Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๒. ตาลปุฎสุตฺตวณฺณนา
2. Tālapuṭasuttavaṇṇanā
๓๕๔. วาโลติ วุจฺจติ ตาโล, ตสฺส ตาลปุฎํ นามฯ ยถา อามลกีผลสมานกํ, โส ปน ตาลสทิสมุขวณฺณตฺตา ตาลปุโฎติ เอวํนามโกฯ เตนาห ‘‘ตสฺส กิรา’’ติอาทิฯ อภินีหารสมฺปโนฺน อเนเกสุ กเปฺปสุ สมฺภตสาวกโพธิสมฺภาโรฯ ตถา เหส อสีติยา มหาสาวเกสุ อพฺภนฺตโร ชาโตฯ สหสฺสํ เทนฺติ นจฺจํ ปสฺสิตุกามาฯ สมชฺชเวสนฺติ เนปจฺจเวสํฯ กีฬํ กตฺวาติ นจฺจกีฬิตํ กีฬิตฺวา, นจฺจิตฺวาติ อโตฺถฯ
354. Vāloti vuccati tālo, tassa tālapuṭaṃ nāma. Yathā āmalakīphalasamānakaṃ, so pana tālasadisamukhavaṇṇattā tālapuṭoti evaṃnāmako. Tenāha ‘‘tassa kirā’’tiādi. Abhinīhārasampanno anekesu kappesu sambhatasāvakabodhisambhāro. Tathā hesa asītiyā mahāsāvakesu abbhantaro jāto. Sahassaṃ denti naccaṃ passitukāmā. Samajjavesanti nepaccavesaṃ. Kīḷaṃ katvāti naccakīḷitaṃ kīḷitvā, naccitvāti attho.
ปุเพฺพ ตถาปวตฺตวุตฺตนฺตทสฺสเน สเจฺจน, ตพฺพิปริยาเย อลิเกนฯ ราคปจฺจยาติ ราคุปฺปตฺติยา การณภูตาฯ มุขโต…เป.… ทสฺสนาทโยติ อาทิ-สเทฺทน มุขโต อคฺคิชาลนิกฺขมทสฺสนาทิเก สงฺคณฺหาติฯ อเญฺญ จ…เป.… อภินยาติ กามสฺสาทสํยุตฺตานํ สิงฺคารหสฺสอพฺภุตรสานเญฺจว ‘‘อเญฺญ จา’’ติ วุตฺตสนฺตพีภจฺฉรสานญฺจ ทสฺสนกา อภินยาฯ โทสปจฺจยาติ โทสุปฺปตฺติยา การณภูตาฯ หตฺถปาทเจฺฉทาทีติ อาทิ-สเทฺทน สงฺคหิตานํ รุทฺทวีรภยานกรสานํ ทสฺสนกา อภินยาฯ โมหปจฺจยาติ โมหุปฺปตฺติยา การณภูตาฯ เอวมาทโยติ อาทิ-สเทฺทน สงฺคหิตานํ กรุณาสนฺตภยานกรสานํ ทสฺสนกา อภินยาฯ เต หิ รเส สนฺธาย ปาฬิยํ ‘‘เย ธมฺมา รชนียา, เย ธมฺมา โทสนียา, เย ธมฺมา โมหนียา’’ติ จ วุตฺตํฯ
Pubbe tathāpavattavuttantadassane saccena, tabbipariyāye alikena. Rāgapaccayāti rāguppattiyā kāraṇabhūtā. Mukhato…pe… dassanādayoti ādi-saddena mukhato aggijālanikkhamadassanādike saṅgaṇhāti. Aññe ca…pe… abhinayāti kāmassādasaṃyuttānaṃ siṅgārahassaabbhutarasānañceva ‘‘aññe cā’’ti vuttasantabībhaccharasānañca dassanakā abhinayā. Dosapaccayāti dosuppattiyā kāraṇabhūtā. Hatthapādacchedādīti ādi-saddena saṅgahitānaṃ ruddavīrabhayānakarasānaṃ dassanakā abhinayā. Mohapaccayāti mohuppattiyā kāraṇabhūtā. Evamādayoti ādi-saddena saṅgahitānaṃ karuṇāsantabhayānakarasānaṃ dassanakā abhinayā. Te hi rase sandhāya pāḷiyaṃ ‘‘ye dhammā rajanīyā, ye dhammā dosanīyā, ye dhammā mohanīyā’’ti ca vuttaṃ.
นฎเวสํ คเหตฺวาว ปจฺจนฺติ กมฺมสริกฺขวิปากวเสนฯ ตํ สนฺธายาติ ตํ ยถาวุตฺตํ นิรเย ปจฺจนํ สนฺธายฯ เอตํ ‘‘ปหาโส นาม นิรโย, ตตฺถ อุปปชฺชตี’’ติ วุตฺตํฯ ยถา โลเก อตฺถวิเสสวเสน สกมฺมกานิปิ ปทานิ อกมฺมกานิ ภวนฺติ ‘‘วิมุจฺจติ ปุริโส’’ติ, เอวํ อิธ อตฺถวิเสสวเสน อกมฺมกํ สกมฺมกํ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘นาหํ, ภเนฺต, เอตํ โรทามี’’ติฯ โก ปน โส อตฺถวิเสโส? อสหนํ อกฺขมนํ, ตสฺมา น โรทามิ น สหามิ, น อกฺขมามีติ อโตฺถฯ โรทนการณญฺหิ อสหโนฺต เตน อภิภูโต โรทติฯ ตเมวสฺส สกมฺมกภาวสฺส การณภูตํ อตฺถวิเสสํ ‘‘น อสฺสุวิโมจนมเตฺตนา’’ติ วุตฺตํฯ มตํ วา, อมฺม, โรทนฺตีติ เอตฺถาปิ มตํ โรทนฺติ, ตสฺส มรณํ น สหนฺติ, นกฺขมนฺตีติ ปากโฎยมโตฺถติฯ
Naṭavesaṃgahetvāva paccanti kammasarikkhavipākavasena. Taṃ sandhāyāti taṃ yathāvuttaṃ niraye paccanaṃ sandhāya. Etaṃ ‘‘pahāso nāma nirayo, tattha upapajjatī’’ti vuttaṃ. Yathā loke atthavisesavasena sakammakānipi padāni akammakāni bhavanti ‘‘vimuccati puriso’’ti, evaṃ idha atthavisesavasena akammakaṃ sakammakaṃ katvā vuttaṃ – ‘‘nāhaṃ, bhante, etaṃ rodāmī’’ti. Ko pana so atthaviseso? Asahanaṃ akkhamanaṃ, tasmā na rodāmi na sahāmi, na akkhamāmīti attho. Rodanakāraṇañhi asahanto tena abhibhūto rodati. Tamevassa sakammakabhāvassa kāraṇabhūtaṃ atthavisesaṃ ‘‘na assuvimocanamattenā’’ti vuttaṃ. Mataṃ vā, amma, rodantīti etthāpi mataṃ rodanti, tassa maraṇaṃ na sahanti, nakkhamantīti pākaṭoyamatthoti.
ตาลปุฎสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Tālapuṭasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. ตาลปุฎสุตฺตํ • 2. Tālapuṭasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. ตาลปุฎสุตฺตวณฺณนา • 2. Tālapuṭasuttavaṇṇanā