Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๙. สุเนตฺตสุตฺตํ
9. Sunettasuttaṃ
๗๓. 1 ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สุเนโตฺต นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโคฯ สุเนตฺตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํฯ สุเนโตฺต สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิฯ เย โข ปน, ภิกฺขเว 2, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ นปฺปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิํสุฯ เย โข ปน, ภิกฺขเว, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิํสุฯ
73.3 ‘‘Bhūtapubbaṃ, bhikkhave, sunetto nāma satthā ahosi titthakaro kāmesu vītarāgo. Sunettassa kho pana, bhikkhave, satthuno anekāni sāvakasatāni ahesuṃ. Sunetto satthā sāvakānaṃ brahmalokasahabyatāya dhammaṃ desesi. Ye kho pana, bhikkhave 4, sunettassa satthuno brahmalokasahabyatāya dhammaṃ desentassa cittāni nappasādesuṃ te kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjiṃsu. Ye kho pana, bhikkhave, sunettassa satthuno brahmalokasahabyatāya dhammaṃ desentassa cittāni pasādesuṃ te kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjiṃsu.
‘‘ภูตปุพฺพํ , ภิกฺขเว, มูคปโกฺข นาม สตฺถา อโหสิ…เป.… อรเนมิ นาม สตฺถา อโหสิ…เป.… กุทฺทาลโก 5 นาม สตฺถา อโหสิ…เป.… หตฺถิปาโล นาม สตฺถา อโหสิ…เป.… โชติปาโล นาม สตฺถา อโหสิ…เป.… อรโก นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโค ฯ อรกสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํฯ อรโก นาม สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิฯ เย โข ปน, ภิกฺขเว, อรกสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ นปฺปสาเทสุํ, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิํสุฯ เย โข ปน, ภิกฺขเว, อรกสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิํสุฯ
‘‘Bhūtapubbaṃ , bhikkhave, mūgapakkho nāma satthā ahosi…pe… aranemi nāma satthā ahosi…pe… kuddālako 6 nāma satthā ahosi…pe… hatthipālo nāma satthā ahosi…pe… jotipālo nāma satthā ahosi…pe… arako nāma satthā ahosi titthakaro kāmesu vītarāgo . Arakassa kho pana, bhikkhave, satthuno anekāni sāvakasatāni ahesuṃ. Arako nāma satthā sāvakānaṃ brahmalokasahabyatāya dhammaṃ desesi. Ye kho pana, bhikkhave, arakassa satthuno brahmalokasahabyatāya dhammaṃ desentassa cittāni nappasādesuṃ, te kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjiṃsu. Ye kho pana, bhikkhave, arakassa satthuno brahmalokasahabyatāya dhammaṃ desentassa cittāni pasādesuṃ, te kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjiṃsu.
‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, โย อิเม สตฺต สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค อเนกสตปริวาเร สสาวกสเงฺฆ ปทุฎฺฐจิโตฺต อโกฺกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปุญฺญํ ปสเวยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘โย, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค อเนกสตปริวาเร สสาวกสเงฺฆ ปทุฎฺฐจิโตฺต อโกฺกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปุญฺญํ ปสเวยฺยฯ โย เอกํ ทิฎฺฐิสมฺปนฺนํ ปุคฺคลํ ปทุฎฺฐจิโตฺต อโกฺกสติ ปริภาสติ, อยํ ตโต พหุตรํ อปุญฺญํ ปสวติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? นาหํ, ภิกฺขเว, อิโต พหิทฺธา เอวรูปิํ ขนฺติํ วทามิ ยถามํ สพฺรหฺมจารีสุ’’ฯ
‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, yo ime satta satthāre titthakare kāmesu vītarāge anekasataparivāre sasāvakasaṅghe paduṭṭhacitto akkoseyya paribhāseyya, bahuṃ so apuññaṃ pasaveyyā’’ti? ‘‘Evaṃ, bhante’’. ‘‘Yo, bhikkhave, ime satta satthāre titthakare kāmesu vītarāge anekasataparivāre sasāvakasaṅghe paduṭṭhacitto akkoseyya paribhāseyya, bahuṃ so apuññaṃ pasaveyya. Yo ekaṃ diṭṭhisampannaṃ puggalaṃ paduṭṭhacitto akkosati paribhāsati, ayaṃ tato bahutaraṃ apuññaṃ pasavati. Taṃ kissa hetu? Nāhaṃ, bhikkhave, ito bahiddhā evarūpiṃ khantiṃ vadāmi yathāmaṃ sabrahmacārīsu’’.
Footnotes:
Related texts:
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๘-๙. อคฺคิกฺขโนฺธปมสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-9. Aggikkhandhopamasuttādivaṇṇanā