Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi |
๕๔๐. สุวณฺณสามชาตกํ (๓)
540. Suvaṇṇasāmajātakaṃ (3)
๒๙๖.
296.
ขตฺติโย พฺราหฺมโณ เวโสฺส, โก มํ วิทฺธา นิลียสิฯ
Khattiyo brāhmaṇo vesso, ko maṃ viddhā nilīyasi.
๒๙๗.
297.
‘‘น เม มํสานิ ขชฺชานิ, จเมฺมนโตฺถ น วิชฺชติ;
‘‘Na me maṃsāni khajjāni, cammenattho na vijjati;
อถ เกน นุ วเณฺณน, วิเทฺธยฺยํ มํ อมญฺญถฯ
Atha kena nu vaṇṇena, viddheyyaṃ maṃ amaññatha.
๒๙๘.
298.
‘‘โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุโตฺต, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ;
‘‘Ko vā tvaṃ kassa vā putto, kathaṃ jānemu taṃ mayaṃ;
ปุโฎฺฐ เม สมฺม อกฺขาหิ, กิํ มํ วิทฺธา นิลียสิ’’ฯ
Puṭṭho me samma akkhāhi, kiṃ maṃ viddhā nilīyasi’’.
๒๙๙.
299.
‘‘ราชาหมสฺมิ กาสีนํ, ปีฬิยโกฺขติ มํ วิทู;
‘‘Rājāhamasmi kāsīnaṃ, pīḷiyakkhoti maṃ vidū;
โลภา รฎฺฐํ ปหิตฺวาน, มิคเมสํ จรามหํฯ
Lobhā raṭṭhaṃ pahitvāna, migamesaṃ carāmahaṃ.
๓๐๐.
300.
‘‘อิสฺสเตฺถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธโมฺมติ วิสฺสุโต;
‘‘Issatthe casmi kusalo, daḷhadhammoti vissuto;
นาโคปิ เม น มุเจฺจยฺย, อาคโต อุสุปาตนํฯ
Nāgopi me na mucceyya, āgato usupātanaṃ.
๓๐๑.
301.
‘‘โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุโตฺต 3, กถํ ชาเนมุ ตํ มยํ;
‘‘Ko vā tvaṃ kassa vā putto 4, kathaṃ jānemu taṃ mayaṃ;
ปิตุโน อตฺตโน จาปิ, นามโคตฺตํ ปเวทย’’ฯ
Pituno attano cāpi, nāmagottaṃ pavedaya’’.
๓๐๒.
302.
‘‘เนสาทปุโตฺต ภทฺทเนฺต, สาโม อิติ มํ ญาตโย;
‘‘Nesādaputto bhaddante, sāmo iti maṃ ñātayo;
๓๐๓.
303.
‘‘วิโทฺธสฺมิ ปุถุสเลฺลน, สวิเสน ยถา มิโค;
‘‘Viddhosmi puthusallena, savisena yathā migo;
สกมฺหิ โลหิเต ราช, ปสฺส เสมิ ปริปฺลุโตฯ
Sakamhi lohite rāja, passa semi paripluto.
๓๐๔.
304.
อาตุโร ตฺยานุปุจฺฉามิ, กิํ มํ วิทฺธา นิลียสิฯ
Āturo tyānupucchāmi, kiṃ maṃ viddhā nilīyasi.
๓๐๕.
305.
‘‘อชินมฺหิ หญฺญเต ทีปิ, นาโค ทเนฺตหิ หญฺญเต;
‘‘Ajinamhi haññate dīpi, nāgo dantehi haññate;
อถ เกน นุ วเณฺณน, วิเทฺธยฺยํ มํ อมญฺญถ’’ฯ
Atha kena nu vaṇṇena, viddheyyaṃ maṃ amaññatha’’.
๓๐๖.
306.
‘‘มิโค อุปฎฺฐิโต อาสิ, อาคโต อุสุปาตนํ;
‘‘Migo upaṭṭhito āsi, āgato usupātanaṃ;
ตํ ทิสฺวา อุพฺพิชี สาม, เตน โกโธ มมาวิสิ’’ฯ
Taṃ disvā ubbijī sāma, tena kodho mamāvisi’’.
๓๐๗.
307.
‘‘ยโต สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปโตฺตสฺมิ วิญฺญุตํ;
‘‘Yato sarāmi attānaṃ, yato pattosmi viññutaṃ;
น มํ มิคา อุตฺตสนฺติ, อรเญฺญ สาปทานิปิฯ
Na maṃ migā uttasanti, araññe sāpadānipi.
๓๐๘.
308.
‘‘ยโต นิธิํ ปริหริํ, ยโต ปโตฺตสฺมิ โยพฺพนํ;
‘‘Yato nidhiṃ parihariṃ, yato pattosmi yobbanaṃ;
น มํ มิคา อุตฺตสนฺติ, อรเญฺญ สาปทานิปิฯ
Na maṃ migā uttasanti, araññe sāpadānipi.
๓๐๙.
309.
‘‘ภีรู กิมฺปุริสา ราช, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;
‘‘Bhīrū kimpurisā rāja, pabbate gandhamādane;
สโมฺมทมานา คจฺฉาม, ปพฺพตานิ วนานิ จฯ
Sammodamānā gacchāma, pabbatāni vanāni ca.
๓๑๐.
310.
๓๑๑.
311.
๓๑๒.
312.
‘‘กุโต นุ สาม อาคมฺม, กสฺส วา ปหิโต ตุวํ;
‘‘Kuto nu sāma āgamma, kassa vā pahito tuvaṃ;
อุทหาโร นทิํ คจฺฉ, อาคโต มิคสมฺมตํ’’ฯ
Udahāro nadiṃ gaccha, āgato migasammataṃ’’.
๓๑๓.
313.
‘‘อนฺธา มาตาปิตา มยฺหํ, เต ภรามิ พฺรหาวเน;
‘‘Andhā mātāpitā mayhaṃ, te bharāmi brahāvane;
เตสาหํ อุทกาหาโร, อาคโต มิคสมฺมตํฯ
Tesāhaṃ udakāhāro, āgato migasammataṃ.
๓๑๔.
314.
‘‘อตฺถิ เนสํ อุสามตฺตํ, อถ สาหสฺส ชีวิตํ;
‘‘Atthi nesaṃ usāmattaṃ, atha sāhassa jīvitaṃ;
อุทกสฺส อลาเภน , มเญฺญ อนฺธา มริสฺสเรฯ
Udakassa alābhena , maññe andhā marissare.
๓๑๕.
315.
‘‘น เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ลพฺภา หิ ปุมุนา อิทํ;
‘‘Na me idaṃ tathā dukkhaṃ, labbhā hi pumunā idaṃ;
ยญฺจ อมฺมํ น ปสฺสามิ, ตํ เม ทุกฺขตรํ อิโตฯ
Yañca ammaṃ na passāmi, taṃ me dukkhataraṃ ito.
๓๑๖.
316.
‘‘น เม อิทํ ตถา ทุกฺขํ, ลพฺภา หิ ปุมุนา อิทํ;
‘‘Na me idaṃ tathā dukkhaṃ, labbhā hi pumunā idaṃ;
ยญฺจ ตาตํ น ปสฺสามิ, ตํ เม ทุกฺขตรํ อิโตฯ
Yañca tātaṃ na passāmi, taṃ me dukkhataraṃ ito.
๓๑๗.
317.
๓๑๘.
318.
๓๑๙.
319.
สาม ตาต วิลปนฺตา, หิณฺฑิสฺสนฺติ พฺรหาวเนฯ
Sāma tāta vilapantā, hiṇḍissanti brahāvane.
๓๒๐.
320.
‘‘อิทมฺปิ ทุติยํ สลฺลํ, กเมฺปติ หทยํ มมํ;
‘‘Idampi dutiyaṃ sallaṃ, kampeti hadayaṃ mamaṃ;
ยญฺจ อเนฺธ น ปสฺสามิ, มเญฺญ หิสฺสามิ 29 ชีวิตํ’’ฯ
Yañca andhe na passāmi, maññe hissāmi 30 jīvitaṃ’’.
๓๒๑.
321.
‘‘มา พาฬฺหํ ปริเทเวสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
‘‘Mā bāḷhaṃ paridevesi, sāma kalyāṇadassana;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสํ เต พฺรหาวเนฯ
Ahaṃ kammakaro hutvā, bharissaṃ te brahāvane.
๓๒๒.
322.
‘‘อิสฺสเตฺถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธโมฺมติ วิสฺสุโต;
‘‘Issatthe casmi kusalo, daḷhadhammoti vissuto;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสํ เต พฺรหาวเนฯ
Ahaṃ kammakaro hutvā, bharissaṃ te brahāvane.
๓๒๓.
323.
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสํ เต พฺรหาวเนฯ
Ahaṃ kammakaro hutvā, bharissaṃ te brahāvane.
๓๒๔.
324.
‘‘กตมํ ตํ วนํ สาม, ยตฺถ มาตาปิตา ตว;
‘‘Katamaṃ taṃ vanaṃ sāma, yattha mātāpitā tava;
อหํ เต ตถา ภริสฺสํ, ยถา เต อภรี ตุวํ’’ฯ
Ahaṃ te tathā bharissaṃ, yathā te abharī tuvaṃ’’.
๓๒๕.
325.
‘‘อยํ เอกปที ราช, โยยํ อุสฺสีสเก มม;
‘‘Ayaṃ ekapadī rāja, yoyaṃ ussīsake mama;
อิโต คนฺตฺวา อฑฺฒโกสํ, ตตฺถ เนสํ อคารกํ;
Ito gantvā aḍḍhakosaṃ, tattha nesaṃ agārakaṃ;
ยตฺถ มาตาปิตา มยฺหํ, เต ภรสฺสุ อิโต คโตฯ
Yattha mātāpitā mayhaṃ, te bharassu ito gato.
๓๒๖.
326.
‘‘นโม เต กาสิราชตฺถุ, นโม เต กาสิวฑฺฒน;
‘‘Namo te kāsirājatthu, namo te kāsivaḍḍhana;
อนฺธา มาตาปิตา มยฺหํ, เต ภรสฺสุ พฺรหาวเนฯ
Andhā mātāpitā mayhaṃ, te bharassu brahāvane.
๓๒๗.
327.
‘‘อญฺชลิํ เต ปคฺคณฺหามิ, กาสิราช นมตฺถุ เต;
‘‘Añjaliṃ te paggaṇhāmi, kāsirāja namatthu te;
มาตรํ ปิตรํ มยฺหํ, วุโตฺต วชฺชาสิ วนฺทนํ’’ฯ
Mātaraṃ pitaraṃ mayhaṃ, vutto vajjāsi vandanaṃ’’.
๓๒๘.
328.
‘‘อิทํ วตฺวาน โส สาโม, ยุวา กลฺยาณทสฺสโน;
‘‘Idaṃ vatvāna so sāmo, yuvā kalyāṇadassano;
มุจฺฉิโต วิสเวเคน, วิสญฺญี สมปชฺชถฯ
Mucchito visavegena, visaññī samapajjatha.
๓๒๙.
329.
‘‘ส ราชา ปริเทเวสิ, พหุํ การุญฺญสญฺหิตํ;
‘‘Sa rājā paridevesi, bahuṃ kāruññasañhitaṃ;
สามํ กาลงฺกตํ ทิสฺวา, นตฺถิ มจฺจุสฺส นาคโมฯ
Sāmaṃ kālaṅkataṃ disvā, natthi maccussa nāgamo.
๓๓๐.
330.
‘‘ยสฺสุ มํ ปฎิมเนฺตติ, สวิเสน สมปฺปิโต;
‘‘Yassu maṃ paṭimanteti, savisena samappito;
สฺวเชฺชวํ คเต กาเล, น กิญฺจิ มภิภาสติฯ
Svajjevaṃ gate kāle, na kiñci mabhibhāsati.
๓๓๑.
331.
‘‘นิรยํ นูน คจฺฉามิ, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโย;
‘‘Nirayaṃ nūna gacchāmi, ettha me natthi saṃsayo;
ตทา หิ ปกตํ ปาปํ, จิรรตฺตาย กิพฺพิสํฯ
Tadā hi pakataṃ pāpaṃ, cirarattāya kibbisaṃ.
๓๓๒.
332.
‘‘ภวนฺติ ตสฺส วตฺตาโร, คาเม กิพฺพิสการโก;
‘‘Bhavanti tassa vattāro, gāme kibbisakārako;
อรเญฺญ นิมฺมนุสฺสมฺหิ, โก มํ วตฺตุมรหติฯ
Araññe nimmanussamhi, ko maṃ vattumarahati.
๓๓๓.
333.
‘‘สารยนฺติ หิ กมฺมานิ, คาเม สํคจฺฉ มาณวา;
‘‘Sārayanti hi kammāni, gāme saṃgaccha māṇavā;
อรเญฺญ นิมฺมนุสฺสมฺหิ, โก นุ มํ สารยิสฺสติ’’ฯ
Araññe nimmanussamhi, ko nu maṃ sārayissati’’.
๓๓๔.
334.
‘‘สา เทวตา อนฺตรหิตา, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;
‘‘Sā devatā antarahitā, pabbate gandhamādane;
รโญฺญว อนุกมฺปาย, อิมา คาถา อภาสถฯ
Raññova anukampāya, imā gāthā abhāsatha.
๓๓๕.
335.
อทูสกา ปิตาปุตฺตา, ตโย เอกูสุนา หตาฯ
Adūsakā pitāputtā, tayo ekūsunā hatā.
๓๓๖.
336.
‘‘เอหิ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยถา เต สุคตี สิยา;
‘‘Ehi taṃ anusikkhāmi, yathā te sugatī siyā;
ธเมฺมนเนฺธ วเน โปส, มเญฺญหํ สุคตี ตยาฯ
Dhammenandhe vane posa, maññehaṃ sugatī tayā.
๓๓๗.
337.
‘‘ส ราชา ปริเทวิตฺวา, พหุํ การุญฺญสญฺหิตํ;
‘‘Sa rājā paridevitvā, bahuṃ kāruññasañhitaṃ;
อุทกกุมฺภมาทาย, ปกฺกามิ ทกฺขิณามุโขฯ
Udakakumbhamādāya, pakkāmi dakkhiṇāmukho.
๓๓๘.
338.
‘‘กสฺส นุ เอโส ปทสโทฺท, มนุสฺสเสฺสว อาคโต;
‘‘Kassa nu eso padasaddo, manussasseva āgato;
เนโส สามสฺส นิโคฺฆโส, โก นุ ตฺวมสิ มาริสฯ
Neso sāmassa nigghoso, ko nu tvamasi mārisa.
๓๓๙.
339.
เนโส สามสฺส นิโคฺฆโส, โก นุ ตฺวมสิ มาริส’’ฯ
Neso sāmassa nigghoso, ko nu tvamasi mārisa’’.
๓๔๐.
340.
‘‘ราชาหมสฺมิ กาสีนํ, ปีฬิยโกฺขติ มํ วิทู;
‘‘Rājāhamasmi kāsīnaṃ, pīḷiyakkhoti maṃ vidū;
โลภา รฎฺฐํ ปหิตฺวาน, มิคเมสํ จรามหํฯ
Lobhā raṭṭhaṃ pahitvāna, migamesaṃ carāmahaṃ.
๓๔๑.
341.
‘‘อิสฺสเตฺถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธโมฺมติ วิสฺสุโต;
‘‘Issatthe casmi kusalo, daḷhadhammoti vissuto;
นาโคปิ เม น มุเจฺจยฺย, อาคโต อุสุปาตนํ’’ฯ
Nāgopi me na mucceyya, āgato usupātanaṃ’’.
๓๔๒.
342.
‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
‘‘Svāgataṃ te mahārāja, atho te adurāgataṃ;
อิสฺสโรสิ อนุปฺปโตฺต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทยฯ
Issarosi anuppatto, yaṃ idhatthi pavedaya.
๓๔๓.
343.
‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;
‘‘Tindukāni piyālāni, madhuke kāsumāriyo;
ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุญฺช ราช วรํ วรํฯ
Phalāni khuddakappāni, bhuñja rāja varaṃ varaṃ.
๓๔๔.
344.
‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
‘‘Idampi pānīyaṃ sītaṃ, ābhataṃ girigabbharā;
ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสิ’’ฯ
Tato piva mahārāja, sace tvaṃ abhikaṅkhasi’’.
๓๔๕.
345.
‘‘นาลํ อนฺธา วเน ทฎฺฐุํ, โก นุ โว ผลมาหริ;
‘‘Nālaṃ andhā vane daṭṭhuṃ, ko nu vo phalamāhari;
อนนฺธเสฺสวยํ สมฺมา, นิวาโป มยฺห ขายติ’’ฯ
Anandhassevayaṃ sammā, nivāpo mayha khāyati’’.
๓๔๖.
346.
‘‘ทหโร ยุวา นาติพฺรหา, สาโม กลฺยาณทสฺสโน;
‘‘Daharo yuvā nātibrahā, sāmo kalyāṇadassano;
๓๔๗.
347.
นทิํ คโต อุทหาโร, มเญฺญ น ทูรมาคโต’’ฯ
Nadiṃ gato udahāro, maññe na dūramāgato’’.
๓๔๘.
348.
‘‘อหํ ตํ อวธิํ สามํ, โย ตุยฺหํ ปริจารโก;
‘‘Ahaṃ taṃ avadhiṃ sāmaṃ, yo tuyhaṃ paricārako;
ยํ กุมารํ ปเวเทถ, สามํ กลฺยาณทสฺสนํฯ
Yaṃ kumāraṃ pavedetha, sāmaṃ kalyāṇadassanaṃ.
๓๔๙.
349.
‘‘ทีฆสฺส เกสา อสิตา, อโถ สูนคฺคเวลฺลิตา;
‘‘Dīghassa kesā asitā, atho sūnaggavellitā;
เตสุ โลหิตลิเตฺตสุ, เสติ สาโม มยา หโต’’ฯ
Tesu lohitalittesu, seti sāmo mayā hato’’.
๓๕๐.
350.
‘‘เกน ทุกูลมเนฺตสิ, หโต สาโมติ วาทินา;
‘‘Kena dukūlamantesi, hato sāmoti vādinā;
หโต สาโมติ สุตฺวาน, หทยํ เม ปเวธติฯ
Hato sāmoti sutvāna, hadayaṃ me pavedhati.
๓๕๑.
351.
‘‘อสฺสตฺถเสฺสว ตรุณํ, ปวาฬํ มาลุเตริตํ;
‘‘Assatthasseva taruṇaṃ, pavāḷaṃ māluteritaṃ;
หโต สาโมติ สุตฺวาน, หทยํ เม ปเวธติ’’ฯ
Hato sāmoti sutvāna, hadayaṃ me pavedhati’’.
๓๕๒.
352.
‘‘ปาริเก กาสิราชายํ, โส สามํ มิคสมฺมเต;
‘‘Pārike kāsirājāyaṃ, so sāmaṃ migasammate;
โกธสา อุสุนา วิชฺฌิ, ตสฺส มา ปาปมิจฺฉิมฺหา’’ฯ
Kodhasā usunā vijjhi, tassa mā pāpamicchimhā’’.
๓๕๓.
353.
‘‘กิจฺฉา ลโทฺธ ปิโย ปุโตฺต, โย อเนฺธ อภรี วเน;
‘‘Kicchā laddho piyo putto, yo andhe abharī vane;
ตํ เอกปุตฺตํ ฆาติมฺหิ, กถํ จิตฺตํ น โกปเย’’ฯ
Taṃ ekaputtaṃ ghātimhi, kathaṃ cittaṃ na kopaye’’.
๓๕๔.
354.
‘‘กิจฺฉา ลโทฺธ ปิโย ปุโตฺต, โย อเนฺธ อภรี วเน;
‘‘Kicchā laddho piyo putto, yo andhe abharī vane;
ตํ เอกปุตฺตํ ฆาติมฺหิ, อโกฺกธํ อาหุ ปณฺฑิตา’’ฯ
Taṃ ekaputtaṃ ghātimhi, akkodhaṃ āhu paṇḍitā’’.
๓๕๕.
355.
‘‘มา พาฬฺหํ ปริเทเวถ, หโต สาโมติ วาทินา;
‘‘Mā bāḷhaṃ paridevetha, hato sāmoti vādinā;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสามิ พฺรหาวเนฯ
Ahaṃ kammakaro hutvā, bharissāmi brahāvane.
๓๕๖.
356.
‘‘อิสฺสเตฺถ จสฺมิ กุสโล, ทฬฺหธโมฺมติ วิสฺสุโต;
‘‘Issatthe casmi kusalo, daḷhadhammoti vissuto;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสามิ พฺรหาวเนฯ
Ahaṃ kammakaro hutvā, bharissāmi brahāvane.
๓๕๗.
357.
‘‘มิคานํ วิฆาสมเนฺวสํ, วนมูลผลานิ จ;
‘‘Migānaṃ vighāsamanvesaṃ, vanamūlaphalāni ca;
อหํ กมฺมกโร หุตฺวา, ภริสฺสามิ พฺรหาวเน’’ฯ
Ahaṃ kammakaro hutvā, bharissāmi brahāvane’’.
๓๕๘.
358.
‘‘เนส ธโมฺม มหาราช, เนตํ อเมฺหสุ กปฺปติ;
‘‘Nesa dhammo mahārāja, netaṃ amhesu kappati;
ราชา ตฺวมสิ อมฺหากํ, ปาเท วนฺทาม เต มยํ’’ฯ
Rājā tvamasi amhākaṃ, pāde vandāma te mayaṃ’’.
๓๕๙.
359.
‘‘ธมฺมํ เนสาท ภณถ, กตา อปจิตี ตยา;
‘‘Dhammaṃ nesāda bhaṇatha, katā apacitī tayā;
๓๖๐.
360.
‘‘นโม เต กาสิราชตฺถุ, นโม เต กาสิวฑฺฒน;
‘‘Namo te kāsirājatthu, namo te kāsivaḍḍhana;
อญฺชลิํ เต ปคฺคณฺหาม, ยาว สามานุปาปยฯ
Añjaliṃ te paggaṇhāma, yāva sāmānupāpaya.
๓๖๑.
361.
สํสุมฺภมานา อตฺตานํ, กาลมาคมยามเส’’ฯ
Saṃsumbhamānā attānaṃ, kālamāgamayāmase’’.
๓๖๒.
362.
‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;
‘‘Brahā vāḷamigākiṇṇaṃ, ākāsantaṃva dissati;
ยตฺถ สาโม หโต เสติ, จโนฺทว ปติโต ฉมาฯ
Yattha sāmo hato seti, candova patito chamā.
๓๖๓.
363.
‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;
‘‘Brahā vāḷamigākiṇṇaṃ, ākāsantaṃva dissati;
ยตฺถ สาโม หโต เสติ, สูริโยว ปติโต ฉมาฯ
Yattha sāmo hato seti, sūriyova patito chamā.
๓๖๔.
364.
‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;
‘‘Brahā vāḷamigākiṇṇaṃ, ākāsantaṃva dissati;
๓๖๕.
365.
‘‘พฺรหา วาฬมิคากิณฺณํ, อากาสนฺตํว ทิสฺสติ;
‘‘Brahā vāḷamigākiṇṇaṃ, ākāsantaṃva dissati;
ยตฺถ สาโม หโต เสติ, อิเธว วสถสฺสเม’’ฯ
Yattha sāmo hato seti, idheva vasathassame’’.
๓๖๖.
366.
เนวมฺหากํ ภยํ โกจิ, วเน วาเฬสุ วิชฺชติ’’ฯ
Nevamhākaṃ bhayaṃ koci, vane vāḷesu vijjati’’.
๓๖๗.
367.
‘‘ตโต อนฺธานมาทาย, กาสิราชา พฺรหาวเน;
‘‘Tato andhānamādāya, kāsirājā brahāvane;
หเตฺถ คเหตฺวา ปกฺกามิ, ยตฺถ สาโม หโต อหุฯ
Hatthe gahetvā pakkāmi, yattha sāmo hato ahu.
๓๖๘.
368.
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
‘‘Disvāna patitaṃ sāmaṃ, puttakaṃ paṃsukunthitaṃ;
อปวิทฺธํ พฺรหารเญฺญ, จนฺทํว ปติตํ ฉมาฯ
Apaviddhaṃ brahāraññe, candaṃva patitaṃ chamā.
๓๖๙.
369.
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
‘‘Disvāna patitaṃ sāmaṃ, puttakaṃ paṃsukunthitaṃ;
อปวิทฺธํ พฺรหารเญฺญ, สูริยํว ปติตํ ฉมาฯ
Apaviddhaṃ brahāraññe, sūriyaṃva patitaṃ chamā.
๓๗๐.
370.
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
‘‘Disvāna patitaṃ sāmaṃ, puttakaṃ paṃsukunthitaṃ;
๓๗๑.
371.
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
‘‘Disvāna patitaṃ sāmaṃ, puttakaṃ paṃsukunthitaṃ;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, อธโมฺม กิร โภ อิติฯ
Bāhā paggayha pakkanduṃ, adhammo kira bho iti.
๓๗๒.
372.
‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปมโตฺตสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
‘‘Bāḷhaṃ kho tvaṃ pamattosi, sāma kalyāṇadassana;
๓๗๓.
373.
‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปทิโตฺตสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
‘‘Bāḷhaṃ kho tvaṃ padittosi, sāma kalyāṇadassana;
โย อเชฺชวํ คเต กาเล, น กิญฺจิ มภิภาสสิฯ
Yo ajjevaṃ gate kāle, na kiñci mabhibhāsasi.
๓๗๔.
374.
‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปกุโทฺธสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
‘‘Bāḷhaṃ kho tvaṃ pakuddhosi, sāma kalyāṇadassana;
โย อเชฺชวํ คเต กาเล, น กิญฺจิ มภิภาสสิฯ
Yo ajjevaṃ gate kāle, na kiñci mabhibhāsasi.
๓๗๕.
375.
‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ ปสุโตฺตสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
‘‘Bāḷhaṃ kho tvaṃ pasuttosi, sāma kalyāṇadassana;
โย อเชฺชวํ คเต กาเล, น กิญฺจิ มภิภาสสิฯ
Yo ajjevaṃ gate kāle, na kiñci mabhibhāsasi.
๓๗๖.
376.
‘‘พาฬฺหํ โข ตฺวํ วิมโนสิ, สาม กลฺยาณทสฺสน;
‘‘Bāḷhaṃ kho tvaṃ vimanosi, sāma kalyāṇadassana;
โย อเชฺชวํ คเต กาเล, น กิญฺจิ มภิภาสสิฯ
Yo ajjevaṃ gate kāle, na kiñci mabhibhāsasi.
๓๗๗.
377.
สาโม อยํ กาลงฺกโต, อนฺธานํ ปริจารโกฯ
Sāmo ayaṃ kālaṅkato, andhānaṃ paricārako.
๓๗๘.
378.
สาโม อยํ กาลงฺกโต, อนฺธานํ ปริจารโกฯ
Sāmo ayaṃ kālaṅkato, andhānaṃ paricārako.
๓๗๙.
379.
‘‘โก ทานิ นฺหาปยิสฺสติ, สีเตนุโณฺหทเกน จ;
‘‘Ko dāni nhāpayissati, sītenuṇhodakena ca;
สาโม อยํ กาลงฺกโต, อนฺธานํ ปริจารโกฯ
Sāmo ayaṃ kālaṅkato, andhānaṃ paricārako.
๓๘๐.
380.
‘‘โก ทานิ โภชยิสฺสติ, วนมูลผลานิ จ;
‘‘Ko dāni bhojayissati, vanamūlaphalāni ca;
สาโม อยํ กาลงฺกโต, อนฺธานํ ปริจารโก’’ฯ
Sāmo ayaṃ kālaṅkato, andhānaṃ paricārako’’.
๓๘๑.
381.
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
‘‘Disvāna patitaṃ sāmaṃ, puttakaṃ paṃsukunthitaṃ;
อฎฺฎิตา ปุตฺตโสเกน, มาตา สจฺจํ อภาสถฯ
Aṭṭitā puttasokena, mātā saccaṃ abhāsatha.
๓๘๒.
382.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, ธมฺมจารี ปุเร อหุ;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, dhammacārī pure ahu;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๘๓.
383.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, พฺรหฺมจารี ปุเร อหุ;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, brahmacārī pure ahu;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๘๔.
384.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, สจฺจวาที ปุเร อหุ;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, saccavādī pure ahu;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๘๕.
385.
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๘๖.
386.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, กุเล เชฎฺฐาปจายิโก;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, kule jeṭṭhāpacāyiko;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๘๗.
387.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, ปาณา ปิยตโร มม;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, pāṇā piyataro mama;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๘๘.
388.
‘‘ยํ กิญฺจิตฺถิ กตํ ปุญฺญํ, มยฺหเญฺจว ปิตุจฺจ เต;
‘‘Yaṃ kiñcitthi kataṃ puññaṃ, mayhañceva pitucca te;
สเพฺพน เตน กุสเลน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุ’’ฯ
Sabbena tena kusalena, visaṃ sāmassa haññatu’’.
๓๘๙.
389.
‘‘ทิสฺวาน ปติตํ สามํ, ปุตฺตกํ ปํสุกุนฺถิตํ;
‘‘Disvāna patitaṃ sāmaṃ, puttakaṃ paṃsukunthitaṃ;
อฎฺฎิโต ปุตฺตโสเกน, ปิตา สจฺจํ อภาสถฯ
Aṭṭito puttasokena, pitā saccaṃ abhāsatha.
๓๙๐.
390.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, ธมฺมจารี ปุเร อหุ;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, dhammacārī pure ahu;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๙๑.
391.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, พฺรหฺมจารี ปุเร อหุ;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, brahmacārī pure ahu;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๙๒.
392.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, สจฺจวาที ปุเร อหุ;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, saccavādī pure ahu;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๙๓.
393.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, มาตาเปตฺติภโร อหุ;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, mātāpettibharo ahu;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๙๔.
394.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, กุเล เชฎฺฐาปจายิโก;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, kule jeṭṭhāpacāyiko;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๙๕.
395.
‘‘เยน สเจฺจนยํ สาโม, ปาณา ปิยตโร มม;
‘‘Yena saccenayaṃ sāmo, pāṇā piyataro mama;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๙๖.
396.
‘‘ยํ กิญฺจิตฺถิ 63 กตํ ปุญฺญํ, มยฺหเญฺจว มาตุจฺจ เต;
‘‘Yaṃ kiñcitthi 64 kataṃ puññaṃ, mayhañceva mātucca te;
สเพฺพน เตน กุสเลน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Sabbena tena kusalena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๙๗.
397.
‘‘สา เทวตา อนฺตรหิตา, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;
‘‘Sā devatā antarahitā, pabbate gandhamādane;
สามสฺส อนุกมฺปาย, อิมํ สจฺจํ อภาสถฯ
Sāmassa anukampāya, imaṃ saccaṃ abhāsatha.
๓๙๘.
398.
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu.
๓๙๙.
399.
‘‘สเพฺพ วนา คนฺธมยา, ปพฺพเต คนฺธมาทเน;
‘‘Sabbe vanā gandhamayā, pabbate gandhamādane;
เอเตน สจฺจวเชฺชน, วิสํ สามสฺส หญฺญตุ’’ฯ
Etena saccavajjena, visaṃ sāmassa haññatu’’.
๔๐๐.
400.
เตสํ ลาลปฺปมานานํ, พหุํ การุญฺญสญฺหิตํ;
Tesaṃ lālappamānānaṃ, bahuṃ kāruññasañhitaṃ;
ขิปฺปํ สาโม สมุฎฺฐาสิ, ยุวา กลฺยาณทสฺสโนฯ
Khippaṃ sāmo samuṭṭhāsi, yuvā kalyāṇadassano.
๔๐๑.
401.
‘‘สาโมหมสฺมิ ภทฺทํ โว 69, โสตฺถินามฺหิ สมุฎฺฐิโต;
‘‘Sāmohamasmi bhaddaṃ vo 70, sotthināmhi samuṭṭhito;
มา พาฬฺหํ ปริเทเวถ, มญฺชุนาภิวเทถ มํ’’ฯ
Mā bāḷhaṃ paridevetha, mañjunābhivadetha maṃ’’.
๔๐๒.
402.
‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
‘‘Svāgataṃ te mahārāja, atho te adurāgataṃ;
อิสฺสโรสิ อนุปฺปโตฺต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทยฯ
Issarosi anuppatto, yaṃ idhatthi pavedaya.
๔๐๓.
403.
‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;
‘‘Tindukāni piyālāni, madhuke kāsumāriyo;
ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุญฺช ราช วรํ วรํฯ
Phalāni khuddakappāni, bhuñja rāja varaṃ varaṃ.
๔๐๔.
404.
‘‘อตฺถิ เม ปานิยํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
‘‘Atthi me pāniyaṃ sītaṃ, ābhataṃ girigabbharā;
ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสิ’’ฯ
Tato piva mahārāja, sace tvaṃ abhikaṅkhasi’’.
๔๐๕.
405.
‘‘สมฺมุยฺหามิ ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;
‘‘Sammuyhāmi pamuyhāmi, sabbā muyhanti me disā;
เปตํ ตํ สามมทฺทกฺขิํ, โก นุ ตฺวํ สาม ชีวสิ’’ฯ
Petaṃ taṃ sāmamaddakkhiṃ, ko nu tvaṃ sāma jīvasi’’.
๔๐๖.
406.
‘‘อปิ ชีวํ มหาราช, ปุริสํ คาฬฺหเวทนํ;
‘‘Api jīvaṃ mahārāja, purisaṃ gāḷhavedanaṃ;
อุปนีตมนสงฺกปฺปํ, ชีวนฺตํ มญฺญเต มตํฯ
Upanītamanasaṅkappaṃ, jīvantaṃ maññate mataṃ.
๔๐๗.
407.
‘‘อปิ ชีวํ มหาราช, ปุริสํ คาฬฺหเวทนํ;
‘‘Api jīvaṃ mahārāja, purisaṃ gāḷhavedanaṃ;
ตํ นิโรธคตํ สนฺตํ, ชีวนฺตํ มญฺญเต มตํฯ
Taṃ nirodhagataṃ santaṃ, jīvantaṃ maññate mataṃ.
๔๐๘.
408.
‘‘โย มาตรํ ปิตรํ วา, มโจฺจ ธเมฺมน โปสติ;
‘‘Yo mātaraṃ pitaraṃ vā, macco dhammena posati;
เทวาปิ นํ ติกิจฺฉนฺติ, มาตาเปตฺติภรํ นรํฯ
Devāpi naṃ tikicchanti, mātāpettibharaṃ naraṃ.
๔๐๙.
409.
‘‘โย มาตรํ ปิตรํ วา, มโจฺจ ธเมฺมน โปสติ;
‘‘Yo mātaraṃ pitaraṃ vā, macco dhammena posati;
อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สเคฺค ปโมทติ’’ฯ
Idheva naṃ pasaṃsanti, pecca sagge pamodati’’.
๔๑๐.
410.
‘‘เอส ภิโยฺย ปมุยฺหามิ, สพฺพา มุยฺหนฺติ เม ทิสา;
‘‘Esa bhiyyo pamuyhāmi, sabbā muyhanti me disā;
สรณํ ตํ สาม คจฺฉามิ 71, ตฺวญฺจ เม สรณํ ภว’’ฯ
Saraṇaṃ taṃ sāma gacchāmi 72, tvañca me saraṇaṃ bhava’’.
๔๑๑.
411.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, mātāpitūsu khattiya;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิฯ
Idha dhammaṃ caritvāna, rāja saggaṃ gamissasi.
๔๑๒.
412.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, puttadāresu khattiya;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิฯ
Idha dhammaṃ caritvāna, rāja saggaṃ gamissasi.
๔๑๓.
413.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามเจฺจสุ ขตฺติย;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, mittāmaccesu khattiya;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิฯ
Idha dhammaṃ caritvāna, rāja saggaṃ gamissasi.
๔๑๔.
414.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, vāhanesu balesu ca;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิฯ
Idha dhammaṃ caritvāna, rāja saggaṃ gamissasi.
๔๑๕.
415.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, gāmesu nigamesu ca;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิฯ
Idha dhammaṃ caritvāna, rāja saggaṃ gamissasi.
๔๑๖.
416.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รเฎฺฐสุ ชนปเทสุ จ;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, raṭṭhesu janapadesu ca;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิฯ
Idha dhammaṃ caritvāna, rāja saggaṃ gamissasi.
๔๑๗.
417.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมณพฺราหฺมเณสุ จ;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, samaṇabrāhmaṇesu ca;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิฯ
Idha dhammaṃ caritvāna, rāja saggaṃ gamissasi.
๔๑๘.
418.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, migapakkhīsu khattiya;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิฯ
Idha dhammaṃ caritvāna, rāja saggaṃ gamissasi.
๔๑๙.
419.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธโมฺม จิโณฺณ สุขาวโห;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, dhammo ciṇṇo sukhāvaho;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิฯ
Idha dhammaṃ caritvāna, rāja saggaṃ gamissasi.
๔๒๐.
420.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;
‘‘Dhammaṃ cara mahārāja, saindā devā sabrahmakā;
สุจิเณฺณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติฯ
Suciṇṇena divaṃ pattā, mā dhammaṃ rāja pāmado’’ti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā / [๕๔๐] ๓. สุวณฺณสามชาตกวณฺณนา • [540] 3. Suvaṇṇasāmajātakavaṇṇanā