Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๗. สุปติสุตฺตวณฺณนา
7. Supatisuttavaṇṇanā
๑๔๓. สตฺตเม ปาเท ปกฺขาเลตฺวาติ อุตุคาหาปนตฺถํ โธวิตฺวาฯ พุทฺธานํ ปน สรีเร รโชชลฺลํ น อุปลิมฺปติ, อุทกมฺปิ โปกฺขรปเตฺต ปกฺขิตฺตํ วิย วิวฎฺฎิตฺวา คจฺฉติฯ อปิจ โข โธตปาทเก เคเห ปาเท โธวิตฺวา ปวิสนํ ปพฺพชิตานํ วตฺตํฯ ตตฺถ พุทฺธานํ วตฺตเภโท นาม นตฺถิ, วตฺตสีเส ปน ฐตฺวา โธวนฺติฯ สเจ หิ ตถาคโต เนว นฺหาเยยฺย, น ปาเท โธเวยฺย, ‘‘นายํ มนุโสฺส’’ติ วเทยฺยุํฯ ตสฺมา มนุสฺสกิริยํ อมุญฺจโนฺต โธวติฯ สโต สมฺปชาโนติ โสปฺปปริคฺคาหเกน สติสมฺปชเญฺญน สมนฺนาคโตฯ อุปสงฺกมีติ สมโณ โคตโม สพฺพรตฺติํ อโพฺภกาเส จงฺกมิตฺวา คนฺธกุฎิํ ปวิสิตฺวา นิทฺทายติ, อติวิย สุขสยิโต ภวิสฺสติ, ฆฎฺฎยิสฺสามิ นนฺติ จิเนฺตตฺวา อุปสงฺกมิฯ
143. Sattame pāde pakkhāletvāti utugāhāpanatthaṃ dhovitvā. Buddhānaṃ pana sarīre rajojallaṃ na upalimpati, udakampi pokkharapatte pakkhittaṃ viya vivaṭṭitvā gacchati. Apica kho dhotapādake gehe pāde dhovitvā pavisanaṃ pabbajitānaṃ vattaṃ. Tattha buddhānaṃ vattabhedo nāma natthi, vattasīse pana ṭhatvā dhovanti. Sace hi tathāgato neva nhāyeyya, na pāde dhoveyya, ‘‘nāyaṃ manusso’’ti vadeyyuṃ. Tasmā manussakiriyaṃ amuñcanto dhovati. Sato sampajānoti soppapariggāhakena satisampajaññena samannāgato. Upasaṅkamīti samaṇo gotamo sabbarattiṃ abbhokāse caṅkamitvā gandhakuṭiṃ pavisitvā niddāyati, ativiya sukhasayito bhavissati, ghaṭṭayissāmi nanti cintetvā upasaṅkami.
กิํ โสปฺปสีติ กิํ สุปสิ, กิํ โสปฺปํ นามิทํ ตวาติ วทติฯ กิํ นุ โสปฺปสีติ กสฺมา นุ สุปสิ? ทุพฺภโค วิยาติ มโต วิย, วิสญฺญี วิย จฯ สุญฺญมคารนฺติ สุญฺญํ เม ฆรํ ลทฺธนฺติ โสปฺปสีติ วทติฯ สูริเย อุคฺคเตติ สูริยมฺหิ อุฎฺฐิเตฯ อิทานิ หิ อเญฺญ ภิกฺขู สมฺมชฺชนฺติ , ปานียํ อุปฎฺฐเปนฺติ, ภิกฺขาจารคมนสชฺชา ภวนฺติ, ตฺวํ กสฺมา โสปฺปสิเยวฯ
Kiṃ soppasīti kiṃ supasi, kiṃ soppaṃ nāmidaṃ tavāti vadati. Kiṃ nu soppasīti kasmā nu supasi? Dubbhago viyāti mato viya, visaññī viya ca. Suññamagāranti suññaṃ me gharaṃ laddhanti soppasīti vadati. Sūriye uggateti sūriyamhi uṭṭhite. Idāni hi aññe bhikkhū sammajjanti , pānīyaṃ upaṭṭhapenti, bhikkhācāragamanasajjā bhavanti, tvaṃ kasmā soppasiyeva.
ชาลินีติ ตโย ภเว อโชฺฌตฺถริตฺวา ฐิเตน ‘‘อชฺฌตฺติกสฺสุปาทาย อฎฺฐารสตณฺหาวิจริตานี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๔๒) เตน เตน อตฺตโน โกฎฺฐาสภูเตน ชาเลน ชาลินีฯ วิสตฺติกาติ รูปาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ วิสตฺตตาย วิสมูลตาย วิสปริโภคตาย จ วิสตฺติกาฯ กุหิญฺจิ เนตเวติ กตฺถจิ เนตุํฯ สพฺพูปธิ ปริกฺขยาติ สเพฺพสํ ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารกามคุณเภทานํ อุปธีนํ ปริกฺขยาฯ กิํ ตเวตฺถ, มาราติ, มาร, ตุยฺหํ กิํ เอตฺถ? กสฺมา ตฺวํ อุณฺหยาคุยํ นิลียิตุํ อสโกฺกนฺตี ขุทฺทกมกฺขิกา วิย อนฺตเนฺตเนว อุชฺฌายโนฺต อาหิณฺฑสีติฯ สตฺตมํฯ
Jālinīti tayo bhave ajjhottharitvā ṭhitena ‘‘ajjhattikassupādāya aṭṭhārasataṇhāvicaritānī’’tiādinā (vibha. 842) tena tena attano koṭṭhāsabhūtena jālena jālinī. Visattikāti rūpādīsu tattha tattha visattatāya visamūlatāya visaparibhogatāya ca visattikā. Kuhiñci netaveti katthaci netuṃ. Sabbūpadhi parikkhayāti sabbesaṃ khandhakilesābhisaṅkhārakāmaguṇabhedānaṃ upadhīnaṃ parikkhayā. Kiṃ tavettha, mārāti, māra, tuyhaṃ kiṃ ettha? Kasmā tvaṃ uṇhayāguyaṃ nilīyituṃ asakkontī khuddakamakkhikā viya antanteneva ujjhāyanto āhiṇḍasīti. Sattamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๗. สุปติสุตฺตํ • 7. Supatisuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๗. สุปติสุตฺตวณฺณนา • 7. Supatisuttavaṇṇanā