Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา
Suṅkaghātakathāvaṇṇanā
๑๑๓. สุงฺกฆาตกถายํ ตโต หนนฺตีติ ตโต นีหรนฺตา หนนฺติฯ ตนฺติ สุงฺกฎฺฐานํฯ ยโตติ ยโต นีหริยมานภณฺฑโตฯ ราชกนฺติ ราชายตฺตํฯ ตมฺปิ ราชารหเมวาติ อาห ‘‘อยเมวโตฺถ’’ติฯ อิโตติ อิโต ภณฺฑโตฯ ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมตีติ เอตฺถ ‘‘ปฐมํ ปาทํ ปริเจฺฉทโต พหิ ฐเปตฺวา ทุติเย ปาเท อุทฺธฎมเตฺต ปาราชิก’’นฺติ วทนฺติ อุทฺธริตฺวา พหิ อฎฺฐปิโตปิ พหิ ฐิโตเยว นาม โหตีติ กตฺวาฯ ยตฺถ ยตฺถ ปทวาเรน อาปตฺติ กาเรตพฺพา, ตตฺถ ตตฺถ สพฺพตฺถาปิ เอเสว นโยติ วทนฺติฯ สุงฺกฆาตโต พหิ พหิสุงฺกฆาตํฯ อวสฺสํ ปตนกนฺติ อวสฺสํ สุงฺกฆาตโต พหิ ปตนกํฯ ปุเพฺพ วุตฺตนเยเนวาติ อวสฺสํ ปตนเก หตฺถโต มุตฺตมเตฺตติ วุตฺตํ โหติฯ วฎฺฎนฺตํ ปุน อโนฺต ปวิสตีติ มหาอฎฺฐกถาวจนสฺส กุรุนฺทิสเงฺขปฎฺฐกถาหิ อธิปฺปาโย ปกาสิโตฯ อโนฺต ฐตฺวา พหิ คจฺฉนฺตํ รกฺขตีติ ภิกฺขุโน ปโยเคน คมนเวคสฺส อโนฺตเยว วูปสนฺตตฺตาฯ ปริวเตฺตตฺวา อพฺภนฺตริมํ พหิ ฐเปตีติ อพฺภนฺตเร ฐิตํ ปุฎกํ ปริวเตฺตตฺวา พหิ ฐเปติฯ เอตฺถ จ ‘‘อพฺภนฺตริเม ปุฎเก ภูมิโต โมจิตมเตฺต ปาราชิก’’นฺติ วทนฺติฯ
113. Suṅkaghātakathāyaṃ tato hanantīti tato nīharantā hananti. Tanti suṅkaṭṭhānaṃ. Yatoti yato nīhariyamānabhaṇḍato. Rājakanti rājāyattaṃ. Tampi rājārahamevāti āha ‘‘ayamevattho’’ti. Itoti ito bhaṇḍato. Dutiyaṃ pādaṃ atikkāmetīti ettha ‘‘paṭhamaṃ pādaṃ paricchedato bahi ṭhapetvā dutiye pāde uddhaṭamatte pārājika’’nti vadanti uddharitvā bahi aṭṭhapitopi bahi ṭhitoyeva nāma hotīti katvā. Yattha yattha padavārena āpatti kāretabbā, tattha tattha sabbatthāpi eseva nayoti vadanti. Suṅkaghātato bahi bahisuṅkaghātaṃ. Avassaṃ patanakanti avassaṃ suṅkaghātato bahi patanakaṃ. Pubbe vuttanayenevāti avassaṃ patanake hatthato muttamatteti vuttaṃ hoti. Vaṭṭantaṃ puna anto pavisatīti mahāaṭṭhakathāvacanassa kurundisaṅkhepaṭṭhakathāhi adhippāyo pakāsito. Anto ṭhatvā bahi gacchantaṃ rakkhatīti bhikkhuno payogena gamanavegassa antoyeva vūpasantattā. Parivattetvā abbhantarimaṃ bahi ṭhapetīti abbhantare ṭhitaṃ puṭakaṃ parivattetvā bahi ṭhapeti. Ettha ca ‘‘abbhantarime puṭake bhūmito mocitamatte pārājika’’nti vadanti.
‘‘คจฺฉเนฺต ยาเน วา…เป.… ฐเปตีติ สุงฺกฆาตํ อปวิสิตฺวา พหิเยว ฐเปตี’’ติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํ สุงฺกฎฺฐานสฺส พหิ ฐปิตนฺติ วกฺขมานตฺตาฯ อาจริยา ปน ‘‘สุงฺกฎฺฐานสฺส พหิ ฐิต’’นฺติ ปาฐํ วิกเปฺปตฺวา ‘‘ปฐมํ อโนฺตสุงฺกฆาตํ ปวิเฎฺฐสุเยว ยานาทีสุ ฐปิตํ ปจฺฉา ยาเนน สทฺธิํ นีหฎํ สุงฺกฆาตสฺส พหิ ฐิตํ, น จ เตน นีต’’นฺติ อตฺถํ วทนฺติฯ อยํ ปน เตสํ อธิปฺปาโย – สุงฺกฎฺฐานสฺส อโนฺต ปวิฎฺฐยานาทีสุ ฐปิเตปิ ภิกฺขุสฺส ปโยคํ วินา อเญฺญน นีหฎตฺตา เนวตฺถิ ปาราชิกํ, ‘‘อตฺร ปวิฎฺฐสฺส สุงฺกํ คณฺหนฺตู’’ติ วุตฺตตฺตา อเญฺญน นีหฎสฺส พหิ ฐิเต ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหตีติฯ อยเมว จ นโย ‘‘วฎฺฎิตฺวา คมิสฺสตีติ วา อโญฺญ นํ วเฎฺฎสฺสตีติ วา อโนฺต ฐปิตํ ปจฺฉา สยํ วา วฎฺฎมานํ อเญฺญน วา วฎฺฎิตํ พหิ คจฺฉติ, รกฺขติเยวา’’ติ อิมินา วจเนน สเมตีติ ยุตฺตตโร วิย ทิสฺสติฯ สุงฺกฎฺฐานสฺส อโนฺต ปวิสิตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉโตปิ เตน ปเสฺสน ปริเจฺฉทํ อติกฺกมนฺตสฺส ยทิ ตโตปิ คจฺฉนฺตานํ หตฺถโต สุงฺกํ คณฺหนฺติ, สีมาติกฺกเม ปาราชิกเมวฯ
‘‘Gacchante yāne vā…pe… ṭhapetīti suṅkaghātaṃ apavisitvā bahiyeva ṭhapetī’’ti tīsupi gaṇṭhipadesu vuttaṃ suṅkaṭṭhānassa bahi ṭhapitanti vakkhamānattā. Ācariyā pana ‘‘suṅkaṭṭhānassa bahi ṭhita’’nti pāṭhaṃ vikappetvā ‘‘paṭhamaṃ antosuṅkaghātaṃ paviṭṭhesuyeva yānādīsu ṭhapitaṃ pacchā yānena saddhiṃ nīhaṭaṃ suṅkaghātassa bahi ṭhitaṃ, na ca tena nīta’’nti atthaṃ vadanti. Ayaṃ pana tesaṃ adhippāyo – suṅkaṭṭhānassa anto paviṭṭhayānādīsu ṭhapitepi bhikkhussa payogaṃ vinā aññena nīhaṭattā nevatthi pārājikaṃ, ‘‘atra paviṭṭhassa suṅkaṃ gaṇhantū’’ti vuttattā aññena nīhaṭassa bahi ṭhite bhaṇḍadeyyampi na hotīti. Ayameva ca nayo ‘‘vaṭṭitvā gamissatīti vā añño naṃ vaṭṭessatīti vā anto ṭhapitaṃ pacchā sayaṃ vā vaṭṭamānaṃ aññena vā vaṭṭitaṃ bahi gacchati, rakkhatiyevā’’ti iminā vacanena sametīti yuttataro viya dissati. Suṅkaṭṭhānassa anto pavisitvā puna paccāgacchatopi tena passena paricchedaṃ atikkamantassa yadi tatopi gacchantānaṃ hatthato suṅkaṃ gaṇhanti, sīmātikkame pārājikameva.
หตฺถิสุตฺตาทีสูติ หตฺถิสิกฺขาทีสุฯ อิมสฺมิํ ฐาเนติ ยถาวุตฺตยานาทีหิ วุตฺตปฺปกาเรน นีหรเณฯ อนาปตฺตีติ ตตฺถ ‘‘สหตฺถา’’ติ วจนโต อเญฺญน นีหราเปนฺตสฺส อนาปตฺติฯ อิธาติ อิมสฺมิํ อทินฺนาทานสิกฺขาปเทฯ ตตฺราติ ตสฺมิํ เอฬกโลมสิกฺขาปเทฯ โหนฺตีติ เอตฺถ อิติ-สโทฺท เหตุอโตฺถ, ยสฺมา เอฬกโลมานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, ตสฺมา ปาจิตฺติยนฺติ อโตฺถฯ อิธ อนาปตฺตีติ อิมสฺมิํ สิกฺขาปเท อวหาราภาวา อนาปตฺติฯ อุปจารนฺติ สุงฺกฆาตปริเจฺฉทโต พหิ สมนฺตา ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อพฺภนฺตรํ วติอาสนฺนปฺปเทสสงฺขาตํ อุปจารํฯ ตาทิสํ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา ปริหรเณ สาทีนวตฺตา ทุกฺกฎํ วุตฺตํฯ เอตฺถาติ สุงฺกฆาเตฯ ‘‘ทฺวีหิ เลฑฺฑุปาเตหีติ อยํ นิยโม อาจริยปรมฺปราภโต’’ติ มหาคณฺฐิปเท วุตฺตํฯ
Hatthisuttādīsūti hatthisikkhādīsu. Imasmiṃ ṭhāneti yathāvuttayānādīhi vuttappakārena nīharaṇe. Anāpattīti tattha ‘‘sahatthā’’ti vacanato aññena nīharāpentassa anāpatti. Idhāti imasmiṃ adinnādānasikkhāpade. Tatrāti tasmiṃ eḷakalomasikkhāpade. Hontīti ettha iti-saddo hetuattho, yasmā eḷakalomāni nissaggiyāni honti, tasmā pācittiyanti attho. Idha anāpattīti imasmiṃ sikkhāpade avahārābhāvā anāpatti. Upacāranti suṅkaghātaparicchedato bahi samantā dvinnaṃ leḍḍupātānaṃ abbhantaraṃ vatiāsannappadesasaṅkhātaṃ upacāraṃ. Tādisaṃ upacāraṃ okkamitvā pariharaṇe sādīnavattā dukkaṭaṃ vuttaṃ. Etthāti suṅkaghāte. ‘‘Dvīhi leḍḍupātehīti ayaṃ niyamo ācariyaparamparābhato’’ti mahāgaṇṭhipade vuttaṃ.
สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Suṅkaghātakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ภูมฎฺฐกถาทิวณฺณนา • Bhūmaṭṭhakathādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / สุงฺกฆาตกถาวณฺณนา • Suṅkaghātakathāvaṇṇanā