว มาลุเตริตา;

    ‘‘Kusumitasikharā ca pādapā, abhigajjantiva māluteritā;

    กา ตุยฺหํ รติ ภวิสฺสติ, ยทิ เอกา วนโมคหิสฺสสิ 5

    Kā tuyhaṃ rati bhavissati, yadi ekā vanamogahissasi 6.

    ๓๗๕.

    375.

    ‘‘วาฬมิคสงฺฆเสวิตํ , กุญฺชรมตฺตกเรณุโลฬิตํ;

    ‘‘Vāḷamigasaṅghasevitaṃ , kuñjaramattakareṇuloḷitaṃ;

    อสหายิกา คนฺตุมิจฺฉสิ, รหิตํ ภิํสนกํ มหาวนํฯ

    Asahāyikā gantumicchasi, rahitaṃ bhiṃsanakaṃ mahāvanaṃ.

    ๓๗๖.

    376.

    ‘‘ตปนียกตาว ธีติกา, วิจรสิ จิตฺตลเตว อจฺฉรา;

    ‘‘Tapanīyakatāva dhītikā, vicarasi cittalateva accharā;

    กาสิกสุขุเมหิ วคฺคุภิ, โสภสี สุวสเนหิ นูปเมฯ

    Kāsikasukhumehi vaggubhi, sobhasī suvasanehi nūpame.

    ๓๗๗.

    377.

    ‘‘อหํ ตว วสานุโค สิยํ, ยทิ วิหเรมเส 7 กานนนฺตเร;

    ‘‘Ahaṃ tava vasānugo siyaṃ, yadi viharemase 8 kānanantare;

    น หิ มตฺถิ ตยา ปิยตฺตโร, ปาโณ กินฺนริมนฺทโลจเนฯ

    Na hi matthi tayā piyattaro, pāṇo kinnarimandalocane.

    ๓๗๘.

    378.

    ‘‘ยทิ เม วจนํ กริสฺสสิ, สุขิตา เอหิ อคารมาวส;

    ‘‘Yadi me vacanaṃ karissasi, sukhitā ehi agāramāvasa;

    ปาสาทนิวาตวาสินี, ปริกมฺมํ เต กโรนฺตุ นาริโยฯ

    Pāsādanivātavāsinī, parikammaṃ te karontu nāriyo.

    ๓๗๙.

    379.

    ‘‘กาสิกสุขุมานิ ธารย, อภิโรเปหิ 9 จ มาลวณฺณกํ;

    ‘‘Kāsikasukhumāni dhāraya, abhiropehi 10 ca mālavaṇṇakaṃ;

    กญฺจนมณิมุตฺตกํ พหุํ, วิวิธํ อาภรณํ กโรมิ เตฯ

    Kañcanamaṇimuttakaṃ bahuṃ, vividhaṃ ābharaṇaṃ karomi te.

    ๓๘๐.

    380.

    ‘‘สุโธตรชปจฺฉทํ สุภํ, โคณกตูลิกสนฺถตํ นวํ;

    ‘‘Sudhotarajapacchadaṃ subhaṃ, goṇakatūlikasanthataṃ navaṃ;

    อภิรุห สยนํ มหารหํ, จนฺทนมณฺฑิตสารคนฺธิกํ;

    Abhiruha sayanaṃ mahārahaṃ, candanamaṇḍitasāragandhikaṃ;

    ๓๘๑.

    381.

    ‘‘อุปฺปลํ จุทกา สมุคฺคตํ, ยถา ตํ อมนุสฺสเสวิตํ;

    ‘‘Uppalaṃ cudakā samuggataṃ, yathā taṃ amanussasevitaṃ;

    เอวํ ตฺวํ พฺรหฺมจารินี, สเกสเงฺคสุ ชรํ คมิสฺสสิ’’ฯ

    Evaṃ tvaṃ brahmacārinī, sakesaṅgesu jaraṃ gamissasi’’.

    ๓๘๒.

    382.

    ‘‘กิํ เต อิธ สารสมฺมตํ, กุณปปูรมฺหิ สุสานวฑฺฒเน;

    ‘‘Kiṃ te idha sārasammataṃ, kuṇapapūramhi susānavaḍḍhane;

    เภทนธเมฺม กเฬวเร 11, ยํ ทิสฺวา วิมโน อุทิกฺขสิ’’ฯ

    Bhedanadhamme kaḷevare 12, yaṃ disvā vimano udikkhasi’’.

    ๓๘๓.

    383.

    ‘‘อกฺขีนิ จ ตุริยาริว, กินฺนริยาริว ปพฺพตนฺตเร;

    ‘‘Akkhīni ca turiyāriva, kinnariyāriva pabbatantare;

    ตว เม นยนานิ ทกฺขิย, ภิโยฺย กามรตี ปวฑฺฒติฯ

    Tava me nayanāni dakkhiya, bhiyyo kāmaratī pavaḍḍhati.

    ๓๘๔.

    384.

    ‘‘อุปฺปลสิขโรปมานิ เต, วิมเล หาฎกสนฺนิเภ มุเข;

    ‘‘Uppalasikharopamāni te, vimale hāṭakasannibhe mukhe;

    ตว เม นยนานิ ทกฺขิย 13, ภิโยฺย กามคุโณ ปวฑฺฒติฯ

    Tava me nayanāni dakkhiya 14, bhiyyo kāmaguṇo pavaḍḍhati.

    ๓๘๕.

    385.

    ‘‘อปิ ทูรคตา สรมฺหเส, อายตปเมฺห วิสุทฺธทสฺสเน;

    ‘‘Api dūragatā saramhase, āyatapamhe visuddhadassane;

    น หิ มตฺถิ ตยา ปิยตฺตรา, นยนา กินฺนริมนฺทโลจเน’’ฯ

    Na hi matthi tayā piyattarā, nayanā kinnarimandalocane’’.

    ๓๘๖.

    386.

    ‘‘อปเถน ปยาตุมิจฺฉสิ, จนฺทํ กีฬนกํ คเวสสิ;

    ‘‘Apathena payātumicchasi, candaṃ kīḷanakaṃ gavesasi;

    เมรุํ ลเงฺฆตุมิจฺฉสิ, โย ตฺวํ พุทฺธสุตํ มคฺคยสิฯ

    Meruṃ laṅghetumicchasi, yo tvaṃ buddhasutaṃ maggayasi.

    ๓๘๗.

    387.

    ‘‘นตฺถิ หิ โลเก สเทวเก, ราโค ยตฺถปิ ทานิ เม สิยา;

    ‘‘Natthi hi loke sadevake, rāgo yatthapi dāni me siyā;

    นปิ นํ ชานามิ กีริโส, อถ มเคฺคน หโต สมูลโกฯ

    Napi naṃ jānāmi kīriso, atha maggena hato samūlako.

    ๓๘๘.

    388.

    ‘‘อิงฺคาลกุยาว 15 อุชฺฌิโต, วิสปโตฺตริว อคฺคิโต กโต 16;

    ‘‘Iṅgālakuyāva 17 ujjhito, visapattoriva aggito kato 18;

    นปิ นํ ปสฺสามิ กีริโส, อถ มเคฺคน หโต สมูลโกฯ

    Napi naṃ passāmi kīriso, atha maggena hato samūlako.

    ๓๘๙.

    389.

    ‘‘ยสฺสา สิยา อปจฺจเวกฺขิตํ, สตฺถา วา อนุปาสิโต สิยา;

    ‘‘Yassā siyā apaccavekkhitaṃ, satthā vā anupāsito siyā;

    ตฺวํ ตาทิสิกํ ปโลภย, ชานนฺติํ โส อิมํ วิหญฺญสิฯ

    Tvaṃ tādisikaṃ palobhaya, jānantiṃ so imaṃ vihaññasi.

    ๓๙๐.

    390.

    ‘‘มยฺหญฺหิ อกฺกุฎฺฐวนฺทิเต, สุขทุเกฺข จ สตี อุปฎฺฐิตา;

    ‘‘Mayhañhi akkuṭṭhavandite, sukhadukkhe ca satī upaṭṭhitā;

    สงฺขตมสุภนฺติ ชานิย, สพฺพเตฺถว มโน น ลิมฺปติฯ

    Saṅkhatamasubhanti jāniya, sabbattheva mano na limpati.

    ๓๙๑.

    391.

    ‘‘สาหํ สุคตสฺส สาวิกา, มคฺคฎฺฐงฺคิกยานยายินี;

    ‘‘Sāhaṃ sugatassa sāvikā, maggaṭṭhaṅgikayānayāyinī;

    อุทฺธฎสลฺลา อนาสวา, สุญฺญาคารคตา รมามหํฯ

    Uddhaṭasallā anāsavā, suññāgāragatā ramāmahaṃ.

    ๓๙๒.

    392.

    ‘‘ทิฎฺฐา หิ มยา สุจิตฺติตา, โสมฺภา ทารุกปิลฺลกานิ วา;

    ‘‘Diṭṭhā hi mayā sucittitā, sombhā dārukapillakāni vā;

    ตนฺตีหิ จ ขีลเกหิ จ, วินิพทฺธา วิวิธํ ปนจฺจกาฯ

    Tantīhi ca khīlakehi ca, vinibaddhā vividhaṃ panaccakā.

    ๓๙๓.

    393.

    ‘‘ตมฺหุทฺธเฎ ตนฺติขีลเก, วิสฺสเฎฺฐ วิกเล ปริกฺริเต 19;

    ‘‘Tamhuddhaṭe tantikhīlake, vissaṭṭhe vikale parikrite 20;

    น วิเนฺทยฺย ขณฺฑโส กเต, กิมฺหิ ตตฺถ มนํ นิเวสเยฯ

    Na vindeyya khaṇḍaso kate, kimhi tattha manaṃ nivesaye.

    ๓๙๔.

    394.

    ‘‘ตถูปมา เทหกานิ มํ, เตหิ ธเมฺมหิ วินา น วตฺตนฺติ;

    ‘‘Tathūpamā dehakāni maṃ, tehi dhammehi vinā na vattanti;

    ธเมฺมหิ วินา น วตฺตติ, กิมฺหิ ตตฺถ มนํ นิเวสเยฯ

    Dhammehi vinā na vattati, kimhi tattha manaṃ nivesaye.

    ๓๙๕.

    395.

    ‘‘ยถา หริตาเลน มกฺขิตํ, อทฺทส จิตฺติกํ ภิตฺติยา กตํ;

    ‘‘Yathā haritālena makkhitaṃ, addasa cittikaṃ bhittiyā kataṃ;

    ตมฺหิ เต วิปรีตทสฺสนํ, สญฺญา มานุสิกา นิรตฺถิกาฯ

    Tamhi te viparītadassanaṃ, saññā mānusikā niratthikā.

    ๓๙๖.

    396.

    ‘‘มายํ วิย อคฺคโต กตํ, สุปินเนฺตว สุวณฺณปาทปํ;

    ‘‘Māyaṃ viya aggato kataṃ, supinanteva suvaṇṇapādapaṃ;

    อุปคจฺฉสิ อนฺธ ริตฺตกํ, ชนมเชฺฌริว รุปฺปรูปกํ 21

    Upagacchasi andha rittakaṃ, janamajjheriva rupparūpakaṃ 22.

    ๓๙๗.

    397.

    ‘‘วฎฺฎนิริว โกฎโรหิตา, มเชฺฌ ปุพฺพุฬกา สอสฺสุกา;

    ‘‘Vaṭṭaniriva koṭarohitā, majjhe pubbuḷakā saassukā;

    ปีฬโกฬิกา เจตฺถ ชายติ, วิวิธา จกฺขุวิธา จ ปิณฺฑิตา’’ฯ

    Pīḷakoḷikā cettha jāyati, vividhā cakkhuvidhā ca piṇḍitā’’.

    ๓๙๘.

    398.

    อุปฺปาฎิย จารุทสฺสนา, น จ ปชฺชิตฺถ อสงฺคมานสา;

    Uppāṭiya cārudassanā, na ca pajjittha asaṅgamānasā;

    ‘‘หนฺท เต จกฺขุํ หรสฺสุ ตํ’’, ตสฺส นรสฺส อทาสิ ตาวเทฯ

    ‘‘Handa te cakkhuṃ harassu taṃ’’, tassa narassa adāsi tāvade.

    ๓๙๙.

    399.

    ตสฺส จ วิรมาสิ ตาวเท, ราโค ตตฺถ ขมาปยี จ นํ;

    Tassa ca viramāsi tāvade, rāgo tattha khamāpayī ca naṃ;

    ‘‘โสตฺถิ สิยา พฺรหฺมจารินี, น ปุโน เอทิสกํ ภวิสฺสติ’’ฯ

    ‘‘Sotthi siyā brahmacārinī, na puno edisakaṃ bhavissati’’.

    ๔๐๐.

    400.

    ‘‘อาสาทิย 23 เอทิสํ ชนํ, อคฺคิํ ปชฺชลิตํ ว ลิงฺคิย;

    ‘‘Āsādiya 24 edisaṃ janaṃ, aggiṃ pajjalitaṃ va liṅgiya;

    คณฺหิย อาสีวิสํ วิย, อปิ นุ โสตฺถิ สิยา ขเมหิ โน’’ฯ

    Gaṇhiya āsīvisaṃ viya, api nu sotthi siyā khamehi no’’.

    ๔๐๑.

    401.

    มุตฺตา จ ตโต สา ภิกฺขุนี, อคมี พุทฺธวรสฺส สนฺติกํ;

    Muttā ca tato sā bhikkhunī, agamī buddhavarassa santikaṃ;

    ปสฺสิย วรปุญฺญลกฺขณํ, จกฺขุ อาสิ ยถา ปุราณกนฺติฯ

    Passiya varapuññalakkhaṇaṃ, cakkhu āsi yathā purāṇakanti.

    … สุภา ชีวกมฺพวนิกา เถรี…ฯ

    … Subhā jīvakambavanikā therī….

    ติํสนิปาโต นิฎฺฐิโตฯ

    Tiṃsanipāto niṭṭhito.







    Footnotes:
    1. ตํ นิวาเรสิ (ก.)
    2. taṃ nivāresi (ka.)
    3. รมามเส ปุปฺผิเต (สี. สฺยา.)
    4. ramāmase pupphite (sī. syā.)
    5. วนโมตริสฺสสิ (สี.), วนโมคาหิสฺสสิ (สฺยา. ก.)
    6. vanamotarissasi (sī.), vanamogāhissasi (syā. ka.)
    7. ยทิปิ วิหเรสิ (ก.)
    8. yadipi viharesi (ka.)
    9. อภิโรเหหิ (สี.)
    10. abhirohehi (sī.)
    11. กเลวเร (สี. ก.)
    12. kalevare (sī. ka.)
    13. นยนานุทิกฺขิย (สี.)
    14. nayanānudikkhiya (sī.)
    15. อิงฺฆาฬขุยาว (สฺยา.)
    16. อคฺฆโต หโต (สี.)
    17. iṅghāḷakhuyāva (syā.)
    18. agghato hato (sī.)
    19. ปริปกฺขีเต (สี.), ปริปกฺกเต (สฺยา.)
    20. paripakkhīte (sī.), paripakkate (syā.)
    21. รูปรูปกํ (ก.)
    22. rūparūpakaṃ (ka.)
    23. อาหนิย (สฺยา. ก.)
    24. āhaniya (syā. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā / ๑. สุภาชีวกมฺพวนิกาเถรีคาถาวณฺณนา • 1. Subhājīvakambavanikātherīgāthāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact