Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๔๑๑] ๖. สุสีมชาตกวณฺณนา

    [411] 6. Susīmajātakavaṇṇanā

    กาฬานิ เกสานิ ปุเร อเหสุนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิฯ ตสฺมิญฺหิ สมเย ภิกฺขู ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา ทสพลสฺส นิกฺขมนํ วณฺณยิํสุฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, มยา ทานิ อเนกานิ กปฺปโกฎิสตสหสฺสานิ ปูริตปารมินา มหาภินิกฺขมนํ, ปุเพฺพปาหํ ติโยชนสติเก กาสิรเฎฺฐ รชฺชํ ฉเฑฺฑตฺวา นิกฺขโนฺตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Kāḷāni kesāni pure ahesunti idaṃ satthā jetavane viharanto mahābhinikkhamanaṃ ārabbha kathesi. Tasmiñhi samaye bhikkhū dhammasabhāyaṃ nisīditvā dasabalassa nikkhamanaṃ vaṇṇayiṃsu. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘anacchariyaṃ, bhikkhave, mayā dāni anekāni kappakoṭisatasahassāni pūritapāraminā mahābhinikkhamanaṃ, pubbepāhaṃ tiyojanasatike kāsiraṭṭhe rajjaṃ chaḍḍetvā nikkhantoyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต ตสฺส ปุโรหิตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ตสฺส ชาตทิวเสเยว พาราณสิรโญฺญปิ ปุโตฺต ชายิฯ เตสํ นามคฺคหณทิวเส มหาสตฺตสฺส สุสีมกุมาโรติ นามํ อกํสุ, ราชปุตฺตสฺส พฺรหฺมทตฺตกุมาโรติฯ พาราณสิราชา ‘‘ปุเตฺตน เม สทฺธิํ เอกทิวเส ชาโต’’ติ โพธิสตฺตํ อาณาเปตฺวา ธาติโย ทตฺวา เตน สทฺธิํ เอกโต วเฑฺฒสิฯ เต อุโภปิ วยปฺปตฺตา อภิรูปา เทวกุมารวณฺณิโน หุตฺวา ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคมิํสุฯ ราชปุโตฺต อุปราชา หุตฺวา โพธิสเตฺตน สทฺธิํ เอกโต ขาทโนฺต ปิวโนฺต นิสีทโนฺต สยโนฺต ปิตุ อจฺจเยน รชฺชํ ปตฺวา มหาสตฺตสฺส มหนฺตํ ยสํ ทตฺวา ปุโรหิตฎฺฐาเน ตํ ฐเปตฺวา เอกทิวสํ นครํ สชฺชาเปตฺวา สโกฺก เทวราชา วิย อลงฺกโต อลงฺกตเอราวณปฎิภาคสฺส มตฺตวรวารณสฺส ขเนฺธ นิสีทิตฺวา โพธิสตฺตํ ปจฺฉาสเน หตฺถิปิเฎฺฐ นิสีทาเปตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ อกาสิฯ มาตาปิสฺส ‘‘ปุตฺตํ โอโลเกสฺสามี’’ติ สีหปญฺชเร ฐตฺวา ตสฺส นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส ปจฺฉโต นิสินฺนํ ปุโรหิตํ ทิสฺวา ปฎิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา สยนคพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมํ อลภนฺตี เอเตฺถว มริสฺสามี’’ติ อาหารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา นิปชฺชิฯ

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto tassa purohitassa aggamahesiyā kucchimhi nibbatti, tassa jātadivaseyeva bārāṇasiraññopi putto jāyi. Tesaṃ nāmaggahaṇadivase mahāsattassa susīmakumāroti nāmaṃ akaṃsu, rājaputtassa brahmadattakumāroti. Bārāṇasirājā ‘‘puttena me saddhiṃ ekadivase jāto’’ti bodhisattaṃ āṇāpetvā dhātiyo datvā tena saddhiṃ ekato vaḍḍhesi. Te ubhopi vayappattā abhirūpā devakumāravaṇṇino hutvā takkasilāyaṃ sabbasippāni uggaṇhitvā paccāgamiṃsu. Rājaputto uparājā hutvā bodhisattena saddhiṃ ekato khādanto pivanto nisīdanto sayanto pitu accayena rajjaṃ patvā mahāsattassa mahantaṃ yasaṃ datvā purohitaṭṭhāne taṃ ṭhapetvā ekadivasaṃ nagaraṃ sajjāpetvā sakko devarājā viya alaṅkato alaṅkataerāvaṇapaṭibhāgassa mattavaravāraṇassa khandhe nisīditvā bodhisattaṃ pacchāsane hatthipiṭṭhe nisīdāpetvā nagaraṃ padakkhiṇaṃ akāsi. Mātāpissa ‘‘puttaṃ olokessāmī’’ti sīhapañjare ṭhatvā tassa nagaraṃ padakkhiṇaṃ katvā āgacchantassa pacchato nisinnaṃ purohitaṃ disvā paṭibaddhacittā hutvā sayanagabbhaṃ pavisitvā ‘‘imaṃ alabhantī ettheva marissāmī’’ti āhāraṃ pacchinditvā nipajji.

    ราชา มาตรํ อปสฺสโนฺต ‘‘กุหิํ เม มาตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คิลานา’’ติ สุตฺวา ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กิํ อมฺม, อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิฯ สา ลชฺชาย น กเถสิฯ โส คนฺตฺวา ราชปลฺลเงฺก นิสีทิตฺวา อตฺตโน อคฺคมเหสิํ ปโกฺกสิตฺวา ‘‘คจฺฉ อมฺมาย อผาสุกํ ชานาหี’’ติ เปเสสิฯ สา คนฺตฺวา ปิฎฺฐิํ ปริมชฺชนฺตี ปุจฺฉิ, อิตฺถิโย นาม อิตฺถีนํ รหสฺสํ น นิคุหนฺติ, สา ตสฺสา ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อิตราปิ ตํ สุตฺวา คนฺตฺวา รโญฺญ อาโรเจสิฯ ราชา ‘‘โหตุ, คจฺฉ นํ สมสฺสาเสหิ, ปุโรหิตํ ราชานํ กตฺวา ตสฺส ตํ อคฺคมเหสิํ กริสฺสามี’’ติ อาหฯ สา อาคนฺตฺวา ตํ สมสฺสาเสสิฯ ราชาปิ ปุโรหิตํ ปโกฺกสาเปตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘สมฺม, มาตุ เม ชีวิตํ เทหิ, ตฺวํ ราชา ภวิสฺสสิ, สา อคฺคมเหสี, อหํ อุปราชา’’ติ อาหฯ โส ‘‘น สกฺกา เอวํ กาตุ’’นฺติ ปฎิกฺขิปิตฺวา เตน ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโน สมฺปฎิจฺฉิฯ ราชา ปุโรหิตํ ราชานํ, มาตรํ อคฺคมเหสิํ กาเรตฺวา สยํ อุปราชา อโหสิฯ

    Rājā mātaraṃ apassanto ‘‘kuhiṃ me mātā’’ti pucchitvā ‘‘gilānā’’ti sutvā tassā santikaṃ gantvā vanditvā ‘‘kiṃ amma, aphāsuka’’nti pucchi. Sā lajjāya na kathesi. So gantvā rājapallaṅke nisīditvā attano aggamahesiṃ pakkositvā ‘‘gaccha ammāya aphāsukaṃ jānāhī’’ti pesesi. Sā gantvā piṭṭhiṃ parimajjantī pucchi, itthiyo nāma itthīnaṃ rahassaṃ na niguhanti, sā tassā tamatthaṃ ārocesi. Itarāpi taṃ sutvā gantvā rañño ārocesi. Rājā ‘‘hotu, gaccha naṃ samassāsehi, purohitaṃ rājānaṃ katvā tassa taṃ aggamahesiṃ karissāmī’’ti āha. Sā āgantvā taṃ samassāsesi. Rājāpi purohitaṃ pakkosāpetvā etamatthaṃ ārocetvā ‘‘samma, mātu me jīvitaṃ dehi, tvaṃ rājā bhavissasi, sā aggamahesī, ahaṃ uparājā’’ti āha. So ‘‘na sakkā evaṃ kātu’’nti paṭikkhipitvā tena punappunaṃ yāciyamāno sampaṭicchi. Rājā purohitaṃ rājānaṃ, mātaraṃ aggamahesiṃ kāretvā sayaṃ uparājā ahosi.

    เตสํ สมคฺควาสํ วสนฺตานํ อปรภาเค โพธิสโตฺต อคารมเชฺฌ อุกฺกณฺฐิโต กาเม ปหาย ปพฺพชฺชาย นินฺนจิโตฺต กิเลสรติํ อนลฺลียโนฺต เอกโกว ติฎฺฐติ, เอกโกว นิสีทติ, เอกโกว สยติ, พนฺธนาคาเร พโทฺธ วิย ปญฺชเร ปกฺขิตฺตกุกฺกุโฎ วิย จ อโหสิฯ อถสฺส อคฺคมเหสี ‘‘อยํ ราชา มยา สทฺธิํ นาภิรมติ, เอกโกว ติฎฺฐติ นิสีทติ เสยฺยํ กเปฺปติ, อยํ โข ปน ทหโร ตรุโณ, อหํ มหลฺลิกา, สีเส เม ปลิตานิ ปญฺญายนฺติ, ยํนูนาหํ ‘สีเส เต เทว, เอกํ ปลิตํ ปญฺญายตี’ติ มุสาวาทํ กตฺวา เอเกนุปาเยน ราชานํ ปตฺติยาเปตฺวา มยา สทฺธิํ อภิรมาเปยฺย’’นฺติ จิเนฺตตฺวา เอกทิวสํ รโญฺญ สีเส อูกา วิจินนฺตี วิย หุตฺวา ‘‘เทว, มหลฺลโกสิ ชาโต, สีเส เต เอกํ ปลิตํ ปญฺญายตี’’ติ อาหฯ ‘‘เตน หิ ภเทฺท, เอตํ ปลิตํ ลุญฺชิตฺวา มยฺหํ หเตฺถ ฐเปหี’’ติฯ สา ตสฺส สีสโต เอกํ เกสํ ลุญฺชิตฺวา อตฺตโน สีเส ปลิตํ คเหตฺวา ‘‘อิทํ เต, เทว, ปลิต’’นฺติ ตสฺส หเตฺถ ฐเปสิฯ โพธิสตฺตสฺส ตํ ทิสฺวาว ภีตตสิตสฺส กญฺจนปฎฺฎสทิสา นลาฎา เสทา มุจฺจิํสุฯ

    Tesaṃ samaggavāsaṃ vasantānaṃ aparabhāge bodhisatto agāramajjhe ukkaṇṭhito kāme pahāya pabbajjāya ninnacitto kilesaratiṃ anallīyanto ekakova tiṭṭhati, ekakova nisīdati, ekakova sayati, bandhanāgāre baddho viya pañjare pakkhittakukkuṭo viya ca ahosi. Athassa aggamahesī ‘‘ayaṃ rājā mayā saddhiṃ nābhiramati, ekakova tiṭṭhati nisīdati seyyaṃ kappeti, ayaṃ kho pana daharo taruṇo, ahaṃ mahallikā, sīse me palitāni paññāyanti, yaṃnūnāhaṃ ‘sīse te deva, ekaṃ palitaṃ paññāyatī’ti musāvādaṃ katvā ekenupāyena rājānaṃ pattiyāpetvā mayā saddhiṃ abhiramāpeyya’’nti cintetvā ekadivasaṃ rañño sīse ūkā vicinantī viya hutvā ‘‘deva, mahallakosi jāto, sīse te ekaṃ palitaṃ paññāyatī’’ti āha. ‘‘Tena hi bhadde, etaṃ palitaṃ luñjitvā mayhaṃ hatthe ṭhapehī’’ti. Sā tassa sīsato ekaṃ kesaṃ luñjitvā attano sīse palitaṃ gahetvā ‘‘idaṃ te, deva, palita’’nti tassa hatthe ṭhapesi. Bodhisattassa taṃ disvāva bhītatasitassa kañcanapaṭṭasadisā nalāṭā sedā mucciṃsu.

    โส อตฺตานํ โอวทโนฺต ‘‘สุสีม, ตฺวํ ทหโร หุตฺวา มหลฺลโก ชาโต, เอตฺตกํ กาลํ คูถกลเล นิมุโคฺค คามสูกโร วิย กามกลเล นิมุชฺชิตฺวา ตํ กลลํ ชหิตุํ น สโกฺกสิ, นนุ กาเม ปหาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตฺวา พฺรหฺมจริยวาสสฺส เต กาโล’’ติ จิเนฺตตฺวา ปฐมํ คาถมาห –

    So attānaṃ ovadanto ‘‘susīma, tvaṃ daharo hutvā mahallako jāto, ettakaṃ kālaṃ gūthakalale nimuggo gāmasūkaro viya kāmakalale nimujjitvā taṃ kalalaṃ jahituṃ na sakkosi, nanu kāme pahāya himavantaṃ pavisitvā pabbajitvā brahmacariyavāsassa te kālo’’ti cintetvā paṭhamaṃ gāthamāha –

    ๑๑๔.

    114.

    ‘‘กาฬานิ เกสานิ ปุเร อเหสุํ, ชาตานิ สีสมฺหิ ยถาปเทเส;

    ‘‘Kāḷāni kesāni pure ahesuṃ, jātāni sīsamhi yathāpadese;

    ตานชฺช เสตานิ สุสีม ทิสฺวา, ธมฺมํ จร พฺรหฺมจริยสฺส กาโล’’ติฯ

    Tānajja setāni susīma disvā, dhammaṃ cara brahmacariyassa kālo’’ti.

    ตตฺถ ยถาปเทเสติ ตว สีเส ตสฺมิํ ตสฺมิํ เกสานํ อนุรูเป ปเทเส อิโต ปุเพฺพ กาฬานิ ภมรปตฺตวณฺณานิ เกสานิ ชาตานิ อเหสุนฺติ วทติฯ ธมฺมํ จราติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ จราติ อตฺตานเมว อาณาเปติฯ พฺรหฺมจริยสฺสาติ เมถุนวิรติยา เต กาโลติ อโตฺถฯ

    Tattha yathāpadeseti tava sīse tasmiṃ tasmiṃ kesānaṃ anurūpe padese ito pubbe kāḷāni bhamarapattavaṇṇāni kesāni jātāni ahesunti vadati. Dhammaṃ carāti dasakusalakammapathadhammaṃ carāti attānameva āṇāpeti. Brahmacariyassāti methunaviratiyā te kāloti attho.

    เอวํ โพธิสเตฺตน พฺรหฺมจริยวาสสฺส คุเณ วณฺณิเต อิตรา ‘‘อหํ ‘อิมสฺส ลคฺคนํ กริสฺสามี’ติ วิสฺสชฺชนเมว กริ’’นฺติ ภีตตสิตา ‘‘อิทานิสฺส อปพฺพชฺชนตฺถาย สรีรวณฺณํ วณฺณยิสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา เทฺว คาถา อภาสิ –

    Evaṃ bodhisattena brahmacariyavāsassa guṇe vaṇṇite itarā ‘‘ahaṃ ‘imassa lagganaṃ karissāmī’ti vissajjanameva kari’’nti bhītatasitā ‘‘idānissa apabbajjanatthāya sarīravaṇṇaṃ vaṇṇayissāmī’’ti cintetvā dve gāthā abhāsi –

    ๑๑๕.

    115.

    ‘‘มเมว เทว ปลิตํ น ตุยฺหํ, มเมว สีสํ มม อุตฺตมงฺคํ;

    ‘‘Mameva deva palitaṃ na tuyhaṃ, mameva sīsaṃ mama uttamaṅgaṃ;

    ‘อตฺถํ กริสฺส’นฺติ มุสา อภาณิํ, เอกาปราธํ ขม ราชเสฎฺฐฯ

    ‘Atthaṃ karissa’nti musā abhāṇiṃ, ekāparādhaṃ khama rājaseṭṭha.

    ๑๑๖.

    116.

    ‘‘ทหโร ตุวํ ทสฺสนิโยสิ ราช, ปฐมุคฺคโต โหติ ยถา กฬีโร;

    ‘‘Daharo tuvaṃ dassaniyosi rāja, paṭhamuggato hoti yathā kaḷīro;

    รชฺชญฺจ กาเรหิ มมญฺจ ปสฺส, มา กาลิกํ อนุธาวี ชนินฺทา’’ติฯ

    Rajjañca kārehi mamañca passa, mā kālikaṃ anudhāvī janindā’’ti.

    ตตฺถ มเมว สีสนฺติ มเมว สีเส สญฺชาตํ ปลิตนฺติ ทีเปติฯ อิตรํ ตเสฺสว เววจนํฯ อตฺถนฺติ อตฺตโน วุฑฺฒิํ กริสฺสามีติ มุสา กเถสิํฯ เอกาปราธนฺติฯ อิมํ มยฺหํ เอกํ อปราธํฯ ปฐมุคฺคโตติ ปฐมวเยน อุคฺคโตฯ โหหีติ โหสิ, ปฐมวเย ปติฎฺฐิโตสีติ อโตฺถฯ ‘‘โหสี’’ติเยว วา ปาโฐฯ ยถา กฬีโรติ ยถา สินิทฺธฉวิตรุณกฬีโร มนฺทวาเตริโต อติวิย โสภติ, เอวรูโปสิ ตฺวนฺติ ทเสฺสติฯ ‘‘ปฐมุคฺคโต โหตี’’ติปิ ปาโฐ, ตสฺสโตฺถ – ยถา ปฐมุคฺคโต ตรุณกฬีโร ทสฺสนีโย โหติ, เอวํ ตฺวมฺปิ ทสฺสนีโยติฯ มมญฺจ ปสฺสาติ มมญฺจ โอโลเกหิ, มา มํ อนาถํ วิธวํ กโรหีติ อโตฺถฯ กาลิกนฺติ พฺรหฺมจริยจรณํ นาม ทุติเย วา ตติเย วา อตฺตภาเว วิปากทานโต กาลิกํ นาม, รชฺชํ ปน อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเว กามคุณสุขุปฺปาทนโต อกาลิกํ, โส ตฺวํ อิมํ อกาลิกํ ปหาย มา กาลิกํ อนุธาวีติ วทติฯ

    Tattha mameva sīsanti mameva sīse sañjātaṃ palitanti dīpeti. Itaraṃ tasseva vevacanaṃ. Atthanti attano vuḍḍhiṃ karissāmīti musā kathesiṃ. Ekāparādhanti. Imaṃ mayhaṃ ekaṃ aparādhaṃ. Paṭhamuggatoti paṭhamavayena uggato. Hohīti hosi, paṭhamavaye patiṭṭhitosīti attho. ‘‘Hosī’’tiyeva vā pāṭho. Yathā kaḷīroti yathā siniddhachavitaruṇakaḷīro mandavāterito ativiya sobhati, evarūposi tvanti dasseti. ‘‘Paṭhamuggato hotī’’tipi pāṭho, tassattho – yathā paṭhamuggato taruṇakaḷīro dassanīyo hoti, evaṃ tvampi dassanīyoti. Mamañca passāti mamañca olokehi, mā maṃ anāthaṃ vidhavaṃ karohīti attho. Kālikanti brahmacariyacaraṇaṃ nāma dutiye vā tatiye vā attabhāve vipākadānato kālikaṃ nāma, rajjaṃ pana imasmiṃyeva attabhāve kāmaguṇasukhuppādanato akālikaṃ, so tvaṃ imaṃ akālikaṃ pahāya mā kālikaṃ anudhāvīti vadati.

    โพธิสโตฺต ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ภเทฺท, ตฺวํ ภวิตพฺพเมเวตํ กถํ กเถสิ, ปริณมเนฺต หิ มม วเย อิเมหิ กาฬเกเสหิ ปริวเตฺตตฺวา สาณวากสทิเสหิ ปณฺฑเรหิ ภวิตพฺพํฯ อหญฺหิ นีลุปฺปลาทิกุสุมทามสทิสกุมารานํ กญฺจนรูปปฎิภาคานํ อุตฺตมโยพฺพนวิลาสสมฺปตฺตานํ ขตฺติยกญฺญาทีนํ วเย ปริณมเนฺต ชรํ ปตฺตานํ เววณฺณิยเญฺจว สรีรภงฺคญฺจ ปสฺสามิฯ เอวํ วิปตฺติปริโยสาโนเวส ภเทฺท, ชีวโลโก’’ติ วตฺวา อุปริ พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสโนฺต คาถาทฺวยมาห –

    Bodhisatto tassā vacanaṃ sutvā ‘‘bhadde, tvaṃ bhavitabbamevetaṃ kathaṃ kathesi, pariṇamante hi mama vaye imehi kāḷakesehi parivattetvā sāṇavākasadisehi paṇḍarehi bhavitabbaṃ. Ahañhi nīluppalādikusumadāmasadisakumārānaṃ kañcanarūpapaṭibhāgānaṃ uttamayobbanavilāsasampattānaṃ khattiyakaññādīnaṃ vaye pariṇamante jaraṃ pattānaṃ vevaṇṇiyañceva sarīrabhaṅgañca passāmi. Evaṃ vipattipariyosānovesa bhadde, jīvaloko’’ti vatvā upari buddhalīḷāya dhammaṃ desento gāthādvayamāha –

    ๑๑๗.

    117.

    ‘‘ปสฺสามิ โวหํ ทหริํ กุมาริํ, สามฎฺฐปสฺสํ สุตนุํ สุมชฺฌํ;

    ‘‘Passāmi vohaṃ dahariṃ kumāriṃ, sāmaṭṭhapassaṃ sutanuṃ sumajjhaṃ;

    กาฬปฺปวาฬาว ปเวลฺลมานา, ปโลภยนฺตีว นเรสุ คจฺฉติฯ

    Kāḷappavāḷāva pavellamānā, palobhayantīva naresu gacchati.

    ๑๑๘.

    118.

    ‘‘ตเมน ปสฺสามิปเรน นาริํ, อาสีติกํ นาวุติกํว ชจฺจา;

    ‘‘Tamena passāmiparena nāriṃ, āsītikaṃ nāvutikaṃva jaccā;

    ทณฺฑํ คเหตฺวาน ปเวธมานํ, โคปานสีโภคฺคสมํ จรนฺติ’’นฺติฯ

    Daṇḍaṃ gahetvāna pavedhamānaṃ, gopānasībhoggasamaṃ caranti’’nti.

    ตตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํฯ สามฎฺฐปสฺสนฺติ สมฺมฎฺฐปสฺสํฯ อยเมว วา ปาโฐ, สพฺพปเสฺสสุ มฎฺฐฉวิวณฺณนฺติ อโตฺถฯ สุตนุนฺติ สุนฺทรสรีรํฯ สุมชฺฌนฺติ สุสณฺฐิตมชฺฌํฯ กาฬปฺปวาฬาว ปเวลฺลมานาติ ยถา นาม ตรุณกาเล สุสมุคฺคตา กาฬวลฺลี ปวาฬา วา หุตฺวา มนฺทวาเตริตา อิโต จิโต จ ปเวลฺลติ, เอวํ ปเวลฺลมานา อิตฺถิวิลาสํ ทสฺสยมานา กุมาริกา ปโลภยนฺตีว นเรสุ คจฺฉติฯ สมีปเตฺถ ภุมฺมวจนํ, ปุริสานํ สนฺติเก เต ปุริเส กิเลสวเสน ปโลภยนฺตี วิย คจฺฉติฯ

    Tattha voti nipātamattaṃ. Sāmaṭṭhapassanti sammaṭṭhapassaṃ. Ayameva vā pāṭho, sabbapassesu maṭṭhachavivaṇṇanti attho. Sutanunti sundarasarīraṃ. Sumajjhanti susaṇṭhitamajjhaṃ. Kāḷappavāḷāva pavellamānāti yathā nāma taruṇakāle susamuggatā kāḷavallī pavāḷā vā hutvā mandavāteritā ito cito ca pavellati, evaṃ pavellamānā itthivilāsaṃ dassayamānā kumārikā palobhayantīva naresu gacchati. Samīpatthe bhummavacanaṃ, purisānaṃ santike te purise kilesavasena palobhayantī viya gacchati.

    ตเมน ปสฺสามิปเรน นารินฺติ ตเมนํ นาริํ อปเรน สมเยน ชรํ ปตฺตํ อนฺตรหิตรูปโสภคฺคปฺปตฺตํ ปสฺสามิฯ โพธิสโตฺต หิ ปฐมคาถาย รูเป อสฺสาทํ กเถตฺวา อิทานิ อาทีนวํ ทเสฺสโนฺต เอวมาหฯ อาสีติกํ นาวุติกํว ชจฺจาติ อสีติสํวจฺฉรํ วา นวุติสํวจฺฉรํ วา ชาติยาฯ โคปานสีโภคฺคสมนฺติ โคปานสีสมํ โภคฺคํ, โคปานสีอากาเรน ภคฺคสรีรํ โอนมิตฺวา นฎฺฐกากณิกํ ปริเยสนฺติํ วิย จรมานนฺติ อโตฺถฯ กามญฺจ โพธิสเตฺตน ทหรกาเล ทิสฺวา ปุน นาวุติกกาเล ทิฎฺฐปุพฺพา นาม นตฺถิ, ญาเณน ทิฎฺฐภาวํ สนฺธาย ปเนตํ วุตฺตํฯ

    Tamena passāmiparena nārinti tamenaṃ nāriṃ aparena samayena jaraṃ pattaṃ antarahitarūpasobhaggappattaṃ passāmi. Bodhisatto hi paṭhamagāthāya rūpe assādaṃ kathetvā idāni ādīnavaṃ dassento evamāha. Āsītikaṃ nāvutikaṃva jaccāti asītisaṃvaccharaṃ vā navutisaṃvaccharaṃ vā jātiyā. Gopānasībhoggasamanti gopānasīsamaṃ bhoggaṃ, gopānasīākārena bhaggasarīraṃ onamitvā naṭṭhakākaṇikaṃ pariyesantiṃ viya caramānanti attho. Kāmañca bodhisattena daharakāle disvā puna nāvutikakāle diṭṭhapubbā nāma natthi, ñāṇena diṭṭhabhāvaṃ sandhāya panetaṃ vuttaṃ.

    อิติ มหาสโตฺต อิมาย คาถาย รูปสฺส อาทีนวํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ อคารมเชฺฌ อตฺตโน อนภิรติํ ปกาเสโนฺต คาถาทฺวยมาห –

    Iti mahāsatto imāya gāthāya rūpassa ādīnavaṃ dassetvā idāni agāramajjhe attano anabhiratiṃ pakāsento gāthādvayamāha –

    ๑๑๙.

    119.

    ‘‘โสหํ ตเมวานุวิจินฺตยโนฺต, เอโก สยามิ สยนสฺส มเชฺฌ;

    ‘‘Sohaṃ tamevānuvicintayanto, eko sayāmi sayanassa majjhe;

    ‘อหมฺปิ เอวํ’ อิติ เปกฺขมาโน, น คเห รเม พฺรหฺมจริยสฺส กาโลฯ

    ‘Ahampi evaṃ’ iti pekkhamāno, na gahe rame brahmacariyassa kālo.

    ๑๒๐.

    120.

    ‘‘รชฺชุวาลมฺพนี เจสา, ยา เคเห วสโต รติ;

    ‘‘Rajjuvālambanī cesā, yā gehe vasato rati;

    เอตมฺปิ เฉตฺวาน วชนฺติ ธีรา, อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหายา’’ติฯ

    Etampi chetvāna vajanti dhīrā, anapekkhino kāmasukhaṃ pahāyā’’ti.

    ตตฺถ โสหนฺติ โส อหํฯ ตเมวานุวิจินฺตยโนฺตติ ตเมว รูปานํ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ จิเนฺตโนฺตฯ เอวํ อิติ เปกฺขมาโนติ ‘‘ยถา เอสา ปริณตา, อหมฺปิ ชรํ ปโตฺต ภคฺคสรีโร ภวิสฺสามี’’ติ เปกฺขมาโนฯ น คเห รเมติ เคเห น รมามิฯ พฺรหฺมจริยสฺส กาโลติ ภเทฺท, พฺรหฺมจริยสฺส เม กาโล, ตสฺมา ปพฺพชิสฺสามีติ ทีเปติฯ

    Tattha sohanti so ahaṃ. Tamevānuvicintayantoti tameva rūpānaṃ assādañca ādīnavañca cintento. Evaṃ iti pekkhamānoti ‘‘yathā esā pariṇatā, ahampi jaraṃ patto bhaggasarīro bhavissāmī’’ti pekkhamāno. Na gahe rameti gehe na ramāmi. Brahmacariyassa kāloti bhadde, brahmacariyassa me kālo, tasmā pabbajissāmīti dīpeti.

    รชฺชุวาลมฺพนี เจสาติ จ-กาโร นิปาตมโตฺต, อาลมฺพนรชฺชุ วิย เอสาติ อโตฺถฯ กตรา? ยา เคเห วสโต รติ, ยา เคเห วสนฺตสฺส รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ กามรตีติ อโตฺถฯ อิมินา กามานํ อปฺปสฺสาทตํ ทเสฺสติฯ อยํ เอตฺถาธิปฺปาโย – ยถา คิลานสฺส มนุสฺสสฺส อตฺตโน พเลน ปริวตฺติตุํ อสโกฺกนฺตสฺส ‘‘อิมํ อาลมฺพิตฺวา ปริวเตฺตยฺยาสี’’ติ อาลมฺพนรชฺชุํ พเนฺธยฺยุํ, ตสฺส ตํ อาลมฺพิตฺวา ปริวตฺตนฺตสฺส อปฺปมตฺตกํ กายิกเจตสิกสุขํ ภเวยฺย, เอวํ กิเลสาตุรานํ สตฺตานํ วิเวกสุขวเสน ปริวตฺติตุํ อสโกฺกนฺตานํ อคารมเชฺฌ ฐปิตานิ กามรติทายกานิ รูปาทีนิ อารมฺมณานิ เตสํ กิเลสปริฬาหกาเล เมถุนธมฺมปฎิเสวนวเสน ตานิ อารพฺภ ปริวตฺตมานานํ กายิกเจตสิกสุขสงฺขาตา กามรติ นาม ตํ มุหุตฺตํ อุปฺปชฺชมานา อปฺปมตฺติกา โหติ, เอวํ อปฺปสฺสาทา กามาติฯ เอตมฺปิ เฉตฺวานาติ ยสฺมา ปน พหุทุกฺขา กามา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิโยฺย, ตสฺมา ตํ อาทีนวํ สมฺปสฺสมานา ปณฺฑิตา เอตมฺปิ รชฺชุํ เฉตฺวา คูถกูเป นิมุคฺคปุริโส ตํ ปชหโนฺต วิย อนเปกฺขิโน เอตํ อปฺปมตฺตกํ พหุทุกฺขํ กามสุขํ ปหาย วชนฺติ, นิกฺขมิตฺวา มโนรมํ ปพฺพชฺชํ ปพฺพชนฺตีติฯ

    Rajjuvālambanī cesāti ca-kāro nipātamatto, ālambanarajju viya esāti attho. Katarā? Yā gehe vasato rati, yā gehe vasantassa rūpādīsu ārammaṇesu kāmaratīti attho. Iminā kāmānaṃ appassādataṃ dasseti. Ayaṃ etthādhippāyo – yathā gilānassa manussassa attano balena parivattituṃ asakkontassa ‘‘imaṃ ālambitvā parivatteyyāsī’’ti ālambanarajjuṃ bandheyyuṃ, tassa taṃ ālambitvā parivattantassa appamattakaṃ kāyikacetasikasukhaṃ bhaveyya, evaṃ kilesāturānaṃ sattānaṃ vivekasukhavasena parivattituṃ asakkontānaṃ agāramajjhe ṭhapitāni kāmaratidāyakāni rūpādīni ārammaṇāni tesaṃ kilesapariḷāhakāle methunadhammapaṭisevanavasena tāni ārabbha parivattamānānaṃ kāyikacetasikasukhasaṅkhātā kāmarati nāma taṃ muhuttaṃ uppajjamānā appamattikā hoti, evaṃ appassādā kāmāti. Etampi chetvānāti yasmā pana bahudukkhā kāmā bahupāyāsā, ādīnavo ettha bhiyyo, tasmā taṃ ādīnavaṃ sampassamānā paṇḍitā etampi rajjuṃ chetvā gūthakūpe nimuggapuriso taṃ pajahanto viya anapekkhino etaṃ appamattakaṃ bahudukkhaṃ kāmasukhaṃ pahāya vajanti, nikkhamitvā manoramaṃ pabbajjaṃ pabbajantīti.

    เอวํ มหาสโตฺต กาเมสุ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ ทเสฺสโนฺต พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสตฺวา สหายํ ปโกฺกสาเปตฺวา รชฺชํ ปฎิจฺฉาเปตฺวา ญาติมิตฺตสุหชฺชานํ โรทนฺตานํ ปริเทวนฺตานเมว สิริวิภวํ ฉเฑฺฑตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิญฺญํ นิพฺพเตฺตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิฯ

    Evaṃ mahāsatto kāmesu assādañca ādīnavañca dassento buddhalīḷāya dhammaṃ desetvā sahāyaṃ pakkosāpetvā rajjaṃ paṭicchāpetvā ñātimittasuhajjānaṃ rodantānaṃ paridevantānameva sirivibhavaṃ chaḍḍetvā himavantaṃ pavisitvā isipabbajjaṃ pabbajitvā jhānābhiññaṃ nibbattetvā brahmalokaparāyaṇo ahosi.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา พหู ชเน อมตปานํ ปาเยตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อคฺคมเหสี ราหุลมาตา อโหสิ, สหายราชา อานโนฺท, สุสีมราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā bahū jane amatapānaṃ pāyetvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā aggamahesī rāhulamātā ahosi, sahāyarājā ānando, susīmarājā pana ahameva ahosi’’nti.

    สุสีมชาตกวณฺณนา ฉฎฺฐาฯ

    Susīmajātakavaṇṇanā chaṭṭhā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๔๑๑. สุสีมชาตกํ • 411. Susīmajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact