Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi |
๑๖. มหานิปาโต
16. Mahānipāto
๑. สุเมธาเถรีคาถา
1. Sumedhātherīgāthā
๔๕๐.
450.
มนฺตาวติยา นคเร, รโญฺญ โกญฺจสฺส อคฺคมเหสิยา;
Mantāvatiyā nagare, rañño koñcassa aggamahesiyā;
ธีตา อาสิํ สุเมธา, ปสาทิตา สาสนกเรหิฯ
Dhītā āsiṃ sumedhā, pasāditā sāsanakarehi.
๔๕๑.
451.
สีลวตี จิตฺตกถา, พหุสฺสุตา พุทฺธสาสเน วินีตา;
Sīlavatī cittakathā, bahussutā buddhasāsane vinītā;
มาตาปิตโร อุปคมฺม, ภณติ ‘‘อุภโย นิสาเมถฯ
Mātāpitaro upagamma, bhaṇati ‘‘ubhayo nisāmetha.
๔๕๒.
452.
‘‘นิพฺพานาภิรตาหํ, อสสฺสตํ ภวคตํ ยทิปิ ทิพฺพํ;
‘‘Nibbānābhiratāhaṃ, asassataṃ bhavagataṃ yadipi dibbaṃ;
๔๕๓.
453.
‘‘กามา กฎุกา อาสีวิสูปมา, เยสุ มุจฺฉิตา พาลา;
‘‘Kāmā kaṭukā āsīvisūpamā, yesu mucchitā bālā;
เต ทีฆรตฺตํ นิรเย, สมปฺปิตา หญฺญเนฺต ทุกฺขิตา 3ฯ
Te dīgharattaṃ niraye, samappitā haññante dukkhitā 4.
๔๕๔.
454.
‘‘โสจนฺติ ปาปกมฺมา, วินิปาเต ปาปวทฺธิโน สทา;
‘‘Socanti pāpakammā, vinipāte pāpavaddhino sadā;
กาเยน จ วาจาย จ, มนสา จ อสํวุตา พาลาฯ
Kāyena ca vācāya ca, manasā ca asaṃvutā bālā.
๔๕๕.
455.
‘‘พาลา เต ทุปฺปญฺญา, อเจตนา ทุกฺขสมุทโยรุทฺธา;
‘‘Bālā te duppaññā, acetanā dukkhasamudayoruddhā;
เทสเนฺต อชานนฺตา, น พุชฺฌเร อริยสจฺจานิฯ
Desante ajānantā, na bujjhare ariyasaccāni.
๔๕๖.
456.
‘‘สจฺจานิ อมฺม พุทฺธวรเทสิตานิ, เต พหุตรา อชานนฺตา เย;
‘‘Saccāni amma buddhavaradesitāni, te bahutarā ajānantā ye;
อภินนฺทนฺติ ภวคตํ, ปิเหนฺติ เทเวสุ อุปปตฺติํฯ
Abhinandanti bhavagataṃ, pihenti devesu upapattiṃ.
๔๕๗.
457.
‘‘เทเวสุปิ อุปปตฺติ, อสสฺสตา ภวคเต อนิจฺจมฺหิ;
‘‘Devesupi upapatti, asassatā bhavagate aniccamhi;
น จ สนฺตสนฺติ พาลา, ปุนปฺปุนํ ชายิตพฺพสฺสฯ
Na ca santasanti bālā, punappunaṃ jāyitabbassa.
๔๕๘.
458.
‘‘จตฺตาโร วินิปาตา, ทุเว 5 จ คติโย กถญฺจิ ลพฺภนฺติ;
‘‘Cattāro vinipātā, duve 6 ca gatiyo kathañci labbhanti;
น จ วินิปาตคตานํ, ปพฺพชฺชา อตฺถิ นิรเยสุฯ
Na ca vinipātagatānaṃ, pabbajjā atthi nirayesu.
๔๕๙.
459.
‘‘อนุชานาถ มํ อุภโย, ปพฺพชิตุํ ทสพลสฺส ปาวจเน;
‘‘Anujānātha maṃ ubhayo, pabbajituṃ dasabalassa pāvacane;
อโปฺปสฺสุกฺกา ฆฎิสฺสํ, ชาติมรณปฺปหานายฯ
Appossukkā ghaṭissaṃ, jātimaraṇappahānāya.
๔๖๐.
460.
ภวตณฺหาย นิโรธา, อนุชานาถ ปพฺพชิสฺสามิฯ
Bhavataṇhāya nirodhā, anujānātha pabbajissāmi.
๔๖๑.
461.
‘‘พุทฺธานํ อุปฺปาโท วิวชฺชิโต, อกฺขโณ ขโณ ลโทฺธ;
‘‘Buddhānaṃ uppādo vivajjito, akkhaṇo khaṇo laddho;
สีลานิ พฺรหฺมจริยํ, ยาวชีวํ น ทูเสยฺยํ’’ฯ
Sīlāni brahmacariyaṃ, yāvajīvaṃ na dūseyyaṃ’’.
๔๖๒.
462.
เอวํ ภณติ สุเมธา, มาตาปิตโร ‘‘น ตาว อาหารํ;
Evaṃ bhaṇati sumedhā, mātāpitaro ‘‘na tāva āhāraṃ;
๔๖๓.
463.
มาตา ทุกฺขิตา โรทติ ปิตา จ, อสฺสา สพฺพโส สมภิหโต;
Mātā dukkhitā rodati pitā ca, assā sabbaso samabhihato;
ฆเฎนฺติ สญฺญาเปตุํ, ปาสาทตเล ฉมาปติตํฯ
Ghaṭenti saññāpetuṃ, pāsādatale chamāpatitaṃ.
๔๖๔.
464.
‘‘อุเฎฺฐหิ ปุตฺตก กิํ โสจิเตน, ทินฺนาสิ วารณวติมฺหิ;
‘‘Uṭṭhehi puttaka kiṃ socitena, dinnāsi vāraṇavatimhi;
๔๖๕.
465.
‘‘อคฺคมเหสี ภวิสฺสสิ, อนิกรตฺตสฺส ราชิโน ภริยา;
‘‘Aggamahesī bhavissasi, anikarattassa rājino bhariyā;
สีลานิ พฺรหฺมจริยํ, ปพฺพชฺชา ทุกฺกรา ปุตฺตกฯ
Sīlāni brahmacariyaṃ, pabbajjā dukkarā puttaka.
๔๖๖.
466.
‘‘รเชฺช อาณาธนมิสฺสริยํ, โภคา สุขา ทหริกาสิ;
‘‘Rajje āṇādhanamissariyaṃ, bhogā sukhā daharikāsi;
ภุญฺชาหิ กามโภเค, วาเรยฺยํ โหตุ เต ปุตฺต’’ฯ
Bhuñjāhi kāmabhoge, vāreyyaṃ hotu te putta’’.
๔๖๗.
467.
อถ เน ภณติ สุเมธา, ‘‘มา เอทิสิกานิ ภวคตมสารํ;
Atha ne bhaṇati sumedhā, ‘‘mā edisikāni bhavagatamasāraṃ;
ปพฺพชฺชา วา โหหิติ, มรณํ วา เม น เจว วาเรยฺยํฯ
Pabbajjā vā hohiti, maraṇaṃ vā me na ceva vāreyyaṃ.
๔๖๘.
468.
‘‘กิมิว ปูติกายมสุจิํ, สวนคนฺธํ ภยานกํ กุณปํ;
‘‘Kimiva pūtikāyamasuciṃ, savanagandhaṃ bhayānakaṃ kuṇapaṃ;
อภิสํวิเสยฺยํ ภสฺตํ, อสกิํ ปคฺฆริตํ อสุจิปุณฺณํฯ
Abhisaṃviseyyaṃ bhastaṃ, asakiṃ paggharitaṃ asucipuṇṇaṃ.
๔๖๙.
469.
‘‘กิมิว ตาหํ ชานนฺตี, วิกุลกํ มํสโสณิตุปลิตฺตํ;
‘‘Kimiva tāhaṃ jānantī, vikulakaṃ maṃsasoṇitupalittaṃ;
กิมิกุลาลยํ สกุณภตฺตํ, กเฬวรํ กิสฺส ทิยฺยติฯ
Kimikulālayaṃ sakuṇabhattaṃ, kaḷevaraṃ kissa diyyati.
๔๗๐.
470.
‘‘นิพฺพุยฺหติ สุสานํ, อจิรํ กาโย อเปตวิญฺญาโณ;
‘‘Nibbuyhati susānaṃ, aciraṃ kāyo apetaviññāṇo;
๔๗๑.
471.
นิยกา มาตาปิตโร, กิํ ปน สาธารณา ชนตาฯ
Niyakā mātāpitaro, kiṃ pana sādhāraṇā janatā.
๔๗๒.
472.
‘‘อโชฺฌสิตา อสาเร, กเฬวเร อฎฺฐินฺหารุสงฺฆาเต;
‘‘Ajjhositā asāre, kaḷevare aṭṭhinhārusaṅghāte;
๔๗๓.
473.
‘‘โย นํ วินิพฺภุชิตฺวา, อพฺภนฺตรมสฺส พาหิรํ กยิรา ;
‘‘Yo naṃ vinibbhujitvā, abbhantaramassa bāhiraṃ kayirā ;
คนฺธสฺส อสหมานา, สกาปิ มาตา ชิคุเจฺฉยฺยฯ
Gandhassa asahamānā, sakāpi mātā jiguccheyya.
๔๗๔.
474.
‘‘ขนฺธธาตุอายตนํ, สงฺขตํ ชาติมูลกํ ทุกฺขํ;
‘‘Khandhadhātuāyatanaṃ, saṅkhataṃ jātimūlakaṃ dukkhaṃ;
โยนิโส อนุวิจินนฺตี, วาเรยฺยํ กิสฺส อิเจฺฉยฺยํฯ
Yoniso anuvicinantī, vāreyyaṃ kissa iccheyyaṃ.
๔๗๕.
475.
‘‘ทิวเส ทิวเส ติสตฺติ, สตานิ นวนวา ปเตยฺยุํ กายมฺหิ;
‘‘Divase divase tisatti, satāni navanavā pateyyuṃ kāyamhi;
วสฺสสตมฺปิ จ ฆาโต, เสโยฺย ทุกฺขสฺส เจวํ ขโยฯ
Vassasatampi ca ghāto, seyyo dukkhassa cevaṃ khayo.
๔๗๖.
476.
‘‘อชฺฌุปคเจฺฉ ฆาตํ, โย วิญฺญาเยวํ สตฺถุโน วจนํ;
‘‘Ajjhupagacche ghātaṃ, yo viññāyevaṃ satthuno vacanaṃ;
๔๗๗.
477.
‘‘เทเวสุ มนุเสฺสสุ จ, ติรจฺฉานโยนิยา อสุรกาเย;
‘‘Devesu manussesu ca, tiracchānayoniyā asurakāye;
เปเตสุ จ นิรเยสุ จ, อปริมิตา ทิสฺสเร ฆาตาฯ
Petesu ca nirayesu ca, aparimitā dissare ghātā.
๔๗๘.
478.
‘‘ฆาตา นิรเยสุ พหู, วินิปาตคตสฺส ปีฬิยมานสฺส 23;
‘‘Ghātā nirayesu bahū, vinipātagatassa pīḷiyamānassa 24;
เทเวสุปิ อตฺตาณํ, นิพฺพานสุขา ปรํ นตฺถิฯ
Devesupi attāṇaṃ, nibbānasukhā paraṃ natthi.
๔๗๙.
479.
‘‘ปตฺตา เต นิพฺพานํ, เย ยุตฺตา ทสพลสฺส ปาวจเน;
‘‘Pattā te nibbānaṃ, ye yuttā dasabalassa pāvacane;
อโปฺปสฺสุกฺกา ฆเฎนฺติ, ชาติมรณปฺปหานายฯ
Appossukkā ghaṭenti, jātimaraṇappahānāya.
๔๘๐.
480.
‘‘อเชฺชว ตาตภินิกฺขมิสฺสํ, โภเคหิ กิํ อสาเรหิ;
‘‘Ajjeva tātabhinikkhamissaṃ, bhogehi kiṃ asārehi;
นิพฺพินฺนา เม กามา, วนฺตสมา ตาลวตฺถุกตา’’ฯ
Nibbinnā me kāmā, vantasamā tālavatthukatā’’.
๔๘๑.
481.
สา เจวํ ภณติ ปิตรมนีกรโตฺต จ ยสฺส สา ทินฺนา;
Sā cevaṃ bhaṇati pitaramanīkaratto ca yassa sā dinnā;
อุปยาสิ วารณวเต, วาเรยฺยมุปฎฺฐิเต กาเลฯ
Upayāsi vāraṇavate, vāreyyamupaṭṭhite kāle.
๔๘๒.
482.
อถ อสิตนิจิตมุทุเก, เกเส ขเคฺคน ฉินฺทิย สุเมธา;
Atha asitanicitamuduke, kese khaggena chindiya sumedhā;
๔๘๓.
483.
สา จ ตหิํ สมาปนฺนา, อนีกรโตฺต จ อาคโต นครํ;
Sā ca tahiṃ samāpannā, anīkaratto ca āgato nagaraṃ;
๔๘๔.
484.
สา จ มนสิ กโรติ, อนีกรโตฺต จ อารุหี ตุริตํ;
Sā ca manasi karoti, anīkaratto ca āruhī turitaṃ;
มณิกนกภูสิตโงฺค, กตญฺชลี ยาจติ สุเมธํฯ
Maṇikanakabhūsitaṅgo, katañjalī yācati sumedhaṃ.
๔๘๕.
485.
‘‘รเชฺช อาณาธนมิสฺสริยํ, โภคา สุขา ทหริกาสิ;
‘‘Rajje āṇādhanamissariyaṃ, bhogā sukhā daharikāsi;
ภุญฺชาหิ กามโภเค, กามสุขา ทุลฺลภา โลเกฯ
Bhuñjāhi kāmabhoge, kāmasukhā dullabhā loke.
๔๘๖.
486.
‘‘นิสฺสฎฺฐํ เต รชฺชํ, โภเค ภุญฺชสฺสุ เทหิ ทานานิ;
‘‘Nissaṭṭhaṃ te rajjaṃ, bhoge bhuñjassu dehi dānāni;
๔๘๗.
487.
ตํ ตํ ภณติ สุเมธา, กาเมหิ อนตฺถิกา วิคตโมหา;
Taṃ taṃ bhaṇati sumedhā, kāmehi anatthikā vigatamohā;
‘‘มา กาเม อภินนฺทิ, กาเมสฺวาทีนวํ ปสฺสฯ
‘‘Mā kāme abhinandi, kāmesvādīnavaṃ passa.
๔๘๘.
488.
‘‘จาตุทฺทีโป ราชา มนฺธาตา, อาสิ กามโภคิน มโคฺค;
‘‘Cātuddīpo rājā mandhātā, āsi kāmabhogina maggo;
อติโตฺต กาลงฺกโต, น จสฺส ปริปูริตา อิจฺฉาฯ
Atitto kālaṅkato, na cassa paripūritā icchā.
๔๘๙.
489.
‘‘สตฺต รตนานิ วเสฺสยฺย, วุฎฺฐิมา ทสทิสา สมเนฺตน;
‘‘Satta ratanāni vasseyya, vuṭṭhimā dasadisā samantena;
น จตฺถิ ติตฺติ กามานํ, อติตฺตาว มรนฺติ นราฯ
Na catthi titti kāmānaṃ, atittāva maranti narā.
๔๙๐.
490.
‘‘อสิสูนูปมา กามา, กามา สปฺปสิโรปมา;
‘‘Asisūnūpamā kāmā, kāmā sappasiropamā;
๔๙๑.
491.
‘‘อนิจฺจา อทฺธุวา กามา, พหุทุกฺขา มหาวิสา;
‘‘Aniccā addhuvā kāmā, bahudukkhā mahāvisā;
อโยคุโฬว สนฺตโตฺต, อฆมูลา ทุขปฺผลาฯ
Ayoguḷova santatto, aghamūlā dukhapphalā.
๔๙๒.
492.
‘‘รุกฺขปฺผลูปมา กามา, มํสเปสูปมา ทุขา;
‘‘Rukkhapphalūpamā kāmā, maṃsapesūpamā dukhā;
สุปิโนปมา วญฺจนิยา, กามา ยาจิตกูปมาฯ
Supinopamā vañcaniyā, kāmā yācitakūpamā.
๔๙๓.
493.
‘‘สตฺติสูลูปมา กามา, โรโค คโณฺฑ อฆํ นิฆํ;
‘‘Sattisūlūpamā kāmā, rogo gaṇḍo aghaṃ nighaṃ;
องฺคารกาสุสทิสา, อฆมูลํ ภยํ วโธฯ
Aṅgārakāsusadisā, aghamūlaṃ bhayaṃ vadho.
๔๙๔.
494.
‘‘เอวํ พหุทุกฺขา กามา, อกฺขาตา อนฺตรายิกา;
‘‘Evaṃ bahudukkhā kāmā, akkhātā antarāyikā;
คจฺฉถ น เม ภควเต, วิสฺสาโส อตฺถิ อตฺตโนฯ
Gacchatha na me bhagavate, vissāso atthi attano.
๔๙๕.
495.
‘‘กิํ มม ปโร กริสฺสติ, อตฺตโน สีสมฺหิ ฑยฺหมานมฺหิ;
‘‘Kiṃ mama paro karissati, attano sīsamhi ḍayhamānamhi;
อนุพเนฺธ ชรามรเณ, ตสฺส ฆาตาย ฆฎิตพฺพํ’’ฯ
Anubandhe jarāmaraṇe, tassa ghātāya ghaṭitabbaṃ’’.
๔๙๖.
496.
ทฺวารํ อปาปุริตฺวานหํ 35, มาตาปิตโร อนีกรตฺตญฺจ;
Dvāraṃ apāpuritvānahaṃ 36, mātāpitaro anīkarattañca;
ทิสฺวาน ฉมํ นิสิเนฺน, โรทเนฺต อิทมโวจํฯ
Disvāna chamaṃ nisinne, rodante idamavocaṃ.
๔๙๗.
497.
‘‘ทีโฆ พาลานํ สํสาโร, ปุนปฺปุนญฺจ โรทตํ;
‘‘Dīgho bālānaṃ saṃsāro, punappunañca rodataṃ;
อนมตเคฺค ปิตุ มรเณ, ภาตุ วเธ อตฺตโน จ วเธฯ
Anamatagge pitu maraṇe, bhātu vadhe attano ca vadhe.
๔๙๘.
498.
‘‘อสฺสุ ถญฺญํ รุธิรํ, สํสารํ อนมตคฺคโต สรถ;
‘‘Assu thaññaṃ rudhiraṃ, saṃsāraṃ anamataggato saratha;
สตฺตานํ สํสรตํ, สราหิ อฎฺฐีนญฺจ สนฺนิจยํฯ
Sattānaṃ saṃsarataṃ, sarāhi aṭṭhīnañca sannicayaṃ.
๔๙๙.
499.
สร เอกกปฺปมฎฺฐีนํ, สญฺจยํ วิปุเลน สมํฯ
Sara ekakappamaṭṭhīnaṃ, sañcayaṃ vipulena samaṃ.
๕๐๐.
500.
โกลฎฺฐิมตฺตคุฬิกา, มาตา มาตุเสฺวว นปฺปโหนฺติฯ
Kolaṭṭhimattaguḷikā, mātā mātusveva nappahonti.
๕๐๑.
501.
‘‘ติณกฎฺฐสาขาปลาสํ 41, อุปนีตํ อนมตคฺคโต สร;
‘‘Tiṇakaṭṭhasākhāpalāsaṃ 42, upanītaṃ anamataggato sara;
จตุรงฺคุลิกา ฆฎิกา, ปิตุปิตุเสฺวว นปฺปโหนฺติฯ
Caturaṅgulikā ghaṭikā, pitupitusveva nappahonti.
๕๐๒.
502.
‘‘สร กาณกจฺฉปํ ปุพฺพสมุเทฺท, อปรโต จ ยุคฉิทฺทํ;
‘‘Sara kāṇakacchapaṃ pubbasamudde, aparato ca yugachiddaṃ;
สิรํ 43 ตสฺส จ ปฎิมุกฺกํ, มนุสฺสลาภมฺหิ โอปมฺมํฯ
Siraṃ 44 tassa ca paṭimukkaṃ, manussalābhamhi opammaṃ.
๕๐๓.
503.
‘‘สร รูปํ เผณปิโณฺฑปมสฺส, กายกลิโน อสารสฺส;
‘‘Sara rūpaṃ pheṇapiṇḍopamassa, kāyakalino asārassa;
ขเนฺธ ปสฺส อนิเจฺจ, สราหิ นิรเย พหุวิฆาเตฯ
Khandhe passa anicce, sarāhi niraye bahuvighāte.
๕๐๔.
504.
‘‘สร กฎสิํ วเฑฺฒเนฺต, ปุนปฺปุนํ ตาสุ ตาสุ ชาตีสุ;
‘‘Sara kaṭasiṃ vaḍḍhente, punappunaṃ tāsu tāsu jātīsu;
สร กุมฺภีลภยานิ จ, สราหิ จตฺตาริ สจฺจานิฯ
Sara kumbhīlabhayāni ca, sarāhi cattāri saccāni.
๕๐๕.
505.
‘‘อมตมฺหิ วิชฺชมาเน, กิํ ตว ปญฺจกฎุเกน ปีเตน;
‘‘Amatamhi vijjamāne, kiṃ tava pañcakaṭukena pītena;
สพฺพา หิ กามรติโย, กฎุกตรา ปญฺจกฎุเกนฯ
Sabbā hi kāmaratiyo, kaṭukatarā pañcakaṭukena.
๕๐๖.
506.
‘‘อมตมฺหิ วิชฺชมาเน, กิํ ตว กาเมหิ เย ปริฬาหา 45;
‘‘Amatamhi vijjamāne, kiṃ tava kāmehi ye pariḷāhā 46;
สพฺพา หิ กามรติโย, ชลิตา กุถิตา กมฺปิตา สนฺตาปิตาฯ
Sabbā hi kāmaratiyo, jalitā kuthitā kampitā santāpitā.
๕๐๗.
507.
‘‘อสปตฺตมฺหิ สมาเน, กิํ ตว กาเมหิ เย พหุสปตฺตา;
‘‘Asapattamhi samāne, kiṃ tava kāmehi ye bahusapattā;
ราชคฺคิโจรอุทกปฺปิเยหิ, สาธารณา กามา พหุสปตฺตาฯ
Rājaggicoraudakappiyehi, sādhāraṇā kāmā bahusapattā.
๕๐๘.
508.
‘‘โมกฺขมฺหิ วิชฺชมาเน, กิํ ตว กาเมหิ เยสุ วธพโนฺธ;
‘‘Mokkhamhi vijjamāne, kiṃ tava kāmehi yesu vadhabandho;
กาเมสุ หิ อสกามา, วธพนฺธทุขานิ อนุโภนฺติฯ
Kāmesu hi asakāmā, vadhabandhadukhāni anubhonti.
๕๐๙.
509.
‘‘อาทีปิตา ติณุกฺกา, คณฺหนฺตํ ทหนฺติ เนว มุญฺจนฺตํ;
‘‘Ādīpitā tiṇukkā, gaṇhantaṃ dahanti neva muñcantaṃ;
อุโกฺกปมา หิ กามา, ทหนฺติ เย เต น มุญฺจนฺติฯ
Ukkopamā hi kāmā, dahanti ye te na muñcanti.
๕๑๐.
510.
‘‘มา อปฺปกสฺส เหตุ, กามสุขสฺส วิปุลํ ชหี สุขํ;
‘‘Mā appakassa hetu, kāmasukhassa vipulaṃ jahī sukhaṃ;
มา ปุถุโลโมว พฬิสํ, คิลิตฺวา ปจฺฉา วิหญฺญสิฯ
Mā puthulomova baḷisaṃ, gilitvā pacchā vihaññasi.
๕๑๑.
511.
‘‘กามํ กาเมสุ ทมสฺสุ, ตาว สุนโขว สงฺขลาพโทฺธ;
‘‘Kāmaṃ kāmesu damassu, tāva sunakhova saṅkhalābaddho;
กาหินฺติ ขุ ตํ กามา, ฉาตา สุนขํว จณฺฑาลาฯ
Kāhinti khu taṃ kāmā, chātā sunakhaṃva caṇḍālā.
๕๑๒.
512.
‘‘อปริมิตญฺจ ทุกฺขํ, พหูนิ จ จิตฺตโทมนสฺสานิ;
‘‘Aparimitañca dukkhaṃ, bahūni ca cittadomanassāni;
๕๑๓.
513.
๕๑๔.
514.
อสปตฺตมสมฺพาธํ, อขลิตมภยํ นิรุปตาปํฯ
Asapattamasambādhaṃ, akhalitamabhayaṃ nirupatāpaṃ.
๕๑๕.
515.
‘‘อธิคตมิทํ พหูหิ, อมตํ อชฺชาปิ จ ลภนียมิทํ;
‘‘Adhigatamidaṃ bahūhi, amataṃ ajjāpi ca labhanīyamidaṃ;
โย โยนิโส ปยุญฺชติ, น จ สกฺกา อฆฎมาเนน’’ฯ
Yo yoniso payuñjati, na ca sakkā aghaṭamānena’’.
๕๑๖.
516.
เอวํ ภณติ สุเมธา, สงฺขารคเต รติํ อลภมานา;
Evaṃ bhaṇati sumedhā, saṅkhāragate ratiṃ alabhamānā;
อนุเนนฺตี อนิกรตฺตํ, เกเส จ ฉมํ ขิปิ สุเมธาฯ
Anunentī anikarattaṃ, kese ca chamaṃ khipi sumedhā.
๕๑๗.
517.
อุฎฺฐาย อนิกรโตฺต, ปญฺชลิโก ยาจิตสฺสา ปิตรํ โส;
Uṭṭhāya anikaratto, pañjaliko yācitassā pitaraṃ so;
‘‘วิสฺสเชฺชถ สุเมธํ, ปพฺพชิตุํ วิโมกฺขสจฺจทสฺสา’’ฯ
‘‘Vissajjetha sumedhaṃ, pabbajituṃ vimokkhasaccadassā’’.
๕๑๘.
518.
วิสฺสชฺชิตา มาตาปิตูหิ, ปพฺพชิ โสกภยภีตา;
Vissajjitā mātāpitūhi, pabbaji sokabhayabhītā;
ฉ อภิญฺญา สจฺฉิกตา, อคฺคผลํ สิกฺขมานายฯ
Cha abhiññā sacchikatā, aggaphalaṃ sikkhamānāya.
๕๑๙.
519.
อจฺฉริยมพฺภุตํ ตํ, นิพฺพานํ อาสิ ราชกญฺญาย;
Acchariyamabbhutaṃ taṃ, nibbānaṃ āsi rājakaññāya;
ปุเพฺพนิวาสจริตํ, ยถา พฺยากริ ปจฺฉิเม กาเลฯ
Pubbenivāsacaritaṃ, yathā byākari pacchime kāle.
๕๒๐.
520.
‘‘ภควติ โกณาคมเน, สงฺฆารามมฺหิ นวนิเวสมฺหิ;
‘‘Bhagavati koṇāgamane, saṅghārāmamhi navanivesamhi;
สขิโย ติโสฺส ชนิโย, วิหารทานํ อทาสิมฺหฯ
Sakhiyo tisso janiyo, vihāradānaṃ adāsimha.
๕๒๑.
521.
‘‘ทสกฺขตฺตุํ สตกฺขตฺตุํ, ทสสตกฺขตฺตุํ สตานิ จ สตกฺขตฺตุํ;
‘‘Dasakkhattuṃ satakkhattuṃ, dasasatakkhattuṃ satāni ca satakkhattuṃ;
เทเวสุ อุปฺปชฺชิมฺห, โก ปน วาโท มนุเสฺสสุฯ
Devesu uppajjimha, ko pana vādo manussesu.
๕๒๒.
522.
‘‘เทเวสุ มหิทฺธิกา อหุมฺห, มานุสกมฺหิ โก ปน วาโท;
‘‘Devesu mahiddhikā ahumha, mānusakamhi ko pana vādo;
สตฺตรตนสฺส มเหสี, อิตฺถิรตนํ อหํ อาสิํฯ
Sattaratanassa mahesī, itthiratanaṃ ahaṃ āsiṃ.
๕๒๓.
523.
‘‘โส เหตุ โส ปภโว, ตํ มูลํ สาว สาสเน ขนฺตี;
‘‘So hetu so pabhavo, taṃ mūlaṃ sāva sāsane khantī;
ตํ ปฐมสโมธานํ, ตํ ธมฺมรตาย นิพฺพานํ’’ฯ
Taṃ paṭhamasamodhānaṃ, taṃ dhammaratāya nibbānaṃ’’.
๕๒๔.
524.
เอวํ กโรนฺติ เย สทฺทหนฺติ, วจนํ อโนมปญฺญสฺส;
Evaṃ karonti ye saddahanti, vacanaṃ anomapaññassa;
นิพฺพินฺทนฺติ ภวคเต, นิพฺพินฺทิตฺวา วิรชฺชนฺตีติฯ
Nibbindanti bhavagate, nibbinditvā virajjantīti.
อิตฺถํ สุทํ สุเมธา เถรี คาถาโย อภาสิตฺถาติฯ
Itthaṃ sudaṃ sumedhā therī gāthāyo abhāsitthāti.
มหานิปาโต นิฎฺฐิโตฯ
Mahānipāto niṭṭhito.
สมตฺตา เถรีคาถาโยฯ
Samattā therīgāthāyo.
เถรีคาถาปาฬิ นิฎฺฐิตาฯ
Therīgāthāpāḷi niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā / ๑. สุเมธาเถรีคาถาวณฺณนา • 1. Sumedhātherīgāthāvaṇṇanā