Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๑๑. สกฺกสํยุตฺตํ

    11. Sakkasaṃyuttaṃ

    ๑. ปฐมวโคฺค

    1. Paṭhamavaggo

    ๑. สุวีรสุตฺตวณฺณนา

    1. Suvīrasuttavaṇṇanā

    ๒๔๗. สกฺกสํยุตฺตสฺส ปฐเม อภิยํสูติ กทา อภิยํสุ? ยทา พลวโนฺต อเหสุํ, ตทาฯ ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – สโกฺก กิร มคธรเฎฺฐ มจลคามเก มโฆ นาม มาณโว หุตฺวา เตตฺติํส ปุริเส คเหตฺวา กลฺยาณกมฺมํ กโรโนฺต สตฺต วตปทานิ ปูเรตฺวา ตตฺถ กาลงฺกโต เทวโลเก นิพฺพตฺติฯ ตํ พลวกมฺมานุภาเวน สปริสํ เสสเทวตา ทสหิ ฐาเนหิ อธิคณฺหนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อาคนฺตุกเทวปุตฺตา อาคตา’’ติ เนวาสิกา คนฺธปานํ สชฺชยิํสุฯ สโกฺก สกปริสาย สญฺญํ อทาสิ – ‘‘มาริสา มา คนฺธปานํ ปิวิตฺถ, ปิวนาการมตฺตเมว ทเสฺสถา’’ติฯ เต ตตฺถ อกํสุฯ เนวาสิกเทวตา สุวณฺณสรเกหิ อุปนีตํ คนฺธปานํ ยาวทตฺถํ ปิวิตฺวา มตฺตา ตตฺถ ตตฺถ สุวณฺณปถวิยํ ปติตฺวา สยิํสุฯ สโกฺก ‘‘คณฺหถ ปุตฺตหตาย ปุเตฺต’’ติ เต ปาเทสุ คเหตฺวา สิเนรุปาเท ขิปาเปสิฯ สกฺกสฺส ปุญฺญเตเชน ตทนุวตฺตกาปิ สเพฺพ ตเตฺถว ปติํสุฯ เต สิเนรุเวมชฺฌกาเล สญฺญํ ลภิตฺวา, ‘‘ตาตา น สุรํ ปิวิมฺห, น สุรํ ปิวิมฺหา’’ติ อาหํสุฯ ตโต ปฎฺฐาย อสุรา นาม ชาตาฯ อถ เนสํ กมฺมปจฺจยอุตุสมุฎฺฐานํ สิเนรุสฺส เหฎฺฐิมตเล ทสโยชนสหสฺสํ อสุรภวนํ นิพฺพตฺติฯ สโกฺก เตสํ นิวเตฺตตฺวา อนาคมนตฺถาย อารกฺขํ ฐเปสิ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

    247. Sakkasaṃyuttassa paṭhame abhiyaṃsūti kadā abhiyaṃsu? Yadā balavanto ahesuṃ, tadā. Tatrāyaṃ anupubbikathā – sakko kira magadharaṭṭhe macalagāmake magho nāma māṇavo hutvā tettiṃsa purise gahetvā kalyāṇakammaṃ karonto satta vatapadāni pūretvā tattha kālaṅkato devaloke nibbatti. Taṃ balavakammānubhāvena saparisaṃ sesadevatā dasahi ṭhānehi adhigaṇhantaṃ disvā ‘‘āgantukadevaputtā āgatā’’ti nevāsikā gandhapānaṃ sajjayiṃsu. Sakko sakaparisāya saññaṃ adāsi – ‘‘mārisā mā gandhapānaṃ pivittha, pivanākāramattameva dassethā’’ti. Te tattha akaṃsu. Nevāsikadevatā suvaṇṇasarakehi upanītaṃ gandhapānaṃ yāvadatthaṃ pivitvā mattā tattha tattha suvaṇṇapathaviyaṃ patitvā sayiṃsu. Sakko ‘‘gaṇhatha puttahatāya putte’’ti te pādesu gahetvā sinerupāde khipāpesi. Sakkassa puññatejena tadanuvattakāpi sabbe tattheva patiṃsu. Te sineruvemajjhakāle saññaṃ labhitvā, ‘‘tātā na suraṃ pivimha, na suraṃ pivimhā’’ti āhaṃsu. Tato paṭṭhāya asurā nāma jātā. Atha nesaṃ kammapaccayautusamuṭṭhānaṃ sinerussa heṭṭhimatale dasayojanasahassaṃ asurabhavanaṃ nibbatti. Sakko tesaṃ nivattetvā anāgamanatthāya ārakkhaṃ ṭhapesi, yaṃ sandhāya vuttaṃ –

    ‘‘อนฺตรา ทฺวินฺนํ อยุชฺฌปุรานํ,

    ‘‘Antarā dvinnaṃ ayujjhapurānaṃ,

    ปญฺจวิธา ฐปิตา อภิรกฺขา;

    Pañcavidhā ṭhapitā abhirakkhā;

    อุทกํ กโรฎิ-ปยสฺส จ หารี,

    Udakaṃ karoṭi-payassa ca hārī,

    มทนยุตา จตุโร จ มหตฺถา’’ติฯ

    Madanayutā caturo ca mahatthā’’ti.

    เทฺว นครานิ หิ ยุเทฺธน คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อยุชฺฌปุรานิ นาม ชาตานิ เทวนครญฺจ อสุรนครญฺจฯ ยทา หิ อสุรา พลวโนฺต โหนฺติ, อถ เทเวหิ ปลายิตฺวา เทวนครํ ปวิสิตฺวา ทฺวาเร ปิทหิเต อสุรานํ สตสหสฺสมฺปิ กิญฺจิ กาตุํ น สโกฺกติฯ ยทา เทวา พลวโนฺต โหนฺติ, อถาสุเรหิ ปลายิตฺวา อสุรนครสฺส ทฺวาเร ปิทหิเต สกฺกานํ สตสหสฺสมฺปิ กิญฺจิ กาตุํ น สโกฺกติฯ อิติ อิมานิ เทฺว นครานิ อยุชฺฌปุรานิ นามฯ เนสํ อนฺตรา เอเตสุ อุทกาทีสุ ปญฺจสุ ฐาเนสุ สเกฺกน อารกฺขา ฐปิตาฯ ตตฺถ อุทกสเทฺทน นาคา คหิตาฯ เต หิ อุทเก พลวโนฺต โหนฺติฯ ตสฺมา สิเนรุสฺส ปฐมาลิเนฺท เตสํ อารกฺขาฯ กโรฎิสเทฺทน สุปณฺณา คหิตาฯ เตสํ กิร กโรฎิ นาม ปานโภชนํ, เตน ตํ นามํ ลภิํสุฯ ทุติยาลิเนฺท เตสํ อารกฺขาฯ ปยสฺสหารีสเทฺทน กุมฺภณฺฑา คหิตาฯ ทานวรกฺขสา กิร เตฯ ตติยาลิเนฺท เตสํ อารกฺขาฯ มทนยุตสเทฺทน ยกฺขา คหิตาฯ วิสมจาริโน กิรเต ยุชฺฌโสณฺฑาฯ จตุตฺถาลิเนฺท เตสํ อารกฺขาฯ จตุโร จ มหนฺตาติ จตฺตาโร มหาราชาโน วุตฺตาฯ ปญฺจมาลิเนฺท เตสํ อารกฺขาฯ ตสฺมา ยทิ อสุรา กุปิตาวิลจิตฺตา เทวปุรํ อุปยนฺติ ยุเทฺธสู, ยํ คิริโน ปฐมํ ปริภณฺฑํ, ตํ อุรคา ปฎิพาหนฺติ เอวํ เสเสสุ เสสาฯ

    Dve nagarāni hi yuddhena gahetuṃ asakkuṇeyyatāya ayujjhapurāni nāma jātāni devanagarañca asuranagarañca. Yadā hi asurā balavanto honti, atha devehi palāyitvā devanagaraṃ pavisitvā dvāre pidahite asurānaṃ satasahassampi kiñci kātuṃ na sakkoti. Yadā devā balavanto honti, athāsurehi palāyitvā asuranagarassa dvāre pidahite sakkānaṃ satasahassampi kiñci kātuṃ na sakkoti. Iti imāni dve nagarāni ayujjhapurāni nāma. Nesaṃ antarā etesu udakādīsu pañcasu ṭhānesu sakkena ārakkhā ṭhapitā. Tattha udakasaddena nāgā gahitā. Te hi udake balavanto honti. Tasmā sinerussa paṭhamālinde tesaṃ ārakkhā. Karoṭisaddena supaṇṇā gahitā. Tesaṃ kira karoṭi nāma pānabhojanaṃ, tena taṃ nāmaṃ labhiṃsu. Dutiyālinde tesaṃ ārakkhā. Payassahārīsaddena kumbhaṇḍā gahitā. Dānavarakkhasā kira te. Tatiyālinde tesaṃ ārakkhā. Madanayutasaddena yakkhā gahitā. Visamacārino kirate yujjhasoṇḍā. Catutthālinde tesaṃ ārakkhā. Caturo ca mahantāti cattāro mahārājāno vuttā. Pañcamālinde tesaṃ ārakkhā. Tasmā yadi asurā kupitāvilacittā devapuraṃ upayanti yuddhesū, yaṃ girino paṭhamaṃ paribhaṇḍaṃ, taṃ uragā paṭibāhanti evaṃ sesesu sesā.

    เต ปน อสุรา อายุวณฺณรสอิสฺสริยสมฺปตฺตีหิ ตาวติํสสทิสาวฯ ตสฺมา อนฺตรา อตฺตานํ อชานิตฺวา ปาฎลิยา ปุปฺผิตาย, ‘‘น อิทํ เทวนครํ, ตตฺถ ปาริจฺฉตฺตโก ปุปฺผติ, อิธ ปน จิตฺตปาฎลี, ชรสเกฺกนามฺหากํ สุรํ ปาเยตฺวา วญฺจิตา, เทวนครญฺจ โน คหิตํ, คจฺฉาม เตน สทฺธิํ ยุชฺฌิสฺสามา’’ติ หตฺถิอสฺสรเถ อารุยฺห สุวณฺณรชตมณิผลกานิ คเหตฺวา, ยุทฺธสชฺชา หุตฺวา, อสุรเภริโย วาเทนฺตา มหาสมุเทฺท อุทกํ ทฺวิธา เภตฺวา อุฎฺฐหนฺติฯ เต เทเว วุเฎฺฐ วมฺมิกมกฺขิกา วมฺมิกํ วิย สิเนรุํ อภิรุหิตุ อารภนฺติฯ อถ เนสํ ปฐมํ นาเคหิ สทฺธิํ ยุทฺธํ โหติฯ ตสฺมิํ โข ปน ยุเทฺธ น กสฺสจิ ฉวิ วา จมฺมํ วา ฉิชฺชติ, น โลหิตํ อุปฺปชฺชติ, เกวลํ กุมารกานํ ทารุเมณฺฑกยุทฺธํ วิย อญฺญมญฺญํ สนฺตาสนมตฺตเมว โหติฯ โกฎิสตาปิ โกฎิสหสฺสาปิ นาคา เตหิ สทฺธิํ ยุชฺฌิตฺวา เต อสุรปุรํเยว ปเวเสตฺวา นิวตฺตนฺติฯ

    Te pana asurā āyuvaṇṇarasaissariyasampattīhi tāvatiṃsasadisāva. Tasmā antarā attānaṃ ajānitvā pāṭaliyā pupphitāya, ‘‘na idaṃ devanagaraṃ, tattha pāricchattako pupphati, idha pana cittapāṭalī, jarasakkenāmhākaṃ suraṃ pāyetvā vañcitā, devanagarañca no gahitaṃ, gacchāma tena saddhiṃ yujjhissāmā’’ti hatthiassarathe āruyha suvaṇṇarajatamaṇiphalakāni gahetvā, yuddhasajjā hutvā, asurabheriyo vādentā mahāsamudde udakaṃ dvidhā bhetvā uṭṭhahanti. Te deve vuṭṭhe vammikamakkhikā vammikaṃ viya sineruṃ abhiruhitu ārabhanti. Atha nesaṃ paṭhamaṃ nāgehi saddhiṃ yuddhaṃ hoti. Tasmiṃ kho pana yuddhe na kassaci chavi vā cammaṃ vā chijjati, na lohitaṃ uppajjati, kevalaṃ kumārakānaṃ dārumeṇḍakayuddhaṃ viya aññamaññaṃ santāsanamattameva hoti. Koṭisatāpi koṭisahassāpi nāgā tehi saddhiṃ yujjhitvā te asurapuraṃyeva pavesetvā nivattanti.

    ยทา ปน อสุรา พลวโนฺต โหนฺติ, อถ นาคา โอสกฺกิตฺวา ทุติเย อาลิเนฺท สุปเณฺณหิ สทฺธิํ เอกโตว หุตฺวา ยุชฺฌนฺติฯ เอส นโย สุปณฺณาทีสูปิฯ ยทา ปน ตานิ ปญฺจปิ ฐานานิ อสุรา มทฺทนฺติ, ตทา เอกโต สมฺปิณฺฑิตานิปิ ปญฺจ พลานิ โอสกฺกนฺติฯ อถ จตฺตาโร มหาราชาโน คนฺตฺวา สกฺกสฺส ตํ ปวตฺติํ อาโรเจนฺติฯ สโกฺก เตสํ วจนํ สุตฺวา ทิยฑฺฒโยชนสติกํ เวชยนฺตรถํ อารุยฺห สยํ วา นิกฺขมติ, เอกํ วา ปุตฺตํ เปเสติฯ อิมสฺมิํ ปน กาเล ปุตฺตํ เปเสตุกาโม, ตาต สุวีราติอาทิมาหฯ

    Yadā pana asurā balavanto honti, atha nāgā osakkitvā dutiye ālinde supaṇṇehi saddhiṃ ekatova hutvā yujjhanti. Esa nayo supaṇṇādīsūpi. Yadā pana tāni pañcapi ṭhānāni asurā maddanti, tadā ekato sampiṇḍitānipi pañca balāni osakkanti. Atha cattāro mahārājāno gantvā sakkassa taṃ pavattiṃ ārocenti. Sakko tesaṃ vacanaṃ sutvā diyaḍḍhayojanasatikaṃ vejayantarathaṃ āruyha sayaṃ vā nikkhamati, ekaṃ vā puttaṃ peseti. Imasmiṃ pana kāle puttaṃ pesetukāmo, tāta suvīrātiādimāha.

    เอวํ ภทฺทนฺตวาติ โขติ เอวํ โหตุ ภทฺทํ ตว อิติ โขฯ ปมาทํ อาปาเทสีติ ปมาทํ อกาสิฯ อจฺฉราสงฺฆปริวุโต สฎฺฐิโยชนํ วิตฺถาเรน สุวณฺณมหาวีถิํ โอตริตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬโนฺต นนฺทนวนาทีสุ วิจรตีติ อโตฺถฯ

    Evaṃ bhaddantavāti khoti evaṃ hotu bhaddaṃ tava iti kho. Pamādaṃ āpādesīti pamādaṃ akāsi. Accharāsaṅghaparivuto saṭṭhiyojanaṃ vitthārena suvaṇṇamahāvīthiṃ otaritvā nakkhattaṃ kīḷanto nandanavanādīsu vicaratīti attho.

    อนุฎฺฐหนฺติ อนุฎฺฐหโนฺตฯ อวายามนฺติ อวายมโนฺตฯ อลสฺวสฺสาติ อลโส อสฺสฯ น จ กิจฺจานิ การเยติ กิญฺจิ กิจฺจํ นาม น กเรยฺยฯ สพฺพกามสมิทฺธสฺสาติ สพฺพกาเมหิ สมิโทฺธ อสฺสฯ ตํ เม, สกฺก, วรํ ทิสาติ, สกฺก เทวเสฎฺฐ, ตํ เม วรํ อุตฺตมํ ฐานํ โอกาสํ ทิสํ อาจิกฺข กเถหีติ วทติฯ นิพฺพานสฺส หิ โส มโคฺคติ กมฺมํ อกตฺวา ชีวิตฎฺฐานํ นาม นิพฺพานสฺส มโคฺคฯ ปฐมํฯ

    Anuṭṭhahanti anuṭṭhahanto. Avāyāmanti avāyamanto. Alasvassāti alaso assa. Na ca kiccāni kārayeti kiñci kiccaṃ nāma na kareyya. Sabbakāmasamiddhassāti sabbakāmehi samiddho assa. Taṃ me, sakka, varaṃ disāti, sakka devaseṭṭha, taṃ me varaṃ uttamaṃ ṭhānaṃ okāsaṃ disaṃ ācikkha kathehīti vadati. Nibbānassa hi so maggoti kammaṃ akatvā jīvitaṭṭhānaṃ nāma nibbānassa maggo. Paṭhamaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑. สุวีรสุตฺตํ • 1. Suvīrasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. สุวีรสุตฺตวณฺณนา • 1. Suvīrasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact