Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā |
๙. อิทฺธิปาทวิภโงฺค
9. Iddhipādavibhaṅgo
๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
1. Suttantabhājanīyavaṇṇanā
๔๓๑. อิทานิ ตทนนฺตเร อิทฺธิปาทวิภเงฺค จตฺตาโรติ คณนปริเจฺฉโทฯ อิทฺธิปาทาติ เอตฺถ อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชตีติ อโตฺถฯ อิชฺฌนฺติ วา เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติปิ อิทฺธิฯ ปฐเมนเตฺถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฎฺฐาโสติ อโตฺถฯ ทุติเยนเตฺถน อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท; ปาโทติ ปติฎฺฐา, อธิคมุปาโยติ อโตฺถฯ เตน หิ ยสฺมา อุปรูปริวิเสสสงฺขาตํ อิทฺธิํ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา ปาโทติ วุจฺจติฯ เอวํ ตาว ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ เอตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
431. Idāni tadanantare iddhipādavibhaṅge cattāroti gaṇanaparicchedo. Iddhipādāti ettha ijjhatīti iddhi, samijjhati nipphajjatīti attho. Ijjhanti vā etāya sattā iddhā vuddhā ukkaṃsagatā hontītipi iddhi. Paṭhamenatthena iddhi eva pādo iddhipādo, iddhikoṭṭhāsoti attho. Dutiyenatthena iddhiyā pādoti iddhipādo; pādoti patiṭṭhā, adhigamupāyoti attho. Tena hi yasmā uparūparivisesasaṅkhātaṃ iddhiṃ pajjanti pāpuṇanti, tasmā pādoti vuccati. Evaṃ tāva ‘‘cattāro iddhipādā’’ti ettha attho veditabbo.
อิทานิ เต ภาเชตฺวา ทเสฺสตุํ อิธ ภิกฺขูติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมิํ สาสเน ภิกฺขุฯ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตนฺติ เอตฺถ ฉนฺทเหตุโก ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธิฯ กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ อธิปติํ กริตฺวา ปฎิลทฺธสมาธิเสฺสตํ อธิวจนํฯ ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขาราฯ จตุกิจฺจสาธกสฺส สมฺมปฺปธานวีริยเสฺสตํ อธิวจนํฯ สมนฺนาคตนฺติ ฉนฺทสมาธินา จ ปธานสงฺขาเรหิ จ อุเปตํฯ อิทฺธิปาทนฺติ นิปฺผตฺติปริยาเยน วา อิชฺฌนกเฎฺฐน อิชฺฌนฺติ เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิมินา วา ปริยาเยน อิทฺธีติ สงฺขํ คตานํ อุปจารชฺฌานาทิกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตานํ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารานํ อธิฎฺฐานเฎฺฐน ปาทภูตํ เสสจิตฺตเจตสิกราสินฺติ อโตฺถฯ ยญฺหิ ปรโต ‘‘อิทฺธิปาโทติ ตถาภูตสฺส เวทนากฺขโนฺธ…เป.… วิญฺญาณกฺขโนฺธ’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมินา อเตฺถน ยุชฺชติฯ อิมินา นเยน เสเสสุปิ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ยเถว หิ ฉนฺทํ อธิปติํ กริตฺวา ปฎิลทฺธสมาธิ ฉนฺทสมาธีติ วุโตฺต, เอวํ วีริยํ…เป.… จิตฺตํฯ วีมํสํ อธิปติํ กริตฺวา ปฎิลทฺธสมาธิ วีมํสสมาธีติ วุจฺจติฯ
Idāni te bhājetvā dassetuṃ idha bhikkhūtiādi āraddhaṃ. Tattha idha bhikkhūti imasmiṃ sāsane bhikkhu. Chandasamādhipadhānasaṅkhārasamannāgatanti ettha chandahetuko chandādhiko vā samādhi chandasamādhi. Kattukamyatāchandaṃ adhipatiṃ karitvā paṭiladdhasamādhissetaṃ adhivacanaṃ. Padhānabhūtā saṅkhārā padhānasaṅkhārā. Catukiccasādhakassa sammappadhānavīriyassetaṃ adhivacanaṃ. Samannāgatanti chandasamādhinā ca padhānasaṅkhārehi ca upetaṃ. Iddhipādanti nipphattipariyāyena vā ijjhanakaṭṭhena ijjhanti etāya sattā iddhā vuddhā ukkaṃsagatā hontīti iminā vā pariyāyena iddhīti saṅkhaṃ gatānaṃ upacārajjhānādikusalacittasampayuttānaṃ chandasamādhipadhānasaṅkhārānaṃ adhiṭṭhānaṭṭhena pādabhūtaṃ sesacittacetasikarāsinti attho. Yañhi parato ‘‘iddhipādoti tathābhūtassa vedanākkhandho…pe… viññāṇakkhandho’’ti vuttaṃ, taṃ iminā atthena yujjati. Iminā nayena sesesupi attho veditabbo. Yatheva hi chandaṃ adhipatiṃ karitvā paṭiladdhasamādhi chandasamādhīti vutto, evaṃ vīriyaṃ…pe… cittaṃ. Vīmaṃsaṃ adhipatiṃ karitvā paṭiladdhasamādhi vīmaṃsasamādhīti vuccati.
อิทานิ ฉนฺทสมาธิอาทีนิ ปทานิ ภาเชตฺวา ทเสฺสตุํ กถญฺจ ภิกฺขูติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ ฉนฺทเญฺจ ภิกฺขุ อธิปติํ กริตฺวาติ ยทิ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อธิปติํ ฉนฺทํ เชฎฺฐกํ ฉนฺทํ ธุรํ ฉนฺทํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา สมาธิํ ปฎิลภติ นิพฺพเตฺตติ, เอวํ นิพฺพตฺติโต อยํ สมาธิ ฉนฺทสมาธิ นาม วุจฺจตีติ อโตฺถฯ วีริยเญฺจติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ อิเม วุจฺจนฺติ ปธานสงฺขาราติ เอตฺตาวตา ฉนฺทิทฺธิปาทํ ภาวยมานสฺส ภิกฺขุโน ปธานาภิสงฺขารสงฺขาตจตุกิจฺจสาธกํ วีริยํ กถิตํฯ ตเทกชฺฌํ อภิสญฺญูหิตฺวาติ ตํ สพฺพํ เอกโต ราสิํ กตฺวาติ อโตฺถฯ สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ เอตํ โวหารํ คจฺฉตีติ เวทิตพฺพนฺติ อโตฺถฯ
Idāni chandasamādhiādīni padāni bhājetvā dassetuṃ kathañca bhikkhūtiādi āraddhaṃ. Tattha chandañce bhikkhu adhipatiṃ karitvāti yadi bhikkhu chandaṃ adhipatiṃ chandaṃ jeṭṭhakaṃ chandaṃ dhuraṃ chandaṃ pubbaṅgamaṃ katvā samādhiṃ paṭilabhati nibbatteti, evaṃ nibbattito ayaṃ samādhi chandasamādhi nāma vuccatīti attho. Vīriyañcetiādīsupi eseva nayo. Ime vuccanti padhānasaṅkhārāti ettāvatā chandiddhipādaṃ bhāvayamānassa bhikkhuno padhānābhisaṅkhārasaṅkhātacatukiccasādhakaṃ vīriyaṃ kathitaṃ. Tadekajjhaṃ abhisaññūhitvāti taṃ sabbaṃ ekato rāsiṃ katvāti attho. Saṅkhyaṃ gacchatīti etaṃ vohāraṃ gacchatīti veditabbanti attho.
๔๓๓. อิทานิ ‘‘ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขาโร’’ติ เอตสฺมิํ ปทสมูเห ฉนฺทาทิธเมฺม ภาเชตฺวา ทเสฺสตุํ ตตฺถ กตโม ฉโนฺทติอาทิ อารทฺธํฯ ตํ อุตฺตานตฺถเมวฯ
433. Idāni ‘‘chandasamādhipadhānasaṅkhāro’’ti etasmiṃ padasamūhe chandādidhamme bhājetvā dassetuṃ tattha katamo chandotiādi āraddhaṃ. Taṃ uttānatthameva.
อุเปโต โหตีติ อิทฺธิปาทสงฺขาโต ธมฺมราสิ อุเปโต โหติฯ เตสํ ธมฺมานนฺติ เตสํ สมฺปยุตฺตานํ ฉนฺทาทิธมฺมานํฯ อิทฺธิ สมิทฺธีติอาทีนิ สพฺพานิ นิปฺผตฺติเววจนาเนวฯ เอวํ สเนฺตปิ อิชฺฌนกเฎฺฐน อิทฺธิฯ สมฺปุณฺณา อิทฺธิ สมิทฺธิ; อุปสเคฺคน วา ปทํ วฑฺฒิตํฯ อิชฺฌนากาโร อิชฺฌนาฯ สมิชฺฌนาติ อุปสเคฺคน ปทํ วฑฺฒิตํฯ อตฺตโน สนฺตาเน ปาตุภาววเสน ลภนํ ลาโภฯ ปริหีนานมฺปิ วีริยารมฺภวเสน ปุน ลาโภ ปฎิลาโภ; อุปสเคฺคน วา ปทํ วฑฺฒิตํฯ ปตฺตีติ อธิคโมฯ อปริหานวเสน สมฺมา ปตฺตีติ สมฺปตฺติฯ ผุสนาติ ปฎิลาภผุสนาฯ สจฺฉิกิริยาติ ปฎิลาภสจฺฉิกิริยาวฯ อุปสมฺปทาติ ปฎิลาภอุปสมฺปทา เอวาติ เวทิตพฺพาฯ
Upeto hotīti iddhipādasaṅkhāto dhammarāsi upeto hoti. Tesaṃ dhammānanti tesaṃ sampayuttānaṃ chandādidhammānaṃ. Iddhi samiddhītiādīni sabbāni nipphattivevacanāneva. Evaṃ santepi ijjhanakaṭṭhena iddhi. Sampuṇṇā iddhi samiddhi; upasaggena vā padaṃ vaḍḍhitaṃ. Ijjhanākāro ijjhanā. Samijjhanāti upasaggena padaṃ vaḍḍhitaṃ. Attano santāne pātubhāvavasena labhanaṃ lābho. Parihīnānampi vīriyārambhavasena puna lābho paṭilābho; upasaggena vā padaṃ vaḍḍhitaṃ. Pattīti adhigamo. Aparihānavasena sammā pattīti sampatti. Phusanāti paṭilābhaphusanā. Sacchikiriyāti paṭilābhasacchikiriyāva. Upasampadāti paṭilābhaupasampadā evāti veditabbā.
ตยาภูตสฺสาติ เตน อากาเรน ภูตสฺส; เต ฉนฺทาทิธเมฺม ปฎิลภิตฺวา ฐิตสฺสาติ อโตฺถฯ เวทนากฺขโนฺธติอาทีหิ ฉนฺทาทโย อโนฺต กตฺวา จตฺตาโรปิ ขนฺธา กถิตาฯ เต ธเมฺมติ เต จตฺตาโร อรูปกฺขเนฺธ; ฉนฺทาทโย วา ตโย ธเมฺมติปิ วุตฺตํฯ อาเสวตีติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนวฯ เสสอิทฺธิปาทนิเทฺทเสสุปิ อิมินาว นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
Tayābhūtassāti tena ākārena bhūtassa; te chandādidhamme paṭilabhitvā ṭhitassāti attho. Vedanākkhandhotiādīhi chandādayo anto katvā cattāropi khandhā kathitā. Te dhammeti te cattāro arūpakkhandhe; chandādayo vā tayo dhammetipi vuttaṃ. Āsevatītiādīni vuttatthāneva. Sesaiddhipādaniddesesupi imināva nayena attho veditabbo.
เอตฺตาวตา กิํ กถิตนฺติ? จตุนฺนํ ภิกฺขูนํ มตฺถกปฺปตฺตํ กมฺมฎฺฐานํ กถิตํฯ เอโก หิ ภิกฺขุ ฉนฺทํ อวสฺสยติ; กตฺตุกมฺยตากุสลธมฺมจฺฉเนฺทน อตฺถนิปฺผตฺติยํ สติ ‘อหํ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตสฺสามิ, นตฺถิ มยฺหํ เอตสฺส นิพฺพตฺตเน ภาโร’ติ ฉนฺทํ เชฎฺฐกํ ฉนฺทํ ธุรํ ฉนฺทํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตติฯ เอโก วีริยํ อวสฺสยติฯ เอโก จิตฺตํ, เอโก ปญฺญํ อวสฺสยติฯ ปญฺญาย อตฺถนิปฺผตฺติยํ สติ ‘อหํ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตสฺสามิ , นตฺถิ มยฺหํ เอตสฺส นิพฺพตฺตเน ภาโร’ติ ปญฺญํ เชฎฺฐกํ ปญฺญํ ธุรํ ปญฺญํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตติฯ
Ettāvatā kiṃ kathitanti? Catunnaṃ bhikkhūnaṃ matthakappattaṃ kammaṭṭhānaṃ kathitaṃ. Eko hi bhikkhu chandaṃ avassayati; kattukamyatākusaladhammacchandena atthanipphattiyaṃ sati ‘ahaṃ lokuttaradhammaṃ nibbattessāmi, natthi mayhaṃ etassa nibbattane bhāro’ti chandaṃ jeṭṭhakaṃ chandaṃ dhuraṃ chandaṃ pubbaṅgamaṃ katvā lokuttaradhammaṃ nibbatteti. Eko vīriyaṃ avassayati. Eko cittaṃ, eko paññaṃ avassayati. Paññāya atthanipphattiyaṃ sati ‘ahaṃ lokuttaradhammaṃ nibbattessāmi , natthi mayhaṃ etassa nibbattane bhāro’ti paññaṃ jeṭṭhakaṃ paññaṃ dhuraṃ paññaṃ pubbaṅgamaṃ katvā lokuttaradhammaṃ nibbatteti.
กถํ? ยถา หิ จตูสุ อมจฺจปุเตฺตสุ ฐานนฺตรํ ปเตฺถตฺวา วิจรเนฺตสุ เอโก อุปฎฺฐานํ อวสฺสยิ, เอโก สูรภาวํ, เอโก ชาติํ, เอโก มนฺตํฯ กถํ? เตสุ หิ ปฐโม ‘อุปฎฺฐาเน อปฺปมาทการิตาย อตฺถนิปฺผตฺติยา สติ ลพฺภมานํ ลจฺฉาเมตํ ฐานนฺตร’นฺติ อุปฎฺฐานํ อวสฺสยิฯ ทุติโย ‘อุปฎฺฐาเน อปฺปมโตฺตปิ เอกโจฺจ สงฺคาเม ปจฺจุปฎฺฐิเต สณฺฐาตุํ น สโกฺกติ; อวสฺสํ โข ปน รโญฺญ ปจฺจโนฺต กุปฺปิสฺสติ; ตสฺมิํ กุปฺปิเต รถธุเร กมฺมํ กตฺวา ราชานํ อาราเธตฺวา อาหราเปสฺสาเมตํ ฐานนฺตร’นฺติ สูรภาวํ อวสฺสยิฯ ตติโย ‘สูรภาเวปิ สติ เอกโจฺจ หีนชาติโก โหติ; ชาติํ โสเธตฺวา ฐานนฺตรํ ททนฺตา มยฺหํ ทสฺสนฺตี’ติ ชาติํ อวสฺสยิฯ จตุโตฺถ ‘ชาติมาปิ เอโก อมนฺตนีโย โหติ; มเนฺตน กตฺตพฺพกิเจฺจ อุปฺปเนฺน อาหราเปสฺสาเมตํ ฐานนฺตร’นฺติ มนฺตํ อวสฺสยิฯ เต สเพฺพปิ อตฺตโน อตฺตโน อวสฺสยพเลน ฐานนฺตรานิ ปาปุณิํสุฯ
Kathaṃ? Yathā hi catūsu amaccaputtesu ṭhānantaraṃ patthetvā vicarantesu eko upaṭṭhānaṃ avassayi, eko sūrabhāvaṃ, eko jātiṃ, eko mantaṃ. Kathaṃ? Tesu hi paṭhamo ‘upaṭṭhāne appamādakāritāya atthanipphattiyā sati labbhamānaṃ lacchāmetaṃ ṭhānantara’nti upaṭṭhānaṃ avassayi. Dutiyo ‘upaṭṭhāne appamattopi ekacco saṅgāme paccupaṭṭhite saṇṭhātuṃ na sakkoti; avassaṃ kho pana rañño paccanto kuppissati; tasmiṃ kuppite rathadhure kammaṃ katvā rājānaṃ ārādhetvā āharāpessāmetaṃ ṭhānantara’nti sūrabhāvaṃ avassayi. Tatiyo ‘sūrabhāvepi sati ekacco hīnajātiko hoti; jātiṃ sodhetvā ṭhānantaraṃ dadantā mayhaṃ dassantī’ti jātiṃ avassayi. Catuttho ‘jātimāpi eko amantanīyo hoti; mantena kattabbakicce uppanne āharāpessāmetaṃ ṭhānantara’nti mantaṃ avassayi. Te sabbepi attano attano avassayabalena ṭhānantarāni pāpuṇiṃsu.
ตตฺถ อุปฎฺฐาเน อปฺปมโตฺต หุตฺวา ฐานนฺตรํ ปโตฺต วิย ฉนฺทํ อวสฺสาย กตฺตุกมฺยตากุสลธมฺมจฺฉเนฺทน อตฺถนิพฺพตฺติยํ สติ ‘อหํ โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตสฺสามิ, นตฺถิ มยฺหํ เอตสฺส นิพฺพตฺตเน ภาโร’ติ ฉนฺทํ เชฎฺฐกํ ฉนฺทํ ธุรํ ฉนฺทํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก ทฎฺฐโพฺพ, รฎฺฐปาลเตฺถโร (ม. นิ. ๒.๒๙๓ อาทโย) วิยฯ โส หิ อายสฺมา ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตสิฯ สูรภาเวน ราชานํ อาราเธตฺวา ฐานนฺตรํ ปโตฺต วิย วีริยํ เชฎฺฐกํ วีริยํ ธุรํ วีริยํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก ทฎฺฐโพฺพ, โสณเตฺถโร (มหาว. ๒๔๓) วิยฯ โส หิ อายสฺมา วีริยํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตสิฯ
Tattha upaṭṭhāne appamatto hutvā ṭhānantaraṃ patto viya chandaṃ avassāya kattukamyatākusaladhammacchandena atthanibbattiyaṃ sati ‘ahaṃ lokuttaradhammaṃ nibbattessāmi, natthi mayhaṃ etassa nibbattane bhāro’ti chandaṃ jeṭṭhakaṃ chandaṃ dhuraṃ chandaṃ pubbaṅgamaṃ katvā lokuttaradhammanibbattako daṭṭhabbo, raṭṭhapālatthero (ma. ni. 2.293 ādayo) viya. So hi āyasmā chandaṃ dhuraṃ katvā lokuttaradhammaṃ nibbattesi. Sūrabhāvena rājānaṃ ārādhetvā ṭhānantaraṃ patto viya vīriyaṃ jeṭṭhakaṃ vīriyaṃ dhuraṃ vīriyaṃ pubbaṅgamaṃ katvā lokuttaradhammanibbattako daṭṭhabbo, soṇatthero (mahāva. 243) viya. So hi āyasmā vīriyaṃ dhuraṃ katvā lokuttaradhammaṃ nibbattesi.
ชาติสมฺปตฺติยา ฐานนฺตรํ ปโตฺต วิย จิตฺตํ เชฎฺฐกํ จิตฺตํ ธุรํ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก ทฎฺฐโพฺพ, สมฺภูตเตฺถโร วิยฯ โส หิ อายสฺมา จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตสิฯ มนฺตํ อวสฺสาย ฐานนฺตรปฺปโตฺต วิย วีมํสํ เชฎฺฐกํ วีมํสํ ธุรํ วีมํสํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตโก ทฎฺฐโพฺพ, เถโร โมฆราชา วิยฯ โส หิ อายสฺมา วีมํสํ ธุรํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตสิฯ
Jātisampattiyā ṭhānantaraṃ patto viya cittaṃ jeṭṭhakaṃ cittaṃ dhuraṃ cittaṃ pubbaṅgamaṃ katvā lokuttaradhammanibbattako daṭṭhabbo, sambhūtatthero viya. So hi āyasmā cittaṃ dhuraṃ katvā lokuttaradhammaṃ nibbattesi. Mantaṃ avassāya ṭhānantarappatto viya vīmaṃsaṃ jeṭṭhakaṃ vīmaṃsaṃ dhuraṃ vīmaṃsaṃ pubbaṅgamaṃ katvā lokuttaradhammanibbattako daṭṭhabbo, thero mogharājā viya. So hi āyasmā vīmaṃsaṃ dhuraṃ katvā lokuttaradhammaṃ nibbattesi.
เอตฺถ จ ตโย ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสงฺขาตา ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิฯ เสสา ปน สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิปาทาเยวฯ วีริยจิตฺตวีมํสสมาธิปธานสงฺขารสงฺขาตาปิ ตโย ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิฯ เสสา ปน สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิปาทาเยวฯ อยํ ตาว อเภทโต กถาฯ
Ettha ca tayo chandasamādhipadhānasaṅkhārasaṅkhātā dhammā iddhīpi honti iddhipādāpi. Sesā pana sampayuttakā cattāro khandhā iddhipādāyeva. Vīriyacittavīmaṃsasamādhipadhānasaṅkhārasaṅkhātāpi tayo dhammā iddhīpi honti iddhipādāpi. Sesā pana sampayuttakā cattāro khandhā iddhipādāyeva. Ayaṃ tāva abhedato kathā.
เภทโต ปน ‘ฉโนฺท’ อิทฺธิ นามฯ ฉนฺทธุเรน ภาวิตา จตฺตาโร ขนฺธา ฉนฺทิทฺธิปาโท นามฯ สมาธิ ปธานสงฺขาโรติ เทฺว ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺธวเสน ฉนฺทิทฺธิปาเท ปวิสนฺติ; ปาเท ปวิฎฺฐาติปิ วตฺตุํ วฎฺฎติเยวฯ ตเตฺถว ‘สมาธิ’ อิทฺธิ นามฯ สมาธิธุเรน ภาวิตา จตฺตาโร ขนฺธา สมาธิทฺธิปาโท นามฯ ฉโนฺท ปธานสงฺขาโรติ เทฺว ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺธวเสน สมาธิทฺธิปาเท ปวิสนฺติ; ปาเท ปวิฎฺฐาติปิ วตฺตุํ วฎฺฎติ เอวฯ ตเตฺถว ‘ปธานสงฺขาโร’ อิทฺธิ นามฯ ปธานสงฺขารภาวิตา จตฺตาโร ขนฺธา ปธานสงฺขาริทฺธิปาโท นามฯ ฉโนฺท สมาธีติ เทฺว ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺธวเสน ปธานสงฺขาริทฺธิปาเท ปวิสนฺติ; ปาเท ปวิฎฺฐาติปิ วตฺตุํ วฎฺฎติ เอวฯ ตเตฺถว ‘วีริยํ’ อิทฺธิ นาม, ‘จิตฺตํ’ อิทฺธิ นาม, ‘วีมํสา’ อิทฺธิ นาม…เป.… ปาเท ปวิฎฺฐาติปิ วตฺตุํ วฎฺฎติ เอวฯ อยํ เภทโต กถา นามฯ
Bhedato pana ‘chando’ iddhi nāma. Chandadhurena bhāvitā cattāro khandhā chandiddhipādo nāma. Samādhi padhānasaṅkhāroti dve dhammā saṅkhārakkhandhavasena chandiddhipāde pavisanti; pāde paviṭṭhātipi vattuṃ vaṭṭatiyeva. Tattheva ‘samādhi’ iddhi nāma. Samādhidhurena bhāvitā cattāro khandhā samādhiddhipādo nāma. Chando padhānasaṅkhāroti dve dhammā saṅkhārakkhandhavasena samādhiddhipāde pavisanti; pāde paviṭṭhātipi vattuṃ vaṭṭati eva. Tattheva ‘padhānasaṅkhāro’ iddhi nāma. Padhānasaṅkhārabhāvitā cattāro khandhā padhānasaṅkhāriddhipādo nāma. Chando samādhīti dve dhammā saṅkhārakkhandhavasena padhānasaṅkhāriddhipāde pavisanti; pāde paviṭṭhātipi vattuṃ vaṭṭati eva. Tattheva ‘vīriyaṃ’ iddhi nāma, ‘cittaṃ’ iddhi nāma, ‘vīmaṃsā’ iddhi nāma…pe… pāde paviṭṭhātipi vattuṃ vaṭṭati eva. Ayaṃ bhedato kathā nāma.
เอตฺถ ปน อภินวํ นตฺถิ; คหิตเมว วิภูตธาตุกํ กตํฯ กถํ? ฉโนฺท, สมาธิ, ปธานสงฺขาโรติ อิเม ตโย ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิฯ เสสา สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิปาทาเยวฯ อิเม หิ ตโย ธมฺมา อิชฺฌมานา สมฺปยุตฺตเกหิ จตูหิ ขเนฺธหิ สทฺธิํเยว อิชฺฌนฺติ, น วินาฯ สมฺปยุตฺตกา ปน จตฺตาโร ขนฺธา อิชฺฌนกเฎฺฐน อิทฺธิ นาม โหนฺติ, ปติฎฺฐานเฎฺฐน ปาโท นามฯ ‘อิทฺธี’ติ วา ‘อิทฺธิปาโท’ติ วา น อญฺญสฺส กสฺสจิ อธิวจนํ, สมฺปยุตฺตกานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํเยว อธิวจนํฯ วีริยํ, จิตฺตํ, วีมํสาสมาธิปธานสงฺขาโรติ ตโย ธมฺมา…เป.… จตุนฺนํ ขนฺธานํเยว อธิวจนํฯ
Ettha pana abhinavaṃ natthi; gahitameva vibhūtadhātukaṃ kataṃ. Kathaṃ? Chando, samādhi, padhānasaṅkhāroti ime tayo dhammā iddhīpi honti iddhipādāpi. Sesā sampayuttakā cattāro khandhā iddhipādāyeva. Ime hi tayo dhammā ijjhamānā sampayuttakehi catūhi khandhehi saddhiṃyeva ijjhanti, na vinā. Sampayuttakā pana cattāro khandhā ijjhanakaṭṭhena iddhi nāma honti, patiṭṭhānaṭṭhena pādo nāma. ‘Iddhī’ti vā ‘iddhipādo’ti vā na aññassa kassaci adhivacanaṃ, sampayuttakānaṃ catunnaṃ khandhānaṃyeva adhivacanaṃ. Vīriyaṃ, cittaṃ, vīmaṃsāsamādhipadhānasaṅkhāroti tayo dhammā…pe… catunnaṃ khandhānaṃyeva adhivacanaṃ.
อปิจ ปุพฺพภาโค ปุพฺพภาโค อิทฺธิปาโท นาม; ปฎิลาโภ ปฎิลาโภ อิทฺธิ นามาติ เวทิตโพฺพฯ อยมโตฺถ อุปจาเรน วา วิปสฺสนาย วา ทีเปตโพฺพฯ ปฐมชฺฌานปริกมฺมญฺหิ อิทฺธิปาโท นาม, ปฐมชฺฌานํ อิทฺธิ นามฯ ทุติยตติยจตุตฺถอากาสานญฺจายตน, วิญฺญาณญฺจายตนอากิญฺจญฺญายตนเนวสญฺญานาสญฺญายตนปริกมฺมํ อิทฺธิปาโท นาม, เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อิทฺธิ นามฯ โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนา อิทฺธิปาโท นาม, โสตาปตฺติมโคฺค อิทฺธิ นามฯ สกทาคามิ, อนาคามิ, อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนา อิทฺธิปาโท นาม, อรหตฺตมโคฺค อิทฺธิ นามฯ ปฎิลาเภนาปิ ทีเปตุํ วฎฺฎติเยวฯ ปฐมชฺฌานญฺหิ อิทฺธิปาโท นาม, ทุติยชฺฌานํ อิทฺธิ นาม; ทุติยชฺฌานํ อิทฺธิปาโท นาม, ตติยชฺฌานํ อิทฺธิ นาม…เป.… อนาคามิมโคฺค อิทฺธิปาโท นาม, อรหตฺตมโคฺค อิทฺธิ นามฯ
Apica pubbabhāgo pubbabhāgo iddhipādo nāma; paṭilābho paṭilābho iddhi nāmāti veditabbo. Ayamattho upacārena vā vipassanāya vā dīpetabbo. Paṭhamajjhānaparikammañhi iddhipādo nāma, paṭhamajjhānaṃ iddhi nāma. Dutiyatatiyacatutthaākāsānañcāyatana, viññāṇañcāyatanaākiñcaññāyatananevasaññānāsaññāyatanaparikammaṃ iddhipādo nāma, nevasaññānāsaññāyatanaṃ iddhi nāma. Sotāpattimaggassa vipassanā iddhipādo nāma, sotāpattimaggo iddhi nāma. Sakadāgāmi, anāgāmi, arahattamaggassa vipassanā iddhipādo nāma, arahattamaggo iddhi nāma. Paṭilābhenāpi dīpetuṃ vaṭṭatiyeva. Paṭhamajjhānañhi iddhipādo nāma, dutiyajjhānaṃ iddhi nāma; dutiyajjhānaṃ iddhipādo nāma, tatiyajjhānaṃ iddhi nāma…pe… anāgāmimaggo iddhipādo nāma, arahattamaggo iddhi nāma.
เกนเฎฺฐน อิทฺธิ? เกนเฎฺฐน ปาโทติ? อิชฺฌนกเฎฺฐเนว อิทฺธิฯ ปติฎฺฐานเฎฺฐเนว ปาโทฯ เอวมิธาปิ อิทฺธีติ วา ปาโทติ วา น อญฺญสฺส กสฺสจิ อธิวจนํ, สมฺปยุตฺตกานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํเยว อธิวจนนฺติฯ เอวํ วุเตฺต ปน อิทมาหํสุ – จตุนฺนํ ขนฺธานเมว อธิวจนํ ภเวยฺย, ยทิ สตฺถา ปรโต อุตฺตรจูฬภาชนียํ นาม น อาหเรยฺยฯ อุตฺตรจูฬภาชนีเย ปน ‘‘ฉโนฺทเยว ฉนฺทิทฺธิปาโท, วีริยเมว, จิตฺตเมว, วีมํสาว วีมํสิทฺธิปาโท’’ติ กถิตํฯ เกจิ ปน ‘‘อิทฺธิ นาม อนิปฺผนฺนา, อิทฺธิปาโท นิปฺผโนฺน’’ติ วทิํสุฯ เตสํ วจนํ ปฎิกฺขิปิตฺวา อิทฺธีปิ อิทฺธิปาโทปิ ‘นิปฺผโนฺน ติลกฺขณพฺภาหโต’ติ สนฺนิฎฺฐานํ กตํฯ อิติ อิมสฺมิํ สุตฺตนฺตภาชนีเย โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา อิทฺธิปาทา กถิตาติฯ
Kenaṭṭhena iddhi? Kenaṭṭhena pādoti? Ijjhanakaṭṭheneva iddhi. Patiṭṭhānaṭṭheneva pādo. Evamidhāpi iddhīti vā pādoti vā na aññassa kassaci adhivacanaṃ, sampayuttakānaṃ catunnaṃ khandhānaṃyeva adhivacananti. Evaṃ vutte pana idamāhaṃsu – catunnaṃ khandhānameva adhivacanaṃ bhaveyya, yadi satthā parato uttaracūḷabhājanīyaṃ nāma na āhareyya. Uttaracūḷabhājanīye pana ‘‘chandoyeva chandiddhipādo, vīriyameva, cittameva, vīmaṃsāva vīmaṃsiddhipādo’’ti kathitaṃ. Keci pana ‘‘iddhi nāma anipphannā, iddhipādo nipphanno’’ti vadiṃsu. Tesaṃ vacanaṃ paṭikkhipitvā iddhīpi iddhipādopi ‘nipphanno tilakkhaṇabbhāhato’ti sanniṭṭhānaṃ kataṃ. Iti imasmiṃ suttantabhājanīye lokiyalokuttaramissakā iddhipādā kathitāti.
สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนาฯ
Suttantabhājanīyavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๙. อิทฺธิปาทวิภโงฺค • 9. Iddhipādavibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā / ๙. อิทฺธิปาทวิภโงฺค • 9. Iddhipādavibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๙. อิทฺธิปาทวิภโงฺค • 9. Iddhipādavibhaṅgo