Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๖. สุตฺตวิญฺญตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
6. Suttaviññattisikkhāpadavaṇṇanā
๖๓๖. เตน สมเยนาติ สุตฺตวิญฺญตฺติสิกฺขาปทํฯ ตตฺถ โขมนฺติ โขมวาเกหิ กตสุตฺตํฯ กปฺปาสิกนฺติ กปฺปาสโต นิพฺพตฺตํฯ โกเสยฺยนฺติ โกสิยํสูหิ กนฺติตฺวา กตสุตฺตํฯ กมฺพลนฺติ เอฬกโลมสุตฺตํฯ สาณนฺติ สาณวากสุตฺตํฯ ภงฺคนฺติ ปาเฎกฺกํ วากสุตฺตเมวาติ เอเกฯ เอเตหิ ปญฺจหิ มิเสฺสตฺวา กตสุตฺตํ ปน ‘‘ภงฺค’’นฺติ เวทิตพฺพํฯ
636.Tenasamayenāti suttaviññattisikkhāpadaṃ. Tattha khomanti khomavākehi katasuttaṃ. Kappāsikanti kappāsato nibbattaṃ. Koseyyanti kosiyaṃsūhi kantitvā katasuttaṃ. Kambalanti eḷakalomasuttaṃ. Sāṇanti sāṇavākasuttaṃ. Bhaṅganti pāṭekkaṃ vākasuttamevāti eke. Etehi pañcahi missetvā katasuttaṃ pana ‘‘bhaṅga’’nti veditabbaṃ.
วายาเปติ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฎนฺติ สเจ ตนฺตวายสฺส ตุริเวมาทีนิ นตฺถิ, ตานิ ‘‘อรญฺญโต อาหริสฺสามี’’ติ วาสิํ วา ผรสุํ วา นิเสติ, ตโต ปฎฺฐาย ยํ ยํ อุปกรณตฺถาย วา จีวรวายนตฺถาย วา กโรติ, สพฺพตฺถ ตนฺตวายสฺส ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฎํฯ ทีฆโต วิทตฺถิมเตฺต ติริยญฺจ หตฺถมเตฺต วีเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ยาว ปริโยสานํ วายาเปนฺตสฺส ผลเก ผลเก นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํฯ ตมฺปิ อิทเมว ปมาณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมญฺหิ จีวรสงฺขฺยํ คจฺฉตีติฯ
Vāyāpeti payoge payoge dukkaṭanti sace tantavāyassa turivemādīni natthi, tāni ‘‘araññato āharissāmī’’ti vāsiṃ vā pharasuṃ vā niseti, tato paṭṭhāya yaṃ yaṃ upakaraṇatthāya vā cīvaravāyanatthāya vā karoti, sabbattha tantavāyassa payoge payoge bhikkhussa dukkaṭaṃ. Dīghato vidatthimatte tiriyañca hatthamatte vīte nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Mahāpaccariyaṃ pana ‘‘yāva pariyosānaṃ vāyāpentassa phalake phalake nissaggiyaṃ pācittiya’’nti vuttaṃ. Tampi idameva pamāṇaṃ sandhāya vuttanti veditabbaṃ. Vikappanupagapacchimañhi cīvarasaṅkhyaṃ gacchatīti.
อปิเจตฺถ เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพ – สุตฺตํ ตาว สามํ วิญฺญาปิตํ อกปฺปิยํ, เสสํ ญาตกาทิวเสน อุปฺปนฺนํ กปฺปิยํฯ ตนฺตวาโยปิ อญฺญาตกอปฺปวาริโต วิญฺญตฺติยา ลโทฺธ อกปฺปิโย, เสโส กปฺปิโยฯ ตตฺถ อกปฺปิยสุตฺตํ อกปฺปิยตนฺตวาเยน วายาเปนฺตสฺส ปุเพฺพ วุตฺตนเยน นิสฺสคฺคิยํฯ เตเนว ปน กปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยถา ปุเพฺพ นิสฺสคฺคิยํ, เอวํ ทุกฺกฎํฯ เตเนว กปฺปิยํ อกปฺปิยญฺจ สุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยทิ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาเณน เอโก ปริเจฺฉโท สุทฺธกปฺปิยสุตฺตมโย, เอโก อกปฺปิยสุตฺตมโยติ เอวํ เกทารพทฺธํ วิย จีวรํ โหติ, อกปฺปิยสุตฺตมเย ปริเจฺฉเท ปาจิตฺติยํ, อิตรสฺมิํ ตเถว ทุกฺกฎํฯ ยทิ ตโต อูนปริเจฺฉทา โหนฺติ, อนฺตมโส อจฺฉิมณฺฑลปฺปมาณาปิ, สพฺพปริเจฺฉเทสุ ปริเจฺฉทคณนาย ทุกฺกฎํฯ อถ เอกนฺตริเกน วา สุเตฺตน ทีฆโต วา กปฺปิยํ ติริยํ อกปฺปิยํ กตฺวา วีตํ โหติ, ผลเก ผลเก ทุกฺกฎํฯ กปฺปิยตนฺตวาเยนปิ อกปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยถา ปุเพฺพ นิสฺสคฺคิยํ, เอวํ ทุกฺกฎํฯ เตเนว กปฺปิยญฺจ อกปฺปิยญฺจ สุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส สเจ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณา อูนกา วา อกปฺปิยสุตฺตปริเจฺฉทา โหนฺติ, เตสุ ปริเจฺฉทคณนาย ทุกฺกฎํฯ กปฺปิยสุตฺตปริเจฺฉเทสุ อนาปตฺติฯ อถ เอกนฺตริเกน วา สุเตฺตน ทีฆโต วา กปฺปิยํ ติริยํ อกปฺปิยํ กตฺวา วีตํ โหติ, ผลเก ผลเก ทุกฺกฎํฯ
Apicettha evaṃ vinicchayo veditabbo – suttaṃ tāva sāmaṃ viññāpitaṃ akappiyaṃ, sesaṃ ñātakādivasena uppannaṃ kappiyaṃ. Tantavāyopi aññātakaappavārito viññattiyā laddho akappiyo, seso kappiyo. Tattha akappiyasuttaṃ akappiyatantavāyena vāyāpentassa pubbe vuttanayena nissaggiyaṃ. Teneva pana kappiyasuttaṃ vāyāpentassa yathā pubbe nissaggiyaṃ, evaṃ dukkaṭaṃ. Teneva kappiyaṃ akappiyañca suttaṃ vāyāpentassa yadi pacchimacīvarappamāṇena eko paricchedo suddhakappiyasuttamayo, eko akappiyasuttamayoti evaṃ kedārabaddhaṃ viya cīvaraṃ hoti, akappiyasuttamaye paricchede pācittiyaṃ, itarasmiṃ tatheva dukkaṭaṃ. Yadi tato ūnaparicchedā honti, antamaso acchimaṇḍalappamāṇāpi, sabbaparicchedesu paricchedagaṇanāya dukkaṭaṃ. Atha ekantarikena vā suttena dīghato vā kappiyaṃ tiriyaṃ akappiyaṃ katvā vītaṃ hoti, phalake phalake dukkaṭaṃ. Kappiyatantavāyenapi akappiyasuttaṃ vāyāpentassa yathā pubbe nissaggiyaṃ, evaṃ dukkaṭaṃ. Teneva kappiyañca akappiyañca suttaṃ vāyāpentassa sace pacchimacīvarappamāṇā ūnakā vā akappiyasuttaparicchedā honti, tesu paricchedagaṇanāya dukkaṭaṃ. Kappiyasuttaparicchedesu anāpatti. Atha ekantarikena vā suttena dīghato vā kappiyaṃ tiriyaṃ akappiyaṃ katvā vītaṃ hoti, phalake phalake dukkaṭaṃ.
ยทิ ปน เทฺว ตนฺตวายา โหนฺติ, เอโก กปฺปิโย เอโก อกปฺปิโย, สุตฺตญฺจ อกปฺปิยํ, เต เจ วาเรน วินนฺติ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีเต ผลเก ผลเก ปาจิตฺติยํ, อูนตเร ทุกฺกฎํฯ อิตเรน วีเต อุภยตฺถ ทุกฺกฎํฯ สเจ เทฺวปิ เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, ผลเก ผลเก ปาจิตฺติยํฯ อถ สุตฺตํ กปฺปิยํ, จีวรญฺจ เกทารพทฺธาทีหิ สปริเจฺฉทํ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีเต ปริเจฺฉเท ปริเจฺฉเท ทุกฺกฎํ, อิตเรน วีเต อนาปตฺติฯ สเจ เทฺวปิ เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, ผลเก ผลเก ทุกฺกฎํฯ อถ สุตฺตมฺปิ กปฺปิยญฺจ อกปฺปิยญฺจ, เต เจ วาเรน วินนฺติ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตมเยสุ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาเณสุ ปริเจฺฉเทสุ วีเตสุ ปริเจฺฉทคณนาย ปาจิตฺติยํฯ อูนกตเรสุ กปฺปิยสุตฺตมเยสุ จ ทุกฺกฎํฯ กปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตมเยสุ ปมาณยุเตฺตสุ วา อูนเกสุ วา ทุกฺกฎเมวฯ กปฺปิยสุตฺตมเยสุ อนาปตฺติฯ
Yadi pana dve tantavāyā honti, eko kappiyo eko akappiyo, suttañca akappiyaṃ, te ce vārena vinanti, akappiyatantavāyena vīte phalake phalake pācittiyaṃ, ūnatare dukkaṭaṃ. Itarena vīte ubhayattha dukkaṭaṃ. Sace dvepi vemaṃ gahetvā ekato vinanti, phalake phalake pācittiyaṃ. Atha suttaṃ kappiyaṃ, cīvarañca kedārabaddhādīhi saparicchedaṃ, akappiyatantavāyena vīte paricchede paricchede dukkaṭaṃ, itarena vīte anāpatti. Sace dvepi vemaṃ gahetvā ekato vinanti, phalake phalake dukkaṭaṃ. Atha suttampi kappiyañca akappiyañca, te ce vārena vinanti, akappiyatantavāyena akappiyasuttamayesu pacchimacīvarappamāṇesu paricchedesu vītesu paricchedagaṇanāya pācittiyaṃ. Ūnakataresu kappiyasuttamayesu ca dukkaṭaṃ. Kappiyatantavāyena akappiyasuttamayesu pamāṇayuttesu vā ūnakesu vā dukkaṭameva. Kappiyasuttamayesu anāpatti.
อถ เอกนฺตริเกน วา สุเตฺตน ทีฆโต วา อกปฺปิยํ ติริยํ กปฺปิยํ กตฺวา วินนฺติ, อุโภปิ วา เต เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, อปริเจฺฉเท จีวเร ผลเก ผลเก ทุกฺกฎํ, สปริเจฺฉเท ปริเจฺฉทวเสน ทุกฺกฎานีติฯ อยํ ปน อโตฺถ มหาอฎฺฐกถายํ อปากโฎ, มหาปจฺจริยาทีสุ ปากโฎฯ อิธ สพฺพากาเรเนว ปากโฎฯ
Atha ekantarikena vā suttena dīghato vā akappiyaṃ tiriyaṃ kappiyaṃ katvā vinanti, ubhopi vā te vemaṃ gahetvā ekato vinanti, aparicchede cīvare phalake phalake dukkaṭaṃ, saparicchede paricchedavasena dukkaṭānīti. Ayaṃ pana attho mahāaṭṭhakathāyaṃ apākaṭo, mahāpaccariyādīsu pākaṭo. Idha sabbākāreneva pākaṭo.
สเจ สุตฺตมฺปิ กปฺปิยํ, ตนฺตวาโยปิ กปฺปิโย ญาตกปฺปวาริโต วา มูเลน วา ปโยชิโต, วายาปนปจฺจยา อนาปตฺติฯ ทสาหาติกฺกมนปจฺจยา ปน อาปตฺติํ รกฺขเนฺตน วิกปฺปนุปคปฺปมาณมเตฺต วีเต ตเนฺต ฐิตํเยว อธิฎฺฐาตพฺพํฯ ทสาหาติกฺกเมน นิฎฺฐาปิยมานญฺหิ นิสฺสคฺคิยํ ภเวยฺยาติฯ ญาตกาทีหิ ตนฺตํ อาโรเปตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ, ภเนฺต, อิทํ จีวรํ คเณฺหยฺยาถา’’ติ นิยฺยาติเตปิ เอเสว นโยฯ
Sace suttampi kappiyaṃ, tantavāyopi kappiyo ñātakappavārito vā mūlena vā payojito, vāyāpanapaccayā anāpatti. Dasāhātikkamanapaccayā pana āpattiṃ rakkhantena vikappanupagappamāṇamatte vīte tante ṭhitaṃyeva adhiṭṭhātabbaṃ. Dasāhātikkamena niṭṭhāpiyamānañhi nissaggiyaṃ bhaveyyāti. Ñātakādīhi tantaṃ āropetvā ‘‘tumhākaṃ, bhante, idaṃ cīvaraṃ gaṇheyyāthā’’ti niyyātitepi eseva nayo.
สเจ ตนฺตวาโย เอวํ ปโยชิโต วา สยํ ทาตุกาโม วา หุตฺวา ‘‘อหํ, ภเนฺต, ตุมฺหากํ จีวรํ อสุกทิวเส นาม วายิตฺวา ฐเปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ
Sace tantavāyo evaṃ payojito vā sayaṃ dātukāmo vā hutvā ‘‘ahaṃ, bhante, tumhākaṃ cīvaraṃ asukadivase nāma vāyitvā ṭhapessāmī’’ti vadati, bhikkhu ca tena paricchinnadivasato dasāhaṃ atikkāmeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ.
สเจ ปน ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อโญฺญ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภเนฺต, จีวรํ นิฎฺฐิต’’นฺติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ น ปมาณํฯ ยทา ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฎฺฐาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ
Sace pana tantavāyo ‘‘ahaṃ tumhākaṃ cīvaraṃ vāyitvā sāsanaṃ pesessāmī’’ti vatvā tatheva karoti, tena pesitabhikkhu pana tassa bhikkhuno na āroceti, añño disvā vā sutvā vā ‘‘tumhākaṃ, bhante, cīvaraṃ niṭṭhita’’nti āroceti, etassa ārocanaṃ na pamāṇaṃ. Yadā pana tena pesitoyeva āroceti, tassa vacanaṃ sutadivasato paṭṭhāya dasāhaṃ atikkāmayato nissaggiyaṃ pācittiyaṃ.
สเจ ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา กสฺสจิ หเตฺถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, จีวรํ คเหตฺวา คตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ ฐเปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อโญฺญ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภเนฺต, อธุนา อาภตํ จีวรํ สุนฺทร’’นฺติ? ‘‘กุหิํ, อาวุโส, จีวร’’นฺติ? ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส หเตฺถ เปสิต’’นฺติฯ เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํฯ ยทา ปน โส ภิกฺขุ จีวรํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฎฺฐาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ สเจ ปน วายาปนมูลํ อทินฺนํ โหติ, ยาว กากณิกมตฺตมฺปิ อวสิฎฺฐํ, ตาว รกฺขติฯ
Sace tantavāyo ‘‘ahaṃ tumhākaṃ cīvaraṃ vāyitvā kassaci hatthe pahiṇissāmī’’ti vatvā tatheva karoti, cīvaraṃ gahetvā gatabhikkhu pana attano pariveṇe ṭhapetvā tassa na āroceti, añño koci bhaṇati ‘‘api, bhante, adhunā ābhataṃ cīvaraṃ sundara’’nti? ‘‘Kuhiṃ, āvuso, cīvara’’nti? ‘‘Itthannāmassa hatthe pesita’’nti. Etassapi vacanaṃ na pamāṇaṃ. Yadā pana so bhikkhu cīvaraṃ deti, laddhadivasato paṭṭhāya dasāhaṃ atikkāmayato nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Sace pana vāyāpanamūlaṃ adinnaṃ hoti, yāva kākaṇikamattampi avasiṭṭhaṃ, tāva rakkhati.
๖๔๐. อนาปตฺติ จีวรํ สิเพฺพตุนฺติ จีวรสิพฺพนตฺถาย สุตฺตํ วิญฺญาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อโตฺถฯ อาโยเคติอาทีสุปิ นิมิตฺตเตฺถ ภุมฺมวจนํ, อาโยคาทินิมิตฺตํ วิญฺญาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
640.Anāpatti cīvaraṃ sibbetunti cīvarasibbanatthāya suttaṃ viññāpentassa anāpattīti attho. Āyogetiādīsupi nimittatthe bhummavacanaṃ, āyogādinimittaṃ viññāpentassa anāpattīti vuttaṃ hoti. Sesamettha uttānatthamevāti.
ฉสมุฎฺฐานํ, กิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ
Chasamuṭṭhānaṃ, kiriyaṃ, nosaññāvimokkhaṃ, acittakaṃ, paṇṇattivajjaṃ, kāyakammavacīkammaṃ, ticittaṃ, tivedananti.
สุตฺตวิญฺญตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Suttaviññattisikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๖. สุตฺตวิญฺญตฺติสิกฺขาปทํ • 6. Suttaviññattisikkhāpadaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๖. สุตฺตวิญฺญตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Suttaviññattisikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๖. สุตฺตวิญฺญตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Suttaviññattisikkhāpadavaṇṇanā