Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๙. สุนฺทริกสุตฺตํ
9. Sundarikasuttaṃ
๑๙๕. เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ วิหรติ สุนฺทริกาย นทิยา ตีเรฯ เตน โข ปน สมเยน สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ สุนฺทริกาย นทิยา ตีเร อคฺคิํ ชุหติ, อคฺคิหุตฺตํ ปริจรติฯ อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ อคฺคิํ ชุหิตฺวา อคฺคิหุตฺตํ ปริจริตฺวา อุฎฺฐายาสนา สมนฺตา จตุทฺทิสา อนุวิโลเกสิ – ‘‘โก นุ โข อิมํ หพฺยเสสํ ภุเญฺชยฺยา’’ติ? อทฺทสา โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล สสีสํ ปารุตํ นิสินฺนํฯ ทิสฺวาน วาเมน หเตฺถน หพฺยเสสํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หเตฺถน กมณฺฑลุํ คเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิฯ อถ โข ภควา สุนฺทริกภารทฺวาชสฺส พฺราหฺมณสฺส ปทสเทฺทน สีสํ วิวริฯ อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ‘มุโณฺฑ อยํ ภวํ, มุณฺฑโก อยํ ภว’นฺติ ตโตว ปุน นิวตฺติตุกาโม อโหสิฯ อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาชสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘มุณฺฑาปิ หิ อิเธกเจฺจ พฺราหฺมณา ภวนฺติ; ยํนูนาหํ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ชาติํ ปุเจฺฉยฺย’นฺติฯ
195. Ekaṃ samayaṃ bhagavā kosalesu viharati sundarikāya nadiyā tīre. Tena kho pana samayena sundarikabhāradvājo brāhmaṇo sundarikāya nadiyā tīre aggiṃ juhati, aggihuttaṃ paricarati. Atha kho sundarikabhāradvājo brāhmaṇo aggiṃ juhitvā aggihuttaṃ paricaritvā uṭṭhāyāsanā samantā catuddisā anuvilokesi – ‘‘ko nu kho imaṃ habyasesaṃ bhuñjeyyā’’ti? Addasā kho sundarikabhāradvājo brāhmaṇo bhagavantaṃ aññatarasmiṃ rukkhamūle sasīsaṃ pārutaṃ nisinnaṃ. Disvāna vāmena hatthena habyasesaṃ gahetvā dakkhiṇena hatthena kamaṇḍaluṃ gahetvā yena bhagavā tenupasaṅkami. Atha kho bhagavā sundarikabhāradvājassa brāhmaṇassa padasaddena sīsaṃ vivari. Atha kho sundarikabhāradvājo brāhmaṇo ‘muṇḍo ayaṃ bhavaṃ, muṇḍako ayaṃ bhava’nti tatova puna nivattitukāmo ahosi. Atha kho sundarikabhāradvājassa brāhmaṇassa etadahosi – ‘muṇḍāpi hi idhekacce brāhmaṇā bhavanti; yaṃnūnāhaṃ taṃ upasaṅkamitvā jātiṃ puccheyya’nti.
อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘กิํชโจฺจ ภว’นฺติ?
Atha kho sundarikabhāradvājo brāhmaṇo yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘kiṃjacco bhava’nti?
‘‘มา ชาติํ ปุจฺฉ จรณญฺจ ปุจฺฉ,
‘‘Mā jātiṃ puccha caraṇañca puccha,
กฎฺฐา หเว ชายติ ชาตเวโท;
Kaṭṭhā have jāyati jātavedo;
นีจากุลีโนปิ มุนิ ธิติมา,
Nīcākulīnopi muni dhitimā,
อาชานีโย โหติ หิรีนิเสโธฯ
Ājānīyo hoti hirīnisedho.
‘‘สเจฺจน ทโนฺต ทมสา อุเปโต,
‘‘Saccena danto damasā upeto,
เวทนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย;
Vedantagū vusitabrahmacariyo;
ยโญฺญปนีโต ตมุปวฺหเยถ,
Yaññopanīto tamupavhayetha,
กาเลน โส ชุหติ ทกฺขิเณเยฺย’’ติฯ
Kālena so juhati dakkhiṇeyye’’ti.
‘‘อทฺธา สุยิฎฺฐํ สุหุตํ มม ยิทํ,
‘‘Addhā suyiṭṭhaṃ suhutaṃ mama yidaṃ,
ยํ ตาทิสํ เวทคุมทฺทสามิ;
Yaṃ tādisaṃ vedagumaddasāmi;
ตุมฺหาทิสานญฺหิ อทสฺสเนน,
Tumhādisānañhi adassanena,
อโญฺญ ชโน ภุญฺชติ หพฺยเสส’’นฺติฯ
Añño jano bhuñjati habyasesa’’nti.
‘‘ภุญฺชตุ ภวํ โคตโมฯ พฺราหฺมโณ ภว’’นฺติฯ
‘‘Bhuñjatu bhavaṃ gotamo. Brāhmaṇo bhava’’nti.
‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺยํ,
‘‘Gāthābhigītaṃ me abhojaneyyaṃ,
สมฺปสฺสตํ พฺราหฺมณ เนส ธโมฺม;
Sampassataṃ brāhmaṇa nesa dhammo;
คาถาภิคีตํ ปนุทนฺติ พุทฺธา,
Gāthābhigītaṃ panudanti buddhā,
ธเมฺม สติ พฺราหฺมณ วุตฺติเรสาฯ
Dhamme sati brāhmaṇa vuttiresā.
‘‘อเญฺญน จ เกวลินํ มเหสิํ,
‘‘Aññena ca kevalinaṃ mahesiṃ,
ขีณาสวํ กุกฺกุจฺจวูปสนฺตํ;
Khīṇāsavaṃ kukkuccavūpasantaṃ;
อเนฺนน ปาเนน อุปฎฺฐหสฺสุ,
Annena pānena upaṭṭhahassu,
เขตฺตญฺหิ ตํ ปุญฺญเปกฺขสฺส โหตี’’ติฯ
Khettañhi taṃ puññapekkhassa hotī’’ti.
‘‘อถ กสฺส จาหํ, โภ โคตม, อิมํ หพฺยเสสํ ทมฺมี’’ติ? ‘‘น ขฺวาหํ, พฺราหฺมณ, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ยเสฺสโส หพฺยเสโส ภุโตฺต สมฺมา ปริณามํ คเจฺฉยฺย อญฺญตฺร, พฺราหฺมณ, ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วาฯ เตน หิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ตํ หพฺยเสสํ อปฺปหริเต วา ฉเฑฺฑหิ อปฺปาณเก วา อุทเก โอปิลาเปหี’’ติฯ
‘‘Atha kassa cāhaṃ, bho gotama, imaṃ habyasesaṃ dammī’’ti? ‘‘Na khvāhaṃ, brāhmaṇa, passāmi sadevake loke samārake sabrahmake sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya yasseso habyaseso bhutto sammā pariṇāmaṃ gaccheyya aññatra, brāhmaṇa, tathāgatassa vā tathāgatasāvakassa vā. Tena hi tvaṃ, brāhmaṇa, taṃ habyasesaṃ appaharite vā chaḍḍehi appāṇake vā udake opilāpehī’’ti.
อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ตํ หพฺยเสสํ อปฺปาณเก อุทเก โอปิลาเปสิฯ อถ โข โส หพฺยเสโส อุทเก ปกฺขิโตฺต จิจฺจิฎายติ จิฎิจิฎายติ สนฺธูปายติ สมฺปธูปายติ ฯ เสยฺยถาปิ นาม ผาโล 1 ทิวสํสนฺตโตฺต 2 อุทเก ปกฺขิโตฺต จิจฺจิฎายติ จิฎิจิฎายติ สนฺธูปายติ สมฺปธูปายติ; เอวเมว โส หพฺยเสโส อุทเก ปกฺขิโตฺต จิจฺจิฎายติ จิฎิจิฎายติ สนฺธูปายติ สมฺปธูปายติฯ
Atha kho sundarikabhāradvājo brāhmaṇo taṃ habyasesaṃ appāṇake udake opilāpesi. Atha kho so habyaseso udake pakkhitto cicciṭāyati ciṭiciṭāyati sandhūpāyati sampadhūpāyati . Seyyathāpi nāma phālo 3 divasaṃsantatto 4 udake pakkhitto cicciṭāyati ciṭiciṭāyati sandhūpāyati sampadhūpāyati; evameva so habyaseso udake pakkhitto cicciṭāyati ciṭiciṭāyati sandhūpāyati sampadhūpāyati.
อถ โข สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ สํวิโคฺค โลมหฎฺฐชาโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตํ โข สุนฺทริกภารทฺวาชํ พฺราหฺมณํ ภควา คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
Atha kho sundarikabhāradvājo brāhmaṇo saṃviggo lomahaṭṭhajāto yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhitaṃ kho sundarikabhāradvājaṃ brāhmaṇaṃ bhagavā gāthāhi ajjhabhāsi –
‘‘มา พฺราหฺมณ ทารุ สมาทหาโน,
‘‘Mā brāhmaṇa dāru samādahāno,
สุทฺธิํ อมญฺญิ พหิทฺธา หิ เอตํ;
Suddhiṃ amaññi bahiddhā hi etaṃ;
น หิ เตน สุทฺธิํ กุสลา วทนฺติ,
Na hi tena suddhiṃ kusalā vadanti,
โย พาหิเรน ปริสุทฺธิมิเจฺฉฯ
Yo bāhirena parisuddhimicche.
‘‘หิตฺวา อหํ พฺราหฺมณ ทารุทาหํ
‘‘Hitvā ahaṃ brāhmaṇa dārudāhaṃ
นิจฺจคฺคินี นิจฺจสมาหิตโตฺต,
Niccagginī niccasamāhitatto,
อรหํ อหํ พฺรหฺมจริยํ จรามิฯ
Arahaṃ ahaṃ brahmacariyaṃ carāmi.
‘‘มาโน หิ เต พฺราหฺมณ ขาริภาโร,
‘‘Māno hi te brāhmaṇa khāribhāro,
โกโธ ธุโม ภสฺมนิ โมสวชฺชํ;
Kodho dhumo bhasmani mosavajjaṃ;
ชิวฺหา สุชา หทยํ โชติฐานํ,
Jivhā sujā hadayaṃ jotiṭhānaṃ,
อตฺตา สุทโนฺต ปุริสสฺส โชติฯ
Attā sudanto purisassa joti.
‘‘ธโมฺม รหโท พฺราหฺมณ สีลติโตฺถ,
‘‘Dhammo rahado brāhmaṇa sīlatittho,
อนาวิโล สพฺภิ สตํ ปสโตฺถ;
Anāvilo sabbhi sataṃ pasattho;
ยตฺถ หเว เวทคุโน สินาตา,
Yattha have vedaguno sinātā,
‘‘สจฺจํ ธโมฺม สํยโม พฺรหฺมจริยํ,
‘‘Saccaṃ dhammo saṃyamo brahmacariyaṃ,
มเชฺฌ สิตา พฺราหฺมณ พฺรหฺมปตฺติ;
Majjhe sitā brāhmaṇa brahmapatti;
ส ตุชฺชุภูเตสุ นโม กโรหิ,
Sa tujjubhūtesu namo karohi,
ตมหํ นรํ ธมฺมสารีติ พฺรูมี’’ติฯ
Tamahaṃ naraṃ dhammasārīti brūmī’’ti.
เอวํ วุเตฺต, สุนฺทริกภารทฺวาโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อญฺญตโร จ ปนายสฺมา ภารทฺวาโช อรหตํ อโหสี’’ติฯ
Evaṃ vutte, sundarikabhāradvājo brāhmaṇo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bho gotama…pe… aññataro ca panāyasmā bhāradvājo arahataṃ ahosī’’ti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. สุนฺทริกสุตฺตวณฺณนา • 9. Sundarikasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๙. สุนฺทริกสุตฺตวณฺณนา • 9. Sundarikasuttavaṇṇanā