Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā |
๒. สุลภสุตฺตวณฺณนา
2. Sulabhasuttavaṇṇanā
๑๐๑. ทุติเย อปฺปานีติ ปริตฺตานิฯ สุลภานีติ สุเขน ลทฺธพฺพานิ, ยตฺถ กตฺถจิ วา สกฺกา โหติ ลทฺธุํฯ อนวชฺชานีติ วชฺชรหิตานิ นิโทฺทสานิ อาคมนสุทฺธิโต กายมณฺฑนาทิกิเลสวตฺถุภาวาภาวโต จฯ ตตฺถ สุลภตาย ปริเยสนทุกฺขสฺส อภาโว ทสฺสิโต, อปฺปตาย ปริหรณทุกฺขสฺสปิ อภาโว ทสฺสิโต, อนวชฺชตาย อครหิตพฺพตาย ภิกฺขุสารุปฺปภาโว ทสฺสิโต โหติฯ อปฺปตาย วา ปริตฺตาสสฺส อวตฺถุตา, สุลภตาย เคธาย อวตฺถุตา, อนวชฺชตาย อาทีนววเสน นิสฺสรณปญฺญาย วตฺถุตา ทสฺสิตา โหติฯ อปฺปตาย วา ลาเภน น โสมนสฺสํ ชนยนฺติ, สุลภตาย อลาเภน น โทมนสฺสํ ชนยนฺติ, อนวชฺชตาย วิปฺปฎิสารนิมิตฺตํ อญฺญาณุเปกฺขํ น ชนยนฺติ อวิปฺปฎิสารวตฺถุภาวโตฯ
101. Dutiye appānīti parittāni. Sulabhānīti sukhena laddhabbāni, yattha katthaci vā sakkā hoti laddhuṃ. Anavajjānīti vajjarahitāni niddosāni āgamanasuddhito kāyamaṇḍanādikilesavatthubhāvābhāvato ca. Tattha sulabhatāya pariyesanadukkhassa abhāvo dassito, appatāya pariharaṇadukkhassapi abhāvo dassito, anavajjatāya agarahitabbatāya bhikkhusāruppabhāvo dassito hoti. Appatāya vā parittāsassa avatthutā, sulabhatāya gedhāya avatthutā, anavajjatāya ādīnavavasena nissaraṇapaññāya vatthutā dassitā hoti. Appatāya vā lābhena na somanassaṃ janayanti, sulabhatāya alābhena na domanassaṃ janayanti, anavajjatāya vippaṭisāranimittaṃ aññāṇupekkhaṃ na janayanti avippaṭisāravatthubhāvato.
ปํสุกูลนฺติ รถิกาสุสานสงฺการกูฎาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ปํสูนํ อุปริ ฐิตตฺตา อพฺภุคฺคตเฎฺฐน ปํสุกูลํ วิยาติ ปํสุกูลํ, ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ปํสุกูลนฺติ เอวํ ลทฺธนามํ รถิกาทีสุ ปติตนนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา กตจีวรํฯ ปิณฺฑิยาโลโปติ ชงฺฆปิณฺฑิยา พเลน จริตฺวา ฆเร ฆเร อาโลปมตฺตํ กตฺวา ลทฺธโภชนํฯ รุกฺขมูลนฺติ วิเวกานุรูปํ ยํกิญฺจิ รุกฺขสมีปํฯ ปูติมุตฺตนฺติ ยํกิญฺจิ โคมุตฺตํฯ ยถา หิ สุวณฺณวโณฺณปิ กาโย ปูติกาโยว เอวํ อภินวมฺปิ มุตฺตํ ปูติมุตฺตเมวฯ ตตฺถ เกจิ โคมุตฺตภาวิตํ หริตกีขณฺฑํ ‘‘ปูติมุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ปูติภาเวน อาปณาทิโต วิสฺสฎฺฐํ ฉฑฺฑิตํ อปริคฺคหิตํ ยํกิญฺจิ เภสชฺชํ ปูติมุตฺตนฺติ อธิเปฺปตนฺติ อปเรฯ
Paṃsukūlanti rathikāsusānasaṅkārakūṭādīsu yattha katthaci paṃsūnaṃ upari ṭhitattā abbhuggataṭṭhena paṃsukūlaṃ viyāti paṃsukūlaṃ, paṃsu viya kucchitabhāvaṃ ulati gacchatīti paṃsukūlanti evaṃ laddhanāmaṃ rathikādīsu patitanantakāni uccinitvā katacīvaraṃ. Piṇḍiyālopoti jaṅghapiṇḍiyā balena caritvā ghare ghare ālopamattaṃ katvā laddhabhojanaṃ. Rukkhamūlanti vivekānurūpaṃ yaṃkiñci rukkhasamīpaṃ. Pūtimuttanti yaṃkiñci gomuttaṃ. Yathā hi suvaṇṇavaṇṇopi kāyo pūtikāyova evaṃ abhinavampi muttaṃ pūtimuttameva. Tattha keci gomuttabhāvitaṃ haritakīkhaṇḍaṃ ‘‘pūtimutta’’nti vadanti, pūtibhāvena āpaṇādito vissaṭṭhaṃ chaḍḍitaṃ apariggahitaṃ yaṃkiñci bhesajjaṃ pūtimuttanti adhippetanti apare.
ยโต โขติ ปจฺจเตฺต นิสฺสกฺกวจนํ, ยํ โขติ วุตฺตํ โหติฯ เตน ‘‘ตุโฎฺฐ โหตี’’ติ วุตฺตกิริยํ ปรามสติฯ ตุโฎฺฐติ สนฺตุโฎฺฐฯ อิทมสฺสาหนฺติ ยฺวายํ จตุพฺพิเธน ยถาวุเตฺตน ปจฺจเยน อเปฺปน สุลเภน สโนฺตโส, อิทํ อิมสฺส ภิกฺขุโน สีลสํวราทีสุ อญฺญตรํ เอกํ สามญฺญงฺคํ สมณภาวการณนฺติ อหํ วทามิฯ สนฺตุฎฺฐสฺส หิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ สุปริปุณฺณํ โหติ, สมถวิปสฺสนา จ ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ อถ วา สามญฺญํ นาม อริยมโคฺคฯ ตสฺส สเงฺขปโต เทฺว องฺคานิ – พาหิรํ, อชฺฌตฺติกนฺติฯ ตตฺถ พาหิรํ สปฺปุริสูปนิสฺสโย สทฺธมฺมสฺสวนญฺจ, อชฺฌตฺติกํ ปน โยนิโส มนสิกาโร ธมฺมานุธมฺมปฎิปตฺติ จฯ เตสุ ยสฺมา ยถารหํ ธมฺมานุธมฺมปฎิปตฺติภูตา ตสฺสา มูลภูตา เจเต ธมฺมา, ยทิทํ อปฺปิจฺฉตา สนฺตุฎฺฐิตา ปวิวิตฺตตา อสํสฎฺฐตา อารทฺธวีริยตาติ เอวมาทโย, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อิทมสฺสาหํ อญฺญตรํ สามญฺญงฺคนฺติ วทามี’’ติฯ
Yato khoti paccatte nissakkavacanaṃ, yaṃ khoti vuttaṃ hoti. Tena ‘‘tuṭṭho hotī’’ti vuttakiriyaṃ parāmasati. Tuṭṭhoti santuṭṭho. Idamassāhanti yvāyaṃ catubbidhena yathāvuttena paccayena appena sulabhena santoso, idaṃ imassa bhikkhuno sīlasaṃvarādīsu aññataraṃ ekaṃ sāmaññaṅgaṃ samaṇabhāvakāraṇanti ahaṃ vadāmi. Santuṭṭhassa hi catupārisuddhisīlaṃ suparipuṇṇaṃ hoti, samathavipassanā ca bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Atha vā sāmaññaṃ nāma ariyamaggo. Tassa saṅkhepato dve aṅgāni – bāhiraṃ, ajjhattikanti. Tattha bāhiraṃ sappurisūpanissayo saddhammassavanañca, ajjhattikaṃ pana yoniso manasikāro dhammānudhammapaṭipatti ca. Tesu yasmā yathārahaṃ dhammānudhammapaṭipattibhūtā tassā mūlabhūtā cete dhammā, yadidaṃ appicchatā santuṭṭhitā pavivittatā asaṃsaṭṭhatā āraddhavīriyatāti evamādayo, tasmā vuttaṃ ‘‘idamassāhaṃ aññataraṃ sāmaññaṅganti vadāmī’’ti.
คาถาสุ เสนาสนมารพฺภาติ วิหาราทิํ มญฺจปีฐาทิญฺจ เสนาสนํ นิสฺสายฯ จีวรํ ปานโภชนนฺติ นิวาสนาทิจีวรํ, อมฺพปานกาทิปานํ, ขาทนียโภชนียาทิภุญฺชิตพฺพวตฺถุญฺจ อารพฺภาติ สมฺพโนฺธฯ วิฆาโต วิหตภาโว เจโตทุกฺขํ น โหตีติ โยชนาฯ อยเญฺหตฺถ สเงฺขปโตฺถ – ‘‘อสุกสฺมิํ นาม อาวาเส ปจฺจยา สุลภา’’ติ ลภิตพฺพฎฺฐานคมเนน วา ‘‘มยฺหํ ปาปุณาติ น ตุยฺห’’นฺติ วิวาทาปชฺชเนน วา นวกมฺมกรณาทิวเสน วา เสนาสนาทีนิ ปริเยสนฺตานํ อสนฺตุฎฺฐานํ อิจฺฉิตลาภาทินา โย วิฆาโต จิตฺตสฺส โหติ, โส ตตฺถ สนฺตุฎฺฐสฺส น โหตีติฯ ทิสา นปฺปฎิหญฺญตีติ สนฺตุฎฺฐิยา จาตุทฺทิสาภาเวน ทิสา นปฺปฎิหนฺติฯ วุตฺตเญฺหตํ –
Gāthāsu senāsanamārabbhāti vihārādiṃ mañcapīṭhādiñca senāsanaṃ nissāya. Cīvaraṃ pānabhojananti nivāsanādicīvaraṃ, ambapānakādipānaṃ, khādanīyabhojanīyādibhuñjitabbavatthuñca ārabbhāti sambandho. Vighāto vihatabhāvo cetodukkhaṃ na hotīti yojanā. Ayañhettha saṅkhepattho – ‘‘asukasmiṃ nāma āvāse paccayā sulabhā’’ti labhitabbaṭṭhānagamanena vā ‘‘mayhaṃ pāpuṇāti na tuyha’’nti vivādāpajjanena vā navakammakaraṇādivasena vā senāsanādīni pariyesantānaṃ asantuṭṭhānaṃ icchitalābhādinā yo vighāto cittassa hoti, so tattha santuṭṭhassa na hotīti. Disā nappaṭihaññatīti santuṭṭhiyā cātuddisābhāvena disā nappaṭihanti. Vuttañhetaṃ –
‘‘จาตุทฺทิโส อปฺปฎิโฆ จ โหติ,
‘‘Cātuddiso appaṭigho ca hoti,
สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรนา’’ติฯ (สุ. นิ. ๔๒; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิเทฺทส ๑๒๘);
Santussamāno itarītarenā’’ti. (su. ni. 42; cūḷani. khaggavisāṇasuttaniddesa 128);
ยสฺส หิ ‘‘อสุกฎฺฐานํ นาม คโต จีวราทีนิ ลภิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ทิสา ปฎิหญฺญติ นามฯ ยสฺส ปน เอวํ น อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ทิสา น ปฎิหญฺญติ นามฯ ธมฺมาติ ปฎิปตฺติธมฺมาฯ สามญฺญสฺสานุโลมิกาติ สมณธมฺมสฺส สมถวิปสฺสนาภาวนาย อริยมคฺคเสฺสว วา อนุจฺฉวิกา อปฺปิจฺฉตาทโยฯ อธิคฺคหิตาติ สเพฺพ เต ตุฎฺฐจิตฺตสฺส สนฺตุฎฺฐจิเตฺตน ภิกฺขุนา อธิคฺคหิตา ปฎิปกฺขธเมฺม อภิภวิตฺวา คหิตา โหนฺติ อพฺภนฺตรคตา, น พาหิรคตาติฯ
Yassa hi ‘‘asukaṭṭhānaṃ nāma gato cīvarādīni labhissāmī’’ti cittaṃ uppajjati, tassa disā paṭihaññati nāma. Yassa pana evaṃ na uppajjati, tassa disā na paṭihaññati nāma. Dhammāti paṭipattidhammā. Sāmaññassānulomikāti samaṇadhammassa samathavipassanābhāvanāya ariyamaggasseva vā anucchavikā appicchatādayo. Adhiggahitāti sabbe te tuṭṭhacittassa santuṭṭhacittena bhikkhunā adhiggahitā paṭipakkhadhamme abhibhavitvā gahitā honti abbhantaragatā, na bāhiragatāti.
ทุติยสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๒. สุลภสุตฺตํ • 2. Sulabhasuttaṃ