Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๖. สุรุสุรุวคฺค-อตฺถโยชนา
6. Surusuruvagga-atthayojanā
๖๒๗. ‘‘สุรุสุรู’’ติ เอวํ สทฺทนฺติ ‘‘สุรุสุรู’’ติ เอวํ อนุกรณรวํฯ ทวนํ กีฬนนฺติ อิมินา วจนเตฺถน ปริหาโส ทโว นามาติ อาห ‘‘ทโวติ ปริหาสวจน’’นฺติฯ ตนฺติ โส ทโวฯ ลิงฺควิปลฺลาโส เหสฯ น กาตพฺพํ น กาตโพฺพติ สมฺพโนฺธฯ สิลกพุโทฺธติ สิลาย กโต, สิเลน นิยุโตฺต วา พุโทฺธฯ อปฎิพุโทฺธติ อปฎิวิโทฺธ พุโทฺธ, ปริหาสวจนเมตํฯ โคธโมฺมติ คุนฺนํ ธโมฺมฯ อชธโมฺมติ อชานํ ธโมฺมฯ มิคสโงฺฆติ มิคานํ สโงฺฆฯ ปสุสโงฺฆติ ปสูนํ สโงฺฆฯ
627.‘‘Surusurū’’ti evaṃ saddanti ‘‘surusurū’’ti evaṃ anukaraṇaravaṃ. Davanaṃ kīḷananti iminā vacanatthena parihāso davo nāmāti āha ‘‘davoti parihāsavacana’’nti. Tanti so davo. Liṅgavipallāso hesa. Na kātabbaṃ na kātabboti sambandho. Silakabuddhoti silāya kato, silena niyutto vā buddho. Apaṭibuddhoti apaṭividdho buddho, parihāsavacanametaṃ. Godhammoti gunnaṃ dhammo. Ajadhammoti ajānaṃ dhammo. Migasaṅghoti migānaṃ saṅgho. Pasusaṅghoti pasūnaṃ saṅgho.
๖๒๘. ‘‘ภุญฺชเนฺตนา’’ติ ปทํ ‘‘นิเลฺลหิตุ’’นฺติ ปเท ภาวกตฺตาฯ
628. ‘‘Bhuñjantenā’’ti padaṃ ‘‘nillehitu’’nti pade bhāvakattā.
๖๓๑. เอวํนามเกติ ‘‘โกกนุท’’นฺติ เอวํ นามํ อสฺส ปาสาทสฺสาติ เอวํนามโก, ปาสาโท, ตสฺมิํฯ ‘‘ปทุมสณฺฐาโน’’ติ อิมินา ปาสาทสฺส สทิสูปจาเรน ‘‘โกกนุโท’’ติ นามลภนํ ทเสฺสติฯ เตนาติ ปทุมสณฺฐานตฺตาฯ อสฺสาติ ปาสาทสฺสฯ ปุคฺคลิกมฺปีติ ปรปุคฺคลสนฺตกํ คเหตพฺพํ ‘‘อตฺตโน สนฺตกมฺปี’’ติ อตฺตปุคฺคลสนฺตกสฺส วิสุํ คยฺหมานตฺตาฯ สงฺขมฺปีติ ปานียสงฺขมฺปิฯ สราวมฺปีติ ปานียสราวมฺปิฯ ถาลกมฺปีติ ปานียถาลกมฺปิฯ
631.Evaṃnāmaketi ‘‘kokanuda’’nti evaṃ nāmaṃ assa pāsādassāti evaṃnāmako, pāsādo, tasmiṃ. ‘‘Padumasaṇṭhāno’’ti iminā pāsādassa sadisūpacārena ‘‘kokanudo’’ti nāmalabhanaṃ dasseti. Tenāti padumasaṇṭhānattā. Assāti pāsādassa. Puggalikampīti parapuggalasantakaṃ gahetabbaṃ ‘‘attano santakampī’’ti attapuggalasantakassa visuṃ gayhamānattā. Saṅkhampīti pānīyasaṅkhampi. Sarāvampīti pānīyasarāvampi. Thālakampīti pānīyathālakampi.
๖๓๒. ‘‘อุทฺธริตฺวา’’ติ สามญฺญโต วุตฺตวจนสฺส กมฺมาปาทานานิ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘สิตฺถานิ อุทกโต’’ติฯ ภินฺทิตฺวาติ จุณฺณวิจุณฺณานิ กตฺวาฯ พหีติ อนฺตรฆรโต พหิฯ
632. ‘‘Uddharitvā’’ti sāmaññato vuttavacanassa kammāpādānāni dassetuṃ vuttaṃ ‘‘sitthāni udakato’’ti. Bhinditvāti cuṇṇavicuṇṇāni katvā. Bahīti antaragharato bahi.
๖๓๔. เสตจฺฉตฺตนฺติ เอตฺถ เสตสโทฺท ปณฺฑรปริยาโยติ อาห ‘‘ปณฺฑรจฺฉตฺต’’นฺติฯ วตฺถปลิคุณฺฐิตนฺติ วเตฺถหิ สมนฺตโต เวฐิตํฯ เสตํ ฉตฺตํ เสตจฺฉตฺตํฯ กิฬเญฺชหิ กตํ ฉตฺตํ กิฬญฺชจฺฉตฺตํฯ ปเณฺณหิ กตํ ฉตฺตํ ปณฺณจฺฉตฺตํฯ มณฺฑเลน พทฺธํ มณฺฑลพทฺธํฯ สลากาหิ พทฺธํ สลากพทฺธํฯ ตานีติ ตีณิ ฉตฺตานิฯ หีติ สจฺจํฯ ยมฺปิ เอกปณฺณจฺฉตฺตนฺติ โยชนาฯ เอเตสูติ ตีสุ ฉเตฺตสุฯ อสฺสาติ ยสฺส กสฺสจิ คหฎฺฐสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วาฯ โสติ โย โกจิ คหโฎฺฐ วา ปพฺพชิโต วาฯ ฉตฺตปาทุกาย วาติ ฉตฺตทณฺฑนิเกฺขปนาย ปาทุกาย วาฯ เอตฺถาติ อิมสฺมิํ สิกฺขาปเทฯ
634.Setacchattanti ettha setasaddo paṇḍarapariyāyoti āha ‘‘paṇḍaracchatta’’nti. Vatthapaliguṇṭhitanti vatthehi samantato veṭhitaṃ. Setaṃ chattaṃ setacchattaṃ. Kiḷañjehi kataṃ chattaṃ kiḷañjacchattaṃ. Paṇṇehi kataṃ chattaṃ paṇṇacchattaṃ. Maṇḍalena baddhaṃ maṇḍalabaddhaṃ. Salākāhi baddhaṃ salākabaddhaṃ. Tānīti tīṇi chattāni. Hīti saccaṃ. Yampi ekapaṇṇacchattanti yojanā. Etesūti tīsu chattesu. Assāti yassa kassaci gahaṭṭhassa vā pabbajitassa vā. Soti yo koci gahaṭṭho vā pabbajito vā. Chattapādukāya vāti chattadaṇḍanikkhepanāya pādukāya vā. Etthāti imasmiṃ sikkhāpade.
๖๓๕. มชฺฌิมสฺสาติ ปมาณมชฺฌิมสฺสฯ ‘‘จตุหตฺถปฺปมาโณ’’ติอิมินา จตุหตฺถโต อูนาติเรโก ทโณฺฑ น ทโณฺฑ นามาติ ทเสฺสติฯ ทโณฺฑ ปาณิมฺหิ อสฺสาติ วจนตฺถํ อติทิสโนฺต อาห ‘‘วุตฺตนเยเนวา’’ติฯ
635.Majjhimassāti pamāṇamajjhimassa. ‘‘Catuhatthappamāṇo’’tiiminā catuhatthato ūnātireko daṇḍo na daṇḍo nāmāti dasseti. Daṇḍo pāṇimhi assāti vacanatthaṃ atidisanto āha ‘‘vuttanayenevā’’ti.
๖๓๖. ‘‘สตฺถปาณิมฺหี’’ติ เอตฺถ อสิ เอว อธิเปฺปโตติ อาห ‘‘อสิ’’นฺติฯ อสินฺติ ขคฺคํฯ
636.‘‘Satthapāṇimhī’’ti ettha asi eva adhippetoti āha ‘‘asi’’nti. Asinti khaggaṃ.
๖๓๗. ‘‘อาวุธํ นาม จาโป โกทโณฺฑ’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตวจนํ อุปลกฺขณเมวาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อาวุธปาณิสฺสาติ เอตฺถา’’ติอาทิฯ สพฺพาปิ ธนุวิกติ อาวุธนฺติ เวทิตพฺพาติ โยชนาฯ ยถา อสิํ สนฺนหิตฺวา ฐิโต สตฺถปาณีติ สงฺขฺยํ น คจฺฉติ, เอวํ ธนุํ กเณฺฐ ปฎิมุโกฺก อาวุธปาณีติ อาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ, อิมินา อาวุโธ ปาณินา คหิโตเยว อาวุธปาณิ นามาติ ทเสฺสตีติฯ ฉโฎฺฐ วโคฺคฯ
637. ‘‘Āvudhaṃ nāma cāpo kodaṇḍo’’ti pāḷiyaṃ vuttavacanaṃ upalakkhaṇamevāti dassento āha ‘‘āvudhapāṇissāti etthā’’tiādi. Sabbāpi dhanuvikati āvudhanti veditabbāti yojanā. Yathā asiṃ sannahitvā ṭhito satthapāṇīti saṅkhyaṃ na gacchati, evaṃ dhanuṃ kaṇṭhe paṭimukko āvudhapāṇīti āha ‘‘sace panā’’tiādi, iminā āvudho pāṇinā gahitoyeva āvudhapāṇi nāmāti dassetīti. Chaṭṭho vaggo.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๖. สุรุสุรุวโคฺค • 6. Surusuruvaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๖. สุรุสุรุวคฺควณฺณนา • 6. Surusuruvaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๖. สุรุสุรุวคฺควณฺณนา • 6. Surusuruvaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๖. สุรุสุรุวคฺควณฺณนา • 6. Surusuruvaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๖. สุรุสุรุวคฺควณฺณนา • 6. Surusuruvaggavaṇṇanā