Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi |
๕. สุภากมฺมารธีตุเถรีคาถา
5. Subhākammāradhītutherīgāthā
๓๓๙.
339.
‘‘ทหราหํ สุทฺธวสนา, ยํ ปุเร ธมฺมมสฺสุณิํ;
‘‘Daharāhaṃ suddhavasanā, yaṃ pure dhammamassuṇiṃ;
ตสฺสา เม อปฺปมตฺตาย, สจฺจาภิสมโย อหุฯ
Tassā me appamattāya, saccābhisamayo ahu.
๓๔๐.
340.
‘‘ตโตหํ สพฺพกาเมสุ, ภุสํ อรติมชฺฌคํ;
‘‘Tatohaṃ sabbakāmesu, bhusaṃ aratimajjhagaṃ;
๓๔๑.
341.
‘‘หิตฺวานหํ ญาติคณํ, ทาสกมฺมกรานิ จ;
‘‘Hitvānahaṃ ñātigaṇaṃ, dāsakammakarāni ca;
คามเขตฺตานิ ผีตานิ, รมณีเย ปโมทิเตฯ
Gāmakhettāni phītāni, ramaṇīye pamodite.
๓๔๒.
342.
‘‘ปหายหํ ปพฺพชิตา, สาปเตยฺยมนปฺปกํ;
‘‘Pahāyahaṃ pabbajitā, sāpateyyamanappakaṃ;
เอวํ สทฺธาย นิกฺขมฺม, สทฺธเมฺม สุปฺปเวทิเตฯ
Evaṃ saddhāya nikkhamma, saddhamme suppavedite.
๓๔๓.
343.
๓๔๔.
344.
‘‘รชตํ ชาตรูปํ วา, น โพธาย น สนฺติยา;
‘‘Rajataṃ jātarūpaṃ vā, na bodhāya na santiyā;
เนตํ สมณสารุปฺปํ, น เอตํ อริยทฺธนํฯ
Netaṃ samaṇasāruppaṃ, na etaṃ ariyaddhanaṃ.
๓๔๕.
345.
‘‘โลภนํ มทนเญฺจตํ, โมหนํ รชวฑฺฒนํ;
‘‘Lobhanaṃ madanañcetaṃ, mohanaṃ rajavaḍḍhanaṃ;
สาสงฺกํ พหุอายาสํ, นตฺถิ เจตฺถ ธุวํ ฐิติฯ
Sāsaṅkaṃ bahuāyāsaṃ, natthi cettha dhuvaṃ ṭhiti.
๓๔๖.
346.
‘‘เอตฺถ รตฺตา ปมตฺตา จ, สงฺกิลิฎฺฐมนา นรา;
‘‘Ettha rattā pamattā ca, saṅkiliṭṭhamanā narā;
อญฺญมเญฺญน พฺยารุทฺธา, ปุถุ กุพฺพนฺติ เมธคํฯ
Aññamaññena byāruddhā, puthu kubbanti medhagaṃ.
๓๔๗.
347.
‘‘วโธ พโนฺธ ปริเกฺลโส, ชานิ โสกปริทฺทโว;
‘‘Vadho bandho parikleso, jāni sokapariddavo;
กาเมสุ อธิปนฺนานํ, ทิสฺสเต พฺยสนํ พหุํฯ
Kāmesu adhipannānaṃ, dissate byasanaṃ bahuṃ.
๓๔๘.
348.
‘‘ตํ มํ ญาตี อมิตฺตาว, กิํ โว กาเมสุ ยุญฺชถ;
‘‘Taṃ maṃ ñātī amittāva, kiṃ vo kāmesu yuñjatha;
ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, กาเมสุ ภยทสฺสินิํฯ
Jānātha maṃ pabbajitaṃ, kāmesu bhayadassiniṃ.
๓๔๙.
349.
‘‘น หิรญฺญสุวเณฺณน, ปริกฺขียนฺติ อาสวา;
‘‘Na hiraññasuvaṇṇena, parikkhīyanti āsavā;
อมิตฺตา วธกา กามา, สปตฺตา สลฺลพนฺธนาฯ
Amittā vadhakā kāmā, sapattā sallabandhanā.
๓๕๐.
350.
‘‘ตํ มํ ญาตี อมิตฺตาว, กิํ โว กาเมสุ ยุญฺชถ;
‘‘Taṃ maṃ ñātī amittāva, kiṃ vo kāmesu yuñjatha;
ชานาถ มํ ปพฺพชิตํ, มุณฺฑํ สงฺฆาฎิปารุตํฯ
Jānātha maṃ pabbajitaṃ, muṇḍaṃ saṅghāṭipārutaṃ.
๓๕๑.
351.
‘‘อุตฺติฎฺฐปิโณฺฑ อุโญฺฉ จ, ปํสุกูลญฺจ จีวรํ;
‘‘Uttiṭṭhapiṇḍo uñcho ca, paṃsukūlañca cīvaraṃ;
เอตํ โข มม สารุปฺปํ, อนคารูปนิสฺสโยฯ
Etaṃ kho mama sāruppaṃ, anagārūpanissayo.
๓๕๒.
352.
‘‘วนฺตา มเหสีหิ กามา, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;
‘‘Vantā mahesīhi kāmā, ye dibbā ye ca mānusā;
เขมฎฺฐาเน วิมุตฺตา เต, ปตฺตา เต อจลํ สุขํฯ
Khemaṭṭhāne vimuttā te, pattā te acalaṃ sukhaṃ.
๓๕๓.
353.
‘‘มาหํ กาเมหิ สงฺคจฺฉิํ, เยสุ ตาณํ น วิชฺชติ;
‘‘Māhaṃ kāmehi saṅgacchiṃ, yesu tāṇaṃ na vijjati;
อมิตฺตา วธกา กามา, อคฺคิกฺขนฺธูปมา ทุขาฯ
Amittā vadhakā kāmā, aggikkhandhūpamā dukhā.
๓๕๔.
354.
‘‘ปริปโนฺถ เอส ภโย, สวิฆาโต สกณฺฎโก;
‘‘Paripantho esa bhayo, savighāto sakaṇṭako;
๓๕๕.
355.
‘‘อุปสโคฺค ภีมรูโป, กามา สปฺปสิรูปมา;
‘‘Upasaggo bhīmarūpo, kāmā sappasirūpamā;
เย พาลา อภินนฺทนฺติ, อนฺธภูตา ปุถุชฺชนาฯ
Ye bālā abhinandanti, andhabhūtā puthujjanā.
๓๕๖.
356.
‘‘กามปเงฺกน สตฺตา หิ, พหู โลเก อวิทฺทสู;
‘‘Kāmapaṅkena sattā hi, bahū loke aviddasū;
ปริยนฺตํ น ชานนฺติ, ชาติยา มรณสฺส จฯ
Pariyantaṃ na jānanti, jātiyā maraṇassa ca.
๓๕๗.
357.
‘‘ทุคฺคติคมนํ มคฺคํ, มนุสฺสา กามเหตุกํ;
‘‘Duggatigamanaṃ maggaṃ, manussā kāmahetukaṃ;
พหุํ เว ปฎิปชฺชนฺติ, อตฺตโน โรคมาวหํฯ
Bahuṃ ve paṭipajjanti, attano rogamāvahaṃ.
๓๕๘.
358.
‘‘เอวํ อมิตฺตชนนา, ตาปนา สํกิเลสิกา;
‘‘Evaṃ amittajananā, tāpanā saṃkilesikā;
๓๕๙.
359.
‘‘อุมฺมาทนา อุลฺลปนา, กามา จิตฺตปฺปมทฺทิโน;
‘‘Ummādanā ullapanā, kāmā cittappamaddino;
๓๖๐.
360.
‘‘อนนฺตาทีนวา กามา, พหุทุกฺขา มหาวิสา;
‘‘Anantādīnavā kāmā, bahudukkhā mahāvisā;
๓๖๑.
361.
‘‘สาหํ เอตาทิสํ กตฺวา, พฺยสนํ กามเหตุกํ;
‘‘Sāhaṃ etādisaṃ katvā, byasanaṃ kāmahetukaṃ;
น ตํ ปจฺจาคมิสฺสามิ, นิพฺพานาภิรตา สทาฯ
Na taṃ paccāgamissāmi, nibbānābhiratā sadā.
๓๖๒.
362.
อปฺปมตฺตา วิหสฺสามิ, สพฺพสํโยชนกฺขเยฯ
Appamattā vihassāmi, sabbasaṃyojanakkhaye.
๓๖๓.
363.
‘‘อโสกํ วิรชํ เขมํ, อริยฎฺฐงฺคิกํ อุชุํ;
‘‘Asokaṃ virajaṃ khemaṃ, ariyaṭṭhaṅgikaṃ ujuṃ;
ตํ มคฺคํ อนุคจฺฉามิ, เยน ติณฺณา มเหสิโน’’ฯ
Taṃ maggaṃ anugacchāmi, yena tiṇṇā mahesino’’.
๓๖๔.
364.
อิมํ ปสฺสถ ธมฺมฎฺฐํ, สุภํ กมฺมารธีตรํ;
Imaṃ passatha dhammaṭṭhaṃ, subhaṃ kammāradhītaraṃ;
อเนชํ อุปสมฺปชฺช, รุกฺขมูลมฺหิ ฌายติฯ
Anejaṃ upasampajja, rukkhamūlamhi jhāyati.
๓๖๕.
365.
อชฺชฎฺฐมี ปพฺพชิตา, สทฺธา สทฺธมฺมโสภนา;
Ajjaṭṭhamī pabbajitā, saddhā saddhammasobhanā;
วินีตุปฺปลวณฺณาย, เตวิชฺชา มจฺจุหายินีฯ
Vinītuppalavaṇṇāya, tevijjā maccuhāyinī.
๓๖๖.
366.
สายํ ภุชิสฺสา อนณา, ภิกฺขุนี ภาวิตินฺทฺริยา;
Sāyaṃ bhujissā anaṇā, bhikkhunī bhāvitindriyā;
สพฺพโยควิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวาฯ
Sabbayogavisaṃyuttā, katakiccā anāsavā.
๓๖๗.
367.
ตํ สโกฺก เทวสเงฺฆน, อุปสงฺกมฺม อิทฺธิยา;
Taṃ sakko devasaṅghena, upasaṅkamma iddhiyā;
นมสฺสติ ภูตปติ, สุภํ กมฺมารธีตรนฺติฯ
Namassati bhūtapati, subhaṃ kammāradhītaranti.
… สุภา กมฺมารธีตา เถรี…ฯ
… Subhā kammāradhītā therī….
วีสตินิปาโต นิฎฺฐิโตฯ
Vīsatinipāto niṭṭhito.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā / ๕. สุภากมฺมารธีตุเถรีคาถาวณฺณนา • 5. Subhākammāradhītutherīgāthāvaṇṇanā