Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā |
๔. สุชาตาเถรีคาถาวณฺณนา
4. Sujātātherīgāthāvaṇṇanā
อลงฺกตา สุวสนาติอาทิกา สุชาตาย เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อนุกฺกเมน สมฺภตวิโมกฺขสมฺภารา หุตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาเกตนคเร เสฎฺฐิกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา มาตาปิตูหิ สมานชาติกสฺส เสฎฺฐิปุตฺตสฺส ทินฺนา หุตฺวา ปติกุลํ คตาฯ ตตฺถ เตน สทฺธิํ สุขสํวาสํ วสนฺตี เอกทิวสํ อุยฺยานํ คนฺตฺวา นกฺขตฺตกีฬํ กีฬิตฺวา ปริชเนน สทฺธิํ นครํ อาคจฺฉนฺตี อญฺชนวเน สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ สตฺถา ตสฺสา อนุปุพฺพิํ กถํ กเถตฺวา กลฺลจิตฺตตํ ญตฺวา อุปริ สามุกฺกํสิกํ ธมฺมเทสนํ ปกาเสสิฯ สา เทสนาวสาเน อตฺตโน กตาธิการตาย ญาณสฺส ปริปากํ คตตฺตา จ , สตฺถุ จ เทสนาวิลาเสน ยถานิสินฺนาว สห ปฎิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา สามิกญฺจ มาตาปิตโร จ อนุชานาเปตฺวา สตฺถุอาณาย ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ปพฺพชิฯ ปพฺพชิตฺวา จ อตฺตโน ปฎิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
Alaṅkatā suvasanātiādikā sujātāya theriyā gāthā. Ayampi purimabuddhesu katādhikārā tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ kusalaṃ upacinantī anukkamena sambhatavimokkhasambhārā hutvā imasmiṃ buddhuppāde sāketanagare seṭṭhikule nibbattitvā vayappattā mātāpitūhi samānajātikassa seṭṭhiputtassa dinnā hutvā patikulaṃ gatā. Tattha tena saddhiṃ sukhasaṃvāsaṃ vasantī ekadivasaṃ uyyānaṃ gantvā nakkhattakīḷaṃ kīḷitvā parijanena saddhiṃ nagaraṃ āgacchantī añjanavane satthāraṃ disvā pasannamānasā upasaṅkamitvā vanditvā ekamantaṃ nisīdi. Satthā tassā anupubbiṃ kathaṃ kathetvā kallacittataṃ ñatvā upari sāmukkaṃsikaṃ dhammadesanaṃ pakāsesi. Sā desanāvasāne attano katādhikāratāya ñāṇassa paripākaṃ gatattā ca , satthu ca desanāvilāsena yathānisinnāva saha paṭisambhidāhi arahattaṃ patvā satthāraṃ vanditvā gehaṃ gantvā sāmikañca mātāpitaro ca anujānāpetvā satthuāṇāya bhikkhunupassayaṃ gantvā bhikkhunīnaṃ santike pabbaji. Pabbajitvā ca attano paṭipattiṃ paccavekkhitvā udānavasena –
๑๔๕.
145.
‘‘อลงฺกตา สุวสนา, มาลินี จนฺทโนกฺขิตา;
‘‘Alaṅkatā suvasanā, mālinī candanokkhitā;
สพฺพาภรณสญฺฉนฺนา, ทาสีคณปุรกฺขตาฯ
Sabbābharaṇasañchannā, dāsīgaṇapurakkhatā.
๑๔๖.
146.
‘‘อนฺนํ ปานญฺจ อาทาย, ขชฺชํ โภชฺชํ อนปฺปกํ;
‘‘Annaṃ pānañca ādāya, khajjaṃ bhojjaṃ anappakaṃ;
เคหโต นิกฺขมิตฺวาน, อุยฺยานมภิหารยิํฯ
Gehato nikkhamitvāna, uyyānamabhihārayiṃ.
๑๔๗.
147.
‘‘ตตฺถ รมิตฺวา กีฬิตฺวา, อาคจฺฉนฺตี สกํ ฆรํ;
‘‘Tattha ramitvā kīḷitvā, āgacchantī sakaṃ gharaṃ;
วิหารํ ทฎฺฐุํ ปาวิสิํ, สาเกเต อญฺชนํ วนํฯ
Vihāraṃ daṭṭhuṃ pāvisiṃ, sākete añjanaṃ vanaṃ.
๑๔๘.
148.
‘‘ทิสฺวาน โลกปโชฺชตํ, วนฺทิตฺวาน อุปาวิสิํ;
‘‘Disvāna lokapajjotaṃ, vanditvāna upāvisiṃ;
โส เม ธมฺมมเทเสสิ, อนุกมฺปาย จกฺขุมาฯ
So me dhammamadesesi, anukampāya cakkhumā.
๑๔๙.
149.
‘‘สุตฺวา จ โข มเหสิสฺส, สจฺจํ สมฺปฎิวิชฺฌหํ;
‘‘Sutvā ca kho mahesissa, saccaṃ sampaṭivijjhahaṃ;
ตเตฺถว วิรชํ ธมฺมํ, ผุสยิํ อมตํ ปทํฯ
Tattheva virajaṃ dhammaṃ, phusayiṃ amataṃ padaṃ.
๑๕๐.
150.
‘‘ตโต วิญฺญาตสทฺธมฺมา, ปพฺพชิํ อนคาริยํ;
‘‘Tato viññātasaddhammā, pabbajiṃ anagāriyaṃ;
ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, อโมฆํ พุทฺธสาสน’’นฺติฯ –
Tisso vijjā anuppattā, amoghaṃ buddhasāsana’’nti. –
อิมา คาถา อภาสิฯ
Imā gāthā abhāsi.
ตตฺถ อลงฺกตาติ วิภูสิตาฯ ตํ ปน อลงฺกตาการํ ทเสฺสตุํ ‘‘สุวสนา มาลินี จนฺทโนกฺขิตา’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ มาลินีติ มาลาธารินีฯ จนฺทโนกฺขิตาติ จนฺทนานุลิตฺตาฯ สพฺพาภรณสญฺฉนฺนาติ หตฺถูปคาทีหิ สเพฺพหิ อาภรเณหิ อลงฺการวเสน สญฺฉาทิตสรีราฯ
Tattha alaṅkatāti vibhūsitā. Taṃ pana alaṅkatākāraṃ dassetuṃ ‘‘suvasanā mālinī candanokkhitā’’ti vuttaṃ. Tattha mālinīti mālādhārinī. Candanokkhitāti candanānulittā. Sabbābharaṇasañchannāti hatthūpagādīhi sabbehi ābharaṇehi alaṅkāravasena sañchāditasarīrā.
อนฺนํ ปานญฺจ อาทาย, ขชฺชํ โภชฺชํ อนปฺปกนฺติ สาลิโอทนาทิอนฺนํ, อมฺพปานาทิปานํ, ปิฎฺฐขาทนียาทิขชฺชํ, อวสิฎฺฐํ อาหารสงฺขาตํ โภชฺชญฺจ ปหูตํ คเหตฺวาฯ อุยฺยานมภิหารยินฺติ นกฺขตฺตกีฬาวเสน อุยฺยานํ อุปเนสิํฯ อนฺนปานาทิํ ตตฺถ อาเนตฺวา สห ปริชเนน กีฬนฺตี รมนฺตี ปริจาเรสินฺติ อธิปฺปาโยฯ
Annaṃpānañca ādāya, khajjaṃ bhojjaṃ anappakanti sāliodanādiannaṃ, ambapānādipānaṃ, piṭṭhakhādanīyādikhajjaṃ, avasiṭṭhaṃ āhārasaṅkhātaṃ bhojjañca pahūtaṃ gahetvā. Uyyānamabhihārayinti nakkhattakīḷāvasena uyyānaṃ upanesiṃ. Annapānādiṃ tattha ānetvā saha parijanena kīḷantī ramantī paricāresinti adhippāyo.
สาเกเต อญฺชนํ วนนฺติ สาเกตสมีเป อญฺชนวเน วิหารํ ปาวิสิํฯ
Sākete añjanaṃ vananti sāketasamīpe añjanavane vihāraṃ pāvisiṃ.
โลกปโชฺชตนฺติ ญาณปโชฺชเตน โลกสฺส ปโชฺชตภูตํฯ
Lokapajjotanti ñāṇapajjotena lokassa pajjotabhūtaṃ.
ผุสยินฺติ ผุสิํ, อธิคจฺฉินฺติ อโตฺถฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ
Phusayinti phusiṃ, adhigacchinti attho. Sesaṃ vuttanayameva.
สุชาตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sujātātherīgāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi / ๔. สุชาตาเถรีคาถา • 4. Sujātātherīgāthā