Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๘. สุทตฺตสุตฺตวณฺณนา
8. Sudattasuttavaṇṇanā
๒๔๒. กรณีเยนาติ เอตฺถ กรณียนฺติ วาณิชฺชกมฺมํ อธิเปฺปตนฺติ ตํ วิวรโนฺต ‘‘อนาถปิณฺฑิโก จา’’ติอาทิมาหฯ วิกฺกียตีติ วิกฺกยํ คจฺฉติฯ ตเถว กโรตีติ ยถา ราชคหเสฎฺฐินา สาวตฺถิํ คนฺตฺวา กตํ, ตเถว ราชคหํ คนฺตฺวา กโรติฯ สฺวายนฺติ อนาถปิณฺฑิโกฯ
242.Karaṇīyenāti ettha karaṇīyanti vāṇijjakammaṃ adhippetanti taṃ vivaranto ‘‘anāthapiṇḍiko cā’’tiādimāha. Vikkīyatīti vikkayaṃ gacchati. Tatheva karotīti yathā rājagahaseṭṭhinā sāvatthiṃ gantvā kataṃ, tatheva rājagahaṃ gantvā karoti. Svāyanti anāthapiṇḍiko.
ตํ ทิวสนฺติ ยํ ทิวสํ อนาถปิณฺฑิโก, คหปติ, ราชคหสมีปํ อุปคโต, ตํ ทิวสํฯ ปณฺณนฺติ สาสนํฯ น สุณีติ อสุณโนฺต ‘‘ปณฺณํ น สุณี’’ติ วุโตฺตฯ ธมฺมคารเวน หิ โส เสฎฺฐิ อญฺญํ กิจฺจํ ติณายปิ น มญฺญิฯ เตนาห ‘‘ธมฺมสฺสวนตฺถายา’’ติอาทิฯ ทารกรูปานนฺติ ทารกานํฯ อนตฺถนฺตรกโร หิ รูป-สโทฺท ยถา ‘‘โครูปาน’’นฺติฯ ปญฺจวณฺณนฺติ ขุทฺทิกาทิเภทํ ปญฺจปฺปการํ ปีติํ ปฎิลภิฯ อนุกฺกเมน หิ ตา เอตสฺส สมฺภวนฺติฯ ‘‘สีเสน อุฎฺฐาย…เป.… คจฺฉตี’’ติ ปทํ ปีติสมุฎฺฐานรูปวเสน ลเกฺขตฺวา วุตฺตํฯ
Taṃ divasanti yaṃ divasaṃ anāthapiṇḍiko, gahapati, rājagahasamīpaṃ upagato, taṃ divasaṃ. Paṇṇanti sāsanaṃ. Na suṇīti asuṇanto ‘‘paṇṇaṃ na suṇī’’ti vutto. Dhammagāravena hi so seṭṭhi aññaṃ kiccaṃ tiṇāyapi na maññi. Tenāha ‘‘dhammassavanatthāyā’’tiādi. Dārakarūpānanti dārakānaṃ. Anatthantarakaro hi rūpa-saddo yathā ‘‘gorūpāna’’nti. Pañcavaṇṇanti khuddikādibhedaṃ pañcappakāraṃ pītiṃ paṭilabhi. Anukkamena hi tā etassa sambhavanti. ‘‘Sīsena uṭṭhāya…pe… gacchatī’’ti padaṃ pītisamuṭṭhānarūpavasena lakkhetvā vuttaṃ.
สิวถิกาย วสตีติ สิวถิกาย สมีเป วสติฯ สุสานสฺสาสนฺนฎฺฐาเน หิ โส วิหาโรฯ อถสฺสาติ อถสฺส อนาถปิณฺฑิกสฺส ‘‘อกาโล…เป.… อุปสงฺกมิสฺสามี’’ติ เอตํ อโหสิฯ พุทฺธคตาย สติยาติ อญฺญํ กิญฺจิ อจิเนฺตตฺวา พุทฺธคตาย เอว สติยา สยนวรคโต นิปชฺชิฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ตํ ทิวส’’นฺติอาทิฯ
Sivathikāya vasatīti sivathikāya samīpe vasati. Susānassāsannaṭṭhāne hi so vihāro. Athassāti athassa anāthapiṇḍikassa ‘‘akālo…pe… upasaṅkamissāmī’’ti etaṃ ahosi. Buddhagatāya satiyāti aññaṃ kiñci acintetvā buddhagatāya eva satiyā sayanavaragato nipajji. Tena vuttaṃ ‘‘taṃ divasa’’ntiādi.
พลวปฺปสาโทติ พุทฺธารมฺมณา พลวตี สทฺธาฯ ปีติอาโลโกติ ปุริมพุเทฺธสุ จิรกาลํ ปริจยํ คตสฺส พลวโต ปสาทสฺส วเสน ‘‘พุโทฺธ’’ติ นามํ สวนมเตฺตน อุปฺปนฺนาย อุฬาราย ปีติยา สมุฎฺฐาปิโต วิปสฺสโนภาสสทิโส สาติสโย อาโลโก โหติ จิตฺตปจฺจยอุตุสมุฎฺฐาโนฯ เตนาห ‘‘สพฺพตมํ วิคจฺฉี’’ติอาทิฯ ‘‘เทวตา หิ กตา’’ติปิ วทนฺติ, ปุริโม เอเวตฺถ ยุโตฺตฯ
Balavappasādoti buddhārammaṇā balavatī saddhā. Pītiālokoti purimabuddhesu cirakālaṃ paricayaṃ gatassa balavato pasādassa vasena ‘‘buddho’’ti nāmaṃ savanamattena uppannāya uḷārāya pītiyā samuṭṭhāpito vipassanobhāsasadiso sātisayo āloko hoti cittapaccayautusamuṭṭhāno. Tenāha ‘‘sabbatamaṃ vigacchī’’tiādi. ‘‘Devatā hi katā’’tipi vadanti, purimo evettha yutto.
อมนุสฺสาติ อธิคตวิเสสา เทวตาฯ ตา หิ เสฎฺฐิสฺส สมฺปตฺติํ ปจฺจกฺขโต ปสฺสิํสุฯ เตนาห ‘‘อยํ มหาเสฎฺฐี’’ติอาทิฯ อลฺลสรีรนฺติ ตาวเทว ฉฑฺฑิตํ อจฺฉินฺนํ วา กเฬวรํฯ อปรมฺปีติ มตํ กุถิตกุณปํฯ ปริกิริํสูติ สมนฺตโต โอสริตา อเหสุํฯ อาโลโก อนฺตรธายิปีติเวคสฺส มนฺทภาเวน ตํสมุฎฺฐานรูปานํ ทุพฺพลภาวโตฯ
Amanussāti adhigatavisesā devatā. Tā hi seṭṭhissa sampattiṃ paccakkhato passiṃsu. Tenāha ‘‘ayaṃ mahāseṭṭhī’’tiādi. Allasarīranti tāvadeva chaḍḍitaṃ acchinnaṃ vā kaḷevaraṃ. Aparampīti mataṃ kuthitakuṇapaṃ. Parikiriṃsūti samantato osaritā ahesuṃ. Āloko antaradhāyipītivegassa mandabhāvena taṃsamuṭṭhānarūpānaṃ dubbalabhāvato.
อิมินาวาติ อธิกาเรน สหสฺสปเทน เอว สมฺพนฺธิตพฺพานิฯ ปทํ วีติหรติ เอตฺถาติ ปทวีติหาโร, ปทวีติหารฎฺฐานํฯ สมคมเนติ ทุตวิลมฺพิตํ อกตฺวา สมคมเนฯ ตโตติ เตสุ โสฬสภาเคสุฯ เอโก โกฎฺฐาโสติ ยถาวุตฺตํ ปทวีติหารปเทสํ โสฬสธา ภินฺนสฺส เอโก ภาโคฯ ปวตฺตเจตนาติ ยถาวุตฺตกลาสงฺขาตสฺส ปเทสสฺส ลงฺฆนธาวนปวตฺตเจตนาฯ ปทํ วา วีติหรติ เอเตนาติ ปทวีติหาโร, ตถาปวตฺตา กุสลเจตนาฯ ‘‘ตสฺสา ผลํ โสฬสธา กตฺวา’’ติ วทนฺติฯ ปติฎฺฐหนฺตสฺส วเสน คหิตนฺติ โยชนาฯ วิวฎฺฎนิสฺสิตาย เอว รตนตฺตยปูชาย ธมฺมสฺสวนสฺส สิกฺขาปทสมาทานสฺส สรณคมนสฺส จ อตฺถาย คจฺฉโตปิ วเสน วฎฺฎติฯ ปฐมํ วุตฺตคมนํ โลกุตฺตรวิเสสาธิคมสฺส เอกนฺติกํ, ทุติยํ อเนกนฺติกนฺติ ‘‘วฎฺฎติเยวา’’ติ สาสงฺกวจนํฯ
Imināvāti adhikārena sahassapadena eva sambandhitabbāni. Padaṃ vītiharati etthāti padavītihāro, padavītihāraṭṭhānaṃ. Samagamaneti dutavilambitaṃ akatvā samagamane. Tatoti tesu soḷasabhāgesu. Eko koṭṭhāsoti yathāvuttaṃ padavītihārapadesaṃ soḷasadhā bhinnassa eko bhāgo. Pavattacetanāti yathāvuttakalāsaṅkhātassa padesassa laṅghanadhāvanapavattacetanā. Padaṃ vā vītiharati etenāti padavītihāro, tathāpavattā kusalacetanā. ‘‘Tassā phalaṃ soḷasadhā katvā’’ti vadanti. Patiṭṭhahantassa vasena gahitanti yojanā. Vivaṭṭanissitāya eva ratanattayapūjāya dhammassavanassa sikkhāpadasamādānassa saraṇagamanassa ca atthāya gacchatopi vasena vaṭṭati. Paṭhamaṃ vuttagamanaṃ lokuttaravisesādhigamassa ekantikaṃ, dutiyaṃ anekantikanti ‘‘vaṭṭatiyevā’’ti sāsaṅkavacanaṃ.
โสติ อนาถปิณฺฑิโก เสฎฺฐิฯ อนุยุตฺตาติ อนุคามิโน สหายาฯ เตว สนฺธาย วทติฯ ‘‘สิวโก อมนุโสฺส’’ติ อปเรฯ น เกวลํ ‘‘อนุยุตฺตาปิ เม อตฺถิ, กสฺมา ภายามี’’ติ เอวํ สูโร อโหสิ? อถ โข พุทฺธคตาย ติกฺขวิสทสภาเวน สพฺพํ ปริสฺสยํ มทฺทิตฺวาปิ อคมาสีติ ทเสฺสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ปกฺขนฺทนลกฺขณา หิ สทฺธา, ตาย ยุตฺตโก สปฺปุริโสปิ สทฺธมฺมคุณวเสน สพฺพํ ปริสฺสยํ มทฺทิตฺวา ปกฺขนฺทตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Soti anāthapiṇḍiko seṭṭhi. Anuyuttāti anugāmino sahāyā. Teva sandhāya vadati. ‘‘Sivako amanusso’’ti apare. Na kevalaṃ ‘‘anuyuttāpi me atthi, kasmā bhāyāmī’’ti evaṃ sūro ahosi? Atha kho buddhagatāya tikkhavisadasabhāvena sabbaṃ parissayaṃ madditvāpi agamāsīti dassetuṃ ‘‘apicā’’tiādi vuttaṃ. Pakkhandanalakkhaṇā hi saddhā, tāya yuttako sappurisopi saddhammaguṇavasena sabbaṃ parissayaṃ madditvā pakkhandatīti daṭṭhabbaṃ.
สพฺพกามสมิทฺธตา ปริจฺจาคสีลตา อุฬารชฺฌาสยตา ปรทุกฺขาปนยกามตา ปเรสํ หิเตสิตา ปรสมฺปตฺติปโมทนาติ เอวมาทีนํ มหาคุณานํ วเสน นิจฺจกาลํ อนาถานํ ปิณฺฑทายกตฺตา ‘‘อนาถปิณฺฑิโก’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนํ นามํฯ เอวมาหาติ ‘‘เอหิ สุทตฺตา’’ติ เอวํ อาหฯ
Sabbakāmasamiddhatā pariccāgasīlatā uḷārajjhāsayatā paradukkhāpanayakāmatā paresaṃ hitesitā parasampattipamodanāti evamādīnaṃ mahāguṇānaṃ vasena niccakālaṃ anāthānaṃ piṇḍadāyakattā ‘‘anāthapiṇḍiko’’ti evaṃ uppannaṃ nāmaṃ. Evamāhāti ‘‘ehi sudattā’’ti evaṃ āha.
กิเลสปรินิพฺพาเนนาติ สพฺพโส ราคาทิกิเลสวูปสเมนฯ กิเลสวูปสมนฺติ สพฺพโส สเพฺพสํ กิเลสานํ วูปสมํ อคฺคมเคฺคน ปตฺวาฯ อนุปุพฺพิกถนฺติ ทานาทิกถํฯ สา หิ อนุปุเพฺพน กเถตพฺพตฺตา ‘‘อนุปุพฺพิกถา’’ติ วุจฺจติฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อถ โข ภควา อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิฯ เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขเมฺม อานิสํสํ ปกาเสสี’’ติ (จูฬว. ๓๐๕)ฯ มตฺถเกติ อนุปุพฺพิกถาย อุปริ ปรโตฯ จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสสีติ ยถา มหาเสฎฺฐิ สหสฺสนยปฎิมณฺฑิเต โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐาติ, เอวํ ปวตฺตินิวตฺติโย สห เหตุนา วิภชโนฺต จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ปกาเสสีติฯ
Kilesaparinibbānenāti sabbaso rāgādikilesavūpasamena. Kilesavūpasamanti sabbaso sabbesaṃ kilesānaṃ vūpasamaṃ aggamaggena patvā. Anupubbikathanti dānādikathaṃ. Sā hi anupubbena kathetabbattā ‘‘anupubbikathā’’ti vuccati. Taṃ sandhāya vuttaṃ – ‘‘atha kho bhagavā anupubbiṃ kathaṃ kathesi. Seyyathidaṃ – dānakathaṃ sīlakathaṃ saggakathaṃ kāmānaṃ ādīnavaṃ okāraṃ saṃkilesaṃ nekkhamme ānisaṃsaṃ pakāsesī’’ti (cūḷava. 305). Matthaketi anupubbikathāya upari parato. Cattāri saccāni pakāsesīti yathā mahāseṭṭhi sahassanayapaṭimaṇḍite sotāpattiphale patiṭṭhāti, evaṃ pavattinivattiyo saha hetunā vibhajanto cattāri ariyasaccāni pakāsesīti.
สุทตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sudattasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๘. สุทตฺตสุตฺตํ • 8. Sudattasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. สุทตฺตสุตฺตวณฺณนา • 8. Sudattasuttavaṇṇanā