Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā |
๗. สุภูติสุตฺตวณฺณนา
7. Subhūtisuttavaṇṇanā
๕๗. สตฺตเม สุภูตีติ ตสฺส เถรสฺส นามํฯ โส หิ อายสฺมา ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต ปาทมูเล กตาภินีหาโร กปฺปสตสหสฺสํ อุปจิตปุญฺญสมฺภาโร อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท อุฬารวิภเว คหปติกุเล อุปฺปโนฺน ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา สํเวคชาโต ฆรา นิกฺขมฺม ปพฺพชิตฺวา กตาธิการตฺตา ฆเฎโนฺต วายมโนฺต น จิรเสฺสว ฉฬภิโญฺญ ชาโต, พฺรหฺมวิหารภาวนาย ปน อุกฺกํสปารมิปฺปตฺติยา ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ อรณวิหารีนํ ยทิทํ สุภูตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๐๑) อรณวิหาเร ภควตา เอตทเคฺค ฐปิโตฯ โส เอกทิวสํ สายนฺหสมยํ ทิวาฎฺฐานโต วิหารงฺคณํ โอติโณฺณ จตุปริสมเชฺฌ ภควนฺตํ ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา ‘‘เทสนาปริโยสาเน วุฎฺฐหิตฺวา วนฺทิสฺสามี’’ติ กาลปริเจฺฉทํ กตฺวา ภควโต อวิทูเร อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสิโนฺน ผลสมาปตฺติํ สมาปชฺชิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สุภูติ…เป.… สมาปชฺชิตฺวา’’ติฯ
57. Sattame subhūtīti tassa therassa nāmaṃ. So hi āyasmā padumuttarassa bhagavato pādamūle katābhinīhāro kappasatasahassaṃ upacitapuññasambhāro imasmiṃ buddhuppāde uḷāravibhave gahapatikule uppanno bhagavato dhammadesanaṃ sutvā saṃvegajāto gharā nikkhamma pabbajitvā katādhikārattā ghaṭento vāyamanto na cirasseva chaḷabhiñño jāto, brahmavihārabhāvanāya pana ukkaṃsapāramippattiyā ‘‘etadaggaṃ, bhikkhave, mama sāvakānaṃ bhikkhūnaṃ araṇavihārīnaṃ yadidaṃ subhūtī’’ti (a. ni. 1.201) araṇavihāre bhagavatā etadagge ṭhapito. So ekadivasaṃ sāyanhasamayaṃ divāṭṭhānato vihāraṅgaṇaṃ otiṇṇo catuparisamajjhe bhagavantaṃ dhammaṃ desentaṃ disvā ‘‘desanāpariyosāne vuṭṭhahitvā vandissāmī’’ti kālaparicchedaṃ katvā bhagavato avidūre aññatarasmiṃ rukkhamūle nisinno phalasamāpattiṃ samāpajji. Tena vuttaṃ – ‘‘tena kho pana samayena āyasmā subhūti…pe… samāpajjitvā’’ti.
ตตฺถ ทุติยชฺฌานโต ปฎฺฐาย รูปาวจรสมาธิ สโพฺพปิ อรูปาวจรสมาธิ อวิตกฺกสมาธิ เอวฯ อิธ ปน จตุตฺถชฺฌานปาทโก อรหตฺตผลสมาธิ ‘‘อวิตกฺกสมาธี’’ติ อธิเปฺปโตฯ ทุติยชฺฌานาทีหิ ปหีนา มิจฺฉาวิตกฺกา น ตาว สุปฺปหีนา อจฺจนฺตปหานาภาวโต, อริยมเคฺคน ปน ปหีนา เอว ปุน ปหานกิจฺจาภาวโตฯ ตสฺมา อคฺคมคฺคปริโยสานภูโต อรหตฺตผลสมาธิ สเพฺพสํ มิจฺฉาวิตกฺกานํ ปหานเนฺต อุปฺปนฺนตฺตา วิเสสโต ‘‘อวิตกฺกสมาธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, ปเคว จตุตฺถชฺฌานปาทโกฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อิธ ปน จตุตฺถชฺฌานปาทโก อรหตฺตผลสมาธิ ‘อวิตกฺกสมาธี’ติ อธิเปฺปโต’’ติฯ
Tattha dutiyajjhānato paṭṭhāya rūpāvacarasamādhi sabbopi arūpāvacarasamādhi avitakkasamādhi eva. Idha pana catutthajjhānapādako arahattaphalasamādhi ‘‘avitakkasamādhī’’ti adhippeto. Dutiyajjhānādīhi pahīnā micchāvitakkā na tāva suppahīnā accantapahānābhāvato, ariyamaggena pana pahīnā eva puna pahānakiccābhāvato. Tasmā aggamaggapariyosānabhūto arahattaphalasamādhi sabbesaṃ micchāvitakkānaṃ pahānante uppannattā visesato ‘‘avitakkasamādhī’’ti vattabbataṃ arahati, pageva catutthajjhānapādako. Tena vuttaṃ – ‘‘idha pana catutthajjhānapādako arahattaphalasamādhi ‘avitakkasamādhī’ti adhippeto’’ti.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ อายสฺมโต สุภูติสฺส สพฺพมิจฺฉาวิตกฺกสพฺพสํกิเลสปหานสงฺขาตํ อตฺถํ สพฺพาการโต ชานิตฺวา ตทตฺถทีปกํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิฯ
Etamatthaṃ viditvāti etaṃ āyasmato subhūtissa sabbamicchāvitakkasabbasaṃkilesapahānasaṅkhātaṃ atthaṃ sabbākārato jānitvā tadatthadīpakaṃ imaṃ udānaṃ udānesi.
ตตฺถ ยสฺส วิตกฺกา วิธูปิตาติ เยน อริยปุคฺคเลน, ยสฺส วา อริยปุคฺคลสฺส กามวิตกฺกาทโย สเพฺพปิ มิจฺฉาวิตกฺกา วิธูปิตา อริยมคฺคญาเณน สนฺตาปิตา สมุจฺฉินฺนาฯ อชฺฌตฺตํ สุวิกปฺปิตา อเสสาติ นิยกชฺฌตฺตสงฺขาเต อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปชฺชนารหา สุวิกปฺปิตา สุฎฺฐุ วิกปฺปิตา อเสสโต, กิญฺจิปิ อเสเสตฺวา สุสมุจฺฉินฺนาติ อโตฺถฯ ตํ สงฺคมติจฺจ อรูปสญฺญีติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํฯ อถ วา เหตุอโตฺถ ตํสโทฺทฯ ยสฺมา อนวเสเสน มิจฺฉาวิตกฺกา สมุจฺฉินฺนา, ตสฺมา ราคสงฺคาทิกํ ปญฺจวิธํ สงฺคํ, สพฺพมฺปิ วา กิเลสสงฺคํ อติจฺจ อติกฺกมิตฺวา อติกฺกมนเหตุ รูปสภาวาภาวโต รุปฺปนสงฺขาตสฺส จ วิการสฺส ตตฺถ อภาวโต นิพฺพิการเหตุภาวโต วา ‘‘อรูป’’นฺติ ลทฺธนามํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตาหิ มคฺคผลสญฺญาหิ อรูปสญฺญีฯ จตุโยคาติคโตติ กามโยโค ภวโยโค ทิฎฺฐิโยโค อวิชฺชาโยโคติ จตฺตาโร โยเค ยถารหํ จตูหิปิ มเคฺคหิ อติกฺกมิตฺวา คโตฯ น ชาตุ เมตีติ มกาโร ปทสนฺธิกโร, ชาตุ เอกํเสเนว ปุนพฺภวาย น เอติ, อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ตสฺส นตฺถีติ อโตฺถฯ ‘‘น ชาติ เมตี’’ติปิ ปฐนฺติ, โส เอวโตฺถฯ อิติ ภควา อายสฺมโต สุภูติสฺส อรหตฺตผลสมาปตฺติวิหารํ อนุปาทิเสสนิพฺพานญฺจ อารพฺภ ปีติเวควิสฺสฎฺฐํ อุทานํ อุทาเนสิฯ
Tattha yassa vitakkā vidhūpitāti yena ariyapuggalena, yassa vā ariyapuggalassa kāmavitakkādayo sabbepi micchāvitakkā vidhūpitā ariyamaggañāṇena santāpitā samucchinnā. Ajjhattaṃ suvikappitā asesāti niyakajjhattasaṅkhāte attano santāne uppajjanārahā suvikappitā suṭṭhu vikappitā asesato, kiñcipi asesetvā susamucchinnāti attho. Taṃ saṅgamaticca arūpasaññīti ettha nti nipātamattaṃ. Atha vā hetuattho taṃsaddo. Yasmā anavasesena micchāvitakkā samucchinnā, tasmā rāgasaṅgādikaṃ pañcavidhaṃ saṅgaṃ, sabbampi vā kilesasaṅgaṃ aticca atikkamitvā atikkamanahetu rūpasabhāvābhāvato ruppanasaṅkhātassa ca vikārassa tattha abhāvato nibbikārahetubhāvato vā ‘‘arūpa’’nti laddhanāmaṃ nibbānaṃ ārammaṇaṃ katvā pavattāhi maggaphalasaññāhi arūpasaññī. Catuyogātigatoti kāmayogo bhavayogo diṭṭhiyogo avijjāyogoti cattāro yoge yathārahaṃ catūhipi maggehi atikkamitvā gato. Na jātu metīti makāro padasandhikaro, jātu ekaṃseneva punabbhavāya na eti, āyatiṃ punabbhavābhinibbatti tassa natthīti attho. ‘‘Na jāti metī’’tipi paṭhanti, so evattho. Iti bhagavā āyasmato subhūtissa arahattaphalasamāpattivihāraṃ anupādisesanibbānañca ārabbha pītivegavissaṭṭhaṃ udānaṃ udānesi.
สตฺตมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sattamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๗. สุภูติสุตฺตํ • 7. Subhūtisuttaṃ