Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๘. สูกรขตสุตฺตํ
8. Sūkarakhatasuttaṃ
๕๒๘. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเต สูกรขตายํฯ ตตฺร โข ภควา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามเนฺตสิ – ‘‘กิํ นุ โข, สาริปุตฺต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน ขีณาสโว ภิกฺขุ ตถาคเต วา ตถาคตสาสเน วา ปรมนิปจฺจการํ ปวตฺตมาโน ปวตฺตตี’’ติ 1? ‘‘อนุตฺตรญฺหิ , ภเนฺต, โยคเกฺขมํ สมฺปสฺสมาโน ขีณาสโว ภิกฺขุ ตถาคเต วา ตถาคตสาสเน วา ปรมนิปจฺจการํ ปวตฺตมาโน ปวตฺตตี’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! อนุตฺตรญฺหิ, สาริปุตฺต, โยคเกฺขมํ สมฺปสฺสมาโน ขีณาสโว ภิกฺขุ ตถาคเต วา ตถาคตสาสเน วา ปรมนิปจฺจการํ ปวตฺตมาโน ปวตฺตตี’’ติฯ
528. Ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati gijjhakūṭe pabbate sūkarakhatāyaṃ. Tatra kho bhagavā āyasmantaṃ sāriputtaṃ āmantesi – ‘‘kiṃ nu kho, sāriputta, atthavasaṃ sampassamāno khīṇāsavo bhikkhu tathāgate vā tathāgatasāsane vā paramanipaccakāraṃ pavattamāno pavattatī’’ti 2? ‘‘Anuttarañhi , bhante, yogakkhemaṃ sampassamāno khīṇāsavo bhikkhu tathāgate vā tathāgatasāsane vā paramanipaccakāraṃ pavattamāno pavattatī’’ti. ‘‘Sādhu sādhu, sāriputta! Anuttarañhi, sāriputta, yogakkhemaṃ sampassamāno khīṇāsavo bhikkhu tathāgate vā tathāgatasāsane vā paramanipaccakāraṃ pavattamāno pavattatī’’ti.
‘‘กตโม จ, สาริปุตฺต, อนุตฺตโร โยคเกฺขโม ยํ สมฺปสฺสมาโน ขีณาสโว ภิกฺขุ ตถาคเต วา ตถาคตสาสเน วา ปรมนิปจฺจการํ ปวตฺตมาโน ปวตฺตตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภเนฺต, ขีณาสโว ภิกฺขุ สทฺธินฺทฺริยํ ภาเวติ อุปสมคามิํ สโมฺพธคามิํ, วีริยินฺทฺริยํ ภาเวติ…เป.… สตินฺทฺริยํ ภาเวติ…เป.… สมาธินฺทฺริยํ ภาเวติ…เป.… ปญฺญินฺทฺริยํ ภาเวติ อุปสมคามิํ สโมฺพธคามิํฯ อยํ โข, ภเนฺต, อนุตฺตโร โยคเกฺขโม ยํ สมฺปสฺสมาโน ขีณาสโว ภิกฺขุ ตถาคเต วา ตถาคตสาสเน วา ปรมนิปจฺจการํ ปวตฺตมาโน ปวตฺตตี’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! เอโส หิ, สาริปุตฺต, อนุตฺตโร โยคเกฺขโม ยํ สมฺปสฺสมาโน ขีณาสโว ภิกฺขุ ตถาคเต วา ตถาคตสาสเน วา ปรมนิปจฺจการํ ปวตฺตมาโน ปวตฺตตี’’ติฯ
‘‘Katamo ca, sāriputta, anuttaro yogakkhemo yaṃ sampassamāno khīṇāsavo bhikkhu tathāgate vā tathāgatasāsane vā paramanipaccakāraṃ pavattamāno pavattatī’’ti? ‘‘Idha, bhante, khīṇāsavo bhikkhu saddhindriyaṃ bhāveti upasamagāmiṃ sambodhagāmiṃ, vīriyindriyaṃ bhāveti…pe… satindriyaṃ bhāveti…pe… samādhindriyaṃ bhāveti…pe… paññindriyaṃ bhāveti upasamagāmiṃ sambodhagāmiṃ. Ayaṃ kho, bhante, anuttaro yogakkhemo yaṃ sampassamāno khīṇāsavo bhikkhu tathāgate vā tathāgatasāsane vā paramanipaccakāraṃ pavattamāno pavattatī’’ti. ‘‘Sādhu sādhu, sāriputta! Eso hi, sāriputta, anuttaro yogakkhemo yaṃ sampassamāno khīṇāsavo bhikkhu tathāgate vā tathāgatasāsane vā paramanipaccakāraṃ pavattamāno pavattatī’’ti.
‘‘กตโม จ, สาริปุตฺต, ปรมนิปจฺจกาโร ยํ ขีณาสโว ภิกฺขุ ตถาคเต วา ตถาคตสาสเน วา ปรมนิปจฺจการํ ปวตฺตมาโน ปวตฺตตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภเนฺต, ขีณาสโว ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺส 3, ธเมฺม สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺส, สเงฺฆ สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺส, สิกฺขาย สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺส, สมาธิสฺมิํ สคารโว วิหรติ สปฺปติโสฺสฯ อยํ โข, ภเนฺต, ปรมนิปจฺจกาโร ยํ ขีณาสโว ภิกฺขุ ตถาคเต วา ตถาคตสาสเน วา ปรมนิปจฺจการํ ปวตฺตมาโน ปวตฺตตี’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! เอโส หิ , สาริปุตฺต, ปรมนิปจฺจกาโร ยํ ขีณาสโว ภิกฺขุ ตถาคเต วา ตถาคตสาสเน วา ปรมนิปจฺจการํ ปวตฺตมาโน ปวตฺตตี’’ติฯ อฎฺฐมํฯ
‘‘Katamo ca, sāriputta, paramanipaccakāro yaṃ khīṇāsavo bhikkhu tathāgate vā tathāgatasāsane vā paramanipaccakāraṃ pavattamāno pavattatī’’ti? ‘‘Idha, bhante, khīṇāsavo bhikkhu satthari sagāravo viharati sappatisso 4, dhamme sagāravo viharati sappatisso, saṅghe sagāravo viharati sappatisso, sikkhāya sagāravo viharati sappatisso, samādhismiṃ sagāravo viharati sappatisso. Ayaṃ kho, bhante, paramanipaccakāro yaṃ khīṇāsavo bhikkhu tathāgate vā tathāgatasāsane vā paramanipaccakāraṃ pavattamāno pavattatī’’ti. ‘‘Sādhu sādhu, sāriputta! Eso hi , sāriputta, paramanipaccakāro yaṃ khīṇāsavo bhikkhu tathāgate vā tathāgatasāsane vā paramanipaccakāraṃ pavattamāno pavattatī’’ti. Aṭṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. สูกรขตสุตฺตวณฺณนา • 8. Sūkarakhatasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๘. สูกรขตสุตฺตวณฺณนา • 8. Sūkarakhatasuttavaṇṇanā