Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๕. สุภาสิตชยสุตฺตํ
5. Subhāsitajayasuttaṃ
๒๕๑. สาวตฺถินิทานํฯ ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูโฬฺห อโหสิฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุริโนฺท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘โหตุ, เทวานมินฺท, สุภาสิเตน ชโย’ติฯ ‘โหตุ, เวปจิตฺติ, สุภาสิเตน ชโย’ติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เทวา จ อสุรา จ ปาริสเชฺช ฐเปสุํ – ‘อิเม โน สุภาสิตทุพฺภาสิตํ อาชานิสฺสนฺตี’ติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติํ อสุริโนฺท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถ’นฺติฯ เอวํ วุเตฺต, ภิกฺขเว, สโกฺก เทวานมิโนฺท เวปจิตฺติ อสุรินฺทํ เอตทโวจ – ‘ตุเมฺห เขฺวตฺถ, เวปจิตฺติ, ปุพฺพเทวาฯ ภณ, เวปจิตฺติ, คาถ’นฺติฯ เอวํ วุเตฺต, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุริโนฺท อิมํ คาถํ อภาสิ –
251. Sāvatthinidānaṃ. ‘‘Bhūtapubbaṃ, bhikkhave, devāsurasaṅgāmo samupabyūḷho ahosi. Atha kho, bhikkhave, vepacitti asurindo sakkaṃ devānamindaṃ etadavoca – ‘hotu, devānaminda, subhāsitena jayo’ti. ‘Hotu, vepacitti, subhāsitena jayo’ti. Atha kho, bhikkhave, devā ca asurā ca pārisajje ṭhapesuṃ – ‘ime no subhāsitadubbhāsitaṃ ājānissantī’ti. Atha kho, bhikkhave, vepacittiṃ asurindo sakkaṃ devānamindaṃ etadavoca – ‘bhaṇa, devānaminda, gātha’nti. Evaṃ vutte, bhikkhave, sakko devānamindo vepacitti asurindaṃ etadavoca – ‘tumhe khvettha, vepacitti, pubbadevā. Bhaṇa, vepacitti, gātha’nti. Evaṃ vutte, bhikkhave, vepacitti asurindo imaṃ gāthaṃ abhāsi –
‘‘ภิโยฺย พาลา ปภิเชฺชยฺยุํ, โน จสฺส ปฎิเสธโก;
‘‘Bhiyyo bālā pabhijjeyyuṃ, no cassa paṭisedhako;
ตสฺมา ภุเสน ทเณฺฑน, ธีโร พาลํ นิเสธเย’’ติฯ
Tasmā bhusena daṇḍena, dhīro bālaṃ nisedhaye’’ti.
‘‘ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, เวปจิตฺตินา อสุริเนฺทน คาถาย อสุรา อนุโมทิํสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุริโนฺท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถ’นฺติฯ เอวํ วุเตฺต, ภิกฺขเว, สโกฺก เทวานมิโนฺท อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘Bhāsitāya kho pana, bhikkhave, vepacittinā asurindena gāthāya asurā anumodiṃsu, devā tuṇhī ahesuṃ. Atha kho, bhikkhave, vepacitti asurindo sakkaṃ devānamindaṃ etadavoca – ‘bhaṇa, devānaminda, gātha’nti. Evaṃ vutte, bhikkhave, sakko devānamindo imaṃ gāthaṃ abhāsi –
‘‘เอตเทว อหํ มเญฺญ, พาลสฺส ปฎิเสธนํ;
‘‘Etadeva ahaṃ maññe, bālassa paṭisedhanaṃ;
ปรํ สงฺกุปิตํ ญตฺวา, โย สโต อุปสมฺมตี’’ติฯ
Paraṃ saṅkupitaṃ ñatvā, yo sato upasammatī’’ti.
‘‘ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, สเกฺกน เทวานมิเนฺทน คาถาย, เทวา อนุโมทิํสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุํฯ อถ โข, ภิกฺขเว, สโกฺก เทวานมิโนฺท เวปจิตฺติํ อสุรินฺทํ เอตทโวจ – ‘ภณ, เวปจิตฺติ, คาถ’นฺติฯ เอวํ วุเตฺต, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุริโนฺท อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘Bhāsitāya kho pana, bhikkhave, sakkena devānamindena gāthāya, devā anumodiṃsu, asurā tuṇhī ahesuṃ. Atha kho, bhikkhave, sakko devānamindo vepacittiṃ asurindaṃ etadavoca – ‘bhaṇa, vepacitti, gātha’nti. Evaṃ vutte, bhikkhave, vepacitti asurindo imaṃ gāthaṃ abhāsi –
‘‘เอตเทว ติติกฺขาย, วชฺชํ ปสฺสามิ วาสว;
‘‘Etadeva titikkhāya, vajjaṃ passāmi vāsava;
ยทา นํ มญฺญติ พาโล, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
Yadā naṃ maññati bālo, bhayā myāyaṃ titikkhati;
อชฺฌารุหติ ทุเมฺมโธ, โคว ภิโยฺย ปลายิน’’นฺติฯ
Ajjhāruhati dummedho, gova bhiyyo palāyina’’nti.
‘‘ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, เวปจิตฺตินา อสุริเนฺทน คาถาย อสุรา อนุโมทิํสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุริโนฺท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถ’นฺติฯ เอวํ วุเตฺต, ภิกฺขเว, สโกฺก เทวานมิโนฺท อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘Bhāsitāya kho pana, bhikkhave, vepacittinā asurindena gāthāya asurā anumodiṃsu, devā tuṇhī ahesuṃ. Atha kho, bhikkhave, vepacitti asurindo sakkaṃ devānamindaṃ etadavoca – ‘bhaṇa, devānaminda, gātha’nti. Evaṃ vutte, bhikkhave, sakko devānamindo imā gāthāyo abhāsi –
‘‘กามํ มญฺญตุ วา มา วา, ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
‘‘Kāmaṃ maññatu vā mā vā, bhayā myāyaṃ titikkhati;
สทตฺถปรมา อตฺถา, ขนฺตฺยา ภิโยฺย น วิชฺชติฯ
Sadatthaparamā atthā, khantyā bhiyyo na vijjati.
‘‘โย หเว พลวา สโนฺต, ทุพฺพลสฺส ติติกฺขติ;
‘‘Yo have balavā santo, dubbalassa titikkhati;
ตมาหุ ปรมํ ขนฺติํ, นิจฺจํ ขมติ ทุพฺพโลฯ
Tamāhu paramaṃ khantiṃ, niccaṃ khamati dubbalo.
‘‘อพลํ ตํ พลํ อาหุ, ยสฺส พาลพลํ พลํ;
‘‘Abalaṃ taṃ balaṃ āhu, yassa bālabalaṃ balaṃ;
พลสฺส ธมฺมคุตฺตสฺส, ปฎิวตฺตา น วิชฺชติฯ
Balassa dhammaguttassa, paṭivattā na vijjati.
‘‘ตเสฺสว เตน ปาปิโย, โย กุทฺธํ ปฎิกุชฺฌติ;
‘‘Tasseva tena pāpiyo, yo kuddhaṃ paṭikujjhati;
กุทฺธํ อปฺปฎิกุชฺฌโนฺต, สงฺคามํ เชติ ทุชฺชยํฯ
Kuddhaṃ appaṭikujjhanto, saṅgāmaṃ jeti dujjayaṃ.
‘‘อุภินฺนมตฺถํ จรติ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
‘‘Ubhinnamatthaṃ carati, attano ca parassa ca;
ปรํ สงฺกุปิตํ ญตฺวา, โย สโต อุปสมฺมติฯ
Paraṃ saṅkupitaṃ ñatvā, yo sato upasammati.
‘‘อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตานํ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
‘‘Ubhinnaṃ tikicchantānaṃ, attano ca parassa ca;
ชนา มญฺญนฺติ พาโลติ, เย ธมฺมสฺส อโกวิทา’’ติฯ
Janā maññanti bāloti, ye dhammassa akovidā’’ti.
‘‘ภาสิตาสุ โข ปน, ภิกฺขเว, สเกฺกน เทวานมิเนฺทน คาถาสุ, เทวา อนุโมทิํสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุํฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เทวานญฺจ อสุรานญฺจ ปาริสชฺชา เอตทโวจุํ – ‘ภาสิตา โข เวปจิตฺตินา อสุริเนฺทน คาถาโยฯ ตา จ โข สทณฺฑาวจรา สสตฺถาวจรา, อิติ ภณฺฑนํ อิติ วิคฺคโห อิติ กลโหฯ ภาสิตา โข 1 สเกฺกน เทวานมิเนฺทน คาถาโยฯ ตา จ โข อทณฺฑาวจรา อสตฺถาวจรา, อิติ อภณฺฑนํ อิติ อวิคฺคโห อิติ อกลโหฯ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส สุภาสิเตน ชโย’ติฯ อิติ โข, ภิกฺขเว สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส สุภาสิเตน ชโย อโหสี’’ติฯ
‘‘Bhāsitāsu kho pana, bhikkhave, sakkena devānamindena gāthāsu, devā anumodiṃsu, asurā tuṇhī ahesuṃ. Atha kho, bhikkhave, devānañca asurānañca pārisajjā etadavocuṃ – ‘bhāsitā kho vepacittinā asurindena gāthāyo. Tā ca kho sadaṇḍāvacarā sasatthāvacarā, iti bhaṇḍanaṃ iti viggaho iti kalaho. Bhāsitā kho 2 sakkena devānamindena gāthāyo. Tā ca kho adaṇḍāvacarā asatthāvacarā, iti abhaṇḍanaṃ iti aviggaho iti akalaho. Sakkassa devānamindassa subhāsitena jayo’ti. Iti kho, bhikkhave sakkassa devānamindassa subhāsitena jayo ahosī’’ti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. สุภาสิตชยสุตฺตวณฺณนา • 5. Subhāsitajayasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. สุภาสิตชยสุตฺตวณฺณนา • 5. Subhāsitajayasuttavaṇṇanā