Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๑๐. ตจฺฉกงฺคปโญฺห
10. Tacchakaṅgapañho
๑๐. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ‘ตจฺฉกสฺส เทฺว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ เทฺว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ตจฺฉโก กาฬสุตฺตํ อนุโลเมตฺวา รุกฺขํ ตจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ชินสาสนมนุโลมยิตฺวา สีลปถวิยํ ปติฎฺฐหิตฺวา สทฺธาหเตฺถน ปญฺญาวาสิํ คเหตฺวา กิเลสา ตเจฺฉตพฺพาฯ อิทํ, มหาราช, ตจฺฉกสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
10. ‘‘Bhante nāgasena, ‘tacchakassa dve aṅgāni gahetabbānī’ti yaṃ vadesi, katamāni tāni dve aṅgāni gahetabbānī’’ti? ‘‘Yathā, mahārāja, tacchako kāḷasuttaṃ anulometvā rukkhaṃ tacchati, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena jinasāsanamanulomayitvā sīlapathaviyaṃ patiṭṭhahitvā saddhāhatthena paññāvāsiṃ gahetvā kilesā tacchetabbā. Idaṃ, mahārāja, tacchakassa paṭhamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ตจฺฉโก เผคฺคุํ อปหริตฺวา สารมาทิยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สสฺสตํ อุเจฺฉทํ ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ ตทุตฺตมํ อญฺญทุตฺตมํ อกตมภพฺพํ อปุริสการํ อพฺรหฺมจริยวาสํ สตฺตวินาสํ นวสตฺตปาตุภาวํ สงฺขารสสฺสตภาวํ โย กโรติ, โส ปฎิสํเวเทติ, อโญฺญ กโรติ, อโญฺญ ปฎิสํเวเทติ, กมฺมผลทสฺสนา จ กิริยผลทิฎฺฐิ จ อิติ เอวรูปานิ เจว อญฺญานิ จ วิวาทปถานิ อปเนตฺวา สงฺขารานํ สภาวํ ปรมสุญฺญตํ นิรีหนิชฺชีวตํ 1 อจฺจนฺตํ สุญฺญตํ อาทิยิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, ตจฺฉกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต –
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, tacchako phegguṃ apaharitvā sāramādiyati, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena sassataṃ ucchedaṃ taṃ jīvaṃ taṃ sarīraṃ aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīraṃ taduttamaṃ aññaduttamaṃ akatamabhabbaṃ apurisakāraṃ abrahmacariyavāsaṃ sattavināsaṃ navasattapātubhāvaṃ saṅkhārasassatabhāvaṃ yo karoti, so paṭisaṃvedeti, añño karoti, añño paṭisaṃvedeti, kammaphaladassanā ca kiriyaphaladiṭṭhi ca iti evarūpāni ceva aññāni ca vivādapathāni apanetvā saṅkhārānaṃ sabhāvaṃ paramasuññataṃ nirīhanijjīvataṃ 2 accantaṃ suññataṃ ādiyitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, tacchakassa dutiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā devātidevena suttanipāte –
‘‘‘การณฺฑวํ นิทฺธมถ, กสมฺพุํ อปกสฺสถ;
‘‘‘Kāraṇḍavaṃ niddhamatha, kasambuṃ apakassatha;
ตโต ปลาเป วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเนฯ
Tato palāpe vāhetha, assamaṇe samaṇamānine.
‘‘‘นิทฺธมิตฺวาน ปาปิเจฺฉ, ปาปอาจารโคจเร;
‘‘‘Niddhamitvāna pāpicche, pāpaācāragocare;
สุทฺธา สุเทฺธหิ สํวาสํ, กปฺปยโวฺห ปติสฺสตา;
Suddhā suddhehi saṃvāsaṃ, kappayavho patissatā;
ตโต สมคฺคา นิปกา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’’ติฯ
Tato samaggā nipakā, dukkhassantaṃ karissathā’’’ti.
ตจฺฉกงฺคปโญฺห ทสโมฯ
Tacchakaṅgapañho dasamo.
มกฺกฎกวโคฺค ฉโฎฺฐฯ
Makkaṭakavaggo chaṭṭho.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
มกฺกโฎ ทารโก กุโมฺม, วนํ รุโกฺข จ ปญฺจโม;
Makkaṭo dārako kummo, vanaṃ rukkho ca pañcamo;
เมโฆ มณิ มาควิโก, พาฬิสี ตจฺฉเกน จาติฯ
Megho maṇi māgaviko, bāḷisī tacchakena cāti.
Footnotes: