Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๒. สุภูตเตฺถรคาถาวณฺณนา

    2. Subhūtattheragāthāvaṇṇanā

    อโยเคติอาทิกา อายสฺมโต สุภูตเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต กสฺสปสฺส ภควโต กาเล พาราณสิยํ คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปสนฺนมานโส สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฎฺฐาย มาเส มาเส อฎฺฐกฺขตฺตุํ จตุชฺชาติยคเนฺธน สตฺถุ คนฺธกุฎิํ โอปุญฺชาเปสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฎฺฐาเน สุคนฺธสรีโร หุตฺวา, อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท มคธรเฎฺฐ คหปติกุเล นิพฺพตฺติตฺวา สุภูโตติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต, นิสฺสรณชฺฌาสยตาย ฆราวาสํ ปหาย ติตฺถิเยสุ ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ สารํ อลภโนฺต, สตฺถุ สนฺติเก อุปติสฺสโกลิตเสลาทิเก พหู สมณพฺราหฺมเณ ปพฺพชิตฺวา สามญฺญสุขํ อนุภวเนฺต ทิสฺวา สาสเน ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา อาจริยุปชฺฌาเย อาราเธตฺวา กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา วิเวกวาสํ วสโนฺต วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๕.๒๗๒-๓๐๘) –

    Ayogetiādikā āyasmato subhūtattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto kassapassa bhagavato kāle bārāṇasiyaṃ gahapatimahāsālakule nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ satthu santike dhammaṃ sutvā pasannamānaso saraṇesu ca sīlesu ca patiṭṭhāya māse māse aṭṭhakkhattuṃ catujjātiyagandhena satthu gandhakuṭiṃ opuñjāpesi. So tena puññakammena nibbattanibbattaṭṭhāne sugandhasarīro hutvā, imasmiṃ buddhuppāde magadharaṭṭhe gahapatikule nibbattitvā subhūtoti laddhanāmo vayappatto, nissaraṇajjhāsayatāya gharāvāsaṃ pahāya titthiyesu pabbajitvā tattha sāraṃ alabhanto, satthu santike upatissakolitaselādike bahū samaṇabrāhmaṇe pabbajitvā sāmaññasukhaṃ anubhavante disvā sāsane paṭiladdhasaddho pabbajitvā ācariyupajjhāye ārādhetvā kammaṭṭhānaṃ gahetvā vivekavāsaṃ vasanto vipassanaṃ vaḍḍhetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.55.272-308) –

    ‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กเปฺป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;

    ‘‘Imamhi bhaddake kappe, brahmabandhu mahāyaso;

    กสฺสโป นาม โคเตฺตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโรฯ

    Kassapo nāma gottena, uppajji vadataṃ varo.

    ‘‘อนุพฺยญฺชนสมฺปโนฺน, พาตฺติํสวรลกฺขโณ;

    ‘‘Anubyañjanasampanno, bāttiṃsavaralakkhaṇo;

    พฺยามปฺปภาปริวุโต, รํสิชาลสโมตฺถโฎฯ

    Byāmappabhāparivuto, raṃsijālasamotthaṭo.

    ‘‘อสฺสาเสตา ยถา จโนฺท, สูริโยว ปภงฺกโร;

    ‘‘Assāsetā yathā cando, sūriyova pabhaṅkaro;

    นิพฺพาเปตา ยถา เมโฆ, สาคโรว คุณากโรฯ

    Nibbāpetā yathā megho, sāgarova guṇākaro.

    ‘‘ธรณีริว สีเลน, หิมวาว สมาธินา;

    ‘‘Dharaṇīriva sīlena, himavāva samādhinā;

    อากาโส วิย ปญฺญาย, อสโงฺค อนิโล ยถาฯ

    Ākāso viya paññāya, asaṅgo anilo yathā.

    ‘‘ตทาหํ พาราณสิยํ, อุปปโนฺน มหากุเล;

    ‘‘Tadāhaṃ bārāṇasiyaṃ, upapanno mahākule;

    ปหูตธนธญฺญสฺมิํ, นานารตนสญฺจเยฯ

    Pahūtadhanadhaññasmiṃ, nānāratanasañcaye.

    ‘‘มหตา ปริวาเรน, นิสินฺนํ โลกนายกํ;

    ‘‘Mahatā parivārena, nisinnaṃ lokanāyakaṃ;

    อุเปจฺจ ธมฺมมโสฺสสิํ, อมตํว มโนหรํฯ

    Upecca dhammamassosiṃ, amataṃva manoharaṃ.

    ‘‘ทฺวตฺติํสลกฺขณธโร, สนกฺขโตฺตว จนฺทิมา;

    ‘‘Dvattiṃsalakkhaṇadharo, sanakkhattova candimā;

    อนุพฺยญฺชนสมฺปโนฺน, สาลราชาว ผุลฺลิโตฯ

    Anubyañjanasampanno, sālarājāva phullito.

    ‘‘รํสิชาลปริกฺขิโตฺต, ทิโตฺตว กนกาจโล;

    ‘‘Raṃsijālaparikkhitto, dittova kanakācalo;

    พฺยามปฺปภาปริวุโต, สตรํสี ทิวากโรฯ

    Byāmappabhāparivuto, sataraṃsī divākaro.

    ‘‘โสณฺณานโน ชินวโร, สมณีว สิลุจฺจโย;

    ‘‘Soṇṇānano jinavaro, samaṇīva siluccayo;

    กรุณาปุณฺณหทโย, คุเณน วิย สาคโรฯ

    Karuṇāpuṇṇahadayo, guṇena viya sāgaro.

    ‘‘โลกวิสฺสุตกิตฺติ จ, สิเนรูว นคุตฺตโม;

    ‘‘Lokavissutakitti ca, sinerūva naguttamo;

    ยสสา วิตฺถโต วีโร, อากาสสทิโส มุนิฯ

    Yasasā vitthato vīro, ākāsasadiso muni.

    ‘‘อสงฺคจิโตฺต สพฺพตฺถ, อนิโล วิย นายโก;

    ‘‘Asaṅgacitto sabbattha, anilo viya nāyako;

    ปติฎฺฐา สพฺพภูตานํ, มหีว มุนิสตฺตโมฯ

    Patiṭṭhā sabbabhūtānaṃ, mahīva munisattamo.

    ‘‘อนุปลิโตฺต โลเกน, โตเยน ปทุมํ ยถา;

    ‘‘Anupalitto lokena, toyena padumaṃ yathā;

    กุวาทคจฺฉทหโน, อคฺคิกฺขโนฺธว โสภติฯ

    Kuvādagacchadahano, aggikkhandhova sobhati.

    ‘‘อคโท วิย สพฺพตฺถ, กิเลสวิสนาสโก;

    ‘‘Agado viya sabbattha, kilesavisanāsako;

    คนฺธมาทนเสโลว, คุณคนฺธวิภูสิโตฯ

    Gandhamādanaselova, guṇagandhavibhūsito.

    ‘‘คุณานํ อากโร วีโร, รตนานํว สาคโร;

    ‘‘Guṇānaṃ ākaro vīro, ratanānaṃva sāgaro;

    สินฺธูว วนราชีนํ, กิเลสมลหารโกฯ

    Sindhūva vanarājīnaṃ, kilesamalahārako.

    ‘‘วิชยีว มหาโยโธ, มารเสนาวมทฺทโน;

    ‘‘Vijayīva mahāyodho, mārasenāvamaddano;

    จกฺกวตฺตีว โส ราชา, โพชฺฌงฺครตนิสฺสโรฯ

    Cakkavattīva so rājā, bojjhaṅgaratanissaro.

    ‘‘มหาภิสกฺกสงฺกาโส, โทสพฺยาธิติกิจฺฉโก;

    ‘‘Mahābhisakkasaṅkāso, dosabyādhitikicchako;

    สลฺลกโตฺต ยถา เวโชฺช, ทิฎฺฐิคณฺฑวิผาลโกฯ

    Sallakatto yathā vejjo, diṭṭhigaṇḍaviphālako.

    ‘‘โส ตทา โลกปโชฺชโต, สนรามรสกฺกโต;

    ‘‘So tadā lokapajjoto, sanarāmarasakkato;

    ปริสาสุ นราทิโจฺจ, ธมฺมํ เทสยเต ชิโนฯ

    Parisāsu narādicco, dhammaṃ desayate jino.

    ‘‘ทานํ ทตฺวา มหาโภโค, สีเลน สุคตูปโค;

    ‘‘Dānaṃ datvā mahābhogo, sīlena sugatūpago;

    ภาวนาย จ นิพฺพาติ, อิเจฺจวมนุสาสถฯ

    Bhāvanāya ca nibbāti, iccevamanusāsatha.

    ‘‘เทสนํ ตํ มหสฺสาทํ, อาทิมชฺฌนฺตโสภนํ;

    ‘‘Desanaṃ taṃ mahassādaṃ, ādimajjhantasobhanaṃ;

    สุณนฺติ ปริสา สพฺพา, อมตํว มหารสํฯ

    Suṇanti parisā sabbā, amataṃva mahārasaṃ.

    ‘‘สุตฺวา สุมธุรํ ธมฺมํ, ปสโนฺน ชินสาสเน;

    ‘‘Sutvā sumadhuraṃ dhammaṃ, pasanno jinasāsane;

    สุคตํ สรณํ คนฺตฺวา, ยาวชีวํ นมสฺสหํฯ

    Sugataṃ saraṇaṃ gantvā, yāvajīvaṃ namassahaṃ.

    ‘‘มุนิโน คนฺธกุฎิยา, โอปุเญฺชสิํ ตทา มหิํ;

    ‘‘Munino gandhakuṭiyā, opuñjesiṃ tadā mahiṃ;

    จตุชฺชาเตน คเนฺธน, มาเส อฎฺฐ ทิเนสฺวหํฯ

    Catujjātena gandhena, māse aṭṭha dinesvahaṃ.

    ‘‘ปณิธาย สุคนฺธตฺตํ, สรีรวิสฺสคนฺธิโน;

    ‘‘Paṇidhāya sugandhattaṃ, sarīravissagandhino;

    ตทา ชิโน วิยากาสิ, สุคนฺธตนุลาภิตํฯ

    Tadā jino viyākāsi, sugandhatanulābhitaṃ.

    ‘‘โย ยํ คนฺธกุฎิภูมิํ, คเนฺธโนปุญฺชเต สกิํ;

    ‘‘Yo yaṃ gandhakuṭibhūmiṃ, gandhenopuñjate sakiṃ;

    เตน กมฺมวิปาเกน, อุปปโนฺน ตหิํ ตหิํฯ

    Tena kammavipākena, upapanno tahiṃ tahiṃ.

    ‘‘สุคนฺธเทโห สพฺพตฺถ, ภวิสฺสติ อยํ นโร;

    ‘‘Sugandhadeho sabbattha, bhavissati ayaṃ naro;

    คุณคนฺธยุโตฺต หุตฺวา, นิพฺพายิสฺสตินาสโวฯ

    Guṇagandhayutto hutvā, nibbāyissatināsavo.

    ‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

    ‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;

    ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

    Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.

    ‘‘ปจฺฉิเม จ ภเว ทานิ, ชาโต วิปฺปกุเล อหํ;

    ‘‘Pacchime ca bhave dāni, jāto vippakule ahaṃ;

    คพฺภํ เม วสโต มาตา, เทเหนาสิ สุคนฺธิตาฯ

    Gabbhaṃ me vasato mātā, dehenāsi sugandhitā.

    ‘‘ยทา จ มาตุกุจฺฉิมฺหา, นิกฺขมามิ ตทา ปุรี;

    ‘‘Yadā ca mātukucchimhā, nikkhamāmi tadā purī;

    สาวตฺถิ สพฺพคเนฺธหิ, วาสิตา วิย วายถฯ

    Sāvatthi sabbagandhehi, vāsitā viya vāyatha.

    ‘‘ปุปฺผวสฺสญฺจ สุรภิ, ทิพฺพคนฺธํ มโนรมํ;

    ‘‘Pupphavassañca surabhi, dibbagandhaṃ manoramaṃ;

    ธูปานิ จ มหคฺฆานิ, อุปวายิํสุ ตาวเทฯ

    Dhūpāni ca mahagghāni, upavāyiṃsu tāvade.

    ‘‘เทวา จ สพฺพคเนฺธหิ, ธูปปุเปฺผหิ ตํ ฆรํ;

    ‘‘Devā ca sabbagandhehi, dhūpapupphehi taṃ gharaṃ;

    วาสยิํสุ สุคเนฺธน, ยสฺมิํ ชาโต อหํ ฆเรฯ

    Vāsayiṃsu sugandhena, yasmiṃ jāto ahaṃ ghare.

    ‘‘ยทา จ ตรุโณ ภโทฺท, ปฐเม โยพฺพเน ฐิโต;

    ‘‘Yadā ca taruṇo bhaddo, paṭhame yobbane ṭhito;

    ตทา เสลํ สปริสํ, วิเนตฺวา นรสารถิฯ

    Tadā selaṃ saparisaṃ, vinetvā narasārathi.

    ‘‘เตหิ สเพฺพหิ ปริวุโต, สาวตฺถิปุรมาคโต;

    ‘‘Tehi sabbehi parivuto, sāvatthipuramāgato;

    ตทา พุทฺธานุภาวํ ตํ, ทิสฺวา ปพฺพชิโต อหํฯ

    Tadā buddhānubhāvaṃ taṃ, disvā pabbajito ahaṃ.

    ‘‘สีลํ สมาธิปญฺญญฺจ, วิมุตฺติญฺจ อนุตฺตรํ;

    ‘‘Sīlaṃ samādhipaññañca, vimuttiñca anuttaraṃ;

    ภาเวตฺวา จตุโร ธเมฺม, ปาปุณิํ อาสวกฺขยํฯ

    Bhāvetvā caturo dhamme, pāpuṇiṃ āsavakkhayaṃ.

    ‘‘ยทา ปพฺพชิโต จาหํ, ยทา จ อรหา อหุํ;

    ‘‘Yadā pabbajito cāhaṃ, yadā ca arahā ahuṃ;

    นิพฺพายิสฺสํ ยทา จาหํ, คนฺธวโสฺส ตทา อหุฯ

    Nibbāyissaṃ yadā cāhaṃ, gandhavasso tadā ahu.

    ‘‘สรีรคโนฺธ จ สทาติเสติ เม, มหารหํ จนฺทนจมฺปกุปฺปลํ;

    ‘‘Sarīragandho ca sadātiseti me, mahārahaṃ candanacampakuppalaṃ;

    ตเถว คเนฺธ อิตเร จ สพฺพโส, ปสยฺห วายามิ ตโต ตหิํ ตหิํฯ

    Tatheva gandhe itare ca sabbaso, pasayha vāyāmi tato tahiṃ tahiṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ติตฺถิเยสุ ปพฺพชิตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ อตฺตกิลมถานุโยคํ ทุกฺขํ, สาสเน ปพฺพชิตฺวา ปตฺตํ ฌานาทิสุขญฺจ จิเนฺตตฺวา อตฺตโน ปฎิปตฺติปจฺจเวกฺขณมุเขน อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –

    Arahattaṃ pana patvā titthiyesu pabbajitvā attano pattaṃ attakilamathānuyogaṃ dukkhaṃ, sāsane pabbajitvā pattaṃ jhānādisukhañca cintetvā attano paṭipattipaccavekkhaṇamukhena aññaṃ byākaronto –

    ๓๒๐.

    320.

    ‘‘อโยเค ยุญฺชมตฺตานํ, ปุริโส กิจฺจมิจฺฉโก;

    ‘‘Ayoge yuñjamattānaṃ, puriso kiccamicchako;

    จรํ เจ นาธิคเจฺฉยฺย, ตํ เม ทุพฺภคลกฺขณํฯ

    Caraṃ ce nādhigaccheyya, taṃ me dubbhagalakkhaṇaṃ.

    ๓๒๑.

    321.

    ‘‘อพฺพูฬฺหํ อฆคตํ วิชิตํ, เอกเญฺจ โอสฺสเชยฺย กลีว สิยา;

    ‘‘Abbūḷhaṃ aghagataṃ vijitaṃ, ekañce ossajeyya kalīva siyā;

    สพฺพานิปิ เจ โอสฺสเชยฺย อโนฺธว สิยา, สมวิสมสฺส อทสฺสนโตฯ

    Sabbānipi ce ossajeyya andhova siyā, samavisamassa adassanato.

    ๓๒๒.

    322.

    ‘‘ยญฺหิ กยิรา ตญฺหิ วเท, ยํ น กยิรา น ตํ วเท;

    ‘‘Yañhi kayirā tañhi vade, yaṃ na kayirā na taṃ vade;

    อกโรนฺตํ ภาสมานํ, ปริชานนฺติ ปณฺฑิตาฯ

    Akarontaṃ bhāsamānaṃ, parijānanti paṇḍitā.

    ๓๒๓.

    323.

    ‘‘ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ, วณฺณวนฺตํ อคนฺธกํ;

    ‘‘Yathāpi ruciraṃ pupphaṃ, vaṇṇavantaṃ agandhakaṃ;

    เอวํ สุภาสิตา วาจา, อผลา โหติ อกุพฺพโตฯ

    Evaṃ subhāsitā vācā, aphalā hoti akubbato.

    ๓๒๔.

    324.

    ‘‘ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ, วณฺณวนฺตํ สุคนฺธกํ;

    ‘‘Yathāpi ruciraṃ pupphaṃ, vaṇṇavantaṃ sugandhakaṃ;

    เอวํ สุภาสิตา วาจา, สผลา โหติ กุพฺพโต’’ติฯ –

    Evaṃ subhāsitā vācā, saphalā hoti kubbato’’ti. –

    อิมา ปญฺจ คาถา อภาสิฯ

    Imā pañca gāthā abhāsi.

    ตตฺถ อโยเคติ อยุญฺชิตเพฺพ อเสวิตเพฺพ อนฺตทฺวเยฯ อิธ ปน อตฺตกิลมถานุโยควเสน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ยุญฺชนฺติ ตสฺมิํ อตฺตานํ ยุญฺชโนฺต โยเชโนฺต ตถา ปฎิปชฺชโนฺตฯ กิจฺจมิจฺฉโกติ อุภยหิตาวหํ กิจฺจํ อิจฺฉโนฺต, ตปฺปฎิปกฺขโต อโยเค จรํ จรโนฺต เจ ภเวยฺยฯ นาธิคเจฺฉยฺยาติ ยถาธิเปฺปตํ หิตสุขํ น ปาปุเณยฺยาติ ญาโยฯ ตสฺมา ยํ อหํ ติตฺถิยมตวญฺจิโต อโยเค ยุญฺชิํ, ตํ เม ทุพฺภคลกฺขณํ อปุญฺญสภาโวฯ ‘‘ปุริมกมฺมพฺยาโมหิโต อโยเค ยุญฺชิ’’นฺติ ทเสฺสติฯ

    Tattha ayogeti ayuñjitabbe asevitabbe antadvaye. Idha pana attakilamathānuyogavasena attho veditabbo. Yuñjanti tasmiṃ attānaṃ yuñjanto yojento tathā paṭipajjanto. Kiccamicchakoti ubhayahitāvahaṃ kiccaṃ icchanto, tappaṭipakkhato ayoge caraṃ caranto ce bhaveyya. Nādhigaccheyyāti yathādhippetaṃ hitasukhaṃ na pāpuṇeyyāti ñāyo. Tasmā yaṃ ahaṃ titthiyamatavañcito ayoge yuñjiṃ, taṃ me dubbhagalakkhaṇaṃ apuññasabhāvo. ‘‘Purimakammabyāmohito ayoge yuñji’’nti dasseti.

    อพฺพูฬฺหํ อฆคตํ วิชิตนฺติ วิพาธนสภาวตาย อฆา นาม ราคาทโย, อฆานิ เอว อฆคตํ, อฆคตานํ วิชิตํ สํสารปฺปวตฺติ, เตสํ วิชโย กุสลธมฺมาภิภโวฯ ‘‘อฆคตํ วิชิต’’นฺติ อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา วุตฺตํฯ ตํ อพฺพูฬฺหํ อนุทฺธตํ เยน, ตํ อพฺพูฬฺหาฆคตํ วิชิตํ กตฺวา เอวํภูโต หุตฺวา, กิเลเส อสมุจฺฉินฺทิตฺวาติ อโตฺถฯ เอกเญฺจ โอสฺสเชยฺยาติ อทุติยตาย ปธานตาย จ เอกํ อปฺปมาทํ สมฺมาปโยคเมว วา โอสฺสเชยฺย ปริจฺจเชยฺย เจฯ กลีว โส ปุคฺคโล กาฬกณฺณี วิย สิยาฯ สพฺพานิปิ เจ โอสฺสเชยฺยาติ สพฺพานิปิ วิมุตฺติยา ปริปาจกานิ สทฺธาวีริยสติสมาธิปญฺญินฺทฺริยานิ โอสฺสเชยฺย เจ, อภาวนาย ฉเฑฺฑยฺย เจ, อโนฺธว สิยา สมวิสมสฺส อทสฺสนโต

    Abbūḷhaṃ aghagataṃ vijitanti vibādhanasabhāvatāya aghā nāma rāgādayo, aghāni eva aghagataṃ, aghagatānaṃ vijitaṃ saṃsārappavatti, tesaṃ vijayo kusaladhammābhibhavo. ‘‘Aghagataṃ vijita’’nti anunāsikalopaṃ akatvā vuttaṃ. Taṃ abbūḷhaṃ anuddhataṃ yena, taṃ abbūḷhāghagataṃ vijitaṃ katvā evaṃbhūto hutvā, kilese asamucchinditvāti attho. Ekañce ossajeyyāti adutiyatāya padhānatāya ca ekaṃ appamādaṃ sammāpayogameva vā ossajeyya pariccajeyya ce. Kalīva so puggalo kāḷakaṇṇī viya siyā. Sabbānipi ce ossajeyyāti sabbānipi vimuttiyā paripācakāni saddhāvīriyasatisamādhipaññindriyāni ossajeyya ce, abhāvanāya chaḍḍeyya ce, andhova siyā samavisamassa adassanato.

    ยถาติ โอปมฺมสมฺปฎิปาทนเตฺถ นิปาโตฯ รุจิรนฺติ โสภนํฯ วณฺณวนฺตนฺติ วณฺณสณฺฐานสมฺปนฺนํฯ อคนฺธกนฺติ คนฺธรหิตํ ปาลิภทฺทกคิริกณฺณิกชยสุมนาทิเภทํฯ เอวํ สุภาสิตา วาจาติ สุภาสิตา วาจา นาม เตปิฎกํ พุทฺธวจนํ วณฺณสณฺฐานสมฺปนฺนปุปฺผสทิสํฯ ยถา หิ อคนฺธกํ ปุปฺผํ ธาเรนฺตสฺส สรีเร คโนฺธ น ผรติ, เอวํ เอตมฺปิ โย สกฺกจฺจสวนาทีหิ จ สมาจรติ, ตสฺส สกฺกจฺจํ อสมาจรนฺตสฺส ยํ ตตฺถ กตฺตพฺพํ, ตํ อกุพฺพโต สุตคนฺธํ ปฎิปตฺติคนฺธญฺจ น อาวหติ อผลา โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ สุภาสิตา วาจา, อผลา โหติ อกุพฺพโต’’ติฯ

    Yathāti opammasampaṭipādanatthe nipāto. Ruciranti sobhanaṃ. Vaṇṇavantanti vaṇṇasaṇṭhānasampannaṃ. Agandhakanti gandharahitaṃ pālibhaddakagirikaṇṇikajayasumanādibhedaṃ. Evaṃ subhāsitā vācāti subhāsitā vācā nāma tepiṭakaṃ buddhavacanaṃ vaṇṇasaṇṭhānasampannapupphasadisaṃ. Yathā hi agandhakaṃ pupphaṃ dhārentassa sarīre gandho na pharati, evaṃ etampi yo sakkaccasavanādīhi ca samācarati, tassa sakkaccaṃ asamācarantassa yaṃ tattha kattabbaṃ, taṃ akubbato sutagandhaṃ paṭipattigandhañca na āvahati aphalā hoti. Tena vuttaṃ ‘‘evaṃ subhāsitā vācā, aphalā hoti akubbato’’ti.

    สุคนฺธกนฺติ สุมนจมฺปกนีลุปฺปลปุปฺผาทิเภทํฯ เอวนฺติ ยถา ตํ ปุปฺผํ ธาเรนฺตสฺส สรีเร คโนฺธ ผรติ, เอวํ เตปิฎกพุทฺธวจนสงฺขาตา สุภาสิตา วาจาปิ โย สกฺกจฺจสวนาทีหิ ตตฺถ กตฺตพฺพํ กโรติ, อสฺส ปุคฺคลสฺส สผลา โหติ, สุตคนฺธปฎิปตฺติคนฺธานํ อาวหนโต มหปฺผลา โหติ มหานิสํสาฯ ตสฺมา ยโถวาทํ ปฎิปเชฺชยฺย, ยถาการี ตถาวาที จ ภเวยฺยาติฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

    Sugandhakanti sumanacampakanīluppalapupphādibhedaṃ. Evanti yathā taṃ pupphaṃ dhārentassa sarīre gandho pharati, evaṃ tepiṭakabuddhavacanasaṅkhātā subhāsitā vācāpi yo sakkaccasavanādīhi tattha kattabbaṃ karoti, assa puggalassa saphalā hoti, sutagandhapaṭipattigandhānaṃ āvahanato mahapphalā hoti mahānisaṃsā. Tasmā yathovādaṃ paṭipajjeyya, yathākārī tathāvādī ca bhaveyyāti. Sesaṃ vuttanayameva.

    สุภูตเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Subhūtattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๒. สุภูตเตฺถรคาถา • 2. Subhūtattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact