Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi |
๕๓๕. สุธาโภชนชาตกํ (๓)
535. Sudhābhojanajātakaṃ (3)
๑๙๒.
192.
‘‘เนว กิณามิ นปิ วิกฺกิณามิ, น จาปิ เม สนฺนิจโย จ อตฺถิ 1;
‘‘Neva kiṇāmi napi vikkiṇāmi, na cāpi me sannicayo ca atthi 2;
สุกิจฺฉรูปํ วติทํ ปริตฺตํ, ปโตฺถทโน นาลมยํ ทุวินฺนํ’’ฯ
Sukiccharūpaṃ vatidaṃ parittaṃ, patthodano nālamayaṃ duvinnaṃ’’.
๑๙๓.
193.
‘‘อปฺปมฺหา อปฺปกํ ทชฺชา, อนุมชฺฌโต มชฺฌกํ;
‘‘Appamhā appakaṃ dajjā, anumajjhato majjhakaṃ;
๑๙๔.
194.
‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุญฺช จ;
‘‘Taṃ taṃ vadāmi kosiya, dehi dānāni bhuñja ca;
๑๙๕.
195.
‘‘โมฆญฺจสฺส หุตํ โหติ, โมฆญฺจาปิ สมีหิตํ;
‘‘Moghañcassa hutaṃ hoti, moghañcāpi samīhitaṃ;
อติถิสฺมิํ โย นิสินฺนสฺมิํ, เอโก ภุญฺชติ โภชนํฯ
Atithismiṃ yo nisinnasmiṃ, eko bhuñjati bhojanaṃ.
๑๙๖.
196.
‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุญฺช จ;
‘‘Taṃ taṃ vadāmi kosiya, dehi dānāni bhuñja ca;
อริยมคฺคํ สมารูห, เนกาสี ลภเต สุขํ’’ฯ
Ariyamaggaṃ samārūha, nekāsī labhate sukhaṃ’’.
๑๙๗.
197.
‘‘สจฺจญฺจสฺส หุตํ โหติ, สจฺจญฺจาปิ สมีหิตํ;
‘‘Saccañcassa hutaṃ hoti, saccañcāpi samīhitaṃ;
อติถิสฺมิํ โย นิสินฺนสฺมิํ, เนโก ภุญฺชติ โภชนํฯ
Atithismiṃ yo nisinnasmiṃ, neko bhuñjati bhojanaṃ.
๑๙๘.
198.
‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุญฺช จ;
‘‘Taṃ taṃ vadāmi kosiya, dehi dānāni bhuñja ca;
อริยมคฺคํ สมารูห, เนกาสี ลภเต สุขํ’’ฯ
Ariyamaggaṃ samārūha, nekāsī labhate sukhaṃ’’.
๑๙๙.
199.
‘‘สรญฺจ ชุหติ โปโส, พหุกาย คยาย จ;
‘‘Sarañca juhati poso, bahukāya gayāya ca;
โทเณ ติมฺพรุติตฺถสฺมิํ, สีฆโสเต มหาวเหฯ
Doṇe timbarutitthasmiṃ, sīghasote mahāvahe.
๒๐๐.
200.
‘‘อตฺร จสฺส หุตํ โหติ, อตฺร จสฺส สมีหิตํ;
‘‘Atra cassa hutaṃ hoti, atra cassa samīhitaṃ;
อติถิสฺมิํ โย นิสินฺนสฺมิํ, เนโก ภุญฺชติ โภชนํฯ
Atithismiṃ yo nisinnasmiṃ, neko bhuñjati bhojanaṃ.
๒๐๑.
201.
‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุญฺช จ;
‘‘Taṃ taṃ vadāmi kosiya, dehi dānāni bhuñja ca;
อริยมคฺคํ สมารูห, เนกาสี ลภเต สุขํ’’ฯ
Ariyamaggaṃ samārūha, nekāsī labhate sukhaṃ’’.
๒๐๒.
202.
อติถิสฺมิํ โย นิสินฺนสฺมิํ, เอโก ภุญฺชติ โภชนํฯ
Atithismiṃ yo nisinnasmiṃ, eko bhuñjati bhojanaṃ.
๒๐๓.
203.
‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุญฺช จ;
‘‘Taṃ taṃ vadāmi kosiya, dehi dānāni bhuñja ca;
อริยมคฺคํ สมารูห, เนกาสี ลภเต สุขํ’’ฯ
Ariyamaggaṃ samārūha, nekāsī labhate sukhaṃ’’.
๒๐๔.
204.
‘‘อุฬารวณฺณา วต พฺราหฺมณา อิเม, อยญฺจ โว สุนโข กิสฺส เหตุ;
‘‘Uḷāravaṇṇā vata brāhmaṇā ime, ayañca vo sunakho kissa hetu;
อุจฺจาวจํ วณฺณนิภํ วิกุพฺพติ, อกฺขาถ โน พฺราหฺมณา เก นุ ตุเมฺห’’ฯ
Uccāvacaṃ vaṇṇanibhaṃ vikubbati, akkhātha no brāhmaṇā ke nu tumhe’’.
๒๐๕.
205.
‘‘จโนฺท จ สูริโย จ 9 อุโภ อิธาคตา, อยํ ปน มาตลิ เทวสารถิ;
‘‘Cando ca sūriyo ca 10 ubho idhāgatā, ayaṃ pana mātali devasārathi;
สโกฺกหมสฺมิ ติทสานมิโนฺท, เอโส จ โข ปญฺจสิโขติ วุจฺจติฯ
Sakkohamasmi tidasānamindo, eso ca kho pañcasikhoti vuccati.
๒๐๖.
206.
สุตฺตเมนํ ปโพเธนฺติ, ปฎิพุโทฺธ จ นนฺทติ’’ฯ
Suttamenaṃ pabodhenti, paṭibuddho ca nandati’’.
๒๐๗.
207.
‘‘เย เกจิเม มจฺฉริโน กทริยา, ปริภาสกา สมณพฺราหฺมณานํ;
‘‘Ye kecime maccharino kadariyā, paribhāsakā samaṇabrāhmaṇānaṃ;
อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา นิรยํ วชนฺติ’’ฯ
Idheva nikkhippa sarīradehaṃ, kāyassa bhedā nirayaṃ vajanti’’.
๒๐๘.
208.
‘‘เย เกจิเม สุคฺคติมาสมานา 13, ธเมฺม ฐิตา สํยเม สํวิภาเค;
‘‘Ye kecime suggatimāsamānā 14, dhamme ṭhitā saṃyame saṃvibhāge;
อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา สุคติํ วชนฺติ’’ฯ
Idheva nikkhippa sarīradehaṃ, kāyassa bhedā sugatiṃ vajanti’’.
๒๐๙.
209.
‘‘ตฺวํ โนสิ ญาติ ปุริมาสุ ชาติสุ, โส มจฺฉรี โรสโก 15 ปาปธโมฺม;
‘‘Tvaṃ nosi ñāti purimāsu jātisu, so maccharī rosako 16 pāpadhammo;
ตเวว อตฺถาย อิธาคตมฺหา, มา ปาปธโมฺม นิรยํ คมิตฺถ’’ 17ฯ
Taveva atthāya idhāgatamhā, mā pāpadhammo nirayaṃ gamittha’’ 18.
๒๑๐.
210.
‘‘อทฺธา หิ มํ โว หิตกามา, ยํ มํ สมนุสาสถ;
‘‘Addhā hi maṃ vo hitakāmā, yaṃ maṃ samanusāsatha;
โสหํ ตถา กริสฺสามิ, สพฺพํ วุตฺตํ หิเตสิภิฯ
Sohaṃ tathā karissāmi, sabbaṃ vuttaṃ hitesibhi.
๒๑๑.
211.
‘‘เอสาหมเชฺชว อุปารมามิ, น จาปิหํ 19 กิญฺจิ กเรยฺย ปาปํ;
‘‘Esāhamajjeva upāramāmi, na cāpihaṃ 20 kiñci kareyya pāpaṃ;
น จาปิ เม กิญฺจิ อเทยฺยมตฺถิ, น จาปิทตฺวา อุทกํ ปิวามิ 21ฯ
Na cāpi me kiñci adeyyamatthi, na cāpidatvā udakaṃ pivāmi 22.
๒๑๒.
212.
‘‘เอวญฺจ เม ททโต สพฺพกาลํ 23, โภคา อิเม วาสว ขียิสฺสนฺติ;
‘‘Evañca me dadato sabbakālaṃ 24, bhogā ime vāsava khīyissanti;
ตโต อหํ ปพฺพชิสฺสามิ สกฺก, หิตฺวาน กามานิ ยโถธิกานิ’’ฯ
Tato ahaṃ pabbajissāmi sakka, hitvāna kāmāni yathodhikāni’’.
๒๑๓.
213.
‘‘นคุตฺตเม คิริวเร คนฺธมาทเน, โมทนฺติ ตา เทววราภิปาลิตา;
‘‘Naguttame girivare gandhamādane, modanti tā devavarābhipālitā;
อถาคมา อิสิวโร สพฺพโลกคู, สุปุปฺผิตํ ทุมวรสาขมาทิยฯ
Athāgamā isivaro sabbalokagū, supupphitaṃ dumavarasākhamādiya.
๒๑๔.
214.
‘‘สุจิํ สุคนฺธํ ติทเสหิ สกฺกตํ, ปุปฺผุตฺตมํ อมรวเรหิ เสวิตํ;
‘‘Suciṃ sugandhaṃ tidasehi sakkataṃ, pupphuttamaṃ amaravarehi sevitaṃ;
อลทฺธ มเจฺจหิ ว ทานเวหิ วา, อญฺญตฺร เทเวหิ ตทารหํ หิทํ 25ฯ
Aladdha maccehi va dānavehi vā, aññatra devehi tadārahaṃ hidaṃ 26.
๒๑๕.
215.
‘‘ตโต จตโสฺส กนกตฺตจูปมา, อุฎฺฐาย นาริโย ปมทาธิปา มุนิํ;
‘‘Tato catasso kanakattacūpamā, uṭṭhāya nāriyo pamadādhipā muniṃ;
อาสา จ สทฺธา จ สิรี ตโต หิรี, อิจฺจพฺรวุํ นารทเทว พฺราหฺมณํฯ
Āsā ca saddhā ca sirī tato hirī, iccabravuṃ nāradadeva brāhmaṇaṃ.
๒๑๖.
216.
‘‘สเจ อนุทฺทิฎฺฐํ ตยา มหามุนิ, ปุปฺผํ อิมํ ปาริฉตฺตสฺส พฺรเหฺม;
‘‘Sace anuddiṭṭhaṃ tayā mahāmuni, pupphaṃ imaṃ pārichattassa brahme;
ททาหิ โน สพฺพา คติ เต อิชฺฌตุ, ตุวมฺปิ โน โหหิ ยเถว วาสโวฯ
Dadāhi no sabbā gati te ijjhatu, tuvampi no hohi yatheva vāsavo.
๒๑๗.
217.
‘‘ตํ ยาจมานาภิสเมกฺข นารโท, อิจฺจพฺรวี สํกลหํ อุทีรยิ;
‘‘Taṃ yācamānābhisamekkha nārado, iccabravī saṃkalahaṃ udīrayi;
น มยฺหมตฺถตฺถิ อิเมหิ โกจิ นํ, ยาเยว โว เสยฺยสิ สา ปิฬนฺธถ’’ 27ฯ
Na mayhamatthatthi imehi koci naṃ, yāyeva vo seyyasi sā piḷandhatha’’ 28.
๒๑๘.
218.
‘‘ตฺวํ โนตฺตเมวาภิสเมกฺข นารท, ยสฺสิจฺฉสิ ตสฺสา อนุปฺปเวจฺฉสุ;
‘‘Tvaṃ nottamevābhisamekkha nārada, yassicchasi tassā anuppavecchasu;
ยสฺสา หิ โน นารท ตฺวํ ปทสฺสสิ, สาเยว โน เหหิติ เสฎฺฐสมฺมตา’’ฯ
Yassā hi no nārada tvaṃ padassasi, sāyeva no hehiti seṭṭhasammatā’’.
๒๑๙.
219.
‘‘อกลฺลเมตํ วจนํ สุคเตฺต, โก พฺราหฺมโณ สํกลหํ อุทีรเย;
‘‘Akallametaṃ vacanaṃ sugatte, ko brāhmaṇo saṃkalahaṃ udīraye;
คนฺตฺวาน ภูตาธิปเมว ปุจฺฉถ, สเจ น ชานาถ อิธุตฺตมาธมํ’’ฯ
Gantvāna bhūtādhipameva pucchatha, sace na jānātha idhuttamādhamaṃ’’.
๒๒๐.
220.
‘‘ตา นารเทน ปรมปฺปโกปิตา, อุทีริตา วณฺณมเทน มตฺตา;
‘‘Tā nāradena paramappakopitā, udīritā vaṇṇamadena mattā;
สกาเส 29 คนฺตฺวาน สหสฺสจกฺขุโน, ปุจฺฉิํสุ ภูตาธิปํ กา นุ เสยฺยสิ’’ฯ
Sakāse 30 gantvāna sahassacakkhuno, pucchiṃsu bhūtādhipaṃ kā nu seyyasi’’.
๒๒๑.
221.
‘‘ตา ทิสฺวา อายตฺตมนา ปุรินฺทโท, อิจฺจพฺรวี เทววโร กตญฺชลี;
‘‘Tā disvā āyattamanā purindado, iccabravī devavaro katañjalī;
สพฺพาว โว โหถ สุคเตฺต สาทิสี, โก เนว ภเทฺท กลหํ อุทีรยิ’’ฯ
Sabbāva vo hotha sugatte sādisī, ko neva bhadde kalahaṃ udīrayi’’.
๒๒๒.
222.
โส โนพฺรวิ 35 คิริวเร คนฺธมาทเน, คนฺตฺวาน ภูตาธิปเมว ปุจฺฉถ;
So nobravi 36 girivare gandhamādane, gantvāna bhūtādhipameva pucchatha;
สเจ น ชานาถ อิธุตฺตมาธมํ’’ฯ
Sace na jānātha idhuttamādhamaṃ’’.
๒๒๓.
223.
‘‘อสุ 37 พฺรหารญฺญจโร มหามุนิ, นาทตฺวา ภตฺตํ วรคเตฺต ภุญฺชติ;
‘‘Asu 38 brahāraññacaro mahāmuni, nādatvā bhattaṃ varagatte bhuñjati;
วิเจยฺย ทานานิ ททาติ โกสิโย, ยสฺสา หิ โส ทสฺสติ สาว เสยฺยสิ’’ฯ
Viceyya dānāni dadāti kosiyo, yassā hi so dassati sāva seyyasi’’.
๒๒๔.
224.
‘‘อสู หิ โย สมฺมติ ทกฺขิณํ ทิสํ, คงฺคาย ตีเร หิมวนฺตปสฺสนิ 39;
‘‘Asū hi yo sammati dakkhiṇaṃ disaṃ, gaṅgāya tīre himavantapassani 40;
ส โกสิโย ทุลฺลภปานโภชโน, ตสฺส สุธํ ปาปย เทวสารถิ’’ฯ
Sa kosiyo dullabhapānabhojano, tassa sudhaṃ pāpaya devasārathi’’.
๒๒๕.
225.
‘‘ส 41 มาตลี เทววเรน เปสิโต, สหสฺสยุตฺตํ อภิรุยฺห สนฺทนํ;
‘‘Sa 42 mātalī devavarena pesito, sahassayuttaṃ abhiruyha sandanaṃ;
สุขิปฺปเมว 43 อุปคมฺม อสฺสมํ, อทิสฺสมาโน มุนิโน สุธํ อทา’’ฯ
Sukhippameva 44 upagamma assamaṃ, adissamāno munino sudhaṃ adā’’.
๒๒๖.
226.
‘‘อุทคฺคิหุตฺตํ อุปติฎฺฐโต หิ เม, ปภงฺกรํ โลกตโมนุทุตฺตมํ;
‘‘Udaggihuttaṃ upatiṭṭhato hi me, pabhaṅkaraṃ lokatamonuduttamaṃ;
สพฺพานิ ภูตานิ อธิจฺจ 45 วาสโว, โก เนว เม ปาณิสุ กิํ สุโธทหิฯ
Sabbāni bhūtāni adhicca 46 vāsavo, ko neva me pāṇisu kiṃ sudhodahi.
๒๒๗.
227.
‘‘สงฺขูปมํ เสตมตุลฺยทสฺสนํ, สุจิํ สุคนฺธํ ปิยรูปมพฺภุตํ;
‘‘Saṅkhūpamaṃ setamatulyadassanaṃ, suciṃ sugandhaṃ piyarūpamabbhutaṃ;
อทิฎฺฐปุพฺพํ มม ชาตุ จกฺขุภิ 47, กา เทวตา ปาณิสุ กิํ สุโธทหิ’’ฯ
Adiṭṭhapubbaṃ mama jātu cakkhubhi 48, kā devatā pāṇisu kiṃ sudhodahi’’.
๒๒๘.
228.
‘‘อหํ มหิเนฺทน มเหสิ เปสิโต, สุธาภิหาสิํ ตุริโต มหามุนิ;
‘‘Ahaṃ mahindena mahesi pesito, sudhābhihāsiṃ turito mahāmuni;
ชานาสิ มํ มาตลิ เทวสารถิ, ภุญฺชสฺสุ ภตฺตุตฺตม มาภิวารยิ 49ฯ
Jānāsi maṃ mātali devasārathi, bhuñjassu bhattuttama mābhivārayi 50.
๒๒๙.
229.
‘‘ภุตฺตา จ สา ทฺวาทส หนฺติ ปาปเก, ขุทํ ปิปาสํ อรติํ ทรกฺลมํ 51;
‘‘Bhuttā ca sā dvādasa hanti pāpake, khudaṃ pipāsaṃ aratiṃ daraklamaṃ 52;
โกธูปนาหญฺจ วิวาทเปสุณํ, สีตุณฺหตนฺทิญฺจ รสุตฺตมํ อิทํ’’ฯ
Kodhūpanāhañca vivādapesuṇaṃ, sītuṇhatandiñca rasuttamaṃ idaṃ’’.
๒๓๐.
230.
‘‘น กปฺปตี มาตลิ มยฺห ภุญฺชิตุํ, ปุเพฺพ อทตฺวา อิติ เม วตุตฺตมํ;
‘‘Na kappatī mātali mayha bhuñjituṃ, pubbe adatvā iti me vatuttamaṃ;
น จาปิ เอกาสฺนมรียปูชิตํ 53, อสํวิภาคี จ สุขํ น วินฺทติ’’ฯ
Na cāpi ekāsnamarīyapūjitaṃ 54, asaṃvibhāgī ca sukhaṃ na vindati’’.
๒๓๑.
231.
‘‘ถีฆาตกา เย จิเม ปารทาริกา, มิตฺตทฺทุโน เย จ สปนฺติ สุพฺพเต;
‘‘Thīghātakā ye cime pāradārikā, mittadduno ye ca sapanti subbate;
สเพฺพ จ เต มจฺฉริปญฺจมาธมา, ตสฺมา อทตฺวา อุทกมฺปิ นาสฺนิเย 55ฯ
Sabbe ca te maccharipañcamādhamā, tasmā adatvā udakampi nāsniye 56.
๒๓๒.
232.
‘‘โส หิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา ปน, ทสฺสามิ ทานํ วิทุสมฺปวณฺณิตํ;
‘‘So hitthiyā vā purisassa vā pana, dassāmi dānaṃ vidusampavaṇṇitaṃ;
สทฺธา วทญฺญู อิธ วีตมจฺฉรา, ภวนฺติ เหเต สุจิสจฺจสมฺมตา’’ 57ฯ
Saddhā vadaññū idha vītamaccharā, bhavanti hete sucisaccasammatā’’ 58.
๒๓๓.
233.
‘‘อโต มตา 59 เทววเรน เปสิตา, กญฺญา จตโสฺส กนกตฺตจูปมา;
‘‘Ato matā 60 devavarena pesitā, kaññā catasso kanakattacūpamā;
๒๓๔.
234.
‘‘ตา ทิสฺวา สโพฺพ ปรมปฺปโมทิโต 65, สุเภน วเณฺณน สิขาริวคฺคิโน;
‘‘Tā disvā sabbo paramappamodito 66, subhena vaṇṇena sikhārivaggino;
กญฺญา จตโสฺส จตุโร จตุทฺทิสา, อิจฺจพฺรวี มาตลิโน จ สมฺมุขาฯ
Kaññā catasso caturo catuddisā, iccabravī mātalino ca sammukhā.
๒๓๕.
235.
‘‘ปุริมํ ทิสํ กา ตฺวํ ปภาสิ เทวเต, อลงฺกตา ตารวราว โอสธี;
‘‘Purimaṃ disaṃ kā tvaṃ pabhāsi devate, alaṅkatā tāravarāva osadhī;
ปุจฺฉามิ ตํ กญฺจนเวลฺลิวิคฺคเห, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ เทวตาฯ
Pucchāmi taṃ kañcanavelliviggahe, ācikkha me tvaṃ katamāsi devatā.
๒๓๖.
236.
‘‘สิราห เทวีมนุเชภิ 67 ปูชิตา, อปาปสตฺตูปนิเสวินี สทา;
‘‘Sirāha devīmanujebhi 68 pūjitā, apāpasattūpanisevinī sadā;
สุธาวิวาเทน ตวนฺติมาคตา, ตํ มํ สุธาย วรปญฺญ ภาชยฯ
Sudhāvivādena tavantimāgatā, taṃ maṃ sudhāya varapañña bhājaya.
๒๓๗.
237.
สิรีติ มํ ชานหิ ชูหตุตฺตม, ตํ มํ สุธาย วรปญฺญ ภาชย’’ฯ
Sirīti maṃ jānahi jūhatuttama, taṃ maṃ sudhāya varapañña bhājaya’’.
๒๓๘.
238.
‘‘สิเปฺปน วิชฺชาจรเณน พุทฺธิยา, นรา อุเปตา ปคุณา สกมฺมุนา 73;
‘‘Sippena vijjācaraṇena buddhiyā, narā upetā paguṇā sakammunā 74;
ตยา วิหีนา น ลภนฺติ กิญฺจนํ 75, ตยิทํ น สาธุ ยทิทํ ตยา กตํฯ
Tayā vihīnā na labhanti kiñcanaṃ 76, tayidaṃ na sādhu yadidaṃ tayā kataṃ.
๒๓๙.
239.
‘‘ปสฺสามิ โปสํ อลสํ มหคฺฆสํ, สุทุกฺกุลีนมฺปิ อรูปิมํ นรํ;
‘‘Passāmi posaṃ alasaṃ mahagghasaṃ, sudukkulīnampi arūpimaṃ naraṃ;
ตยานุคุโตฺต สิริ ชาติมามปิ 77, เปเสติ ทาสํ วิย โภควา สุขีฯ
Tayānugutto siri jātimāmapi 78, peseti dāsaṃ viya bhogavā sukhī.
๒๔๐.
240.
‘‘ตํ ตํ อสจฺจํ อวิภชฺชเสวินิํ, ชานามิ มูฬฺหํ วิทุรานุปาตินิํ;
‘‘Taṃ taṃ asaccaṃ avibhajjaseviniṃ, jānāmi mūḷhaṃ vidurānupātiniṃ;
น ตาทิสี อรหติ อาสนูทกํ, กุโต สุธา คจฺฉ น มยฺห รุจฺจสิ’’ฯ
Na tādisī arahati āsanūdakaṃ, kuto sudhā gaccha na mayha ruccasi’’.
๒๔๑.
241.
‘‘กา สุกฺกทาฐา ปฎิมุกฺกกุณฺฑลา, จิตฺตงฺคทา กมฺพุวิมฎฺฐธารินี;
‘‘Kā sukkadāṭhā paṭimukkakuṇḍalā, cittaṅgadā kambuvimaṭṭhadhārinī;
โอสิตฺตวณฺณํ ปริทยฺห โสภสิ, กุสคฺคิรตฺตํ อปิฬยฺห มญฺชริํฯ
Osittavaṇṇaṃ paridayha sobhasi, kusaggirattaṃ apiḷayha mañjariṃ.
๒๔๒.
242.
‘‘มิคีว ภนฺตา สรจาปธารินา, วิราธิตา มนฺทมิว อุทิกฺขสิ;
‘‘Migīva bhantā saracāpadhārinā, virādhitā mandamiva udikkhasi;
โก เต ทุตีโย อิธ มนฺทโลจเน, น ภายสิ เอกิกา กานเน วเน’’ฯ
Ko te dutīyo idha mandalocane, na bhāyasi ekikā kānane vane’’.
๒๔๓.
243.
‘‘น เม ทุตีโย อิธ มตฺถิ โกสิย, มสกฺกสารปฺปภวมฺหิ เทวตา;
‘‘Na me dutīyo idha matthi kosiya, masakkasārappabhavamhi devatā;
อาสา สุธาสาย ตวนฺติมาคตา, ตํ มํ สุธาย วรปญฺญ ภาชย’’ฯ
Āsā sudhāsāya tavantimāgatā, taṃ maṃ sudhāya varapañña bhājaya’’.
๒๔๔.
244.
‘‘อาสาย ยนฺติ วาณิชา ธเนสิโน, นาวํ สมารุยฺห ปเรนฺติ อณฺณเว;
‘‘Āsāya yanti vāṇijā dhanesino, nāvaṃ samāruyha parenti aṇṇave;
เต ตตฺถ สีทนฺติ อโถปิ เอกทา, ชีนาธนา เอนฺติ วินฎฺฐปาภตาฯ
Te tattha sīdanti athopi ekadā, jīnādhanā enti vinaṭṭhapābhatā.
๒๔๕.
245.
‘‘อาสาย เขตฺตานิ กสนฺติ กสฺสกา, วปนฺติ พีชานิ กโรนฺตุปายโส;
‘‘Āsāya khettāni kasanti kassakā, vapanti bījāni karontupāyaso;
อีตีนิปาเตน อวุฎฺฐิตาย 79 วา, น กิญฺจิ วินฺทนฺติ ตโต ผลาคมํฯ
Ītīnipātena avuṭṭhitāya 80 vā, na kiñci vindanti tato phalāgamaṃ.
๒๔๖.
246.
‘‘อถตฺตการานิ กโรนฺติ ภตฺตุสุ, อาสํ ปุรกฺขตฺวา นรา สุเขสิโน;
‘‘Athattakārāni karonti bhattusu, āsaṃ purakkhatvā narā sukhesino;
เต ภตฺตุรตฺถา อติคาฬฺหิตา ปุน, ทิสา ปนสฺสนฺติ อลทฺธ กิญฺจนํฯ
Te bhatturatthā atigāḷhitā puna, disā panassanti aladdha kiñcanaṃ.
๒๔๗.
247.
‘‘หิตฺวาน 81 ธญฺญญฺจ ธนญฺจ ญาตเก, อาสาย สคฺคาธิมนา สุเขสิโน;
‘‘Hitvāna 82 dhaññañca dhanañca ñātake, āsāya saggādhimanā sukhesino;
ตปนฺติ ลูขมฺปิ ตปํ จิรนฺตรํ, กุมคฺคมารุยฺห 83 ปเรนฺติ ทุคฺคติํฯ
Tapanti lūkhampi tapaṃ cirantaraṃ, kumaggamāruyha 84 parenti duggatiṃ.
๒๔๘.
248.
‘‘อาสา วิสํวาทิกสมฺมตา อิเม, อาเส สุธาสํ 85 วินยสฺสุ อตฺตนิ;
‘‘Āsā visaṃvādikasammatā ime, āse sudhāsaṃ 86 vinayassu attani;
น ตาทิสี อรหติ อาสนูทกํ, กุโต สุธา คจฺฉ น มยฺห รุจฺจสิ’’ฯ
Na tādisī arahati āsanūdakaṃ, kuto sudhā gaccha na mayha ruccasi’’.
๒๔๙.
249.
‘‘ททฺทลฺลมานา ยสสา ยสสฺสินี, ชิฆญฺญนามวฺหยนํ ทิสํ ปติ;
‘‘Daddallamānā yasasā yasassinī, jighaññanāmavhayanaṃ disaṃ pati;
ปุจฺฉามิ ตํ กญฺจนเวลฺลิวิคฺคเห, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ เทวตา’’ฯ
Pucchāmi taṃ kañcanavelliviggahe, ācikkha me tvaṃ katamāsi devatā’’.
๒๕๐.
250.
‘‘สทฺธาห เทวีมนุเชหิ 87 ปูชิตา, อปาปสตฺตูปนิเสวินี สทา;
‘‘Saddhāha devīmanujehi 88 pūjitā, apāpasattūpanisevinī sadā;
สุธาวิวาเทน ตวนฺติมาคตา, ตํ มํ สุธาย วรปญฺญ ภาชย’’ฯ
Sudhāvivādena tavantimāgatā, taṃ maṃ sudhāya varapañña bhājaya’’.
๒๕๑.
251.
‘‘ทานํ ทมํ จาคมโถปิ สํยมํ, อาทาย สทฺธาย กโรนฺติ เหกทา;
‘‘Dānaṃ damaṃ cāgamathopi saṃyamaṃ, ādāya saddhāya karonti hekadā;
เถยฺยํ มุสา กูฎมโถปิ เปสุณํ, กโรนฺติ เหเก ปุน วิจฺจุตา ตยาฯ
Theyyaṃ musā kūṭamathopi pesuṇaṃ, karonti heke puna viccutā tayā.
๒๕๒.
252.
‘‘ภริยาสุ โปโส สทิสีสุ เปกฺขวา 89, สีลูปปนฺนาสุ ปติพฺพตาสุปิ;
‘‘Bhariyāsu poso sadisīsu pekkhavā 90, sīlūpapannāsu patibbatāsupi;
๒๕๓.
253.
‘‘ตฺวเมว สเทฺธ ปรทารเสวินี, ปาปํ กโรสิ กุสลมฺปิ ริญฺจสิ;
‘‘Tvameva saddhe paradārasevinī, pāpaṃ karosi kusalampi riñcasi;
น ตาทิสี อรหติ อาสนูทกํ, กุโต สุธา คจฺฉ น มยฺห รุจฺจสิ’’ฯ
Na tādisī arahati āsanūdakaṃ, kuto sudhā gaccha na mayha ruccasi’’.
๒๕๔.
254.
‘‘ชิฆญฺญรตฺติํ อรุณสฺมิมูหเต, ยา ทิสฺสติ อุตฺตมรูปวณฺณินี;
‘‘Jighaññarattiṃ aruṇasmimūhate, yā dissati uttamarūpavaṇṇinī;
ตถูปมา มํ ปฎิภาสิ เทวเต, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ อจฺฉราฯ
Tathūpamā maṃ paṭibhāsi devate, ācikkha me tvaṃ katamāsi accharā.
๒๕๕.
255.
‘‘กาลา นิทาเฆริว อคฺคิชาริว 97, อนิเลริตา โลหิตปตฺตมาลินี;
‘‘Kālā nidāgheriva aggijāriva 98, anileritā lohitapattamālinī;
กา ติฎฺฐสิ มนฺทมิคาวโลกยํ 99, ภาเสสมานาว คิรํ น มุญฺจสิ’’ฯ
Kā tiṭṭhasi mandamigāvalokayaṃ 100, bhāsesamānāva giraṃ na muñcasi’’.
๒๕๖.
256.
‘‘หิราห เทวีมนุเชหิ ปูชิตา, อปาปสตฺตูปนิเสวินี สทา;
‘‘Hirāha devīmanujehi pūjitā, apāpasattūpanisevinī sadā;
สุธาวิวาเทน ตวนฺติมาคตา, สาหํ น สโกฺกมิ สุธมฺปิ ยาจิตุํ;
Sudhāvivādena tavantimāgatā, sāhaṃ na sakkomi sudhampi yācituṃ;
โกปีนรูปา วิย ยาจนิตฺถิยา’’ฯ
Kopīnarūpā viya yācanitthiyā’’.
๒๕๗.
257.
‘‘ธเมฺมน ญาเยน สุคเตฺต ลจฺฉสิ, เอโส หิ ธโมฺม น หิ ยาจนา สุธา;
‘‘Dhammena ñāyena sugatte lacchasi, eso hi dhammo na hi yācanā sudhā;
ตํ ตํ อยาจนฺติมหํ นิมนฺตเย, สุธาย ยญฺจิจฺฉสิ ตมฺปิ ทมฺมิ เตฯ
Taṃ taṃ ayācantimahaṃ nimantaye, sudhāya yañcicchasi tampi dammi te.
๒๕๘.
258.
‘‘สา ตฺวํ มยา อชฺช สกมฺหิ อสฺสเม, นิมนฺติตา กญฺจนเวลฺลิวิคฺคเห;
‘‘Sā tvaṃ mayā ajja sakamhi assame, nimantitā kañcanavelliviggahe;
ตุวญฺหิ เม สพฺพรเสหิ ปูชิยา, ตํ ปูชยิตฺวาน สุธมฺปิ อสฺนิเย’’ฯ
Tuvañhi me sabbarasehi pūjiyā, taṃ pūjayitvāna sudhampi asniye’’.
๒๕๙.
259.
‘‘สา โกสิเยนานุมตา ชุตีมตา, อทฺธา หิริ รมฺมํ ปาวิสิ ยสฺสมํ;
‘‘Sā kosiyenānumatā jutīmatā, addhā hiri rammaṃ pāvisi yassamaṃ;
อุทกวนฺตํ 101 ผลมริยปูชิตํ, อปาปสตฺตูปนิเสวิตํ สทาฯ
Udakavantaṃ 102 phalamariyapūjitaṃ, apāpasattūpanisevitaṃ sadā.
๒๖๐.
260.
‘‘รุกฺขคฺคหานา พหุเกตฺถ ปุปฺผิตา, อมฺพา ปิยาลา ปนสา จ กิํสุกา;
‘‘Rukkhaggahānā bahukettha pupphitā, ambā piyālā panasā ca kiṃsukā;
โสภญฺชนา โลทฺทมโถปิ ปทฺมกา, เกกา จ ภงฺคา ติลกา สุปุปฺผิตาฯ
Sobhañjanā loddamathopi padmakā, kekā ca bhaṅgā tilakā supupphitā.
๒๖๑.
261.
‘‘สาลา กเรรี พหุเกตฺถ ชมฺพุโย, อสฺสตฺถนิโคฺรธมธุกเวตสา 103;
‘‘Sālā karerī bahukettha jambuyo, assatthanigrodhamadhukavetasā 104;
อุทฺทาลกา ปาฎลิ สินฺทุวารกา 105, มนุญฺญคนฺธา มุจลินฺทเกตกาฯ
Uddālakā pāṭali sinduvārakā 106, manuññagandhā mucalindaketakā.
๒๖๒.
262.
‘‘หเรณุกา เวฬุกา เกณุ 107 ตินฺทุกา, สามากนีวารมโถปิ จีนกา;
‘‘Hareṇukā veḷukā keṇu 108 tindukā, sāmākanīvāramathopi cīnakā;
โมจา กทลี พหุเกตฺถ สาลิโย, ปวีหโย อาภูชิโน จ 109 ตณฺฑุลาฯ
Mocā kadalī bahukettha sāliyo, pavīhayo ābhūjino ca 110 taṇḍulā.
๒๖๓.
263.
อกกฺกสา อปพฺภารา, สาธุ อปฺปฎิคนฺธิกาฯ
Akakkasā apabbhārā, sādhu appaṭigandhikā.
๒๖๔.
264.
‘‘ตตฺถ มจฺฉา สนฺนิรตา, เขมิโน พหุโภชนา;
‘‘Tattha macchā sanniratā, khemino bahubhojanā;
อาฬิคคฺครกากิณฺณา, ปาฐีนา กากมจฺฉกาฯ
Āḷigaggarakākiṇṇā, pāṭhīnā kākamacchakā.
๒๖๕.
265.
‘‘ตตฺถ ปกฺขี สนฺนิรตา, เขมิโน พหุโภชนา;
‘‘Tattha pakkhī sanniratā, khemino bahubhojanā;
หํสา โกญฺจา มยูรา จ, จกฺกวากา จ กุกฺกุหา;
Haṃsā koñcā mayūrā ca, cakkavākā ca kukkuhā;
กุณาลกา พหู จิตฺรา, สิขณฺฑี ชีวชีวกาฯ
Kuṇālakā bahū citrā, sikhaṇḍī jīvajīvakā.
๒๖๖.
266.
‘‘ตตฺถ ปานาย มายนฺติ, นานา มิคคณา พหู;
‘‘Tattha pānāya māyanti, nānā migagaṇā bahū;
สีหา พฺยคฺฆา วราหา จ, อจฺฉโกกตรจฺฉโยฯ
Sīhā byagghā varāhā ca, acchakokataracchayo.
๒๖๗.
267.
เอเณยฺยา จ วราหา จ, คณิโน นีกสูกรา;
Eṇeyyā ca varāhā ca, gaṇino nīkasūkarā;
๒๖๘.
268.
‘‘ฉมาคิรี ปุปฺผวิจิตฺรสนฺถตา, ทิชาภิฆุฎฺฐา ทิชสงฺฆเสวิตา’’ฯ
‘‘Chamāgirī pupphavicitrasanthatā, dijābhighuṭṭhā dijasaṅghasevitā’’.
๒๖๙.
269.
‘‘สา สุตฺตจา นีลทุมาภิลมฺพิตา, วิชฺชุ มหาเมฆริวานุปชฺชถ;
‘‘Sā suttacā nīladumābhilambitā, vijju mahāmegharivānupajjatha;
ตสฺสา สุสมฺพนฺธสิรํ กุสามยํ, สุจิํ สุคนฺธํ อชินูปเสวิตํ;
Tassā susambandhasiraṃ kusāmayaṃ, suciṃ sugandhaṃ ajinūpasevitaṃ;
อตฺริจฺจ 119 โกจฺฉํ หิริเมตทพฺรวิ, ‘นิสีท กลฺยาณิ สุขยิทมาสนํ’ฯ
Atricca 120 kocchaṃ hirimetadabravi, ‘nisīda kalyāṇi sukhayidamāsanaṃ’.
๒๗๐.
270.
‘‘ตสฺสา ตทา โกจฺฉคตาย โกสิโย, ยทิจฺฉมานาย ชฎาชินนฺธโร 121;
‘‘Tassā tadā kocchagatāya kosiyo, yadicchamānāya jaṭājinandharo 122;
นเวหิ ปเตฺตหิ สยํ สหูทกํ, สุธาภิหาสี ตุริโต มหามุนิฯ
Navehi pattehi sayaṃ sahūdakaṃ, sudhābhihāsī turito mahāmuni.
๒๗๑.
271.
‘‘สา ตํ ปฎิคฺคยฺห อุโภหิ ปาณิภิ, อิจฺจพฺรวิ อตฺตมนา ชฎาธรํ;
‘‘Sā taṃ paṭiggayha ubhohi pāṇibhi, iccabravi attamanā jaṭādharaṃ;
‘หนฺทาหํ เอตรหิ ปูชิตา ตยา, คเจฺฉยฺยํ พฺรเหฺม ติทิวํ ชิตาวินี’ฯ
‘Handāhaṃ etarahi pūjitā tayā, gaccheyyaṃ brahme tidivaṃ jitāvinī’.
๒๗๒.
272.
‘‘สา โกสิเยนานุมตา ชุตีมตา, อุทีริตา 123 วณฺณมเทน มตฺตา;
‘‘Sā kosiyenānumatā jutīmatā, udīritā 124 vaṇṇamadena mattā;
สกาเส คนฺตฺวาน สหสฺสจกฺขุโน, อยํ สุธา วาสว เทหิ เม ชยํฯ
Sakāse gantvāna sahassacakkhuno, ayaṃ sudhā vāsava dehi me jayaṃ.
๒๗๓.
273.
สา ปญฺชลี เทวมนุสฺสปูชิตา, นวมฺหิ โกจฺฉมฺหิ ยทา อุปาวิสิ’’ฯ
Sā pañjalī devamanussapūjitā, navamhi kocchamhi yadā upāvisi’’.
๒๗๔.
274.
‘‘ตเมว สํสี 129 ปุนเทว มาตลิํ, สหสฺสเนโตฺต ติทสานมิโนฺท;
‘‘Tameva saṃsī 130 punadeva mātaliṃ, sahassanetto tidasānamindo;
คนฺตฺวาน วากฺยํ มม พฺรูหิ โกสิยํ, อาสาย สทฺธา 131 สิริยา จ โกสิย;
Gantvāna vākyaṃ mama brūhi kosiyaṃ, āsāya saddhā 132 siriyā ca kosiya;
หิรี สุธํ เกน มลตฺถ เหตุนาฯ
Hirī sudhaṃ kena malattha hetunā.
๒๗๕.
275.
‘‘ตํ สุ วตฺถํ อุทตารยี รถํ, ททฺทลฺลมานํ อุปการิยสาทิสํ 133ฯ
‘‘Taṃ su vatthaṃ udatārayī rathaṃ, daddallamānaṃ upakāriyasādisaṃ 134.
ชโมฺพนทีสํ ตปเนยฺยสนฺนิภํ 135, อลงฺกตํ กญฺจนจิตฺตสนฺนิภํฯ
Jambonadīsaṃ tapaneyyasannibhaṃ 136, alaṅkataṃ kañcanacittasannibhaṃ.
๒๗๖.
276.
‘‘สุวณฺณจเนฺทตฺถ พหู นิปาติตา, หตฺถี ควสฺสา กิกิพฺยคฺฆทีปิโย 137;
‘‘Suvaṇṇacandettha bahū nipātitā, hatthī gavassā kikibyagghadīpiyo 138;
เอเณยฺยกา ลงฺฆมเยตฺถ ปกฺขิโน 139, มิเคตฺถ เวฬุริยมยา ยุธา ยุตาฯ
Eṇeyyakā laṅghamayettha pakkhino 140, migettha veḷuriyamayā yudhā yutā.
๒๗๗.
277.
‘‘ตตฺถสฺสราชหรโย อโยชยุํ, ทสสตานิ สุสุนาคสาทิเส;
‘‘Tatthassarājaharayo ayojayuṃ, dasasatāni susunāgasādise;
อลงฺกเต กญฺจนชาลุรจฺฉเท, อาเวฬิเน สทฺทคเม อสงฺคิเตฯ
Alaṅkate kañcanajāluracchade, āveḷine saddagame asaṅgite.
๒๗๘.
278.
‘‘ตํ ยานเสฎฺฐํ อภิรุยฺห มาตลิ, ทิสา อิมาโย 141 อภินาทยิตฺถ;
‘‘Taṃ yānaseṭṭhaṃ abhiruyha mātali, disā imāyo 142 abhinādayittha;
๒๗๙.
279.
‘‘ส ขิปฺปเมว อุปคมฺม อสฺสมํ, ปาวารเมกํสกโต กตญฺชลี;
‘‘Sa khippameva upagamma assamaṃ, pāvāramekaṃsakato katañjalī;
พหุสฺสุตํ วุทฺธํ วินีตวนฺตํ, อิจฺจพฺรวี มาตลิ เทวพฺราหฺมณํฯ
Bahussutaṃ vuddhaṃ vinītavantaṃ, iccabravī mātali devabrāhmaṇaṃ.
๒๘๐.
280.
‘‘อินฺทสฺส วากฺยํ นิสาเมหิ โกสิย, ทูโต อหํ ปุจฺฉติ ตํ ปุรินฺทโท;
‘‘Indassa vākyaṃ nisāmehi kosiya, dūto ahaṃ pucchati taṃ purindado;
อาสาย สทฺธา สิริยา จ โกสิย, หิรี สุธํ เกน มลตฺถ เหตุนา’’ฯ
Āsāya saddhā siriyā ca kosiya, hirī sudhaṃ kena malattha hetunā’’.
๒๘๑.
281.
‘‘อนฺธา สิรี มํ ปฎิภาติ มาตลิ, สทฺธา อนิจฺจา ปน เทวสารถิ;
‘‘Andhā sirī maṃ paṭibhāti mātali, saddhā aniccā pana devasārathi;
อาสา วิสํวาทิกสมฺมตา หิ เม, หิรี จ อริยมฺหิ คุเณ ปติฎฺฐิตา’’ฯ
Āsā visaṃvādikasammatā hi me, hirī ca ariyamhi guṇe patiṭṭhitā’’.
๒๘๒.
282.
‘‘กุมาริโย ยาจิมา โคตฺตรกฺขิตา, ชิณฺณา จ ยา ยา จ สภตฺตุอิตฺถิโย;
‘‘Kumāriyo yācimā gottarakkhitā, jiṇṇā ca yā yā ca sabhattuitthiyo;
ตา ฉนฺทราคํ ปุริเสสุ อุคฺคตํ, หิริยา นิวาเรนฺติ สจิตฺตมตฺตโนฯ
Tā chandarāgaṃ purisesu uggataṃ, hiriyā nivārenti sacittamattano.
๒๘๓.
283.
‘‘สงฺคามสีเส สรสตฺติสํยุเต, ปราชิตานํ ปตตํ ปลายินํ;
‘‘Saṅgāmasīse sarasattisaṃyute, parājitānaṃ patataṃ palāyinaṃ;
หิริยา นิวตฺตนฺติ ชหิตฺว 147 ชีวิตํ, เต สมฺปฎิจฺฉนฺติ ปุนา หิรีมนาฯ
Hiriyā nivattanti jahitva 148 jīvitaṃ, te sampaṭicchanti punā hirīmanā.
๒๘๔.
284.
‘‘เวลา ยถา สาครเวควารินี, หิราย หิ ปาปชนํ นิวารินี;
‘‘Velā yathā sāgaravegavārinī, hirāya hi pāpajanaṃ nivārinī;
ตํ สพฺพโลเก หิริมริยปูชิตํ, อินฺทสฺส ตํ เวทย เทวสารถิ’’ฯ
Taṃ sabbaloke hirimariyapūjitaṃ, indassa taṃ vedaya devasārathi’’.
๒๘๕.
285.
‘‘โก เต อิมํ โกสิย ทิฎฺฐิโมทหิ, พฺรหฺมา มหิโนฺท อถ วา ปชาปติ;
‘‘Ko te imaṃ kosiya diṭṭhimodahi, brahmā mahindo atha vā pajāpati;
หิราย เทเวสุ หิ เสฎฺฐสมฺมตา, ธีตา มหินฺทสฺส มเหสิ ชายถ’’ฯ
Hirāya devesu hi seṭṭhasammatā, dhītā mahindassa mahesi jāyatha’’.
๒๘๖.
286.
อิโนฺท จ ตํ อินฺทสโคตฺต กงฺขติ, อเชฺชว ตฺวํ อินฺทสหพฺยตํ วช’’ฯ
Indo ca taṃ indasagotta kaṅkhati, ajjeva tvaṃ indasahabyataṃ vaja’’.
๒๘๗.
287.
‘‘เอวํ วิสุชฺฌนฺติ 153 อปาปกมฺมิโน, อโถ สุจิณฺณสฺส ผลํ น นสฺสติ;
‘‘Evaṃ visujjhanti 154 apāpakammino, atho suciṇṇassa phalaṃ na nassati;
เย เกจิ มทฺทกฺขุ สุธาย โภชนํ, สเพฺพว เต อินฺทสหพฺยตํ คตา’’ฯ
Ye keci maddakkhu sudhāya bhojanaṃ, sabbeva te indasahabyataṃ gatā’’.
๒๘๘.
288.
‘‘หิรี อุปฺปลวณฺณาสิ, โกสิโย ทานปติ ภิกฺขุ;
‘‘Hirī uppalavaṇṇāsi, kosiyo dānapati bhikkhu;
อนุรุโทฺธ ปญฺจสิโข, อานโนฺท อาสิ มาตลิฯ
Anuruddho pañcasikho, ānando āsi mātali.
๒๘๙.
289.
‘‘สูริโย กสฺสโป ภิกฺขุ, โมคฺคลฺลาโนสิ จนฺทิมา;
‘‘Sūriyo kassapo bhikkhu, moggallānosi candimā;
นารโท สาริปุโตฺตสิ, สมฺพุโทฺธ อาสิ วาสโว’’ติฯ
Nārado sāriputtosi, sambuddho āsi vāsavo’’ti.
สุธาโภชนชาตกํ ตติยํฯ
Sudhābhojanajātakaṃ tatiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā / [๕๓๕] ๓. สุธาโภชนชาตกวณฺณนา • [535] 3. Sudhābhojanajātakavaṇṇanā