Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๙. สุสิมสุตฺตวณฺณนา

    9. Susimasuttavaṇṇanā

    ๑๑๐. ตุยฺหมฺปิ โนติ ตุยฺหมฺปิ นุ, นุ-สโทฺท ปุจฺฉายํ, ตสฺมา วณฺณํ กเถตุกาโม ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาโยฯ น วฎฺฎตีติ น ยุชฺชติ, กถิโตติ กเถตุํ อารโทฺธ, เตนาห ‘‘มตฺถกํ น ปาปุณาตี’’ติฯ ตเมว มตฺถกาปาปุณนํ ทเสฺสตุํ ‘‘โส หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สติสมฺปชญฺญาโยคโต โครูปสีโล, มูโฬฺห ขลิตปโญฺญ, โครูปสฺส วิย สีลํ เอตสฺสาติ หิ โครูปสีโลฯ สภาโค เอกรูปจิตฺตตายฯ อริยานํ สภาคตา นาม คุณวนฺตวเสนาติ อาห ‘‘อญฺญมญฺญสฺส คุเณสุ ปสีทิตฺวา’’ติฯ โสฬสวิธํ ปญฺญนฺติ มหาปญฺญาทิกา ฉ, นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติปญฺญา, อาสวกฺขยปญฺญาติ อิมํ โสฬสวิธํ ปญฺญํฯ เตสฎฺฐิ สาวกสาธารณญาณานิปิ เอเตฺถว สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉนฺติฯ

    110.Tuyhampinoti tuyhampi nu, nu-saddo pucchāyaṃ, tasmā vaṇṇaṃ kathetukāmo pucchatīti adhippāyo. Na vaṭṭatīti na yujjati, kathitoti kathetuṃ āraddho, tenāha ‘‘matthakaṃ na pāpuṇātī’’ti. Tameva matthakāpāpuṇanaṃ dassetuṃ ‘‘so hī’’tiādi vuttaṃ. Satisampajaññāyogato gorūpasīlo, mūḷho khalitapañño, gorūpassa viya sīlaṃ etassāti hi gorūpasīlo. Sabhāgo ekarūpacittatāya. Ariyānaṃ sabhāgatā nāma guṇavantavasenāti āha ‘‘aññamaññassa guṇesu pasīditvā’’ti. Soḷasavidhaṃ paññanti mahāpaññādikā cha, nava anupubbavihārasamāpattipaññā, āsavakkhayapaññāti imaṃ soḷasavidhaṃ paññaṃ. Tesaṭṭhi sāvakasādhāraṇañāṇānipi ettheva saṅgahaṃ samosaraṇaṃ gacchanti.

    อานนฺทาติ เถรํ อาหฯ อาจาโรติ จาริตฺตสีลมาหฯ โคจโรติ โคจรสมฺปตฺติฯ วิหาโรติ สมาปตฺติวิหาโรฯ อภิกฺกโมติอาทินา อิริยาปถวิหารํฯ ตุยฺหมฺปีติ ปิ-สเทฺทน ภควตา อตฺตานํ อาทิํ กตฺวา ตทเญฺญสํ วิญฺญูนํ สเพฺพสํ เถรสฺส รุจฺจนสภาโว ทีปิโตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘มยฺหํ รุจฺจตี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ สติปิ อานนฺทเตฺถรสฺสปิ อสีติยา มหาเถรานํ อโนฺตคธภาเว ‘‘อสีติยา มหาเถรานํ รุจฺจตี’’ติ วตฺวา ‘‘ตุยฺหมฺปิ รุจฺจตี’’ติ วจนํ เตน ธมฺมเสนาปติโน วณฺณํ กถาเปตุกามตายาติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Ānandāti theraṃ āha. Ācāroti cārittasīlamāha. Gocaroti gocarasampatti. Vihāroti samāpattivihāro. Abhikkamotiādinā iriyāpathavihāraṃ. Tuyhampīti pi-saddena bhagavatā attānaṃ ādiṃ katvā tadaññesaṃ viññūnaṃ sabbesaṃ therassa ruccanasabhāvo dīpitoti dassento ‘‘mayhaṃ ruccatī’’tiādimāha. Tattha satipi ānandattherassapi asītiyā mahātherānaṃ antogadhabhāve ‘‘asītiyā mahātherānaṃ ruccatī’’ti vatvā ‘‘tuyhampi ruccatī’’ti vacanaṃ tena dhammasenāpatino vaṇṇaṃ kathāpetukāmatāyāti daṭṭhabbaṃ.

    สาฎกนฺตเรติ นิวตฺถวตฺถนฺตเรฯ ลโทฺธกาโสติ นิพฺพุทฺธํ กโรโนฺต สาฎกนฺตเร ลทฺธํ คเหตุํ ลทฺธาวสโรฯ ลภิสฺสามิโนติ ลภิสฺสามิ วตฯ ทีปธชภูตนฺติ สตโยชนวิตฺถิณฺณํ ชมฺพุทีปสฺส ธชภูตํฯ ปุคฺคลปลาเปติ อโนฺตสาราภาวโต ปลาปภูเต ปุคฺคเล หรโนฺตฯ พาลตายาติ รุจิขนฺติอาทิอภาวตายฯ โทสตายาติ ทุสฺสกภาเวนฯ โมเหนาติ มหามูฬฺหตายฯ เกจิ ปน ‘‘พาโล พาลตายาติ มูฬฺหตาย ปกติพาลภาเวน น ชานาติฯ มูโฬฺห โมเหนาติ สยํ อพาโล สมาโนปิ ยทา โมเหน ปริยุฎฺฐิโต โหติ, ตทา โมเหน น ชานาติ, อยํ ปททฺวยสฺส วิเสโส’’ติ วทนฺติฯ วิปลฺลตฺถจิโตฺตติ ยกฺขุมฺมาเทน ปิตฺตุมฺมาเทน วา วิปรีตจิโตฺตฯ

    Sāṭakantareti nivatthavatthantare. Laddhokāsoti nibbuddhaṃ karonto sāṭakantare laddhaṃ gahetuṃ laddhāvasaro. Labhissāminoti labhissāmi vata. Dīpadhajabhūtanti satayojanavitthiṇṇaṃ jambudīpassa dhajabhūtaṃ. Puggalapalāpeti antosārābhāvato palāpabhūte puggale haranto. Bālatāyāti rucikhantiādiabhāvatāya. Dosatāyāti dussakabhāvena. Mohenāti mahāmūḷhatāya. Keci pana ‘‘bālo bālatāyāti mūḷhatāya pakatibālabhāvena na jānāti. Mūḷho mohenāti sayaṃ abālo samānopi yadā mohena pariyuṭṭhito hoti, tadā mohena na jānāti, ayaṃ padadvayassa viseso’’ti vadanti. Vipallatthacittoti yakkhummādena pittummādena vā viparītacitto.

    ‘‘จตูสุ โกสเลฺลสู’’ติ วุตฺตํ จตุพฺพิธํ โกสลฺลํ ปาฬิยา เอว ทเสฺสตุํ ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ โย อฎฺฐารส ธาตุโย สมุทยโต อตฺถงฺคมโต อสฺสาทโต อาทีนวโต นิสฺสรณโต จ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ธาตุกุสโลฯ วุตฺตนเยน อายตเนสุ กุสโล อายตนกุสโลฯ อวิชฺชาทีสุ ทฺวาทสปฎิจฺจสมุปฺปาทเงฺคสุ กุสโล ปฎิจฺจสมุปฺปาทกุสโลฯ ‘‘อิทํ อิมสฺส ผลสฺส ฐานํ การณํ, อิทํ อฎฺฐานํ อการณ’’นฺติ เอวํ ฐานญฺจ ฐานโต, อฎฺฐานญฺจ อฎฺฐานโต ยถาภูตํ ปชานโต ฐานาฎฺฐานกุสโลฯ โย ปน อิเมสุ ธาตุอาทีสุ ปริญฺญาภิสมยาทิวเสน นิสฺสงฺคคติยา ปณฺฑาติ ลทฺธนาเมน ญาเณน อิโต คโต ปวโตฺต, อยํ ปณฺฑิโต นามฯ

    ‘‘Catūsukosallesū’’ti vuttaṃ catubbidhaṃ kosallaṃ pāḷiyā eva dassetuṃ ‘‘vuttaṃ heta’’ntiādi vuttaṃ. Tattha yo aṭṭhārasa dhātuyo samudayato atthaṅgamato assādato ādīnavato nissaraṇato ca yathābhūtaṃ pajānāti, ayaṃ dhātukusalo. Vuttanayena āyatanesu kusalo āyatanakusalo. Avijjādīsu dvādasapaṭiccasamuppādaṅgesu kusalo paṭiccasamuppādakusalo. ‘‘Idaṃ imassa phalassa ṭhānaṃ kāraṇaṃ, idaṃ aṭṭhānaṃ akāraṇa’’nti evaṃ ṭhānañca ṭhānato, aṭṭhānañca aṭṭhānato yathābhūtaṃ pajānato ṭhānāṭṭhānakusalo. Yo pana imesu dhātuādīsu pariññābhisamayādivasena nissaṅgagatiyā paṇḍāti laddhanāmena ñāṇena ito gato pavatto, ayaṃ paṇḍito nāma.

    มหนฺตานํ อตฺถานํ ปริคฺคณฺหนโต มหตี ปญฺญา เอตสฺสาติ มหาปโญฺญฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยติ อาห ‘‘มหาปญฺญาทีหิ สมนฺนาคโตติ อโตฺถ’’ติฯ นานตฺตนฺติ ยาหิ มหาปญฺญาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา เถโร ‘‘มหาปโญฺญ’’ติอาทินา กิตฺติโต, ตาสํ มหาปญฺญาทีนํ อิทํ นานตฺตํ อยํ เวมตฺตตาฯ ยสฺส กสฺสจิ วิเสสโต อรูปธมฺมสฺส มหตฺตํ นาม กิจฺจสิทฺธิยา เวทิตพฺพนฺติ ตทสฺส กิจฺจสิทฺธิยา ทเสฺสโนฺต ‘‘มหเนฺต สีลกฺขเนฺธ ปริคฺคณฺหาตี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ เหตุมหนฺตตาย ปจฺจยมหนฺตตาย นิสฺสยมหนฺตตาย ปเภทมหนฺตตาย กิจฺจมหนฺตตาย ผลมหนฺตตาย อานิสํสมหนฺตตาย จ สีลกฺขนฺธสฺส มหนฺตภาโว เวทิตโพฺพฯ ตตฺถ เหตู อโลภาทโยฯ ปจฺจยา หิโรตฺตปฺปสทฺธาสติวีริยาทโยฯ นิสฺสยา สาวกโพธิปเจฺจกโพธิสมฺมาสโมฺพธินิยตตา, ตํสมงฺคิโน จ ปุริสวิเสสาฯ ปเภโท จาริตฺตาทิวิภาโคฯ กิจฺจํ ตทงฺคาทิวเสน ปฎิปกฺขสฺส วิธมนํฯ ผลํ สคฺคสมฺปทา นิพฺพานสมฺปทา จฯ อานิสํโส ปิยมนาปตาทิฯ อยเมตฺถ สเงฺขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๘-๙) อากเงฺขยฺยสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๑.๖๔ อาทโย) จ อาคตนเยน เวทิตโพฺพฯ อิมินา นเยน สมาธิกฺขนฺธาทีนมฺปิ มหนฺตตา ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา เวทิตพฺพาฯ ฐานาฎฺฐานาทีนํ ปน มหนฺตภาโว มหาวิสยตาย เวทิตโพฺพฯ ตตฺถ ฐานาฎฺฐานานํ มหาวิสยตา พหุธาตุกสุตฺตาทีสุ อาคตนเยน, วิหารสมาปตฺตีนํ สมาธิกฺขเนฺธ นิทฺธาริตนเยน เวทิตพฺพาฯ อริยสจฺจานํ สกลสาสนสงฺคณฺหนโต สจฺจวิภเงฺค (วิภ. ๑๘๙ อาทโย) ตํสํวณฺณนาสุ (วิภ. อฎฺฐ. ๑๘๙ อาทโย) อาคตนเยน; สติปฎฺฐานาทีนํ สติปฎฺฐานวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๓๕๕ อาทโย) ตํสํวณฺณนาทีสุ (วิภ. อฎฺฐ. ๓๕๕ อาทโย) จ อาคตนเยน; สามญฺญผลานํ มหโต หิตสฺส มหโต สุขสฺส มหโต อตฺถสฺส มหโต โยคเกฺขมสฺส นิปฺผตฺติภาวโต สนฺตปณีตนิปุณอตกฺกาวจรปณฺฑิตเวทนียภาวโต จ; อภิญฺญานํ มหาสมฺภารโต มหาวิสยโต มหากิจฺจโต มหานุภาวโต มหานิปฺผตฺติโต จ; นิพฺพานสฺส มทนิมฺมทนาทิมหตฺถสิทฺธิโต มหนฺตตา เวทิตพฺพาฯ ปริคฺคณฺหาตีติ สภาวาทิโต ปริจฺฉิชฺช คณฺหาติ ชานาติ ปฎิวิชฺฌตีติ อโตฺถฯ สา ปนาติ มหาปญฺญตาฯ

    Mahantānaṃ atthānaṃ pariggaṇhanato mahatī paññā etassāti mahāpañño. Sesapadesupi eseva nayoti āha ‘‘mahāpaññādīhi samannāgatoti attho’’ti. Nānattanti yāhi mahāpaññādīhi samannāgatattā thero ‘‘mahāpañño’’tiādinā kittito, tāsaṃ mahāpaññādīnaṃ idaṃ nānattaṃ ayaṃ vemattatā. Yassa kassaci visesato arūpadhammassa mahattaṃ nāma kiccasiddhiyā veditabbanti tadassa kiccasiddhiyā dassento ‘‘mahante sīlakkhandhe pariggaṇhātī’’tiādimāha. Tattha hetumahantatāya paccayamahantatāya nissayamahantatāya pabhedamahantatāya kiccamahantatāya phalamahantatāya ānisaṃsamahantatāya ca sīlakkhandhassa mahantabhāvo veditabbo. Tattha hetū alobhādayo. Paccayā hirottappasaddhāsativīriyādayo. Nissayā sāvakabodhipaccekabodhisammāsambodhiniyatatā, taṃsamaṅgino ca purisavisesā. Pabhedo cārittādivibhāgo. Kiccaṃ tadaṅgādivasena paṭipakkhassa vidhamanaṃ. Phalaṃ saggasampadā nibbānasampadā ca. Ānisaṃso piyamanāpatādi. Ayamettha saṅkhepo, vitthāro pana visuddhimagge (visuddhi. 1.8-9) ākaṅkheyyasuttādīsu (ma. ni. 1.64 ādayo) ca āgatanayena veditabbo. Iminā nayena samādhikkhandhādīnampi mahantatā yathārahaṃ niddhāretvā veditabbā. Ṭhānāṭṭhānādīnaṃ pana mahantabhāvo mahāvisayatāya veditabbo. Tattha ṭhānāṭṭhānānaṃ mahāvisayatā bahudhātukasuttādīsu āgatanayena, vihārasamāpattīnaṃ samādhikkhandhe niddhāritanayena veditabbā. Ariyasaccānaṃ sakalasāsanasaṅgaṇhanato saccavibhaṅge (vibha. 189 ādayo) taṃsaṃvaṇṇanāsu (vibha. aṭṭha. 189 ādayo) āgatanayena; satipaṭṭhānādīnaṃ satipaṭṭhānavibhaṅgādīsu (vibha. 355 ādayo) taṃsaṃvaṇṇanādīsu (vibha. aṭṭha. 355 ādayo) ca āgatanayena; sāmaññaphalānaṃ mahato hitassa mahato sukhassa mahato atthassa mahato yogakkhemassa nipphattibhāvato santapaṇītanipuṇaatakkāvacarapaṇḍitavedanīyabhāvato ca; abhiññānaṃ mahāsambhārato mahāvisayato mahākiccato mahānubhāvato mahānipphattito ca; nibbānassa madanimmadanādimahatthasiddhito mahantatā veditabbā. Pariggaṇhātīti sabhāvādito paricchijja gaṇhāti jānāti paṭivijjhatīti attho. Sā panāti mahāpaññatā.

    ปุถุปญฺญาติ เอตฺถ นานาขเนฺธสุ ญาณํ ปวตฺตตีติ อยํ รูปกฺขโนฺธ นาม…เป.… อยํ วิญฺญาณกฺขโนฺธ นามาติ เอวํ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ นานากรณํ ปฎิจฺจ ญาณํ ปวตฺตติฯ เตสุ เอกวิเธน รูปกฺขโนฺธ, เอกาทสวิเธน รูปกฺขโนฺธ, เอกวิเธน เวทนากฺขโนฺธ, พหุวิเธน เวทนากฺขโนฺธ, เอกวิเธน สญฺญากฺขโนฺธ, สงฺขารกฺขโนฺธ, วิญฺญาณกฺขโนฺธติ เอวํ เอเกกสฺส ขนฺธสฺส เอกวิธาทิวเสน อตีตาทิวเสนปิ นานากรณํ ปฎิจฺจ ญาณํ ปวตฺตติฯ ตถา อิทํ จกฺขายตนํ นาม…เป.… อิทํ ธมฺมายตนํ นามํฯ ตตฺถ ทสายตนา กามาวจรา, เทฺว จตุภูมกาติ เอวํ อายตนานํ นานากรณํ ปฎิจฺจ ญาณํ ปวตฺตติฯ นานาธาตูสูติ อยํ จกฺขุธาตุ นาม…เป.… อยํ มโนวิญฺญาณธาตุ นามฯ ตตฺถ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, เทฺว จตุภูมกาติ เอวํ ธาตุนานากรณํ ปฎิจฺจ ญาณํ ปวตฺตติ, ตํ อุปาทิณฺณธาตุวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ ปเจฺจกพุทฺธานญฺหิ ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานญฺจ อุปาทิณฺณธาตูสุ เอว นานากรณํ ปฎิจฺจ ญาณํ ปวตฺตติฯ ตญฺจ โข เอกเทสมตฺตโต, น นิปฺปเทสโต, อนุปาทิณฺณกธาตูนํ ปน นานากรณํ น ชานนฺติ เอวฯ อิตรสาวเกสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, สพฺพญฺญุพุทฺธานํเยว ปน อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนตฺตาว อิมสฺส รุกฺขสฺส ขโนฺธ เสโต โหติ, อิมสฺส กาโฬ, อิมสฺส มโฎฺฐ, อิมสฺส พหลตฺตโจ, อิมสฺส ตนุตฺตโจ, อิมสฺส ปตฺตํ วณฺณสณฺฐานาทิวเสน เอวรูปํ; อิมสฺส ปุปฺผํ นีลํ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตํ, สุคนฺธํ ทุคฺคนฺธํ; ผลํ ขุทฺทกํ มหนฺตํ ทีฆํ วฎฺฎํ สุสณฺฐานํ มฎฺฐํ ผรุสํ สุคนฺธํ มธุรํ ติตฺตกํ อมฺพิลํ กฎุกํ กสาวํ; กณฺฎโก ติขิโณ อติขิโณ อุชุโก กุฎิโล ตโมฺพ โลหิโต โอทาโต โหตีติ ธาตุนานตฺตํ ปฎิจฺจ ญาณํ ปวตฺตติฯ

    Puthupaññāti ettha nānākhandhesu ñāṇaṃ pavattatīti ayaṃ rūpakkhandho nāma…pe… ayaṃ viññāṇakkhandho nāmāti evaṃ pañcannaṃ khandhānaṃ nānākaraṇaṃ paṭicca ñāṇaṃ pavattati. Tesu ekavidhena rūpakkhandho, ekādasavidhena rūpakkhandho, ekavidhena vedanākkhandho, bahuvidhena vedanākkhandho, ekavidhena saññākkhandho, saṅkhārakkhandho, viññāṇakkhandhoti evaṃ ekekassa khandhassa ekavidhādivasena atītādivasenapi nānākaraṇaṃ paṭicca ñāṇaṃ pavattati. Tathā idaṃ cakkhāyatanaṃ nāma…pe… idaṃ dhammāyatanaṃ nāmaṃ. Tattha dasāyatanā kāmāvacarā, dve catubhūmakāti evaṃ āyatanānaṃ nānākaraṇaṃ paṭicca ñāṇaṃ pavattati. Nānādhātūsūti ayaṃ cakkhudhātu nāma…pe… ayaṃ manoviññāṇadhātu nāma. Tattha soḷasa dhātuyo kāmāvacarā, dve catubhūmakāti evaṃ dhātunānākaraṇaṃ paṭicca ñāṇaṃ pavattati, taṃ upādiṇṇadhātuvasena vuttanti veditabbaṃ paccekabuddhānañhi dvinnaṃ aggasāvakānañca upādiṇṇadhātūsu eva nānākaraṇaṃ paṭicca ñāṇaṃ pavattati. Tañca kho ekadesamattato, na nippadesato, anupādiṇṇakadhātūnaṃ pana nānākaraṇaṃ na jānanti eva. Itarasāvakesu vattabbameva natthi, sabbaññubuddhānaṃyeva pana imāya nāma dhātuyā ussannattāva imassa rukkhassa khandho seto hoti, imassa kāḷo, imassa maṭṭho, imassa bahalattaco, imassa tanuttaco, imassa pattaṃ vaṇṇasaṇṭhānādivasena evarūpaṃ; imassa pupphaṃ nīlaṃ pītakaṃ lohitakaṃ odātaṃ, sugandhaṃ duggandhaṃ; phalaṃ khuddakaṃ mahantaṃ dīghaṃ vaṭṭaṃ susaṇṭhānaṃ maṭṭhaṃ pharusaṃ sugandhaṃ madhuraṃ tittakaṃ ambilaṃ kaṭukaṃ kasāvaṃ; kaṇṭako tikhiṇo atikhiṇo ujuko kuṭilo tambo lohito odāto hotīti dhātunānattaṃ paṭicca ñāṇaṃ pavattati.

    อเตฺถสูติ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุฯ นานาปฎิจฺจสมุปฺปาเทสูติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต จ สณฺฐานเภทโต จ นานปฺปเภเทสุ ปฎิจฺจสมุปฺปาทเงฺคสุฯ อวิชฺชาทิองฺคานญฺหิ ปเจฺจกํ ปฎิจฺจสมุปฺปาทสญฺญิตาติฯ เตนาห สงฺขารปิฎเก ‘‘ทฺวาทส ปจฺจยา ทฺวาทส ปฎิจฺจสมุปฺปาทา’’ติฯ นานาสุญฺญตมนุปลเพฺภสูติ นานาสภาเวสุ นิจฺจสาราทิวิรหโต สุญฺญสภาเวสุ, ตโต เอว อิตฺถิปุริสอตฺตอตฺตนิยาทิวเสน อนุปลเพฺภสุ สภาเวสุฯ ม-กาโร เหตฺถ ปทสนฺธิกโรฯ นานาอเตฺถสูติ อตฺถปฎิสมฺภิทาวิสเยสุ ปจฺจยุปฺปนฺนาทิเภเทสุ นานาวิเธสุ อเตฺถสุฯ ธเมฺมสูติ ธมฺมปฎิสมฺภิทาวิสเยสุ ปจฺจยาทินานาธเมฺมสุฯ นิรุตฺตีสูติ เตสํเยว อตฺถธมฺมานํ นิทฺธารณวจนสงฺขาตาสุ นิรุตฺตีสุฯ ปฎิภาเนสูติ อตฺถปฎิสมฺภิทาทีสุ วิสยภูเตสุ ‘‘อิมานิ อิทมตฺถโชตกานี’’ติ ตถา ตถา ปฎิภานโต ปติฎฺฐานโต ปฎิภานานีติ ลทฺธนาเมสุ ญาเณสุฯ ปุถุ นานาสีลกฺขเนฺธสูติอาทีสุ สีลสฺส ปุถุตฺตํ นานตฺตญฺจ วุตฺตเมวฯ อิตเรสํ ปน วุตฺตนยานุสาเรน สุวิเญฺญยฺยตฺตา ปากฎเมวฯ ยํ ปน อภินฺนํ เอกเมว นิพฺพานํ, ตตฺถ อุปจารวเสน ปุถุตฺตํ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปุถุ ชนสาธารเณ ธเมฺม สมติกฺกมฺมา’’ติฯ เตนสฺส อิธ มทนิมฺมทนาทิปริยาเยน ปุถุตฺตํ ทีปิตํ โหติฯ

    Atthesūti rūpādīsu ārammaṇesu. Nānāpaṭiccasamuppādesūti ajjhattabahiddhābhedato ca saṇṭhānabhedato ca nānappabhedesu paṭiccasamuppādaṅgesu. Avijjādiaṅgānañhi paccekaṃ paṭiccasamuppādasaññitāti. Tenāha saṅkhārapiṭake ‘‘dvādasa paccayā dvādasa paṭiccasamuppādā’’ti. Nānāsuññatamanupalabbhesūti nānāsabhāvesu niccasārādivirahato suññasabhāvesu, tato eva itthipurisaattaattaniyādivasena anupalabbhesu sabhāvesu. Ma-kāro hettha padasandhikaro. Nānāatthesūti atthapaṭisambhidāvisayesu paccayuppannādibhedesu nānāvidhesu atthesu. Dhammesūti dhammapaṭisambhidāvisayesu paccayādinānādhammesu. Niruttīsūti tesaṃyeva atthadhammānaṃ niddhāraṇavacanasaṅkhātāsu niruttīsu. Paṭibhānesūti atthapaṭisambhidādīsu visayabhūtesu ‘‘imāni idamatthajotakānī’’ti tathā tathā paṭibhānato patiṭṭhānato paṭibhānānīti laddhanāmesu ñāṇesu. Puthu nānāsīlakkhandhesūtiādīsu sīlassa puthuttaṃ nānattañca vuttameva. Itaresaṃ pana vuttanayānusārena suviññeyyattā pākaṭameva. Yaṃ pana abhinnaṃ ekameva nibbānaṃ, tattha upacāravasena puthuttaṃ gahetabbanti āha ‘‘puthu janasādhāraṇe dhamme samatikkammā’’ti. Tenassa idha madanimmadanādipariyāyena puthuttaṃ dīpitaṃ hoti.

    เอวํ วิสยวเสน ปญฺญาย มหตฺตํ ปุถุตฺตญฺจ ทเสฺสตฺวา อิทานิ สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน หาสภาวํ, ปวตฺติอาการวเสน ชวนภาวํ, กิจฺจวเสน ติกฺขาทิภาวญฺจ ทเสฺสตุํ ‘‘กตมา หาสปญฺญา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ หาสพหุโลติ ปีติพหุโลฯ เสสปทานิ ตสฺส เววจนานิฯ สีลํ ปริปูเรตีติ หฎฺฐปหโฎฺฐ อุทคฺคุทโคฺค หุตฺวา ปีติสหคตาย ปญฺญาย ปาติโมกฺขสีลํ ฐเปตฺวา หาสนียตรเสฺสว วิสุํ คหิตตฺตา อิตรํ ติวิธํ สีลํ ปริปูเรติฯ ปีติโสมนสฺสสหคตา หิ ปญฺญา อภิรติวเสน ตทารมฺมเณ ผุลฺลิตา วิกสิตา วิย วตฺตติ, น อุเปกฺขาสหคตาฯ สีลกฺขนฺธํ สมาธิกฺขนฺธนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ เถโรติอาทินา อภินีหารสิทฺธา เถรสฺส หาสปญฺญตาติ ทเสฺสติฯ

    Evaṃ visayavasena paññāya mahattaṃ puthuttañca dassetvā idāni sampayuttadhammavasena hāsabhāvaṃ, pavattiākāravasena javanabhāvaṃ, kiccavasena tikkhādibhāvañca dassetuṃ ‘‘katamā hāsapaññā’’tiādi vuttaṃ. Tattha hāsabahuloti pītibahulo. Sesapadāni tassa vevacanāni. Sīlaṃ paripūretīti haṭṭhapahaṭṭho udaggudaggo hutvā pītisahagatāya paññāya pātimokkhasīlaṃ ṭhapetvā hāsanīyatarasseva visuṃ gahitattā itaraṃ tividhaṃ sīlaṃ paripūreti. Pītisomanassasahagatā hi paññā abhirativasena tadārammaṇe phullitā vikasitā viya vattati, na upekkhāsahagatā. Sīlakkhandhaṃ samādhikkhandhantiādīsupi eseva nayo. Therotiādinā abhinīhārasiddhā therassa hāsapaññatāti dasseti.

    สพฺพํ รูปํ อนิจฺจลกฺขณโต ขิปฺปํ ชวตีติ รูปกฺขนฺธํ อนิจฺจนฺติ สีฆเวเคน ปวตฺติยา ปฎิปกฺขทูรีภาเวน ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส สาติสยตฺตา อิเนฺทน วิสฎฺฐวชิรํ วิย ลกฺขณํ ปฎิวิชฺฌนฺตี อทนฺธายนฺตี รูปกฺขเนฺธ อนิจฺจลกฺขณํ เวเคน ปฎิวิชฺฌติ, ตสฺมา สา ชวนปญฺญา นามาติ อโตฺถฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ เอวํ ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาวเสน ชวนปญฺญํ ทเสฺสตฺวา พลววิปสฺสนาวเสน ทเสฺสตุํ ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ขยเฎฺฐนาติ ยตฺถ ยตฺถ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ ตเตฺถว ขเณเนว ภิชฺชนโต ขยสภาวโตฯ ภยเฎฺฐนาติ ภยานกโตฯ อสารกเฎฺฐนาติ อตฺตสารวิรหโต นิจฺจสาราทิวิรหโต จฯ ตุลยิตฺวาติ ตุลาภูตาย วิปสฺสนาย ตุลยิตฺวาฯ ตีรยิตฺวาติ ตาย เอว ตีรณภูตาย ตีเรตฺวาฯ วิภาวยิตฺวาติ ยาถาวโต ปกาเสตฺวา ปญฺจกฺขนฺธํ วิภูตํ กตฺวา ปากฎํ กตฺวาฯ รูปนิโรเธติ รูปกฺขนฺธสฺส นิโรธภูเต นิพฺพาเน นินฺนโปณปพฺภารภาเวนฯ อิทานิ สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนาวเสน ชวนปญฺญํ ทเสฺสตุํ ปุน ‘‘รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ‘‘วุฎฺฐานคามินิวิปสฺสนาวเสนา’’ติ เกจิฯ

    Sabbaṃrūpaṃ aniccalakkhaṇato khippaṃ javatīti rūpakkhandhaṃ aniccanti sīghavegena pavattiyā paṭipakkhadūrībhāvena pubbābhisaṅkhārassa sātisayattā indena visaṭṭhavajiraṃ viya lakkhaṇaṃ paṭivijjhantī adandhāyantī rūpakkhandhe aniccalakkhaṇaṃ vegena paṭivijjhati, tasmā sā javanapaññā nāmāti attho. Sesapadesupi eseva nayo. Evaṃ lakkhaṇārammaṇikavipassanāvasena javanapaññaṃ dassetvā balavavipassanāvasena dassetuṃ ‘‘rūpa’’ntiādi vuttaṃ. Tattha khayaṭṭhenāti yattha yattha uppajjati, tattha tattheva khaṇeneva bhijjanato khayasabhāvato. Bhayaṭṭhenāti bhayānakato. Asārakaṭṭhenāti attasāravirahato niccasārādivirahato ca. Tulayitvāti tulābhūtāya vipassanāya tulayitvā. Tīrayitvāti tāya eva tīraṇabhūtāya tīretvā. Vibhāvayitvāti yāthāvato pakāsetvā pañcakkhandhaṃ vibhūtaṃ katvā pākaṭaṃ katvā. Rūpanirodheti rūpakkhandhassa nirodhabhūte nibbāne ninnapoṇapabbhārabhāvena. Idāni sikhāppattavipassanāvasena javanapaññaṃ dassetuṃ puna ‘‘rūpa’’ntiādi vuttaṃ. ‘‘Vuṭṭhānagāminivipassanāvasenā’’ti keci.

    ญาณติกฺขภาโว นาม สวิเสสํ ปฎิปกฺขสมุจฺฉินฺทเน เวทิตโพฺพติ ‘‘ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปโญฺญ’’ติ วตฺวา เต ปน กิเลเส วิภาเคน ทเสฺสโนฺต ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺก’’นฺติอาทิมาหฯ ติกฺขปโญฺญ ขิปฺปาภิโญฺญ โหติ, ปฎิปทา จสฺส น จลตีติ อาห ‘‘เอกสฺมิํ อาสเน จตฺตาโร จ อริยมคฺคา อธิคตา โหนฺตี’’ติอาทิฯ เถโร จาติอาทินา ธมฺมเสนาปติโน ติกฺขปญฺญตา สิขาปฺปตฺตาติ ทเสฺสติฯ

    Ñāṇatikkhabhāvo nāma savisesaṃ paṭipakkhasamucchindane veditabboti ‘‘khippaṃ kilese chindatīti tikkhapañño’’ti vatvā te pana kilese vibhāgena dassento ‘‘uppannaṃ kāmavitakka’’ntiādimāha. Tikkhapañño khippābhiñño hoti, paṭipadā cassa na calatīti āha ‘‘ekasmiṃ āsane cattāro ca ariyamaggā adhigatā hontī’’tiādi. Thero cātiādinā dhammasenāpatino tikkhapaññatā sikhāppattāti dasseti.

    ‘‘สเพฺพ สงฺขารา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา สงฺขตา ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา’’ติ ยาถาวโต ทสฺสเนน สจฺจสมฺปฎิเวโธ อิชฺฌติ, น อญฺญถาติ การณมุเขน นิเพฺพธิกปญฺญํ ทเสฺสตุํ ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ อุเพฺพคพหุโล โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อุเพฺพคพหุโลติ วุตฺตนเยน สพฺพสงฺขาเรสุ อภิณฺหปฺปวตฺตสํเวโคฯ อุตฺตาสพหุโลติ ญาณุตฺตาสวเสน สพฺพสงฺขาเรสุ พหุโส อุตฺรสฺตมานโสฯ เตน อาทีนวานุปสฺสนมาหฯ อุกฺกณฺฐนพหุโลติ อิมินา ปน นิพฺพิทานุปสฺสนมาห, อรติพหุโลติอาทินา ตสฺสา เอว อปราปรุปฺปตฺติํฯ พหิมุโข สพฺพสงฺขารโต พหิภูตํ นิพฺพานํ อุทฺทิสฺส ปวตฺตญาณมุโข, ตถา วา ปวตฺติตวิโมกฺขมุโขฯ นิพฺพิชฺฌนํ นิเพฺพโธ, โส เอติสฺสา อตฺถิ, นิพฺพิชฺฌตีติ วา นิเพฺพธา, สา เอว ปญฺญา นิเพฺพธิกาฯ ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนยตฺตา สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    ‘‘Sabbe saṅkhārā aniccā dukkhā vipariṇāmadhammā saṅkhatā paṭiccasamuppannā khayadhammā vayadhammā virāgadhammā nirodhadhammā’’ti yāthāvato dassanena saccasampaṭivedho ijjhati, na aññathāti kāraṇamukhena nibbedhikapaññaṃ dassetuṃ ‘‘sabbasaṅkhāresu ubbegabahulo hotī’’tiādi vuttaṃ. Tattha ubbegabahuloti vuttanayena sabbasaṅkhāresu abhiṇhappavattasaṃvego. Uttāsabahuloti ñāṇuttāsavasena sabbasaṅkhāresu bahuso utrastamānaso. Tena ādīnavānupassanamāha. Ukkaṇṭhanabahuloti iminā pana nibbidānupassanamāha, aratibahulotiādinā tassā eva aparāparuppattiṃ. Bahimukho sabbasaṅkhārato bahibhūtaṃ nibbānaṃ uddissa pavattañāṇamukho, tathā vā pavattitavimokkhamukho. Nibbijjhanaṃ nibbedho, so etissā atthi, nibbijjhatīti vā nibbedhā, sā eva paññā nibbedhikā. Yaṃ panettha atthato na vibhattaṃ, taṃ heṭṭhā vuttanayattā suviññeyyameva.

    อปฺปิโจฺฉติ สนฺตคุณนิคุหนตาติ อตฺตนิ วิชฺชมานานํ พาหุสจฺจธุตธมฺมสีลาทิคุณานเญฺจว ปฎิเวธคุณสฺส จ นิคุหนํ, ปฎิคฺคหเณ จ มตฺตญฺญุตาติ เอเตเนว ปริเยสนปริโภคมตฺตญฺญุตาปิ วุตฺตา โหติฯ ตีหิ สโนฺตเสหีติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ปเจฺจกํ ตีหิ สโนฺตเสหิ , สเพฺพ ปน ทฺวาทสฯ ปฎิสลฺลีเนน วิเวกฎฺฐกายานํ น สงฺคณิการามานํฯ เนกฺขมฺมาภิรตานนฺติ ปพฺพชฺชํ อุปคตานํฯ ปริสุทฺธจิตฺตานํ วิคตจิตฺตสํกิเลสานํฯ ปรมโวทานปฺปตฺตานํ อฎฺฐสมาปตฺติสมธิคเมน อติวิย โวทานํ วิสุทฺธิํ ปตฺตานํฯ กิเลสุปธิอาทีนํ อภาวโต นิรุปธีนํฯ ผลสมาปตฺติวเสน สพฺพสงฺขารวินิสฺสฎตฺตา วิสงฺขารํ นิพฺพานํฯ อุปคตานํ, อิเมสํ ติณฺณํ วิเวกานํ ลาภี ปวิวิโตฺต ‘‘ปกาเรหิ วิวิโตฺต’’ติ กตฺวาฯ สมาสชฺชนํ ปริสิเนหุปฺปาโท สํสโคฺค, สวนวเสน อุปฺปชฺชนกสํสโคฺค สวนสํสโคฺคฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ สมุลฺลปนํ อาลาปสลฺลปนํฯ สํสคฺควตฺถุนา อิมินา ตสฺส ปริโภโค ปริโภคสํสโคฺค

    Appicchoti santaguṇaniguhanatāti attani vijjamānānaṃ bāhusaccadhutadhammasīlādiguṇānañceva paṭivedhaguṇassa ca niguhanaṃ, paṭiggahaṇe ca mattaññutāti eteneva pariyesanaparibhogamattaññutāpi vuttā hoti. Tīhi santosehīti catūsu paccayesu paccekaṃ tīhi santosehi , sabbe pana dvādasa. Paṭisallīnena vivekaṭṭhakāyānaṃ na saṅgaṇikārāmānaṃ. Nekkhammābhiratānanti pabbajjaṃ upagatānaṃ. Parisuddhacittānaṃ vigatacittasaṃkilesānaṃ. Paramavodānappattānaṃ aṭṭhasamāpattisamadhigamena ativiya vodānaṃ visuddhiṃ pattānaṃ. Kilesupadhiādīnaṃ abhāvato nirupadhīnaṃ. Phalasamāpattivasena sabbasaṅkhāravinissaṭattā visaṅkhāraṃ nibbānaṃ. Upagatānaṃ, imesaṃ tiṇṇaṃ vivekānaṃ lābhī pavivitto ‘‘pakārehi vivitto’’ti katvā. Samāsajjanaṃ parisinehuppādo saṃsaggo, savanavasena uppajjanakasaṃsaggo savanasaṃsaggo. Esa nayo sesesupi. Samullapanaṃ ālāpasallapanaṃ. Saṃsaggavatthunā iminā tassa paribhogo paribhogasaṃsaggo.

    อารทฺธวีริโยติ เอตฺถ วีริยารโมฺภ นาม วีริยสฺส ปคฺคณฺหนํ ปริปุณฺณกรณํฯ ตํ ปน สพฺพโส กิเลสานํ นิคฺคณฺหนนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาหฯ โอธุนนวตฺตาติ กิเลสานํ ยสฺส กสฺสจิ สาวชฺชสฺส โอธุนนวเสน วตฺตาฯ เตนาห ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติอาทิฯ โอติณฺณํ นาม วชฺชํ อชฺฌาจริตนฺติ อาโรจิตํฯ อโนติณฺณํ อนาโรจิตํฯ ตนฺติวเสนาติ ปาฬิธมฺมวเสน, ยุตฺตสทฺทสฺส วเสนาติ อโตฺถฯ ปาเป ลามเก ปุคฺคเล ธเมฺม จ ครหติ ชิคุจฺฉตีติ ปาปครหีฯ เตนาห ‘‘ปาปปุคฺคเล’’ติอาทิฯ เอกทสฺสีติ เอกภวทสฺสี, อิธโลกมตฺตทสฺสี ทิฎฺฐธมฺมิกสุขมตฺตาเปกฺขีฯ สมนฺตาติ สมนฺตโต, ปริโต เม กตฺถจิ มา อหูติ โยชนาฯ

    Āraddhavīriyoti ettha vīriyārambho nāma vīriyassa paggaṇhanaṃ paripuṇṇakaraṇaṃ. Taṃ pana sabbaso kilesānaṃ niggaṇhananti dassento ‘‘tatthā’’tiādimāha. Odhunanavattāti kilesānaṃ yassa kassaci sāvajjassa odhunanavasena vattā. Tenāha ‘‘bhikkhūna’’ntiādi. Otiṇṇaṃ nāma vajjaṃ ajjhācaritanti ārocitaṃ. Anotiṇṇaṃ anārocitaṃ. Tantivasenāti pāḷidhammavasena, yuttasaddassa vasenāti attho. Pāpe lāmake puggale dhamme ca garahati jigucchatīti pāpagarahī. Tenāha ‘‘pāpapuggale’’tiādi. Ekadassīti ekabhavadassī, idhalokamattadassī diṭṭhadhammikasukhamattāpekkhī. Samantāti samantato, parito me katthaci mā ahūti yojanā.

    โสฬสหิ ปเทหีติ โสฬสหิ โกฎฺฐาเสหิฯ อกุปฺปนฺติ เกนจิ อโกปนียํฯ อยํ ธมฺมเสนาปติโน คุณกถา สตฺถุ วจนานุสาเรน ทสสหสฺสจกฺกวาฬพฺยาปินี อโหสิ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ จตุพฺพิธา วณฺณนิภา ปาตุภวิ อุฬารปีติโสมนสฺสสมุฎฺฐานตฺตาฯ สุฎฺฐุ โอภาสตีติ สุโภฯ โอภาสสมฺปตฺติยา มณิโน ภทฺทกตาติ อาห ‘‘สุโภติ สุนฺทโร’’ติฯ ชาติมา ปริสุทฺธอากรสมุฎฺฐิตตฺตาฯ กุรุวินฺทชาติอาทิชาติวิเสโสปิ มณิ อากรปริสุทฺธมูลโก เอวาติ อาห ‘‘ชาติสมฺปโนฺน’’ติฯ โธวนาทิปริกเมฺมนาติ จตูสุ ปาสาเณสุ โธวนโทสนีหรณตาปนสณฺหกรณาทิปริกเมฺมนฯ รตฺตกมฺพลสฺส วเสน สภาววณฺณสิทฺธิยา เวฬุริยมณิ อติวิย โสภตีติ อาห ‘‘ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิโตฺต’’ติฯ นิกฺขนฺติ ภณฺฑมาหฯ ตญฺจ อปฺปเกน สุวเณฺณน กตํ ภณฺฑํ น โสภติ โสภาวิปุเลนาติ อาห ‘‘อติเรกปญฺจสุวเณฺณน กตปิฬนฺธน’’นฺติฯ สุวณฺณนฺติ ปญฺจธรณสฺส สมญฺญา, ตสฺมา ปญฺจวีสติสุวณฺณสาริยา วิจิตฺตอาภรณํ อิธ ‘‘นิกฺข’’นฺติ อธิเปฺปตํฯ ตญฺหิ วิปุลํ น ปริตฺตกํฯ มหาชมฺพุสาขาย ปวตฺตนทิยนฺติ มหาชมฺพุสาขาย เหฎฺฐา สญฺชาตนทิยํฯ ตํ กิร รตนํ รตฺตํฯ สุกุสเลน…เป.… สมฺปหฎฺฐนฺติ สุฎฺฐุ กุสเลน สุวณฺณกาเรน อุกฺกาย ตาเปตฺวา สมฺมา ปหฎฺฐํ มชฺชนาทิวเสน สุกตปริกมฺมํฯ ธาตุวิภเงฺคติ ธาตุวิภงฺคสุเตฺตฯ กตภณฺฑนฺติ อาภรณภาเวน กตํ ภณฺฑํฯ

    Soḷasahi padehīti soḷasahi koṭṭhāsehi. Akuppanti kenaci akopanīyaṃ. Ayaṃ dhammasenāpatino guṇakathā satthu vacanānusārena dasasahassacakkavāḷabyāpinī ahosi, taṃ dassetuṃ ‘‘eva’’ntiādi vuttaṃ. Catubbidhā vaṇṇanibhā pātubhavi uḷārapītisomanassasamuṭṭhānattā. Suṭṭhu obhāsatīti subho. Obhāsasampattiyā maṇino bhaddakatāti āha ‘‘subhoti sundaro’’ti. Jātimā parisuddhaākarasamuṭṭhitattā. Kuruvindajātiādijātivisesopi maṇi ākaraparisuddhamūlako evāti āha ‘‘jātisampanno’’ti. Dhovanādiparikammenāti catūsu pāsāṇesu dhovanadosanīharaṇatāpanasaṇhakaraṇādiparikammena. Rattakambalassa vasena sabhāvavaṇṇasiddhiyā veḷuriyamaṇi ativiya sobhatīti āha ‘‘paṇḍukambale nikkhitto’’ti. Nikkhanti bhaṇḍamāha. Tañca appakena suvaṇṇena kataṃ bhaṇḍaṃ na sobhati sobhāvipulenāti āha ‘‘atirekapañcasuvaṇṇena katapiḷandhana’’nti. Suvaṇṇanti pañcadharaṇassa samaññā, tasmā pañcavīsatisuvaṇṇasāriyā vicittaābharaṇaṃ idha ‘‘nikkha’’nti adhippetaṃ. Tañhi vipulaṃ na parittakaṃ. Mahājambusākhāya pavattanadiyanti mahājambusākhāya heṭṭhā sañjātanadiyaṃ. Taṃ kira ratanaṃ rattaṃ. Sukusalena…pe… sampahaṭṭhanti suṭṭhu kusalena suvaṇṇakārena ukkāya tāpetvā sammā pahaṭṭhaṃ majjanādivasena sukataparikammaṃ. Dhātuvibhaṅgeti dhātuvibhaṅgasutte. Katabhaṇḍanti ābharaṇabhāvena kataṃ bhaṇḍaṃ.

    นาติอุโจฺจ นาตินีโจ ตรุณสูริโย นามฯ สตฺถารา อาภตวโณฺณ อุพฺภตคุโณติ อโตฺถฯ เนว มรณํ อภินนฺทตีติ อตฺตโนปิ มรณํ เนว อภินนฺทติ อตฺตวินิปาตสฺส สาวชฺชภาวโตฯ โพธิสโตฺต ปน ปเรสํ อตฺถาย อตฺตโน อตฺตภาวํ ปริจฺจชติ กรุณาวเสน, เอวํ โวสชฺชนํ ปรมตฺถปารมีปาริปูริํ คจฺฉตีติ สาวกา น ตถา กาตุํ สกฺกา สิกฺขาปทโตฯ น ชีวิตํ ปเตฺถติ ชีวิตาสาย สมุจฺฉินฺนตฺตาฯ ทิวสสเงฺขปนฺติ อชฺช ตฺวํ อิทํ นาม กมฺมํ กโรหิ, อิทํ เต เวตนนฺติ ทิวสภาเคน ปริจฺฉินฺนํ เวตนํฯ ตาทิโส หิ ภตโก ทิวสกฺขยเมว อุทิกฺขติ, น กมฺมนิฎฺฐานํฯ นิพฺพิสํ ภตโก ยถาติ เวตนํ ภติํ อิจฺฉโนฺต กาลกฺขยํ อุทิกฺขโนฺต ภตกปุริโส วิยฯ

    Nātiucco nātinīco taruṇasūriyo nāma. Satthārā ābhatavaṇṇo ubbhataguṇoti attho. Neva maraṇaṃ abhinandatīti attanopi maraṇaṃ neva abhinandati attavinipātassa sāvajjabhāvato. Bodhisatto pana paresaṃ atthāya attano attabhāvaṃ pariccajati karuṇāvasena, evaṃ vosajjanaṃ paramatthapāramīpāripūriṃ gacchatīti sāvakā na tathā kātuṃ sakkā sikkhāpadato. Na jīvitaṃ pattheti jīvitāsāya samucchinnattā. Divasasaṅkhepanti ajja tvaṃ idaṃ nāma kammaṃ karohi, idaṃ te vetananti divasabhāgena paricchinnaṃ vetanaṃ. Tādiso hi bhatako divasakkhayameva udikkhati, na kammaniṭṭhānaṃ. Nibbisaṃ bhatako yathāti vetanaṃ bhatiṃ icchanto kālakkhayaṃ udikkhanto bhatakapuriso viya.

    สุสิมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Susimasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. สุสิมสุตฺตํ • 9. Susimasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. สุสิมสุตฺตวณฺณนา • 9. Susimasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact