A World of Knowledge
    Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi

    ๔. สุนฺทรีเถรีคาถา

    4. Sundarītherīgāthā

    ๓๑๓.

    313.

    ‘‘เปตานิ โภติ ปุตฺตานิ, ขาทมานา ตุวํ ปุเร;

    ‘‘Petāni bhoti puttāni, khādamānā tuvaṃ pure;

    ตุวํ ทิวา จ รโตฺต จ, อตีว ปริตปฺปสิฯ

    Tuvaṃ divā ca ratto ca, atīva paritappasi.

    ๓๑๔.

    314.

    ‘‘สาชฺช สพฺพานิ ขาทิตฺวา, สตปุตฺตานิ 1 พฺราหฺมณี;

    ‘‘Sājja sabbāni khāditvā, sataputtāni 2 brāhmaṇī;

    วาเสฎฺฐิ เกน วเณฺณน, น พาฬฺหํ ปริตปฺปสิ’’ฯ

    Vāseṭṭhi kena vaṇṇena, na bāḷhaṃ paritappasi’’.

    ๓๑๕.

    315.

    ‘‘พหูนิ ปุตฺตสตานิ, ญาติสงฺฆสตานิ จ;

    ‘‘Bahūni puttasatāni, ñātisaṅghasatāni ca;

    ขาทิตานิ อตีตํเส, มม ตุยฺหญฺจ พฺราหฺมณฯ

    Khāditāni atītaṃse, mama tuyhañca brāhmaṇa.

    ๓๑๖.

    316.

    ‘‘สาหํ นิสฺสรณํ ญตฺวา, ชาติยา มรณสฺส จ;

    ‘‘Sāhaṃ nissaraṇaṃ ñatvā, jātiyā maraṇassa ca;

    น โสจามิ น โรทามิ, น จาปิ ปริตปฺปยิํ’’ฯ

    Na socāmi na rodāmi, na cāpi paritappayiṃ’’.

    ๓๑๗.

    317.

    ‘‘อพฺภุตํ วต วาเสฎฺฐิ, วาจํ ภาสสิ เอทิสิํ;

    ‘‘Abbhutaṃ vata vāseṭṭhi, vācaṃ bhāsasi edisiṃ;

    กสฺส ตฺวํ ธมฺมมญฺญาย, คิรํ 3 ภาสสิ เอทิสิํ’’ฯ

    Kassa tvaṃ dhammamaññāya, giraṃ 4 bhāsasi edisiṃ’’.

    ๓๑๘.

    318.

    ‘‘เอส พฺราหฺมณ สมฺพุโทฺธ, นครํ มิถิลํ ปติ;

    ‘‘Esa brāhmaṇa sambuddho, nagaraṃ mithilaṃ pati;

    สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสสิ ปาณินํฯ

    Sabbadukkhappahānāya, dhammaṃ desesi pāṇinaṃ.

    ๓๑๙.

    319.

    ‘‘ตสฺส พฺรเหฺม 5 อรหโต, ธมฺมํ สุตฺวา นิรูปธิํ;

    ‘‘Tassa brahme 6 arahato, dhammaṃ sutvā nirūpadhiṃ;

    ตตฺถ วิญฺญาตสทฺธมฺมา, ปุตฺตโสกํ พฺยปานุทิํ’’ฯ

    Tattha viññātasaddhammā, puttasokaṃ byapānudiṃ’’.

    ๓๒๐.

    320.

    ‘‘โส อหมฺปิ คมิสฺสามิ, นครํ มิถิลํ ปติ;

    ‘‘So ahampi gamissāmi, nagaraṃ mithilaṃ pati;

    อเปฺปว มํ โส ภควา, สพฺพทุกฺขา ปโมจเย’’ฯ

    Appeva maṃ so bhagavā, sabbadukkhā pamocaye’’.

    ๓๒๑.

    321.

    อทฺทส พฺราหฺมโณ พุทฺธํ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธิํ;

    Addasa brāhmaṇo buddhaṃ, vippamuttaṃ nirūpadhiṃ;

    สฺวสฺส ธมฺมมเทเสสิ, มุนิ ทุกฺขสฺส ปารคูฯ

    Svassa dhammamadesesi, muni dukkhassa pāragū.

    ๓๒๒.

    322.

    ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

    Dukkhaṃ dukkhasamuppādaṃ, dukkhassa ca atikkamaṃ;

    อริยํ จฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํฯ

    Ariyaṃ caṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ, dukkhūpasamagāminaṃ.

    ๓๒๓.

    323.

    ตตฺถ วิญฺญาตสทฺธโมฺม, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ;

    Tattha viññātasaddhammo, pabbajjaṃ samarocayi;

    สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติโสฺส วิชฺชา อผสฺสยิฯ

    Sujāto tīhi rattīhi, tisso vijjā aphassayi.

    ๓๒๔.

    324.

    ‘‘เอหิ สารถิ คจฺฉาหิ, รถํ นิยฺยาทยาหิมํ;

    ‘‘Ehi sārathi gacchāhi, rathaṃ niyyādayāhimaṃ;

    อาโรคฺยํ พฺราหฺมณิํ วชฺช 7, ‘ปพฺพชิ 8 ทานิ พฺราหฺมโณ;

    Ārogyaṃ brāhmaṇiṃ vajja 9, ‘pabbaji 10 dāni brāhmaṇo;

    สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติโสฺส วิชฺชา อผสฺสยิ’’’ฯ

    Sujāto tīhi rattīhi, tisso vijjā aphassayi’’’.

    ๓๒๕.

    325.

    ตโต จ รถมาทาย, สหสฺสญฺจาปิ สารถิ;

    Tato ca rathamādāya, sahassañcāpi sārathi;

    อาโรคฺยํ พฺราหฺมณิโวจ, ‘‘ปพฺพชิ ทานิ พฺราหฺมโณ;

    Ārogyaṃ brāhmaṇivoca, ‘‘pabbaji dāni brāhmaṇo;

    สุชาโต ตีหิ รตฺตีหิ, ติโสฺส วิชฺชา อผสฺสยิ’’ฯ

    Sujāto tīhi rattīhi, tisso vijjā aphassayi’’.

    ๓๒๖.

    326.

    ‘‘เอตญฺจาหํ อสฺสรถํ, สหสฺสญฺจาปิ สารถิ;

    ‘‘Etañcāhaṃ assarathaṃ, sahassañcāpi sārathi;

    เตวิชฺชํ พฺราหฺมณํ สุตฺวา 11, ปุณฺณปตฺตํ ททามิ เต’’ฯ

    Tevijjaṃ brāhmaṇaṃ sutvā 12, puṇṇapattaṃ dadāmi te’’.

    ๓๒๗.

    327.

    ‘‘ตุเยฺหว โหตฺวสฺสรโถ, สหสฺสญฺจาปิ พฺราหฺมณิ;

    ‘‘Tuyheva hotvassaratho, sahassañcāpi brāhmaṇi;

    อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปญฺญสฺส สนฺติเก’’ฯ

    Ahampi pabbajissāmi, varapaññassa santike’’.

    ๓๒๘.

    328.

    ‘‘หตฺถี ควสฺสํ มณิกุณฺฑลญฺจ, ผีตญฺจิมํ คหวิภวํ ปหาย;

    ‘‘Hatthī gavassaṃ maṇikuṇḍalañca, phītañcimaṃ gahavibhavaṃ pahāya;

    ปิตา ปพฺพชิโต ตุยฺหํ, ภุญฺช โภคานิ สุนฺทริ; ตุวํ ทายาทิกา กุเล’’ฯ

    Pitā pabbajito tuyhaṃ, bhuñja bhogāni sundari; Tuvaṃ dāyādikā kule’’.

    ๓๒๙.

    329.

    ‘‘หตฺถี ควสฺสํ มณิกุณฺฑลญฺจ, รมฺมํ จิมํ คหวิภวํ ปหาย;

    ‘‘Hatthī gavassaṃ maṇikuṇḍalañca, rammaṃ cimaṃ gahavibhavaṃ pahāya;

    ปิตา ปพฺพชิโต มยฺหํ, ปุตฺตโสเกน อฎฺฎิโต;

    Pitā pabbajito mayhaṃ, puttasokena aṭṭito;

    อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, ภาตุโสเกน อฎฺฎิตา’’ฯ

    Ahampi pabbajissāmi, bhātusokena aṭṭitā’’.

    ๓๓๐.

    330.

    ‘‘โส เต อิชฺฌตุ สงฺกโปฺป, ยํ ตฺวํ ปเตฺถสิ สุนฺทรี;

    ‘‘So te ijjhatu saṅkappo, yaṃ tvaṃ patthesi sundarī;

    อุตฺติฎฺฐปิโณฺฑ อุโญฺฉ จ, ปํสุกูลญฺจ จีวรํ;

    Uttiṭṭhapiṇḍo uñcho ca, paṃsukūlañca cīvaraṃ;

    เอตานิ อภิสโมฺภนฺตี, ปรโลเก อนาสวา’’ฯ

    Etāni abhisambhontī, paraloke anāsavā’’.

    ๓๓๑.

    331.

    ‘‘สิกฺขมานาย เม อเยฺย, ทิพฺพจกฺขุ วิโสธิตํ;

    ‘‘Sikkhamānāya me ayye, dibbacakkhu visodhitaṃ;

    ปุเพฺพนิวาสํ ชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเรฯ

    Pubbenivāsaṃ jānāmi, yattha me vusitaṃ pure.

    ๓๓๒.

    332.

    ‘‘ตุวํ นิสฺสาย กลฺยาณี, เถรี สงฺฆสฺส โสภเน;

    ‘‘Tuvaṃ nissāya kalyāṇī, therī saṅghassa sobhane;

    ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ

    Tisso vijjā anuppattā, kataṃ buddhassa sāsanaṃ.

    ๓๓๓.

    333.

    ‘‘อนุชานาหิ เม อเยฺย, อิเจฺฉ สาวตฺถิ คนฺตเว;

    ‘‘Anujānāhi me ayye, icche sāvatthi gantave;

    สีหนาทํ นทิสฺสามิ, พุทฺธเสฎฺฐสฺส สนฺติเก’’ฯ

    Sīhanādaṃ nadissāmi, buddhaseṭṭhassa santike’’.

    ๓๓๔.

    334.

    ‘‘ปสฺส สุนฺทริ สตฺถารํ, เหมวณฺณํ หริตฺตจํ;

    ‘‘Passa sundari satthāraṃ, hemavaṇṇaṃ harittacaṃ;

    อทนฺตานํ ทเมตารํ, สมฺพุทฺธมกุโตภยํ’’ฯ

    Adantānaṃ dametāraṃ, sambuddhamakutobhayaṃ’’.

    ๓๓๕.

    335.

    ‘‘ปสฺส สุนฺทริมายนฺติํ, วิปฺปมุตฺตํ นิรูปธิํ;

    ‘‘Passa sundarimāyantiṃ, vippamuttaṃ nirūpadhiṃ;

    วีตราคํ วิสํยุตฺตํ, กตกิจฺจมนาสวํฯ

    Vītarāgaṃ visaṃyuttaṃ, katakiccamanāsavaṃ.

    ๓๓๖.

    336.

    ‘‘พาราณสีโต นิกฺขมฺม, ตว สนฺติกมาคตา;

    ‘‘Bārāṇasīto nikkhamma, tava santikamāgatā;

    สาวิกา เต มหาวีร, ปาเท วนฺทติ สุนฺทรี’’ฯ

    Sāvikā te mahāvīra, pāde vandati sundarī’’.

    ๓๓๗.

    337.

    ‘‘ตุวํ พุโทฺธ ตุวํ สตฺถา, ตุยฺหํ ธีตามฺหิ พฺราหฺมณ;

    ‘‘Tuvaṃ buddho tuvaṃ satthā, tuyhaṃ dhītāmhi brāhmaṇa;

    โอรสา มุขโต ชาตา, กตกิจฺจา อนาสวา’’ฯ

    Orasā mukhato jātā, katakiccā anāsavā’’.

    ๓๓๘.

    338.

    ‘‘ตสฺสา เต สฺวาคตํ ภเทฺท, ตโต 13 เต อทุราคตํ;

    ‘‘Tassā te svāgataṃ bhadde, tato 14 te adurāgataṃ;

    เอวญฺหิ ทนฺตา อายนฺติ, สตฺถุ ปาทานิ วนฺทิกา;

    Evañhi dantā āyanti, satthu pādāni vandikā;

    วีตราคา วิสํยุตฺตา, กตกิจฺจา อนาสวา’’ฯ

    Vītarāgā visaṃyuttā, katakiccā anāsavā’’.

    … สุนฺทรี เถรี…ฯ

    … Sundarī therī….







    Footnotes:
    1. สตฺต ปุตฺตานิ (สฺยา.)
    2. satta puttāni (syā.)
    3. ถิรํ (สี.)
    4. thiraṃ (sī.)
    5. พฺราหฺมณ (สี. สฺยา.)
    6. brāhmaṇa (sī. syā.)
    7. วชฺชา (สี.)
    8. ปพฺพชิโต (สี.)
    9. vajjā (sī.)
    10. pabbajito (sī.)
    11. ญตฺวา (สี.)
    12. ñatvā (sī.)
    13. อโถ (ก.)
    14. atho (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā / ๔. สุนฺทรีเถรีคาถาวณฺณนา • 4. Sundarītherīgāthāvaṇṇanā


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact