Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā

    ๑. ปาราชิกกโณฺฑ

    1. Pārājikakaṇḍo

    ๑. ปฐมปาราชิกํ

    1. Paṭhamapārājikaṃ

    สุทินฺนภาณวารวณฺณนา

    Sudinnabhāṇavāravaṇṇanā

    ๒๔. วิกฺกายิกภณฺฑสฺส วิกฺกิณนํ อิณทานญฺจ ภณฺฑปฺปโยชนํ นามฯ เอวํ ปโยชิตสฺส มูลสฺส สห วฑฺฒิยา คหณวายาโม อุทฺธาโร นามฯ อสุกทิวเส ทินฺนนฺติอาทินา ปมุฎฺฐสฺส สตุปฺปาทนาทิ สารณํ นามฯ จตุพฺพิธายาติ ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติสมณานํ วเสน, ภิกฺขุอาทีนํ วา วเสน จตุพฺพิธายฯ ทิสฺวานสฺส เอตทโหสีติ เหตุอเตฺถ อยํ ทิสฺวาน-สโทฺท อสมานกตฺตุกตฺตา, ยถา ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ โหตีติ, เอวมญฺญตฺถาปิ เอวรูเปสุฯ ภพฺพกุลปุโตฺตติ อุปนิสฺสยมตฺตสภาเวน วุตฺตํ, น ปจฺฉิมภวิกตายฯ เตเนวสฺส มาตาทิอกลฺยาณมิตฺตสมาโยเคน กตวีติกฺกมนํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนวิปฺปฎิสาเรน อธิคมนฺตราโย ชาโตฯ ปจฺฉิมภวิกานํ ปุพฺพพุทฺธุปฺปาเทสุ ลทฺธพฺยากรณานํ น สกฺกา เกนจิ อนฺตรายํ กาตุํฯ เตเนว องฺคุลิมาลเตฺถราทโย อกุสลํ กตฺวาปิ อธิคมสมฺปนฺนา เอว อเหสุนฺติฯ จริมกจิตฺตนฺติ จุติจิตฺตํฯ สงฺขํ วิย ลิขิตํ ฆํสิตฺวา โธวิตํ สงฺขลิขิตนฺติ อาห โธตอิจฺจาทิฯ อชฺฌาวสตาติ อธิ-สทฺทโยเคน อคารนฺติ ภุมฺมเตฺถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘อคารมเชฺฌ’’ติฯ กสายรสรตฺตานิ กาสายานีติ อาห ‘‘กสายรสปีตตายา’’ติฯ กสายโต นิพฺพตฺตตาย จ หิ รโสปิ ‘‘กสายรโส’’ติ วุจฺจติฯ

    24. Vikkāyikabhaṇḍassa vikkiṇanaṃ iṇadānañca bhaṇḍappayojanaṃ nāma. Evaṃ payojitassa mūlassa saha vaḍḍhiyā gahaṇavāyāmo uddhāro nāma. Asukadivase dinnantiādinā pamuṭṭhassa satuppādanādi sāraṇaṃ nāma. Catubbidhāyāti khattiyabrāhmaṇagahapatisamaṇānaṃ vasena, bhikkhuādīnaṃ vā vasena catubbidhāya. Disvānassa etadahosīti hetuatthe ayaṃ disvāna-saddo asamānakattukattā, yathā ghataṃ pivitvā balaṃ hotīti, evamaññatthāpi evarūpesu. Bhabbakulaputtoti upanissayamattasabhāvena vuttaṃ, na pacchimabhavikatāya. Tenevassa mātādiakalyāṇamittasamāyogena katavītikkamanaṃ nissāya uppannavippaṭisārena adhigamantarāyo jāto. Pacchimabhavikānaṃ pubbabuddhuppādesu laddhabyākaraṇānaṃ na sakkā kenaci antarāyaṃ kātuṃ. Teneva aṅgulimālattherādayo akusalaṃ katvāpi adhigamasampannā eva ahesunti. Carimakacittanti cuticittaṃ. Saṅkhaṃ viya likhitaṃ ghaṃsitvā dhovitaṃ saṅkhalikhitanti āha dhotaiccādi. Ajjhāvasatāti adhi-saddayogena agāranti bhummatthe upayogavacananti āha ‘‘agāramajjhe’’ti. Kasāyarasarattāni kāsāyānīti āha ‘‘kasāyarasapītatāyā’’ti. Kasāyato nibbattatāya ca hi rasopi ‘‘kasāyaraso’’ti vuccati.

    ๒๖. ยทา ชานาติ-สโทฺท โพธนโตฺถ น โหติ, ตทา ตสฺส ปโยเค สปฺปิโน ชานาติ มธุโน ชานาตีติอาทีสุ วิย กรณเตฺถ สามิวจนํ สทฺทสตฺถวิทู อิจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘กิญฺจิ ทุเกฺขน นานุโภสี’’ติฯ เกนจิ ทุเกฺขน นานุโภสีติ อโตฺถ, กิญฺจีติ เอตฺถาปิ หิ กรณเตฺถ สามิวจนสฺส โลโป กโต, เตเนว วกฺขติ ‘‘วิกปฺปทฺวเยปิ ปุริมปทสฺส อุตฺตรปเทน สมานวิภตฺติโลโป ทฎฺฐโพฺพ’’ติฯ ยทา ปน ชานาติ-สโทฺท สรณโตฺถ โหติ, ตทา มาตุ สรตีติอาทีสุ วิย อุปโยคเตฺถ สามิวจนํ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺตีติ อาห ‘‘อถ วา กิญฺจิ ทุกฺขํ นสฺสรตีติ อโตฺถ’’ติ, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส อนนุภูตตาย นสฺสรตีติ อโตฺถฯ วิกปฺปทฺวเยปีติ อนุภวนสรณตฺถวเสน วุเตฺต ทุติยตติยวิกปฺปทฺวเยฯ ปุริมปทสฺสาติ กิญฺจีติ ปทสฺสฯ อุตฺตรปเทนาติ ทุกฺขสฺสาติปเทนฯ สมานาย สามิวจนภูตาย วิภตฺติยา ‘‘กสฺสจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘กิญฺจิ ทุกฺขสฺสา’’ติ โลโปติ ทฎฺฐโพฺพฯ มรเณนปิ มยํ เตติ เอตฺถ เตติ ปทสฺส สหเตฺถ กรณวเสนปิ อตฺถํ ทเสฺสตุํ ตยา วิโยคํ วา ปาปุณิสฺสามาติ อตฺถนฺตรํ วุตฺตํฯ

    26. Yadā jānāti-saddo bodhanattho na hoti, tadā tassa payoge sappino jānāti madhuno jānātītiādīsu viya karaṇatthe sāmivacanaṃ saddasatthavidū icchantīti āha ‘‘kiñci dukkhena nānubhosī’’ti. Kenaci dukkhena nānubhosīti attho, kiñcīti etthāpi hi karaṇatthe sāmivacanassa lopo kato, teneva vakkhati ‘‘vikappadvayepi purimapadassa uttarapadena samānavibhattilopo daṭṭhabbo’’ti. Yadā pana jānāti-saddo saraṇattho hoti, tadā mātu saratītiādīsu viya upayogatthe sāmivacanaṃ saddasatthavidū vadantīti āha ‘‘atha vā kiñci dukkhaṃ nassaratīti attho’’ti, kassaci dukkhassa ananubhūtatāya nassaratīti attho. Vikappadvayepīti anubhavanasaraṇatthavasena vutte dutiyatatiyavikappadvaye. Purimapadassāti kiñcīti padassa. Uttarapadenāti dukkhassātipadena. Samānāya sāmivacanabhūtāya vibhattiyā ‘‘kassaci dukkhassā’’ti vattabbe ‘‘kiñci dukkhassā’’ti lopoti daṭṭhabbo. Maraṇenapi mayaṃ teti ettha teti padassa sahatthe karaṇavasenapi atthaṃ dassetuṃ tayā viyogaṃ vā pāpuṇissāmāti atthantaraṃ vuttaṃ.

    ๒๘. คนฺธพฺพา นาม คายนกาฯ นฎา นาม รงฺคนฎาฯ นาฎกา ลงฺฆนกาทโยฯ สุขูปกรเณหิ อตฺตโน ปริจรณํ กโรโนฺต ยสฺมา ลฬโนฺต กีฬโนฺต นาม โหติ, ตสฺมา ทุติเย อตฺถวิกเปฺป ลฬาติอาทิ วุตฺตํฯ ทานปฺปทานาทีนีติ เอตฺถ นิจฺจทานํ ทานํ นาม, วิเสสทานํ ปทานํ นาม, อาทิ-สเทฺทน สีลาทีนิ สงฺคณฺหาติฯ

    28.Gandhabbā nāma gāyanakā. Naṭā nāma raṅganaṭā. Nāṭakā laṅghanakādayo. Sukhūpakaraṇehi attano paricaraṇaṃ karonto yasmā laḷanto kīḷanto nāma hoti, tasmā dutiye atthavikappe laḷātiādi vuttaṃ. Dānappadānādīnīti ettha niccadānaṃ dānaṃ nāma, visesadānaṃ padānaṃ nāma, ādi-saddena sīlādīni saṅgaṇhāti.

    ๓๐. จุทฺทส ภตฺตานีติ สงฺฆภตฺตํ อุเทฺทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฎิปทิกํ อาคนฺตุกํ คมิกํ คิลานํ คิลานุปฎฺฐากํ วิหาร-ธุร-วารภตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส ภตฺตานิฯ เอตฺถ จ เสนาสนาทิปจฺจยตฺตยนิสฺสิเตสุ อารญฺญกงฺคาทิปธานงฺคานํ คหณวเสน เสสธุตงฺคานิปิ คหิตาเนว โหนฺตีติ เวทิตพฺพํฯ วชฺชีนนฺติ วชฺชีราชูนํฯ วชฺชีสูติ ชนปทาเปกฺขํ พหุวจนํ, วชฺชีนามเก ชนปเทติ อโตฺถฯ ปญฺจกามคุณาเยว อุปภุญฺชิตพฺพโต ปริภุญฺชิตพฺพโต จ อุปโภคปริโภคา, อิตฺถิวตฺถาทีนิ จ ตทุปกรณานีติ อาห ‘‘เยหิ เตส’’นฺติอาทิฯ อุกฺกฎฺฐปิณฺฑปาติกตฺตาติ เสสธุตงฺคปริวาริเตน อุกฺกฎฺฐปิณฺฑปาติกธุตเงฺคน สมนฺนาคตตฺตา, เตนาห ‘‘สปทานจารํ จริตุกาโม’’ติฯ

    30.Cuddasa bhattānīti saṅghabhattaṃ uddesabhattaṃ nimantanaṃ salākaṃ pakkhikaṃ uposathikaṃ pāṭipadikaṃ āgantukaṃ gamikaṃ gilānaṃ gilānupaṭṭhākaṃ vihāra-dhura-vārabhattanti imāni cuddasa bhattāni. Ettha ca senāsanādipaccayattayanissitesu āraññakaṅgādipadhānaṅgānaṃ gahaṇavasena sesadhutaṅgānipi gahitāneva hontīti veditabbaṃ. Vajjīnanti vajjīrājūnaṃ. Vajjīsūti janapadāpekkhaṃ bahuvacanaṃ, vajjīnāmake janapadeti attho. Pañcakāmaguṇāyeva upabhuñjitabbato paribhuñjitabbato ca upabhogaparibhogā, itthivatthādīni ca tadupakaraṇānīti āha ‘‘yehi tesa’’ntiādi. Ukkaṭṭhapiṇḍapātikattāti sesadhutaṅgaparivāritena ukkaṭṭhapiṇḍapātikadhutaṅgena samannāgatattā, tenāha ‘‘sapadānacāraṃ caritukāmo’’ti.

    ๓๑. โทสาติ รตฺติฯ ตตฺถ อภิวุตฺถํ ปริวุสิตํ อาภิโทสิกํ, อภิโทสํ วา ปจฺจูสกาลํ คโต ปโตฺต อติกฺกโนฺต อาภิโทสิโก, เตนาห เอกรตฺตาติกฺกนฺตสฺส วาติอาทิฯ

    31.Dosāti ratti. Tattha abhivutthaṃ parivusitaṃ ābhidosikaṃ, abhidosaṃ vā paccūsakālaṃ gato patto atikkanto ābhidosiko, tenāha ekarattātikkantassa vātiādi.

    ๓๒. อุทกกญฺชิยนฺติ ปานียปริโภชนียอุทกญฺจ ยาคุ จฯ ตถาติ สมุจฺจยเตฺถฯอโนกปฺปนํ อสทฺทหนํ, อมริสนํ อสหนํฯ

    32.Udakakañjiyanti pānīyaparibhojanīyaudakañca yāgu ca. Tathāti samuccayatthe.Anokappanaṃ asaddahanaṃ, amarisanaṃ asahanaṃ.

    ๓๔. ตทฺธิตโลปนฺติ ปิตามหโต อาคตํ ‘‘เปตามห’’นฺติ วตฺตเพฺพ ตทฺธิตปจฺจยนิมิตฺตสฺส เอ-การสฺส โลปํ กตฺวาติ อโตฺถฯ เยสํ สนฺตกํ ธนํ คหิตํ, เต อิณายิกาฯ ปลิพุโทฺธติ ‘มา คจฺฉ มา ภุญฺชา’ติอาทินา กตาวรโณ, ปีฬิโตติ อโตฺถฯ

    34.Taddhitalopanti pitāmahato āgataṃ ‘‘petāmaha’’nti vattabbe taddhitapaccayanimittassa e-kārassa lopaṃ katvāti attho. Yesaṃ santakaṃ dhanaṃ gahitaṃ, te iṇāyikā. Palibuddhoti ‘mā gaccha mā bhuñjā’tiādinā katāvaraṇo, pīḷitoti attho.

    ๓๕. อตฺตนาติ สยํฯ สปติโน ธนสามิโน อิทํ สาปเตยฺยํ, ธนํฯ ตเทว วิภโว

    35.Attanāti sayaṃ. Sapatino dhanasāmino idaṃ sāpateyyaṃ, dhanaṃ. Tadeva vibhavo.

    ๓๖. ภิชฺชนฺตีติ อคหิตปุพฺพา เอว ภิชฺชนฺติฯ ทินฺนาปิ ปฎิสนฺธีติ ปิตรา ทินฺนํ สุกฺกํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนสฺส สตฺตสฺส ปฎิสนฺธิปิ เตน ทินฺนา นาม โหตีติ วุตฺตํฯ สุกฺกเมว วา อิธ ปฎิสนฺธินิสฺสยตฺตา ‘‘ปฎิสนฺธี’’ติ วุตฺตํ, เตนาห ‘‘ขิปฺปํ ปติฎฺฐาตี’’ติฯ น หิ ปิตุ สํโยคกฺขเณเยว สตฺตสฺส อุปฺปตฺตินิยโม อตฺถิ สุกฺกเมว ตถา ปติฎฺฐานนิยมโตฯ สุเกฺก ปน ปติฎฺฐิเต ยาว สตฺต ทิวสานิ, อฑฺฒมาสมตฺตํ วา, ตํ คพฺภสณฺฐานสฺส เขตฺตเมว โหติ มาตุ มํสสฺส โลหิตเลสสฺส สพฺพทาปิ วิชฺชมานตฺตาฯ ปุเพฺพปิ ปญฺญตฺตสิกฺขาปทานํ สพฺภาวโต อปญฺญเตฺต สิกฺขาปเทติ อิมสฺส ปฐมปาราชิกสิกฺขาปเท อฎฺฐปิเตติ อโตฺถ วุโตฺตฯ เอวรูปนฺติ เอวํ ครุกสภาวํ, ปาราชิกสงฺฆาทิเสสวตฺถุภูตนฺติ อโตฺถ, เตนาห ‘‘อวเสเส ปญฺจขุทฺทกาปตฺติกฺขเนฺธ เอว ปญฺญเปสี’’ติฯ ยํ อาทีนวนฺติ สมฺพโนฺธฯ กายวิญฺญตฺติโจปนโตติ กายวิญฺญตฺติยา นิพฺพตฺตจลนโตฯ

    36.Bhijjantīti agahitapubbā eva bhijjanti. Dinnāpi paṭisandhīti pitarā dinnaṃ sukkaṃ nissāya uppannassa sattassa paṭisandhipi tena dinnā nāma hotīti vuttaṃ. Sukkameva vā idha paṭisandhinissayattā ‘‘paṭisandhī’’ti vuttaṃ, tenāha ‘‘khippaṃ patiṭṭhātī’’ti. Na hi pitu saṃyogakkhaṇeyeva sattassa uppattiniyamo atthi sukkameva tathā patiṭṭhānaniyamato. Sukke pana patiṭṭhite yāva satta divasāni, aḍḍhamāsamattaṃ vā, taṃ gabbhasaṇṭhānassa khettameva hoti mātu maṃsassa lohitalesassa sabbadāpi vijjamānattā. Pubbepi paññattasikkhāpadānaṃ sabbhāvato apaññatte sikkhāpadeti imassa paṭhamapārājikasikkhāpade aṭṭhapiteti attho vutto. Evarūpanti evaṃ garukasabhāvaṃ, pārājikasaṅghādisesavatthubhūtanti attho, tenāha ‘‘avasese pañcakhuddakāpattikkhandhe eva paññapesī’’ti. Yaṃ ādīnavanti sambandho. Kāyaviññatticopanatoti kāyaviññattiyā nibbattacalanato.

    เตเนวาติ อวธารเณน ยานิ คพฺภคฺคหณการณานิ นิวตฺติตานิ, ตานิปิ ทเสฺสตุํ กิํ ปนาติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อุภเยสํ ฉนฺทราควเสน กายสํสโคฺค วุโตฺตฯ อิตฺถิยา เอว ฉนฺทราควเสน นาภิปรามสนํ วิสุํ วุตฺตํฯ สามปณฺฑิตสฺส หิ มาตา ปุตฺตุปฺปตฺติยา สญฺชาตาทรา นาภิปรามสนกาเล กามราคสมากุลจิตฺตา อโหสิ, อิตรถา ปุตฺตุปฺปตฺติยา เอว อสมฺภวโตฯ ‘‘สโกฺก จสฺสา กามราคสมุปฺปตฺตินิมิตฺตานิ อกาสี’’ติปิ วทนฺติ, วตฺถุวเสน วา เอตํ นาภิปรามสนํ กายสํสคฺคโต วิสุํ วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ มาตงฺคปณฺฑิตสฺส ทิฎฺฐมงฺคลิกาย นาภิปรามสเนน มณฺฑพฺยสฺส นิพฺพตฺติ อโหสิฯ จณฺฑปโชฺชตมาตุ นาภิยํ วิจฺฉิกา ผริตฺวา คตา, เตน จณฺฑปโชฺชตสฺส นิพฺพตฺติ อโหสีติ อาห เอเตเนว นเยนาติอาทิฯ

    Tenevāti avadhāraṇena yāni gabbhaggahaṇakāraṇāni nivattitāni, tānipi dassetuṃ kiṃ panātiādi vuttaṃ. Tattha ubhayesaṃ chandarāgavasena kāyasaṃsaggo vutto. Itthiyā eva chandarāgavasena nābhiparāmasanaṃ visuṃ vuttaṃ. Sāmapaṇḍitassa hi mātā puttuppattiyā sañjātādarā nābhiparāmasanakāle kāmarāgasamākulacittā ahosi, itarathā puttuppattiyā eva asambhavato. ‘‘Sakko cassā kāmarāgasamuppattinimittāni akāsī’’tipi vadanti, vatthuvasena vā etaṃ nābhiparāmasanaṃ kāyasaṃsaggato visuṃ vuttanti daṭṭhabbaṃ. Mātaṅgapaṇḍitassa diṭṭhamaṅgalikāya nābhiparāmasanena maṇḍabyassa nibbatti ahosi. Caṇḍapajjotamātu nābhiyaṃ vicchikā pharitvā gatā, tena caṇḍapajjotassa nibbatti ahosīti āha eteneva nayenātiādi.

    อยนฺติ สุทินฺนสฺส ปุราณทุติยิกาฯ ยํ สนฺธายาติ ยํ อชฺฌาจารํ สนฺธายฯ มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺตีติ อิมินา สุกฺกสฺส สมฺภวํ ทีเปติ, มาตา จ อุตุนี โหตีติ อิมินา โสณิตสฺสฯ คนฺธโพฺพติ ตตฺรุปโค สโตฺต อธิเปฺปโต, คนฺตโพฺพติ วุตฺตํ โหติ, ต-การสฺส เจตฺถ ธ-กาโร กโตฯ อถ วา คนฺธพฺพา นาม รงฺคนฎา, เต วิย ตตฺร ตตฺร ภเวสุ นานาเวสคฺคหณโต อยมฺปิ ‘‘คนฺธโพฺพ’’ติ วุโตฺต, โส มาตาปิตูนํ สนฺนิปาตกฺขณโต ปจฺฉาปิ สตฺตาหพฺภนฺตเร ตตฺร อุปปโนฺน ‘‘ปจฺจุปฎฺฐิโต’’ติ วุโตฺตฯ คพฺภสฺสาติ กลลรูปสหิตสฺส ปฎิสนฺธิวิญฺญาณสฺสฯ ตญฺหิ อิธ ‘‘คโพฺภ’’ติ อธิเปฺปตํ สา เตน คพฺภํ คณฺหีติอาทีสุ (ปารา. ๓๖) วิยฯ อสฺส ตํ อชฺฌาจารนฺติ สมฺพโนฺธฯ ปาฬิยํ นิรพฺพุโท วต โภ ภิกฺขุสโงฺฆ นิราทีนโวติ อิมสฺส อนนฺตรํ ตสฺมิํ ภิกฺขุสเงฺฆติ อชฺฌาหริตฺวา สุทิเนฺนน…เป.… อาทีนโว อุปฺปาทิโตติ โยชนา เวทิตพฺพาฯ อิติหาติ นิปาตสมุทายสฺส เอวนฺติ อิทํ อตฺถภวนํฯ มุหุเตฺตนาติ อิทํ ขเณนาติ ปทสฺส เววจนํฯ ยาว พฺรหฺมโลกา อพฺภุคฺคโตปิ เทวานํ ตาวมหโนฺต สโทฺท เตสํ รูปํ วิย มนุสฺสานํ โคจโร น โหติฯ ตสฺมา ปจฺฉา สุทิเนฺนน วุเตฺต เอว ชานิํสูติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Ayanti sudinnassa purāṇadutiyikā. Yaṃ sandhāyāti yaṃ ajjhācāraṃ sandhāya. Mātāpitaro ca sannipatitā hontīti iminā sukkassa sambhavaṃ dīpeti, mātā ca utunī hotīti iminā soṇitassa. Gandhabboti tatrupago satto adhippeto, gantabboti vuttaṃ hoti, ta-kārassa cettha dha-kāro kato. Atha vā gandhabbā nāma raṅganaṭā, te viya tatra tatra bhavesu nānāvesaggahaṇato ayampi ‘‘gandhabbo’’ti vutto, so mātāpitūnaṃ sannipātakkhaṇato pacchāpi sattāhabbhantare tatra upapanno ‘‘paccupaṭṭhito’’ti vutto. Gabbhassāti kalalarūpasahitassa paṭisandhiviññāṇassa. Tañhi idha ‘‘gabbho’’ti adhippetaṃ sā tena gabbhaṃ gaṇhītiādīsu (pārā. 36) viya. Assa taṃ ajjhācāranti sambandho. Pāḷiyaṃ nirabbudo vata bho bhikkhusaṅgho nirādīnavoti imassa anantaraṃ tasmiṃ bhikkhusaṅgheti ajjhāharitvā sudinnena…pe… ādīnavo uppāditoti yojanā veditabbā. Itihāti nipātasamudāyassa evanti idaṃ atthabhavanaṃ. Muhuttenāti idaṃ khaṇenāti padassa vevacanaṃ. Yāva brahmalokā abbhuggatopi devānaṃ tāvamahanto saddo tesaṃ rūpaṃ viya manussānaṃ gocaro na hoti. Tasmā pacchā sudinnena vutte eva jāniṃsūti daṭṭhabbaṃ.

    ๓๗. มคฺคพฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคปทฎฺฐานํ สิกฺขตฺตยเมว อุปจารโต วุตฺตํ ตเสฺสว ยาวชีวํ จริตพฺพตฺตาฯ อวิปฺผาริโกติ อุเทฺทสาทีสุ อพฺยาวโฎฯ วหจฺฉิโนฺนติ ฉินฺนปาโท, ฉินฺนขโนฺธ วาฯ จินฺตยีติ อิมินา ปชฺฌายีติ ปทสฺส กิริยาปทตฺตํ ทเสฺสติฯ เตน ‘‘กิโส อโหสิ…เป.… ปชฺฌายิ จา’’ติ จ-การํ อาเนตฺวา ปาฬิโยชนา กาตพฺพาฯ

    37.Maggabrahmacariyanti maggapadaṭṭhānaṃ sikkhattayameva upacārato vuttaṃ tasseva yāvajīvaṃ caritabbattā. Avipphārikoti uddesādīsu abyāvaṭo. Vahacchinnoti chinnapādo, chinnakhandho vā. Cintayīti iminā pajjhāyīti padassa kiriyāpadattaṃ dasseti. Tena ‘‘kiso ahosi…pe… pajjhāyi cā’’ti ca-kāraṃ ānetvā pāḷiyojanā kātabbā.

    ๓๘. คเณ ชนสมาคเม สนฺนิปาตนํ คณสงฺคณิกา, สาว ปปญฺจา, เตน คณสงฺคณิกาปปเญฺจนฯ ยสฺสาติ เย อสฺสฯ กถาผาสุกาติ วิสฺสาสิกภาเวน ผาสุกกถา, สุขสมฺภาสาติ อโตฺถฯ อุปาทารูปํ ภูตรูปมุเขเนว มนฺทนํ ปีนนญฺจ โหตีติ อาห ปสาทอิจฺจาทิฯ ทานีติ นิปาโต อิธ ปน-สทฺทเตฺถ วตฺตติ ตกฺกาลวาจิโน เอตรหิ-ปทสฺส วิสุํ วุจฺจมานตฺตาติ อาห ‘‘โส ปน ตฺว’’นฺติฯ โน-สโทฺทปิ นุ-สโทฺท วิย ปุจฺฉนโตฺถติ อาห ‘‘กจฺจิ นุ ตฺว’’นฺติฯ ตเมวาติ คิหิภาวปตฺถนาลกฺขณเมวฯ อนภิรติเมวาติ เอว-กาเรน นิวตฺติตาย ปน ตทญฺญาย อนภิรติยา วิชฺชมานตฺตํ ทเสฺสตุํ อธิกุสลานนฺติอาทิ วุตฺตํ, สมถวิปสฺสนา อธิกุสลา นามฯ อิทํ ปนาติอาทิ อุปริ วตฺตพฺพวิเสสทสฺสนํฯ ปริยายวจนมตฺตนฺติ สทฺทตฺถกถนมตฺตํฯ

    38. Gaṇe janasamāgame sannipātanaṃ gaṇasaṅgaṇikā, sāva papañcā, tena gaṇasaṅgaṇikāpapañcena. Yassāti ye assa. Kathāphāsukāti vissāsikabhāvena phāsukakathā, sukhasambhāsāti attho. Upādārūpaṃ bhūtarūpamukheneva mandanaṃ pīnanañca hotīti āha pasādaiccādi. Dānīti nipāto idha pana-saddatthe vattati takkālavācino etarahi-padassa visuṃ vuccamānattāti āha ‘‘so pana tva’’nti. No-saddopi nu-saddo viya pucchanatthoti āha ‘‘kacci nu tva’’nti. Tamevāti gihibhāvapatthanālakkhaṇameva. Anabhiratimevāti eva-kārena nivattitāya pana tadaññāya anabhiratiyā vijjamānattaṃ dassetuṃ adhikusalānantiādi vuttaṃ, samathavipassanā adhikusalā nāma. Idaṃ panātiādi upari vattabbavisesadassanaṃ. Pariyāyavacanamattanti saddatthakathanamattaṃ.

    ตสฺมินฺติ ธเมฺม, เอวํ วิราคาย เทสิเต สตีติ อโตฺถฯ นามาติ ครหายํฯ โลกุตฺตรนิพฺพานนฺติ วิราคายาติอาทินา วุตฺตกิเลสกฺขยนิพฺพานโต วิเสเสติฯ ชาติํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกมาโน เอว มทชนนเฎฺฐน มโทติ มานมโทฯ ‘‘อหํ ปุริโส’’ติ ปวโตฺต มาโน ปุริสมโทฯ ‘‘อสทฺธมฺมเสวนาสมตฺถตํ นิสฺสาย มาโน, ราโค เอว วา ปุริสมโท’’ติ เกจิฯ อาทิ-สเทฺทน พลมทาทิํ สงฺคณฺหาติฯ เตภูมกวฎฺฎนฺติ ตีสุ ภูมีสุ กมฺมกิเลสวิปากา ปวตฺตนเฎฺฐน วฎฺฎํฯ วิรชฺชตีติ วิคจฺฉติฯ โยนิโยติ อณฺฑชาทโย, ตา ปน ยวนฺติ ตาหิ สตฺตา อมิสฺสิตาปิ สมานชาติตาย มิสฺสิตา โหนฺตีติ ‘‘โยนิโย’’ติ วุตฺตาฯ

    Tasminti dhamme, evaṃ virāgāya desite satīti attho. Nāmāti garahāyaṃ. Lokuttaranibbānanti virāgāyātiādinā vuttakilesakkhayanibbānato viseseti. Jātiṃ nissāya uppajjanakamāno eva madajananaṭṭhena madoti mānamado. ‘‘Ahaṃ puriso’’ti pavatto māno purisamado. ‘‘Asaddhammasevanāsamatthataṃ nissāya māno, rāgo eva vā purisamado’’ti keci. Ādi-saddena balamadādiṃ saṅgaṇhāti. Tebhūmakavaṭṭanti tīsu bhūmīsu kammakilesavipākā pavattanaṭṭhena vaṭṭaṃ. Virajjatīti vigacchati. Yoniyoti aṇḍajādayo, tā pana yavanti tāhi sattā amissitāpi samānajātitāya missitā hontīti ‘‘yoniyo’’ti vuttā.

    ญาตตีรณปหานวเสนาติ เอตฺถ ลกฺขณาทิวเสน สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห ญาตปริญฺญา นามฯ กลาปสมฺมสนาทิวเสน ปวตฺตา โลกิยวิปสฺสนา ตีรณปริญฺญา นามฯ อริยมโคฺค ปหานปริญฺญา นามฯ อิธ ปน ญาตตีรณกิจฺจานมฺปิ อสโมฺมหโต มคฺคกฺขเณ สิชฺฌนโต อริยมคฺคเมว สนฺธาย ติวิธาปิ ปริญฺญา วุตฺตา, เตเนว ‘‘โลกุตฺตรมโคฺคว กถิโต’’ติ วุตฺตํฯ กาเมสุ ปาตพฺยตานนฺติ วตฺถุกาเมสุ ปาตพฺยตาสงฺขาตานํ สุภาทิอาการานํ ตทาการคาหิกานํ ตณฺหานนฺติ อโตฺถฯ วิสยมุเขน เหตฺถ วิสยิโน คหิตาฯ ตีสุ ฐาเนสูติ ‘‘วิราคาย ธโมฺม เทสิโต…เป.… โน สอุปาทานายา’’ติ เอวํ วุเตฺตสุฯ

    Ñātatīraṇapahānavasenāti ettha lakkhaṇādivasena sappaccayanāmarūpapariggaho ñātapariññā nāma. Kalāpasammasanādivasena pavattā lokiyavipassanā tīraṇapariññā nāma. Ariyamaggo pahānapariññā nāma. Idha pana ñātatīraṇakiccānampi asammohato maggakkhaṇe sijjhanato ariyamaggameva sandhāya tividhāpi pariññā vuttā, teneva ‘‘lokuttaramaggova kathito’’ti vuttaṃ. Kāmesu pātabyatānanti vatthukāmesu pātabyatāsaṅkhātānaṃ subhādiākārānaṃ tadākāragāhikānaṃ taṇhānanti attho. Visayamukhena hettha visayino gahitā. Tīsu ṭhānesūti ‘‘virāgāya dhammo desito…pe… no saupādānāyā’’ti evaṃ vuttesu.

    ๓๙. กลิสาสนาโรปนตฺถายาติ โทสาโรปนตฺถายฯ กลีติ โกธสฺส นามํ, ตสฺส สาสนํ กลิสาสนํ, โกธวเสน วุจฺจมานา ครหาฯ อชฺฌาจาโรว วีติกฺกโมฯ สมณกรณานํ ธมฺมานนฺติ สมณภาวกรานํ หิโรตฺตปฺปาทิธมฺมานํฯ ปาฬิยํ กถํ-สทฺทโยเคน น สกฺขิสฺสสีติ อนาคตวจนํ กตํ, ‘‘นาม-สทฺทโยเคนา’’ติปิ วทนฺติฯ อติวิย ทุกฺขวิปากนฺติ คหฎฺฐานํ นาติสาวชฺชมฺปิ กมฺมํ ปพฺพชิตานํ ภควโต อาณาวีติกฺกมโต เจว สมาทินฺนสิกฺขตฺตยวินาสนโต จ มหาสาวชฺชํ โหตีติ วุตฺตํฯ อุทเก ภวํ โอทกํ, โธวนกิจฺจนฺติ อาห อุทกกิจฺจนฺติอาทิฯ สมาปชฺชิสฺสสีติ อนาคตวจนํ นาม-สทฺทโยเคน กตนฺติ อาห ‘‘นาม-สเทฺทน โยเชตพฺพ’’นฺติฯ ทุพฺภรตาทีนํ เหตุภูโต อสํวโร อิธ ทุพฺภรตาทิ-สเทฺทน วุโตฺต การเณ การิโยปจาเรนาติ อาห ‘‘ทุพฺภรตาทีนํ วตฺถุภูตสฺส อสํวรสฺสา’’ติฯ อตฺตาติ อตฺตภาโวฯ ทุพฺภรตนฺติ อตฺตนา อุปฎฺฐาเกหิ จ ทุเกฺขน ภริตพฺพตํฯ สเตฺตหิ กิเลเสหิ จ สงฺคณนํ สโมธานํ สงฺคณิกาติ อาห คณสงฺคณิกายาติอาทิฯ อฎฺฐกุสีตวตฺถุปาริปูริยาติ เอตฺถ กมฺมํ กาตพฺพนฺติ เอกํ, ตถา อกาสินฺติ, มโคฺค คนฺตโพฺพติ อคมาสินฺติ, นาลตฺถํ โภชนสฺส ปาริปูรินฺติ, อลตฺถนฺติ, อุปฺปโนฺน เม อาพาโธติ, อจิรวุฎฺฐิโต เคลญฺญาติ เอกนฺติ อิมานิ อฎฺฐ กุสีตวตฺถูนิ นามฯ เอตฺถ จ โกสชฺชํ กุสีต-สเทฺทน วุตฺตํฯ วินาปิ หิ ภาวโชตนปจฺจยํ ภาวโตฺถ วิญฺญายติ ยถา ปฎสฺส สุกฺกนฺติฯ สพฺพกิเลสาปจยภูตาย วิวฎฺฎายาติ ราคาทิสพฺพกิเลสานํ อปจยเหตุภูตาย นิพฺพานาย, นิพฺพานตฺถนฺติ อโตฺถฯ สํวรปฺปหานปฎิสํยุตฺตนฺติ สีลสํวราทีหิ ปญฺจหิ สํวเรหิ เจว ตทงฺคปฺปหานาทีหิ ปญฺจหิ ปหาเนหิ จ อุเปตํฯ อสุตฺตนฺต วินิพทฺธนฺติ ตีสุ ปิฎเกสุ ปาฬิสงฺขาตสุตฺตนฺตวเสน อรจิตํ, สงฺคีติกาเรหิ จ อนาโรปิตํ, เตนาห ‘‘ปาฬิวินิมุตฺต’’นฺติฯ เตน จ อฎฺฐกถาสุ ยถานุรูปํ สงฺคหิตนฺติ ทเสฺสติฯ เอวรูปา หิ ปกิณฺณกเทสนา อฎฺฐกถาย มูลํฯ โอกฺกนฺติกธมฺมเทสนา นาม ตสฺมิํ ตสฺมิํ ปสเงฺค โอตาเรตฺวา โอตาเรตฺวา นานานเยหิ กถิยมานา ธมฺมเทสนา, เตนาห ภควา กิราติอาทิฯ ปฎิกฺขิปนาธิปฺปายาติ ปญฺญตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ ‘‘กิเมเตนา’’ติ มทฺทนจิตฺตาฯ

    39.Kalisāsanāropanatthāyāti dosāropanatthāya. Kalīti kodhassa nāmaṃ, tassa sāsanaṃ kalisāsanaṃ, kodhavasena vuccamānā garahā. Ajjhācārova vītikkamo. Samaṇakaraṇānaṃ dhammānanti samaṇabhāvakarānaṃ hirottappādidhammānaṃ. Pāḷiyaṃ kathaṃ-saddayogena na sakkhissasīti anāgatavacanaṃ kataṃ, ‘‘nāma-saddayogenā’’tipi vadanti. Ativiya dukkhavipākanti gahaṭṭhānaṃ nātisāvajjampi kammaṃ pabbajitānaṃ bhagavato āṇāvītikkamato ceva samādinnasikkhattayavināsanato ca mahāsāvajjaṃ hotīti vuttaṃ. Udake bhavaṃ odakaṃ, dhovanakiccanti āha udakakiccantiādi. Samāpajjissasīti anāgatavacanaṃ nāma-saddayogena katanti āha ‘‘nāma-saddena yojetabba’’nti. Dubbharatādīnaṃ hetubhūto asaṃvaro idha dubbharatādi-saddena vutto kāraṇe kāriyopacārenāti āha ‘‘dubbharatādīnaṃ vatthubhūtassa asaṃvarassā’’ti. Attāti attabhāvo. Dubbharatanti attanā upaṭṭhākehi ca dukkhena bharitabbataṃ. Sattehi kilesehi ca saṅgaṇanaṃ samodhānaṃ saṅgaṇikāti āha gaṇasaṅgaṇikāyātiādi. Aṭṭhakusītavatthupāripūriyāti ettha kammaṃ kātabbanti ekaṃ, tathā akāsinti, maggo gantabboti agamāsinti, nālatthaṃ bhojanassa pāripūrinti, alatthanti, uppanno me ābādhoti, aciravuṭṭhito gelaññāti ekanti imāni aṭṭha kusītavatthūni nāma. Ettha ca kosajjaṃ kusīta-saddena vuttaṃ. Vināpi hi bhāvajotanapaccayaṃ bhāvattho viññāyati yathā paṭassa sukkanti. Sabbakilesāpacayabhūtāya vivaṭṭāyāti rāgādisabbakilesānaṃ apacayahetubhūtāya nibbānāya, nibbānatthanti attho. Saṃvarappahānapaṭisaṃyuttanti sīlasaṃvarādīhi pañcahi saṃvarehi ceva tadaṅgappahānādīhi pañcahi pahānehi ca upetaṃ. Asuttanta vinibaddhanti tīsu piṭakesu pāḷisaṅkhātasuttantavasena aracitaṃ, saṅgītikārehi ca anāropitaṃ, tenāha ‘‘pāḷivinimutta’’nti. Tena ca aṭṭhakathāsu yathānurūpaṃ saṅgahitanti dasseti. Evarūpā hi pakiṇṇakadesanā aṭṭhakathāya mūlaṃ. Okkantikadhammadesanā nāma tasmiṃ tasmiṃ pasaṅge otāretvā otāretvā nānānayehi kathiyamānā dhammadesanā, tenāha bhagavā kirātiādi. Paṭikkhipanādhippāyāti paññattampi sikkhāpadaṃ ‘‘kimetenā’’ti maddanacittā.

    วุตฺตตฺถวเสนาติ ปติฎฺฐาอธิคมุปายวเสนฯ สิกฺขาปทวิภเงฺค ยา ตสฺมิํ สมเย กาเมสุมิจฺฉาจารา อารติ วิรตีติอาทินา (วิภ. ๗๐๖) นิทฺทิฎฺฐวิรติโย เจว, ยา ตสฺมิํ สมเย เจตนา สเญฺจตนาติอาทินา (วิภ. ๗๐๔) นิทฺทิฎฺฐเจตนา จ, กาเมสุมิจฺฉาจารา วิรมนฺตสฺส ผโสฺส…เป.… อวิเกฺขโปติอาทินา (วิภ. ๗๐๕) นิทฺทิฎฺฐผสฺสาทิธมฺมา จ สิกฺขาปทนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘อยญฺจ อโตฺถ สิกฺขาปทวิภเงฺค วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพ’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘โย ตตฺถ นามกาโย ปทกาโยติ อิทํ มหาอฎฺฐกถายํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติฯ นามกาโยติ นามสมูโห นามปญฺญตฺติเยว, เสสานิปิ ตเสฺสว เววจนานิฯ สิกฺขาโกฎฺฐาโสติ วิรติอาทโย วุตฺตา ตปฺปกาสกญฺจ วจนํฯ

    Vuttatthavasenāti patiṭṭhāadhigamupāyavasena. Sikkhāpadavibhaṅge yā tasmiṃ samaye kāmesumicchācārā ārati viratītiādinā (vibha. 706) niddiṭṭhaviratiyo ceva, yā tasmiṃ samaye cetanā sañcetanātiādinā (vibha. 704) niddiṭṭhacetanā ca, kāmesumicchācārā viramantassa phasso…pe… avikkhepotiādinā (vibha. 705) niddiṭṭhaphassādidhammā ca sikkhāpadanti dassetuṃ ‘‘ayañca attho sikkhāpadavibhaṅge vuttanayeneva veditabbo’’ti vuttaṃ. ‘‘Yo tattha nāmakāyo padakāyoti idaṃ mahāaṭṭhakathāyaṃ vutta’’nti vadanti. Nāmakāyoti nāmasamūho nāmapaññattiyeva, sesānipi tasseva vevacanāni. Sikkhākoṭṭhāsoti viratiādayo vuttā tappakāsakañca vacanaṃ.

    อตฺถวเสติ หิตวิเสเส อานิสํสวิเสเส, เต จ สิกฺขาปทปญฺญตฺติยา เหตูติ อาห ‘‘การณวเส’’ติฯ สุขวิหาราภาเว สหชีวนสฺส อภาวโต สหชีวิตาติ สุขวิหาโรว วุโตฺตฯ ทุสฺสีลปุคฺคลาติ นิสฺสีลา ทูสิตสีลา จฯ ปาราชิกสิกฺขาปทปฺปสเงฺค หิ นิสฺสีลา อธิเปฺปตา, เสสสิกฺขาปทปสเงฺค เตหิ เตหิ วีติกฺกเมหิ ขณฺฑฉิทฺทาทิภาวปฺปตฺติยา ทูสิตสีลา อธิเปฺปตาฯ อุภเยนปิ อลชฺชิโนว อิธ ‘‘ทุสฺสีลา’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ สพฺพสิกฺขาปทานมฺปิ ทส อตฺถวเส ปฎิเจฺจว ปญฺญตฺตตฺตา อุปริ ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสายาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, เตเนว ‘‘เย มงฺกุตํ…เป.… นิคฺคเหสฺสตี’’ติ สพฺพสิกฺขาปทสาธารณวเสน อโตฺถ วุโตฺตฯ ตตฺถ มงฺกุตนฺติ นิเตฺตชตํ อโธมุขตํฯ ธเมฺมนาติอาทีสุ ธโมฺมติ ภูตํ วตฺถุฯ วินโยติ โจทนา เจว สารณา จฯ สตฺถุสาสนนฺติ ญตฺติสมฺปทา เจว อนุสาวนสมฺปทา จฯ สนฺทิฎฺฐมานาติ สํสยํ อาปชฺชมานาฯ อุพฺพาฬฺหาติ ปีฬิตาฯ ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย หิ อุโปสโถ น ติฎฺฐติ, ปวารณา น ติฎฺฐติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหตีติ อิมินา อลชฺชีหิ สทฺธิํ อุโปสถาทิสกลสงฺฆกมฺมํ กาตุํ น วฎฺฎติ ธมฺมปริโภคตฺตาติ ทเสฺสติฯ อุโปสถปวารณานํ นิยตกาลิกตาย จ อวสฺสํ กตฺตพฺพตฺตา สงฺฆกมฺมโต วิสุํ คหณํ เวทิตพฺพํฯ อกิตฺติ ครหาฯ อยโส ปริวารหานิฯ

    Atthavaseti hitavisese ānisaṃsavisese, te ca sikkhāpadapaññattiyā hetūti āha ‘‘kāraṇavase’’ti. Sukhavihārābhāve sahajīvanassa abhāvato sahajīvitāti sukhavihārova vutto. Dussīlapuggalāti nissīlā dūsitasīlā ca. Pārājikasikkhāpadappasaṅge hi nissīlā adhippetā, sesasikkhāpadapasaṅge tehi tehi vītikkamehi khaṇḍachiddādibhāvappattiyā dūsitasīlā adhippetā. Ubhayenapi alajjinova idha ‘‘dussīlā’’ti vuttāti veditabbā. Sabbasikkhāpadānampi dasa atthavase paṭicceva paññattattā upari dussīlapuggale nissāyāti etthāpi eseva nayo, teneva ‘‘ye maṅkutaṃ…pe… niggahessatī’’ti sabbasikkhāpadasādhāraṇavasena attho vutto. Tattha maṅkutanti nittejataṃ adhomukhataṃ. Dhammenātiādīsu dhammoti bhūtaṃ vatthu. Vinayoti codanā ceva sāraṇā ca. Satthusāsananti ñattisampadā ceva anusāvanasampadā ca. Sandiṭṭhamānāti saṃsayaṃ āpajjamānā. Ubbāḷhāti pīḷitā. Dussīlapuggale nissāya hi uposatho na tiṭṭhati, pavāraṇā na tiṭṭhati, saṅghakammāni nappavattanti, sāmaggī na hotīti iminā alajjīhi saddhiṃ uposathādisakalasaṅghakammaṃ kātuṃ na vaṭṭati dhammaparibhogattāti dasseti. Uposathapavāraṇānaṃ niyatakālikatāya ca avassaṃ kattabbattā saṅghakammato visuṃ gahaṇaṃ veditabbaṃ. Akitti garahā. Ayaso parivārahāni.

    จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ นาม วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย) วุตฺตานิ อาคนฺตุกวตฺตํ อาวาสิกคมิกอนุโมทนภตฺตคฺคปิณฺฑจาริกอารญฺญกเสนาสนชนฺตาฆรวจฺจกุฎิอุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอาจริยอเนฺตวาสิกวตฺตนฺติ อิมานิ จุทฺทส วตฺตานิ, เอตานิ จ สเพฺพสํ ภิกฺขูนํ สพฺพทา จ ยถารหํ จริตพฺพานิฯ เทฺว อสีติ มหาวตฺตานิ ปน ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเลเยว จริตพฺพานิ, น สพฺพทาฯ ตสฺมา วิสุํ คณิตานิฯ ตานิ ปน ‘‘ปาริวาสิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปญฺญเปสฺสามี’’ติ (จูฬว. ๗๕) อารภิตฺวา ‘‘น อุปสมฺปาเทตพฺพํ…เป.… น ฉมาย จงฺกมเนฺต จงฺกเม จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตาวสานานิ ฉสฎฺฐิ, ตโต ปรํ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาริวาสิเกน ภิกฺขุนา ปาริวาสิเกน วุฑฺฒตเรน ภิกฺขุนา สทฺธิํ, มูลายปฎิกสฺสนารเหน, มานตฺตจาริเกน, มานตฺตารเหน, อพฺภานารเหน ภิกฺขุนา สทฺธิํ เอกจฺฉเนฺน อาวาเส วตฺถพฺพ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๘๒) วุตฺตวตฺตานิ ปกตเตฺตน จริตเพฺพหิ อนญฺญตฺตา วิสุํ อคเณตฺวา ปาริวาสิกวุฑฺฒตราทีสุ ปุคฺคลนฺตเรสุ จริตพฺพตฺตา เตสํ วเสน สมฺปิเณฺฑตฺวา เอเกกํ กตฺวา คณิตานิ ปญฺจาติ เอกสตฺตติวตฺตานิ จ อุเกฺขปนียกมฺมกตวเตฺตสุ จ วุตฺตํ ‘‘น ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ…เป.… นหาเน ปิฎฺฐิปริกมฺมํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๘๖) อิทํ อภิวาทนาทีนํ อสาทิยนํ เอกํ, ‘‘น ปกตโตฺต ภิกฺขุ สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสตโพฺพ’’ติอาทีนิ (จูฬว. ๕๑) จ ทสาติ เอวํ ทฺวาสีติ วตฺตานิ โหนฺติ, เอเตเสฺวว ปน กานิจิ ตชฺชนียกมฺมาทิวตฺตานิ กานิจิ ปาริวาสิกาทิวตฺตานีติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาสีติเยวฯ อญฺญตฺถ ปน อฎฺฐกถาปเทเส อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ อสีติขนฺธกวตฺตานีติ อาคตํฯ อถ วา ปุริเมหิ จุทฺทสวเตฺตหิ อสงฺคหิตานิ วินยาคตานิ สพฺพานิ วตฺตานิ ยถา ทฺวาสีติ วตฺตานิ, อสีติ วตฺตานิ เอว วา โหนฺติ, ตถา สงฺคเหตฺวา ญาตพฺพานิฯ

    Cuddasa khandhakavattāni nāma vattakkhandhake (cūḷava. 356 ādayo) vuttāni āgantukavattaṃ āvāsikagamikaanumodanabhattaggapiṇḍacārikaāraññakasenāsanajantāgharavaccakuṭiupajjhāyasaddhivihārikaācariyaantevāsikavattanti imāni cuddasa vattāni, etāni ca sabbesaṃ bhikkhūnaṃ sabbadā ca yathārahaṃ caritabbāni. Dve asīti mahāvattāni pana tajjanīyakammakatādikāleyeva caritabbāni, na sabbadā. Tasmā visuṃ gaṇitāni. Tāni pana ‘‘pārivāsikānaṃ bhikkhūnaṃ vattaṃ paññapessāmī’’ti (cūḷava. 75) ārabhitvā ‘‘na upasampādetabbaṃ…pe… na chamāya caṅkamante caṅkame caṅkamitabba’’nti vuttāvasānāni chasaṭṭhi, tato paraṃ ‘‘na, bhikkhave, pārivāsikena bhikkhunā pārivāsikena vuḍḍhatarena bhikkhunā saddhiṃ, mūlāyapaṭikassanārahena, mānattacārikena, mānattārahena, abbhānārahena bhikkhunā saddhiṃ ekacchanne āvāse vatthabba’’ntiādinā (cūḷava. 82) vuttavattāni pakatattena caritabbehi anaññattā visuṃ agaṇetvā pārivāsikavuḍḍhatarādīsu puggalantaresu caritabbattā tesaṃ vasena sampiṇḍetvā ekekaṃ katvā gaṇitāni pañcāti ekasattativattāni ca ukkhepanīyakammakatavattesu ca vuttaṃ ‘‘na pakatattassa bhikkhuno abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ…pe… nahāne piṭṭhiparikammaṃ sāditabba’’nti (cūḷava. 86) idaṃ abhivādanādīnaṃ asādiyanaṃ ekaṃ, ‘‘na pakatatto bhikkhu sīlavipattiyā anuddhaṃsetabbo’’tiādīni (cūḷava. 51) ca dasāti evaṃ dvāsīti vattāni honti, etesveva pana kānici tajjanīyakammādivattāni kānici pārivāsikādivattānīti aggahitaggahaṇena dvāsītiyeva. Aññattha pana aṭṭhakathāpadese appakaṃ ūnamadhikaṃ vā gaṇanūpagaṃ na hotīti asītikhandhakavattānīti āgataṃ. Atha vā purimehi cuddasavattehi asaṅgahitāni vinayāgatāni sabbāni vattāni yathā dvāsīti vattāni, asīti vattāni eva vā honti, tathā saṅgahetvā ñātabbāni.

    สํวรวินโยติ สีลสํวโร สติสํวโร ญาณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโรติ ปญฺจวิโธปิ สํวโร ยถาสกํ สํวริตพฺพานํ วิเนตพฺพานญฺจ กายทุจฺจริตาทีนํ สํวรณโต สํวโร, วินยนโต วินโยติ วุจฺจติฯ ปหานวินโยติ ตทงฺคปฺปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ สมุเจฺฉทปฺปหานํ ปฎิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปญฺจวิธมฺปิ ปหานํ, ยสฺมา จาคเฎฺฐน ปหานํ, วินยนเฎฺฐน วินโย, ตสฺมา ‘‘ปหานวินโย’’ติ วุจฺจติฯ สมถวินโยติ สตฺต อธิกรณสมถาฯ ปญฺญตฺติวินโยติ สิกฺขาปทเมวฯ ตมฺปิ หิ ภควโต สิกฺขาปทปญฺญตฺติยาว อนุคฺคหิตํ โหติ ตพฺภาเว เอว ภาวโตฯ สงฺขลิกนยํ กตฺวา ทสกฺขตฺตุํ โยชนญฺจ กตฺวา ยํ วุตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ ปุริมปุริมปทสฺส อนนฺตรปเทเนว โยชิตตฺตา อโยสงฺขลิกสทิสนฺติ ‘‘สงฺขลิกนย’’นฺติ วุตฺตํฯ ทสสุ ปเทสุ เอกเมกํ ปทํ ตทวเสเสหิ นวนวปเทหิ โยชิตตฺตา ‘‘เอเกกปทมูลิก’’นฺติ วุตฺตํฯ

    Saṃvaravinayoti sīlasaṃvaro satisaṃvaro ñāṇasaṃvaro khantisaṃvaro vīriyasaṃvaroti pañcavidhopi saṃvaro yathāsakaṃ saṃvaritabbānaṃ vinetabbānañca kāyaduccaritādīnaṃ saṃvaraṇato saṃvaro, vinayanato vinayoti vuccati. Pahānavinayoti tadaṅgappahānaṃ vikkhambhanappahānaṃ samucchedappahānaṃ paṭippassaddhippahānaṃ nissaraṇappahānanti pañcavidhampi pahānaṃ, yasmā cāgaṭṭhena pahānaṃ, vinayanaṭṭhena vinayo, tasmā ‘‘pahānavinayo’’ti vuccati. Samathavinayoti satta adhikaraṇasamathā. Paññattivinayoti sikkhāpadameva. Tampi hi bhagavato sikkhāpadapaññattiyāva anuggahitaṃ hoti tabbhāve eva bhāvato. Saṅkhalikanayaṃ katvā dasakkhattuṃ yojanañca katvā yaṃ vuttanti sambandho. Tattha purimapurimapadassa anantarapadeneva yojitattā ayosaṅkhalikasadisanti ‘‘saṅkhalikanaya’’nti vuttaṃ. Dasasu padesu ekamekaṃ padaṃ tadavasesehi navanavapadehi yojitattā ‘‘ekekapadamūlika’’nti vuttaṃ.

    อตฺถสตํ ธมฺมสตนฺติ เอตฺถ โย หิ โส ปริวาเร (ปริ. ๓๓๔) ยํ สงฺฆสุฎฺฐุ, ตํ สงฺฆผาสูติ อาทิํกตฺวา ยํ สทฺธมฺมฎฺฐิติยา, ตํ วินยานุคฺคหายาติ ปริโยสานํ ขณฺฑจกฺกวเสเนว สงฺขลิกนโย วุโตฺต, ตสฺมิํ เอกมูลกนเย อาคตพทฺธจกฺกนเยน ยํ วินยานุคฺคหาย, ตํ สงฺฆสุฎฺฐูติ อิทมฺปิ โยเชตฺวา พทฺธจเกฺก กเต ปุริมปุริมานิ ทส ธมฺมปทานิ, ปจฺฉิมปจฺฉิมานิ ทส อตฺถปทานิ จาติ วีสติ ปทานิ โหนฺติฯ เอกมูลกนเย ปน เอกสฺมิํ วาเร นเวว อตฺถปทานิ ลพฺภนฺติฯ เอวํ ทสหิ วาเรหิ นวุติ อตฺถปทานิ นวุติ ธมฺมปทานิ จ โหนฺติ, ตานิ สงฺขลิกนเย วุเตฺตหิ ทสหิ อตฺถปเทหิ ทสหิ ธมฺมปเทหิ จ สทฺธิํ โยชิตานิ ยถาวุตฺตํ อตฺถสตํ ธมฺมสตญฺจ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํฯ ยํ ปเนตฺถ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ ฎี. ปาราชิกกณฺฑ ๒.๓๙) สงฺขลิกนเยปิ เอกมูลกนเยปิ ปเจฺจกํ อตฺถสตสฺส ธมฺมสตสฺส โยชนามุขํ วุตฺตํ, ตํ ตถา สิเทฺธปิ อตฺถสตํ ธมฺมสตนฺติ (ปริ. ๓๓๔) คาถาย น สเมติ เทฺว อตฺถสตานิ เทฺว ธมฺมสตานิ จตฺตาริ นิรุตฺติสตานิ อฎฺฐ ญาณสตานีติ วตฺตพฺพโตฯ ตสฺมา อิธ วุตฺตนเยเนว อตฺถสตํ ธมฺมสตนฺติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํฯ เทฺว จ นิรุตฺติสตานีติ อตฺถโชติกานํ นิรุตฺตีนํ วเสน นิรุตฺติสตํ, ธมฺมภูตานํ นิรุตฺตีนญฺจ วเสน นิรุตฺติสตนฺติ เทฺว นิรุตฺติสตานิฯ จตฺตาริ จ ญาณสตานีติ อตฺถสเต ญาณสตํ, ธมฺมสเต ญาณสตํ, ทฺวีสุ นิรุตฺติสเตสุ เทฺว ญาณสตานีติ จตฺตาริ ญาณสตานิฯ อติเรกานยนโตฺถติ อวุตฺตสมุจฺจยโตฺถฯ

    Atthasataṃdhammasatanti ettha yo hi so parivāre (pari. 334) yaṃ saṅghasuṭṭhu, taṃ saṅghaphāsūti ādiṃkatvā yaṃ saddhammaṭṭhitiyā, taṃ vinayānuggahāyāti pariyosānaṃ khaṇḍacakkavaseneva saṅkhalikanayo vutto, tasmiṃ ekamūlakanaye āgatabaddhacakkanayena yaṃ vinayānuggahāya, taṃ saṅghasuṭṭhūti idampi yojetvā baddhacakke kate purimapurimāni dasa dhammapadāni, pacchimapacchimāni dasa atthapadāni cāti vīsati padāni honti. Ekamūlakanaye pana ekasmiṃ vāre naveva atthapadāni labbhanti. Evaṃ dasahi vārehi navuti atthapadāni navuti dhammapadāni ca honti, tāni saṅkhalikanaye vuttehi dasahi atthapadehi dasahi dhammapadehi ca saddhiṃ yojitāni yathāvuttaṃ atthasataṃ dhammasatañca hontīti veditabbaṃ. Yaṃ panettha sāratthadīpaniyaṃ (sārattha ṭī. pārājikakaṇḍa 2.39) saṅkhalikanayepi ekamūlakanayepi paccekaṃ atthasatassa dhammasatassa yojanāmukhaṃ vuttaṃ, taṃ tathā siddhepi atthasataṃ dhammasatanti (pari. 334) gāthāya na sameti dve atthasatāni dve dhammasatāni cattāri niruttisatāni aṭṭha ñāṇasatānīti vattabbato. Tasmā idha vuttanayeneva atthasataṃ dhammasatanti vuttanti gahetabbaṃ. Dve ca niruttisatānīti atthajotikānaṃ niruttīnaṃ vasena niruttisataṃ, dhammabhūtānaṃ niruttīnañca vasena niruttisatanti dve niruttisatāni. Cattāri ca ñāṇasatānīti atthasate ñāṇasataṃ, dhammasate ñāṇasataṃ, dvīsu niruttisatesu dve ñāṇasatānīti cattāri ñāṇasatāni. Atirekānayanatthoti avuttasamuccayattho.

    ปฐมปญฺญตฺติกถาวณฺณนานโย นิฎฺฐิโตฯ

    Paṭhamapaññattikathāvaṇṇanānayo niṭṭhito.

    สุทินฺนภาณวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Sudinnabhāṇavāravaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / สุทินฺนภาณวารวณฺณนา • Sudinnabhāṇavāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / สุทินฺนภาณวารวณฺณนา • Sudinnabhāṇavāravaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact