Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā

    ๓. สมุจฺจยกฺขนฺธกํ

    3. Samuccayakkhandhakaṃ

    สุกฺกวิสฺสฎฺฐิกถา

    Sukkavissaṭṭhikathā

    ๙๗. สมุจฺจยกฺขนฺธเก – ฉารตฺตํ มานตฺตนฺติ เอตฺถ จตุพฺพิธํ มานตฺตํ – อปฺปฎิจฺฉนฺนมานตฺตํ, ปฎิจฺฉนฺนมานตฺตํ, ปกฺขมานตฺตํ, สโมธานมานตฺตนฺติฯ ตตฺถ อปฺปฎิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม – ยํ อปฺปฎิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวาสํ อทตฺวา เกวลํ อาปตฺติํ อาปนฺนภาเวเนว มานตฺตารหสฺส มานตฺตํ ทิยฺยติฯ ปฎิจฺฉนฺนมานตฺตํ นาม – ยํ ปฎิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวุตฺถปริวาสสฺส ทิยฺยติฯ ปกฺขมานตฺตํ นาม – ยํ ปฎิจฺฉนฺนาย วา อปฺปฎิจฺฉนฺนาย วา อาปตฺติยา อทฺธมาสํ ภิกฺขุนีนํ ทิยฺยติฯ สโมธานมานตฺตํ นาม – ยํ โอธาย เอกโต กตฺวา ทิยฺยติฯ เตสุ อิทํ ‘‘อปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺต’’นฺติ วจนโต ‘‘อปฺปฎิจฺฉนฺนมานตฺต’’นฺติ เวทิตพฺพํฯ ตํ เทเนฺตน สเจ เอกํ อาปตฺติํ อาปโนฺน โหติ, อิธ วุตฺตนเยน ทาตพฺพํฯ สเจ เทฺว วา ติโสฺส วา ตตุตฺตริํ วา อาปโนฺน, ยเถว ‘‘เอกํ อาปตฺติ’’นฺติ วุตฺตํ; เอวํ ‘‘เทฺว อาปตฺติโย, ติโสฺส อาปตฺติโย’’ติ วตฺตพฺพํฯ ตตุตฺตริ ปน สเจปิ สตํ วา สหสฺสํ วา โหติ, ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วตฺตพฺพํฯ นานาวตฺถุกาโยปิ เอกโต กตฺวา ทาตพฺพา, ตาสํ ทานวิธิํ ปริวาสทาเน กถยิสฺสามฯ

    97. Samuccayakkhandhake – chārattaṃ mānattanti ettha catubbidhaṃ mānattaṃ – appaṭicchannamānattaṃ, paṭicchannamānattaṃ, pakkhamānattaṃ, samodhānamānattanti. Tattha appaṭicchannamānattaṃ nāma – yaṃ appaṭicchannāya āpattiyā parivāsaṃ adatvā kevalaṃ āpattiṃ āpannabhāveneva mānattārahassa mānattaṃ diyyati. Paṭicchannamānattaṃ nāma – yaṃ paṭicchannāya āpattiyā parivutthaparivāsassa diyyati. Pakkhamānattaṃ nāma – yaṃ paṭicchannāya vā appaṭicchannāya vā āpattiyā addhamāsaṃ bhikkhunīnaṃ diyyati. Samodhānamānattaṃ nāma – yaṃ odhāya ekato katvā diyyati. Tesu idaṃ ‘‘appaṭicchannāya chārattaṃ mānatta’’nti vacanato ‘‘appaṭicchannamānatta’’nti veditabbaṃ. Taṃ dentena sace ekaṃ āpattiṃ āpanno hoti, idha vuttanayena dātabbaṃ. Sace dve vā tisso vā tatuttariṃ vā āpanno, yatheva ‘‘ekaṃ āpatti’’nti vuttaṃ; evaṃ ‘‘dve āpattiyo, tisso āpattiyo’’ti vattabbaṃ. Tatuttari pana sacepi sataṃ vā sahassaṃ vā hoti, ‘‘sambahulā’’ti vattabbaṃ. Nānāvatthukāyopi ekato katvā dātabbā, tāsaṃ dānavidhiṃ parivāsadāne kathayissāma.

    เอวํ อาปตฺติวเสน กมฺมวาจํ กตฺวา ทิเนฺน มานเตฺต ‘‘เอวเมตํ ธารยามี’’ติ กมฺมวาจาปริโยสาเน มาฬกสีมายเมว ‘‘มานตฺตํ สมาทิยามิ, วตฺตํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทาตพฺพํฯ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ตเตฺถว สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพํ, อาโรเจเนฺตน จ เอวํ อาโรเจตพฺพํ –

    Evaṃ āpattivasena kammavācaṃ katvā dinne mānatte ‘‘evametaṃ dhārayāmī’’ti kammavācāpariyosāne māḷakasīmāyameva ‘‘mānattaṃ samādiyāmi, vattaṃ samādiyāmī’’ti vuttanayena vattaṃ samādātabbaṃ. Vattaṃ samādiyitvā tattheva saṅghassa ārocetabbaṃ, ārocentena ca evaṃ ārocetabbaṃ –

    ‘‘อหํ , ภเนฺต, เอกํ อาปตฺติํ อาปชฺชิํ สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ อปฺปฎิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา อปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ ยาจิํ, ตสฺส เม สโงฺฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สเญฺจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฎฺฐิยา อปฺปฎิจฺฉนฺนาย ฉารตฺตํ มานตฺตํ อทาสิฯ โสหํ มานตฺตํ จรามิ, เวทยามหํ, ภเนฺต ‘เวทยตี’ติ มํ สโงฺฆ ธาเรตู’’ติฯ

    ‘‘Ahaṃ , bhante, ekaṃ āpattiṃ āpajjiṃ sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ appaṭicchannaṃ, sohaṃ saṅghaṃ ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā appaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ yāciṃ, tassa me saṅgho ekissā āpattiyā sañcetanikāya sukkavissaṭṭhiyā appaṭicchannāya chārattaṃ mānattaṃ adāsi. Sohaṃ mānattaṃ carāmi, vedayāmahaṃ, bhante ‘vedayatī’ti maṃ saṅgho dhāretū’’ti.

    อิมญฺจ ปน อตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ ภาสาย อาโรเจตุํ วฎฺฎติเยวฯ อาโรเจตฺวา สเจ นิกฺขิปิตุกาโม, วุตฺตนเยเนว สงฺฆมเชฺฌ นิกฺขิปิตพฺพํฯ มาฬกโต ภิกฺขูสุ นิกฺขเนฺตสุ เอกสฺสปิ สนฺติเก นิกฺขิปิตุํ วฎฺฎติฯ มาฬกโต นิกฺขมิตฺวา สติํ ปฎิลภเนฺตน สหคจฺฉนฺตสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพํฯ สเจ โสปิ ปกฺกโนฺต, อญฺญสฺส ยสฺส มาฬเก นาโรจิตํ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํฯ อาโรเจเนฺตน ปน อวสาเน ‘‘เวทยตีติ มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ วตฺตพฺพํฯ ทฺวินฺนํ อาโรเจเนฺตน ‘‘อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ติณฺณํ อาโรเจเนฺตน ‘‘อายสฺมโนฺต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํฯ นิกฺขิตฺตกาลโต ปฎฺฐาย ปกตตฺตฎฺฐาเน ติฎฺฐติฯ

    Imañca pana atthaṃ gahetvā yāya kāyaci bhāsāya ārocetuṃ vaṭṭatiyeva. Ārocetvā sace nikkhipitukāmo, vuttanayeneva saṅghamajjhe nikkhipitabbaṃ. Māḷakato bhikkhūsu nikkhantesu ekassapi santike nikkhipituṃ vaṭṭati. Māḷakato nikkhamitvā satiṃ paṭilabhantena sahagacchantassa santike nikkhipitabbaṃ. Sace sopi pakkanto, aññassa yassa māḷake nārocitaṃ, tassa ārocetvā nikkhipitabbaṃ. Ārocentena pana avasāne ‘‘vedayatīti maṃ āyasmā dhāretū’’ti vattabbaṃ. Dvinnaṃ ārocentena ‘‘āyasmantā dhārentū’’ti, tiṇṇaṃ ārocentena ‘‘āyasmanto dhārentū’’ti vattabbaṃ. Nikkhittakālato paṭṭhāya pakatattaṭṭhāne tiṭṭhati.

    สเจ อปฺปภิกฺขุโก วิหาโร โหติ, สภาคา ภิกฺขู วสนฺติ, วตฺตํ อนิกฺขิปิตฺวา อโนฺตวิหาเรเยว รตฺติโย คเณตพฺพาฯ อถ น สกฺกา โสเธตุํ, วุตฺตนเยเนว วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปจฺจูสสมเย จตูหิ ปญฺจหิ วา ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริเกฺขปโต, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริเกฺขปารหฎฺฐานโต เทฺว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา มหามคฺคโต โอกฺกมฺม คุเมฺพน วา วติยา วา ปฎิจฺฉนฺนฎฺฐาเน นิสีทิตพฺพํฯ อโนฺตอรุเณเยว วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตพฺพํฯ สเจ อโญฺญ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ ฐานํ อาคจฺฉติ, สเจ เอส ตํ ปสฺสติ, สทฺทํ วาสฺส สุณาติ, อาโรเจตพฺพํฯ อนาโรเจนฺตสฺส รตฺติเจฺฉโท เจว วตฺตเภโท จฯ

    Sace appabhikkhuko vihāro hoti, sabhāgā bhikkhū vasanti, vattaṃ anikkhipitvā antovihāreyeva rattiyo gaṇetabbā. Atha na sakkā sodhetuṃ, vuttanayeneva vattaṃ nikkhipitvā paccūsasamaye catūhi pañcahi vā bhikkhūhi saddhiṃ parikkhittassa vihārassa parikkhepato, aparikkhittassa parikkhepārahaṭṭhānato dve leḍḍupāte atikkamitvā mahāmaggato okkamma gumbena vā vatiyā vā paṭicchannaṭṭhāne nisīditabbaṃ. Antoaruṇeyeva vuttanayena vattaṃ samādiyitvā ārocetabbaṃ. Sace añño koci bhikkhu kenacideva karaṇīyena taṃ ṭhānaṃ āgacchati, sace esa taṃ passati, saddaṃ vāssa suṇāti, ārocetabbaṃ. Anārocentassa ratticchedo ceva vattabhedo ca.

    อถ ทฺวาทสหตฺถํ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา อชานนฺตเสฺสว คจฺฉติ, รตฺติเจฺฉโท โหติ เอว, วตฺตเภโท ปน นตฺถิฯ อาโรจิตกาลโต ปฎฺฐาย จ เอกํ ภิกฺขุํ ฐเปตฺวา เสเสหิ สติ กรณีเย คนฺตุมฺปิ วฎฺฎติฯ อรุเณ อุฎฺฐิเต ตสฺส ภิกฺขุสฺส สนฺติเก วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํฯ สเจ โสปิ เกนจิ กเมฺมน ปุเรอรุเณเยว คจฺฉติ, อญฺญํ วิหารโต นิกฺขนฺตํ วา อาคนฺตุกํ วา ยํ ปฐมํ ปสฺสติ, ตสฺส สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํฯ อยญฺจ ยสฺมา คณสฺส อาโรเจตฺวา ภิกฺขูนญฺจ อตฺถิภาวํ สลฺลเกฺขตฺวาว วสิ, เตนสฺส อูเน คเณ จรณโทโส วา วิปฺปวาโส วา น โหติฯ สเจ น กญฺจิ ปสฺสติ, วิหารํ คนฺตฺวา อตฺตนา สทฺธิํ คตภิกฺขูสุ เอกสฺส สนฺติเก นิกฺขิปิตพฺพนฺติ มหาสุมเตฺถโร อาหฯ มหาปทุมเตฺถโร ปน ‘‘ยํ ปฐมํ ปสฺสติ, ตสฺส อาโรเจตฺวา นิกฺขิปิตพฺพํ; อยํ นิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปริหาโร’’ติ อาหฯ

    Atha dvādasahatthaṃ upacāraṃ okkamitvā ajānantasseva gacchati, ratticchedo hoti eva, vattabhedo pana natthi. Ārocitakālato paṭṭhāya ca ekaṃ bhikkhuṃ ṭhapetvā sesehi sati karaṇīye gantumpi vaṭṭati. Aruṇe uṭṭhite tassa bhikkhussa santike vattaṃ nikkhipitabbaṃ. Sace sopi kenaci kammena purearuṇeyeva gacchati, aññaṃ vihārato nikkhantaṃ vā āgantukaṃ vā yaṃ paṭhamaṃ passati, tassa santike ārocetvā vattaṃ nikkhipitabbaṃ. Ayañca yasmā gaṇassa ārocetvā bhikkhūnañca atthibhāvaṃ sallakkhetvāva vasi, tenassa ūne gaṇe caraṇadoso vā vippavāso vā na hoti. Sace na kañci passati, vihāraṃ gantvā attanā saddhiṃ gatabhikkhūsu ekassa santike nikkhipitabbanti mahāsumatthero āha. Mahāpadumatthero pana ‘‘yaṃ paṭhamaṃ passati, tassa ārocetvā nikkhipitabbaṃ; ayaṃ nikkhittavattassa parihāro’’ti āha.

    เอวํ ฉารตฺตํ มานตฺตํ อขณฺฑํ จริตฺวา ยตฺถ สิยา วีสติคโณ ภิกฺขุสโงฺฆ, ตตฺถ โส ภิกฺขุ อเพฺภตโพฺพฯ อเพฺภเนฺตหิ จ ปฐมํ อพฺภานารโห กาตโพฺพฯ อยญฺหิ นิกฺขิตฺตวตฺตตฺตา ปกตตฺตฎฺฐาเน ฐิโต, ปกตตฺตสฺส จ อพฺภานํ กาตุํ น วฎฺฎติ, ตสฺมา วตฺตํ สมาทาเปตโพฺพฯ วเตฺต สมาทิเนฺน อพฺภานารโห โหติฯ เตนาปิ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา อาโรเจตฺวา อพฺภานํ ยาจิตพฺพํฯ อนิกฺขิตฺตวตฺตสฺส ปุน วตฺตสมาทานกิจฺจํ นตฺถิฯ โส หิ ฉารตฺตาติกฺกเมเนว อพฺภานารโห โหติ, ตสฺมา โส อเพฺภตโพฺพฯ ตตฺร ยฺวายํ ‘‘เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อเพฺภตโพฺพ’’ติ ปาฬิยํเยว อพฺภานวิธิ วุโตฺต, อยญฺจ เอกาปตฺติวเสน วุโตฺตฯ สเจ ปน เทฺว ติโสฺส สมฺพหุลา วา เอกวตฺถุกา วา นานาวตฺถุกา วา อาปตฺติโย โหนฺติ, ตาสํ วเสน กมฺมวาจา กาตพฺพาฯ เอวํ อปฺปฎิจฺฉนฺนมานตฺตํ ทาตพฺพํฯ ปฎิจฺฉนฺนมานตฺตํ ปน ยสฺมา ปฎิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวุตฺถปริวาสสฺส ทาตพฺพํ โหติ, ตสฺมา นํ ปริวาสกถายํเยว กถยิสฺสามฯ

    Evaṃ chārattaṃ mānattaṃ akhaṇḍaṃ caritvā yattha siyā vīsatigaṇo bhikkhusaṅgho, tattha so bhikkhu abbhetabbo. Abbhentehi ca paṭhamaṃ abbhānāraho kātabbo. Ayañhi nikkhittavattattā pakatattaṭṭhāne ṭhito, pakatattassa ca abbhānaṃ kātuṃ na vaṭṭati, tasmā vattaṃ samādāpetabbo. Vatte samādinne abbhānāraho hoti. Tenāpi vattaṃ samādiyitvā ārocetvā abbhānaṃ yācitabbaṃ. Anikkhittavattassa puna vattasamādānakiccaṃ natthi. So hi chārattātikkameneva abbhānāraho hoti, tasmā so abbhetabbo. Tatra yvāyaṃ ‘‘evañca pana, bhikkhave, abbhetabbo’’ti pāḷiyaṃyeva abbhānavidhi vutto, ayañca ekāpattivasena vutto. Sace pana dve tisso sambahulā vā ekavatthukā vā nānāvatthukā vā āpattiyo honti, tāsaṃ vasena kammavācā kātabbā. Evaṃ appaṭicchannamānattaṃ dātabbaṃ. Paṭicchannamānattaṃ pana yasmā paṭicchannāya āpattiyā parivutthaparivāsassa dātabbaṃ hoti, tasmā naṃ parivāsakathāyaṃyeva kathayissāma.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / ๑. สุกฺกวิสฺสฎฺฐิ • 1. Sukkavissaṭṭhi

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / สุกฺกวิสฺสฎฺฐิกถาวณฺณนา • Sukkavissaṭṭhikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / สุกฺกวิสฺสฎฺฐิกถาวณฺณนา • Sukkavissaṭṭhikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / สุกฺกวิสฺสฎฺฐิกถาวณฺณนา • Sukkavissaṭṭhikathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact