Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi

    ๑๙. ปญฺญาสนิปาโต

    19. Paññāsanipāto

    ๑. ตาลปุฎเตฺถรคาถา

    1. Tālapuṭattheragāthā

    ๑๐๙๔.

    1094.

    ‘‘กทา นุหํ ปพฺพตกนฺทราสุ, เอกากิโย อทฺทุติโย วิหสฺสํ;

    ‘‘Kadā nuhaṃ pabbatakandarāsu, ekākiyo addutiyo vihassaṃ;

    อนิจฺจโต สพฺพภวํ วิปสฺสํ, ตํ เม อิทํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Aniccato sabbabhavaṃ vipassaṃ, taṃ me idaṃ taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๐๙๕.

    1095.

    ‘‘กทา นุหํ ภินฺนปฎนฺธโร มุนิ, กาสาววโตฺถ อมโม นิราโส;

    ‘‘Kadā nuhaṃ bhinnapaṭandharo muni, kāsāvavattho amamo nirāso;

    ราคญฺจ โทสญฺจ ตเถว โมหํ, หนฺตฺวา สุขี ปวนคโต วิหสฺสํฯ

    Rāgañca dosañca tatheva mohaṃ, hantvā sukhī pavanagato vihassaṃ.

    ๑๐๙๖.

    1096.

    ‘‘กทา อนิจฺจํ วธโรคนีฬํ, กายํ อิมํ มจฺจุชรายุปทฺทุตํ;

    ‘‘Kadā aniccaṃ vadharoganīḷaṃ, kāyaṃ imaṃ maccujarāyupaddutaṃ;

    วิปสฺสมาโน วีตภโย วิหสฺสํ, เอโก วเน ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Vipassamāno vītabhayo vihassaṃ, eko vane taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๐๙๗.

    1097.

    ‘‘กทา นุหํ ภยชนนิํ ทุขาวหํ, ตณฺหาลตํ พหุวิธานุวตฺตนิํ;

    ‘‘Kadā nuhaṃ bhayajananiṃ dukhāvahaṃ, taṇhālataṃ bahuvidhānuvattaniṃ;

    ปญฺญามยํ ติขิณมสิํ คเหตฺวา, เฉตฺวา วเส ตมฺปิ กทา ภวิสฺสติฯ

    Paññāmayaṃ tikhiṇamasiṃ gahetvā, chetvā vase tampi kadā bhavissati.

    ๑๐๙๘.

    1098.

    ‘‘กทา นุ ปญฺญามยมุคฺคเตชํ, สตฺถํ อิสีนํ สหสาทิยิตฺวา;

    ‘‘Kadā nu paññāmayamuggatejaṃ, satthaṃ isīnaṃ sahasādiyitvā;

    มารํ สเสนํ สหสา ภญฺชิสฺสํ, สีหาสเน ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Māraṃ sasenaṃ sahasā bhañjissaṃ, sīhāsane taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๐๙๙.

    1099.

    ‘‘กทา นุหํ สพฺภิ สมาคเมสุ, ทิโฎฺฐ ภเว ธมฺมครูหิ ตาทิภิ;

    ‘‘Kadā nuhaṃ sabbhi samāgamesu, diṭṭho bhave dhammagarūhi tādibhi;

    ยาถาวทสฺสีหิ ชิตินฺทฺริเยหิ, ปธานิโย ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Yāthāvadassīhi jitindriyehi, padhāniyo taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๑๐๐.

    1100.

    ‘‘กทา นุ มํ ตนฺทิ ขุทา ปิปาสา, วาตาตปา กีฎสรีสปา วา;

    ‘‘Kadā nu maṃ tandi khudā pipāsā, vātātapā kīṭasarīsapā vā;

    น พาธยิสฺสนฺติ น ตํ คิริพฺพเช, อตฺถตฺถิยํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Na bādhayissanti na taṃ giribbaje, atthatthiyaṃ taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๑๐๑.

    1101.

    ‘‘กทา นุ โข ยํ วิทิตํ มเหสินา, จตฺตาริ สจฺจานิ สุทุทฺทสานิ;

    ‘‘Kadā nu kho yaṃ viditaṃ mahesinā, cattāri saccāni sududdasāni;

    สมาหิตโตฺต สติมา อคจฺฉํ, ปญฺญาย ตํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Samāhitatto satimā agacchaṃ, paññāya taṃ taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๑๐๒.

    1102.

    ‘‘กทา นุ รูเป อมิเต จ สเทฺท, คเนฺธ รเส ผุสิตเพฺพ จ ธเมฺม;

    ‘‘Kadā nu rūpe amite ca sadde, gandhe rase phusitabbe ca dhamme;

    อาทิตฺตโตหํ สมเถหิ ยุโตฺต, ปญฺญาย ทจฺฉํ ตทิทํ กทา เมฯ

    Ādittatohaṃ samathehi yutto, paññāya dacchaṃ tadidaṃ kadā me.

    ๑๑๐๓.

    1103.

    ‘‘กทา นุหํ ทุพฺพจเนน วุโตฺต, ตโตนิมิตฺตํ วิมโน น เหสฺสํ;

    ‘‘Kadā nuhaṃ dubbacanena vutto, tatonimittaṃ vimano na hessaṃ;

    อโถ ปสโตฺถปิ ตโตนิมิตฺตํ, ตุโฎฺฐ น เหสฺสํ ตทิทํ กทา เมฯ

    Atho pasatthopi tatonimittaṃ, tuṭṭho na hessaṃ tadidaṃ kadā me.

    ๑๑๐๔.

    1104.

    ‘‘กทา นุ กเฎฺฐ จ ติเณ ลตา จ, ขเนฺธ อิเมหํ อมิเต จ ธเมฺม;

    ‘‘Kadā nu kaṭṭhe ca tiṇe latā ca, khandhe imehaṃ amite ca dhamme;

    อชฺฌตฺติกาเนว จ พาหิรานิ จ, สมํ ตุเลยฺยํ ตทิทํ กทา เมฯ

    Ajjhattikāneva ca bāhirāni ca, samaṃ tuleyyaṃ tadidaṃ kadā me.

    ๑๑๐๕.

    1105.

    ‘‘กทา นุ มํ ปาวุสกาลเมโฆ, นเวน โตเยน สจีวรํ วเน;

    ‘‘Kadā nu maṃ pāvusakālamegho, navena toyena sacīvaraṃ vane;

    อิสิปฺปยาตมฺหิ ปเถ วชนฺตํ, โอวสฺสเต ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Isippayātamhi pathe vajantaṃ, ovassate taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๑๐๖.

    1106.

    ‘‘กทา มยูรสฺส สิขณฺฑิโน วเน, ทิชสฺส สุตฺวา คิริคพฺภเร รุตํ;

    ‘‘Kadā mayūrassa sikhaṇḍino vane, dijassa sutvā girigabbhare rutaṃ;

    ปจฺจุฎฺฐหิตฺวา อมตสฺส ปตฺติยา, สํจินฺตเย ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Paccuṭṭhahitvā amatassa pattiyā, saṃcintaye taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๑๐๗.

    1107.

    ‘‘กทา นุ คงฺคํ ยมุนํ สรสฺสติํ, ปาตาลขิตฺตํ วฬวามุขญฺจ 1;

    ‘‘Kadā nu gaṅgaṃ yamunaṃ sarassatiṃ, pātālakhittaṃ vaḷavāmukhañca 2;

    อสชฺชมาโน ปตเรยฺยมิทฺธิยา, วิภิํสนํ ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Asajjamāno patareyyamiddhiyā, vibhiṃsanaṃ taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๑๐๘.

    1108.

    ‘‘กทา นุ นาโคว อสงฺคจารี, ปทาลเย กามคุเณสุ ฉนฺทํ;

    ‘‘Kadā nu nāgova asaṅgacārī, padālaye kāmaguṇesu chandaṃ;

    นิพฺพชฺชยํ สพฺพสุภํ นิมิตฺตํ, ฌาเน ยุโต ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Nibbajjayaṃ sabbasubhaṃ nimittaṃ, jhāne yuto taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๑๐๙.

    1109.

    ‘‘กทา อิณโฎฺฎว ทลิทฺทโก 3 นิธิํ, อาราธยิตฺวา ธนิเกหิ ปีฬิโต;

    ‘‘Kadā iṇaṭṭova daliddako 4 nidhiṃ, ārādhayitvā dhanikehi pīḷito;

    ตุโฎฺฐ ภวิสฺสํ อธิคมฺม สาสนํ, มเหสิโน ตํ นุ กทา ภวิสฺสติฯ

    Tuṭṭho bhavissaṃ adhigamma sāsanaṃ, mahesino taṃ nu kadā bhavissati.

    ๑๑๑๐.

    1110.

    ‘‘พหูนิ วสฺสานิ ตยามฺหิ ยาจิโต, ‘อคารวาเสน อลํ นุ เต อิทํ’;

    ‘‘Bahūni vassāni tayāmhi yācito, ‘agāravāsena alaṃ nu te idaṃ’;

    ตํ ทานิ มํ ปพฺพชิตํ สมานํ, กิํการณา จิตฺต ตุวํ น ยุญฺชสิฯ

    Taṃ dāni maṃ pabbajitaṃ samānaṃ, kiṃkāraṇā citta tuvaṃ na yuñjasi.

    ๑๑๑๑.

    1111.

    ‘‘นนุ อหํ จิตฺต ตยามฺหิ ยาจิโต, ‘คิริพฺพเช จิตฺรฉทา วิหงฺคมา’;

    ‘‘Nanu ahaṃ citta tayāmhi yācito, ‘giribbaje citrachadā vihaṅgamā’;

    มหินฺทโฆสตฺถนิตาภิคชฺชิโน, เต ตํ รเมสฺสนฺติ วนมฺหิ ฌายินํฯ

    Mahindaghosatthanitābhigajjino, te taṃ ramessanti vanamhi jhāyinaṃ.

    ๑๑๑๒.

    1112.

    ‘‘กุลมฺหิ มิเตฺต จ ปิเย จ ญาตเก, ขิฑฺฑารติํ กามคุณญฺจ โลเก;

    ‘‘Kulamhi mitte ca piye ca ñātake, khiḍḍāratiṃ kāmaguṇañca loke;

    สพฺพํ ปหาย อิมมชฺฌุปาคโต, อโถปิ ตฺวํ จิตฺต น มยฺห ตุสฺสสิฯ

    Sabbaṃ pahāya imamajjhupāgato, athopi tvaṃ citta na mayha tussasi.

    ๑๑๑๓.

    1113.

    ‘‘มเมว เอตํ น หิ ตฺวํ ปเรสํ, สนฺนาหกาเล ปริเทวิเตน กิํ;

    ‘‘Mameva etaṃ na hi tvaṃ paresaṃ, sannāhakāle paridevitena kiṃ;

    สพฺพํ อิทํ จลมิติ เปกฺขมาโน, อภินิกฺขมิํ อมตปทํ ชิคีสํฯ

    Sabbaṃ idaṃ calamiti pekkhamāno, abhinikkhamiṃ amatapadaṃ jigīsaṃ.

    ๑๑๑๔.

    1114.

    ‘‘สุยุตฺตวาที ทฺวิปทานมุตฺตโม, มหาภิสโกฺก นรทมฺมสารถิ 5;

    ‘‘Suyuttavādī dvipadānamuttamo, mahābhisakko naradammasārathi 6;

    ‘จิตฺตํ จลํ มกฺกฎสนฺนิภํ อิติ, อวีตราเคน สุทุนฺนิวารยํ’ฯ

    ‘Cittaṃ calaṃ makkaṭasannibhaṃ iti, avītarāgena sudunnivārayaṃ’.

    ๑๑๑๕.

    1115.

    ‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, อวิทฺทสู ยตฺถ สิตา ปุถุชฺชนา;

    ‘‘Kāmā hi citrā madhurā manoramā, aviddasū yattha sitā puthujjanā;

    เต ทุกฺขมิจฺฉนฺติ ปุนพฺภเวสิโน, จิเตฺตน นีตา นิรเย นิรากตาฯ

    Te dukkhamicchanti punabbhavesino, cittena nītā niraye nirākatā.

    ๑๑๑๖.

    1116.

    ‘‘‘มยูรโกญฺจาภิรุตมฺหิ กานเน, ทีปีหิ พฺยเคฺฆหิ ปุรกฺขโต วสํ;

    ‘‘‘Mayūrakoñcābhirutamhi kānane, dīpīhi byagghehi purakkhato vasaṃ;

    กาเย อเปกฺขํ ชห มา วิราธย’, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุญฺชสิฯ

    Kāye apekkhaṃ jaha mā virādhaya’, itissu maṃ citta pure niyuñjasi.

    ๑๑๑๗.

    1117.

    ‘‘‘ภาเวหิ ฌานานิ จ อินฺทฺริยานิ จ, พลานิ โพชฺฌงฺคสมาธิภาวนา;

    ‘‘‘Bhāvehi jhānāni ca indriyāni ca, balāni bojjhaṅgasamādhibhāvanā;

    ติโสฺส จ วิชฺชา ผุส พุทฺธสาสเน’, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุญฺชสิฯ

    Tisso ca vijjā phusa buddhasāsane’, itissu maṃ citta pure niyuñjasi.

    ๑๑๑๘.

    1118.

    ‘‘‘ภาเวหิ มคฺคํ อมตสฺส ปตฺติยา, นิยฺยานิกํ สพฺพทุขกฺขโยคธํ;

    ‘‘‘Bhāvehi maggaṃ amatassa pattiyā, niyyānikaṃ sabbadukhakkhayogadhaṃ;

    อฎฺฐงฺคิกํ สพฺพกิเลสโสธนํ’, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุญฺชสิฯ

    Aṭṭhaṅgikaṃ sabbakilesasodhanaṃ’, itissu maṃ citta pure niyuñjasi.

    ๑๑๑๙.

    1119.

    ‘‘‘ทุกฺขนฺติ ขเนฺธ ปฎิปสฺส โยนิโส, ยโต จ ทุกฺขํ สมุเทติ ตํ ชห;

    ‘‘‘Dukkhanti khandhe paṭipassa yoniso, yato ca dukkhaṃ samudeti taṃ jaha;

    อิเธว ทุกฺขสฺส กโรหิ อนฺตํ’, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุญฺชสิฯ

    Idheva dukkhassa karohi antaṃ’, itissu maṃ citta pure niyuñjasi.

    ๑๑๒๐.

    1120.

    ‘‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขนฺติ วิปสฺส โยนิโส, สุญฺญํ อนตฺตาติ อฆํ วธนฺติ จ;

    ‘‘‘Aniccaṃ dukkhanti vipassa yoniso, suññaṃ anattāti aghaṃ vadhanti ca;

    มโนวิจาเร อุปรุนฺธ เจตโส’, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุญฺชสิฯ

    Manovicāre uparundha cetaso’, itissu maṃ citta pure niyuñjasi.

    ๑๑๒๑.

    1121.

    ‘‘‘มุโณฺฑ วิรูโป อภิสาปมาคโต, กปาลหโตฺถว กุเลสุ ภิกฺขสุ;

    ‘‘‘Muṇḍo virūpo abhisāpamāgato, kapālahatthova kulesu bhikkhasu;

    ยุญฺชสฺสุ สตฺถุวจเน มเหสิโน’, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุญฺชสิฯ

    Yuñjassu satthuvacane mahesino’, itissu maṃ citta pure niyuñjasi.

    ๑๑๒๒.

    1122.

    ‘‘‘สุสํวุตโตฺต วิสิขนฺตเร จรํ, กุเลสุ กาเมสุ อสงฺคมานโส;

    ‘‘‘Susaṃvutatto visikhantare caraṃ, kulesu kāmesu asaṅgamānaso;

    จโนฺท ยถา โทสินปุณฺณมาสิยา’, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุญฺชสิฯ

    Cando yathā dosinapuṇṇamāsiyā’, itissu maṃ citta pure niyuñjasi.

    ๑๑๒๓.

    1123.

    ‘‘‘อารญฺญิโก โหหิ จ ปิณฺฑปาติโก, โสสานิโก โหหิ จ ปํสุกูลิโก;

    ‘‘‘Āraññiko hohi ca piṇḍapātiko, sosāniko hohi ca paṃsukūliko;

    เนสชฺชิโก โหหิ สทา ธุเต รโต’, อิติสฺสุ มํ จิตฺต ปุเร นิยุญฺชสิฯ

    Nesajjiko hohi sadā dhute rato’, itissu maṃ citta pure niyuñjasi.

    ๑๑๒๔.

    1124.

    ‘‘โรเปตฺว รุกฺขานิ ยถา ผเลสี, มูเล ตรุํ เฉตฺตุ ตเมว อิจฺฉสิ;

    ‘‘Ropetva rukkhāni yathā phalesī, mūle taruṃ chettu tameva icchasi;

    ตถูปมํ จิตฺตมิทํ กโรสิ, ยํ มํ อนิจฺจมฺหิ จเล นิยุญฺชสิฯ

    Tathūpamaṃ cittamidaṃ karosi, yaṃ maṃ aniccamhi cale niyuñjasi.

    ๑๑๒๕.

    1125.

    ‘‘อรูป ทูรงฺคม เอกจาริ, น เต กริสฺสํ วจนํ อิทานิหํ;

    ‘‘Arūpa dūraṅgama ekacāri, na te karissaṃ vacanaṃ idānihaṃ;

    ทุกฺขา หิ กามา กฎุกา มหพฺภยา, นิพฺพานเมวาภิมโน จริสฺสํฯ

    Dukkhā hi kāmā kaṭukā mahabbhayā, nibbānamevābhimano carissaṃ.

    ๑๑๒๖.

    1126.

    ‘‘นาหํ อลกฺขฺยา อหิริกฺกตาย วา, น จิตฺตเหตู น จ ทูรกนฺตนา;

    ‘‘Nāhaṃ alakkhyā ahirikkatāya vā, na cittahetū na ca dūrakantanā;

    อาชีวเหตู จ อหํ น นิกฺขมิํ, กโต จ เต จิตฺต ปฎิสฺสโว มยาฯ

    Ājīvahetū ca ahaṃ na nikkhamiṃ, kato ca te citta paṭissavo mayā.

    ๑๑๒๗.

    1127.

    ‘‘‘อปฺปิจฺฉตา สปฺปุริเสหิ วณฺณิตา, มกฺขปฺปหานํ วูปสโม ทุขสฺส’;

    ‘‘‘Appicchatā sappurisehi vaṇṇitā, makkhappahānaṃ vūpasamo dukhassa’;

    อิติสฺสุ มํ จิตฺต ตทา นิยุญฺชสิ, อิทานิ ตฺวํ คจฺฉสิ ปุพฺพจิณฺณํฯ

    Itissu maṃ citta tadā niyuñjasi, idāni tvaṃ gacchasi pubbaciṇṇaṃ.

    ๑๑๒๘.

    1128.

    ‘‘ตณฺหา อวิชฺชา จ ปิยาปิยญฺจ, สุภานิ รูปานิ สุขา จ เวทนา;

    ‘‘Taṇhā avijjā ca piyāpiyañca, subhāni rūpāni sukhā ca vedanā;

    มนาปิยา กามคุณา จ วนฺตา, วเนฺต อหํ อาวมิตุํ น อุสฺสเหฯ

    Manāpiyā kāmaguṇā ca vantā, vante ahaṃ āvamituṃ na ussahe.

    ๑๑๒๙.

    1129.

    ‘‘สพฺพตฺถ เต จิตฺต วโจ กตํ มยา, พหูสุ ชาตีสุ น เมสิ โกปิโต;

    ‘‘Sabbattha te citta vaco kataṃ mayā, bahūsu jātīsu na mesi kopito;

    อชฺฌตฺตสมฺภโว กตญฺญุตาย เต, ทุเกฺข จิรํ สํสริตํ ตยา กเตฯ

    Ajjhattasambhavo kataññutāya te, dukkhe ciraṃ saṃsaritaṃ tayā kate.

    ๑๑๓๐.

    1130.

    ‘‘ตฺวเญฺญว โน จิตฺต กโรสิ พฺราหฺมโณ 7, ตฺวํ ขตฺติโย ราชทสี 8 กโรสิ;

    ‘‘Tvaññeva no citta karosi brāhmaṇo 9, tvaṃ khattiyo rājadasī 10 karosi;

    เวสฺสา จ สุทฺทา จ ภวาม เอกทา, เทวตฺตนํ วาปิ ตเวว วาหสาฯ

    Vessā ca suddā ca bhavāma ekadā, devattanaṃ vāpi taveva vāhasā.

    ๑๑๓๑.

    1131.

    ‘‘ตเวว เหตู อสุรา ภวามเส, ตฺวํมูลกํ เนรยิกา ภวามเส;

    ‘‘Taveva hetū asurā bhavāmase, tvaṃmūlakaṃ nerayikā bhavāmase;

    อโถ ติรจฺฉานคตาปิ เอกทา, เปตตฺตนํ วาปิ ตเวว วาหสาฯ

    Atho tiracchānagatāpi ekadā, petattanaṃ vāpi taveva vāhasā.

    ๑๑๓๒.

    1132.

    ‘‘นนุ ทุพฺภิสฺสสิ มํ ปุนปฺปุนํ, มุหุํ มุหุํ จารณิกํว ทสฺสยํ;

    ‘‘Nanu dubbhissasi maṃ punappunaṃ, muhuṃ muhuṃ cāraṇikaṃva dassayaṃ;

    อุมฺมตฺตเกเนว มยา ปโลภสิ, กิญฺจาปิ เต จิตฺต วิราธิตํ มยาฯ

    Ummattakeneva mayā palobhasi, kiñcāpi te citta virādhitaṃ mayā.

    ๑๑๓๓.

    1133.

    ‘‘อิทํ ปุเร จิตฺตมจาริ จาริกํ, เยนิจฺฉกํ ยตฺถกามํ ยถาสุขํ;

    ‘‘Idaṃ pure cittamacāri cārikaṃ, yenicchakaṃ yatthakāmaṃ yathāsukhaṃ;

    ตทชฺชหํ นิคฺคเหสฺสามิ โยนิโส, หตฺถิปฺปภินฺนํ วิย องฺกุสคฺคโหฯ

    Tadajjahaṃ niggahessāmi yoniso, hatthippabhinnaṃ viya aṅkusaggaho.

    ๑๑๓๔.

    1134.

    ‘‘สตฺถา จ เม โลกมิมํ อธิฎฺฐหิ,อนิจฺจโต อทฺธุวโต อสารโต;

    ‘‘Satthā ca me lokamimaṃ adhiṭṭhahi,aniccato addhuvato asārato;

    ปกฺขนฺท มํ จิตฺต ชินสฺส สาสเน, ตาเรหิ โอฆา มหตา สุทุตฺตราฯ

    Pakkhanda maṃ citta jinassa sāsane, tārehi oghā mahatā suduttarā.

    ๑๑๓๕.

    1135.

    ‘‘น เต อิทํ จิตฺต ยถา ปุราณกํ, นาหํ อลํ ตุยฺห วเส นิวตฺติตุํ 11;

    ‘‘Na te idaṃ citta yathā purāṇakaṃ, nāhaṃ alaṃ tuyha vase nivattituṃ 12;

    มเหสิโน ปพฺพชิโตมฺหิ สาสเน, น มาทิสา โหนฺติ วินาสธาริโนฯ

    Mahesino pabbajitomhi sāsane, na mādisā honti vināsadhārino.

    ๑๑๓๖.

    1136.

    ‘‘นคา สมุทฺทา สริตา วสุนฺธรา, ทิสา จตโสฺส วิทิสา อโธ ทิวา;

    ‘‘Nagā samuddā saritā vasundharā, disā catasso vidisā adho divā;

    สเพฺพ อนิจฺจา ติภวา อุปทฺทุตา, กุหิํ คโต จิตฺต สุขํ รมิสฺสสิฯ

    Sabbe aniccā tibhavā upaddutā, kuhiṃ gato citta sukhaṃ ramissasi.

    ๑๑๓๗.

    1137.

    ‘‘ธิติปฺปรํ กิํ มม จิตฺต กาหิสิ, น เต อลํ จิตฺต วสานุวตฺตโก;

    ‘‘Dhitipparaṃ kiṃ mama citta kāhisi, na te alaṃ citta vasānuvattako;

    น ชาตุ ภสฺตํ อุภโตมุขํ ฉุเป, ธิรตฺถุ ปูรํ นว โสตสนฺทนิํฯ

    Na jātu bhastaṃ ubhatomukhaṃ chupe, dhiratthu pūraṃ nava sotasandaniṃ.

    ๑๑๓๘.

    1138.

    ‘‘วราหเอเณยฺยวิคาฬฺหเสวิเต, ปพฺภารกุเฎฺฎ ปกเตว สุนฺทเร;

    ‘‘Varāhaeṇeyyavigāḷhasevite, pabbhārakuṭṭe pakateva sundare;

    นวมฺพุนา ปาวุสสิตฺถกานเน, ตหิํ คุหาเคหคโต รมิสฺสสิฯ

    Navambunā pāvusasitthakānane, tahiṃ guhāgehagato ramissasi.

    ๑๑๓๙.

    1139.

    ‘‘สุนีลคีวา สุสิขา สุเปขุนา, สุจิตฺตปตฺตจฺฉทนา วิหงฺคมา;

    ‘‘Sunīlagīvā susikhā supekhunā, sucittapattacchadanā vihaṅgamā;

    สุมญฺชุโฆสตฺถนิตาภิคชฺชิโน, เต ตํ รเมสฺสนฺติ วนมฺหิ ฌายินํฯ

    Sumañjughosatthanitābhigajjino, te taṃ ramessanti vanamhi jhāyinaṃ.

    ๑๑๔๐.

    1140.

    ‘‘วุฎฺฐมฺหิ เทเว จตุรงฺคุเล ติเณ, สํปุปฺผิเต เมฆนิภมฺหิ กานเน;

    ‘‘Vuṭṭhamhi deve caturaṅgule tiṇe, saṃpupphite meghanibhamhi kānane;

    นคนฺตเร วิฎปิสโม สยิสฺสํ, ตํ เม มุทู เหหิติ ตูลสนฺนิภํฯ

    Nagantare viṭapisamo sayissaṃ, taṃ me mudū hehiti tūlasannibhaṃ.

    ๑๑๔๑.

    1141.

    ‘‘ตถา ตุ กสฺสามิ ยถาปิ อิสฺสโร, ยํ ลพฺภติ เตนปิ โหตุ เม อลํ;

    ‘‘Tathā tu kassāmi yathāpi issaro, yaṃ labbhati tenapi hotu me alaṃ;

    น ตาหํ กสฺสามิ ยถา อตนฺทิโต, พิฬารภสฺตํว ยถา สุมทฺทิตํฯ

    Na tāhaṃ kassāmi yathā atandito, biḷārabhastaṃva yathā sumadditaṃ.

    ๑๑๔๒.

    1142.

    ‘‘ตถา ตุ กสฺสามิ ยถาปิ อิสฺสโร, ยํ ลพฺภติ เตนปิ โหตุ เม อลํ;

    ‘‘Tathā tu kassāmi yathāpi issaro, yaṃ labbhati tenapi hotu me alaṃ;

    วีริเยน ตํ มยฺห วสานยิสฺสํ, คชํว มตฺตํ กุสลงฺกุสคฺคโหฯ

    Vīriyena taṃ mayha vasānayissaṃ, gajaṃva mattaṃ kusalaṅkusaggaho.

    ๑๑๔๓.

    1143.

    ‘‘ตยา สุทเนฺตน อวฎฺฐิเตน หิ, หเยน โยคฺคาจริโยว อุชฺชุนา;

    ‘‘Tayā sudantena avaṭṭhitena hi, hayena yoggācariyova ujjunā;

    ปโหมิ มคฺคํ ปฎิปชฺชิตุํ สิวํ, จิตฺตานุรกฺขีหิ สทา นิเสวิตํฯ

    Pahomi maggaṃ paṭipajjituṃ sivaṃ, cittānurakkhīhi sadā nisevitaṃ.

    ๑๑๔๔.

    1144.

    ‘‘อารมฺมเณ ตํ พลสา นิพนฺธิสํ, นาคํว ถมฺภมฺหิ ทฬฺหาย รชฺชุยา;

    ‘‘Ārammaṇe taṃ balasā nibandhisaṃ, nāgaṃva thambhamhi daḷhāya rajjuyā;

    ตํ เม สุคุตฺตํ สติยา สุภาวิตํ, อนิสฺสิตํ สพฺพภเวสุ เหหิสิฯ

    Taṃ me suguttaṃ satiyā subhāvitaṃ, anissitaṃ sabbabhavesu hehisi.

    ๑๑๔๕.

    1145.

    ‘‘ปญฺญาย เฉตฺวา วิปถานุสารินํ, โยเคน นิคฺคยฺห ปเถ นิเวสิย;

    ‘‘Paññāya chetvā vipathānusārinaṃ, yogena niggayha pathe nivesiya;

    ทิสฺวา สมุทยํ วิภวญฺจ สมฺภวํ, ทายาทโก เหหิสิ อคฺควาทิโนฯ

    Disvā samudayaṃ vibhavañca sambhavaṃ, dāyādako hehisi aggavādino.

    ๑๑๔๖.

    1146.

    ‘‘จตุพฺพิปลฺลาสวสํ อธิฎฺฐิตํ, คามณฺฑลํว ปริเนสิ จิตฺต มํ;

    ‘‘Catubbipallāsavasaṃ adhiṭṭhitaṃ, gāmaṇḍalaṃva parinesi citta maṃ;

    นนุ 13 สํโยชนพนฺธนจฺฉิทํ, สํเสวเส การุณิกํ มหามุนิํฯ

    Nanu 14 saṃyojanabandhanacchidaṃ, saṃsevase kāruṇikaṃ mahāmuniṃ.

    ๑๑๔๗.

    1147.

    ‘‘มิโค ยถา เสริ สุจิตฺตกานเน, รมฺมํ คิริํ ปาวุสอพฺภมาลินิํ 15;

    ‘‘Migo yathā seri sucittakānane, rammaṃ giriṃ pāvusaabbhamāliniṃ 16;

    อนากุเล ตตฺถ นเค รมิสฺสํ 17, อสํสยํ จิตฺต ปรา ภวิสฺสสิฯ

    Anākule tattha nage ramissaṃ 18, asaṃsayaṃ citta parā bhavissasi.

    ๑๑๔๘.

    1148.

    ‘‘เย ตุยฺห ฉเนฺทน วเสน วตฺติโน, นรา จ นารี จ อนุโภนฺติ ยํ สุขํ;

    ‘‘Ye tuyha chandena vasena vattino, narā ca nārī ca anubhonti yaṃ sukhaṃ;

    อวิทฺทสู มารวสานุวตฺติโน, ภวาภินนฺที ตว จิตฺต สาวกา’’ติฯ

    Aviddasū māravasānuvattino, bhavābhinandī tava citta sāvakā’’ti.

    … ตาลปุโฎ เถโร…ฯ

    … Tālapuṭo thero….

    ปญฺญาสนิปาโต นิฎฺฐิโตฯ

    Paññāsanipāto niṭṭhito.

    ตตฺรุทฺทานํ –

    Tatruddānaṃ –

    ปญฺญาสมฺหิ นิปาตมฺหิ, เอโก ตาลปุโฎ สุจิ;

    Paññāsamhi nipātamhi, eko tālapuṭo suci;

    คาถาโย ตตฺถ ปญฺญาส, ปุน ปญฺจ จ อุตฺตรีติฯ

    Gāthāyo tattha paññāsa, puna pañca ca uttarīti.







    Footnotes:
    1. พลวามุขญฺจ (ก.)
    2. balavāmukhañca (ka.)
    3. ทฬิทฺทโก (สี.)
    4. daḷiddako (sī.)
    5. สารถี (สี.)
    6. sārathī (sī.)
    7. พฺราหฺมเณ (สี.), พฺราหฺมณํ (?) ภาวโลป-ตปฺปธานตา คเหตพฺพา
    8. ราชทิสี (สฺยา. ก.)
    9. brāhmaṇe (sī.), brāhmaṇaṃ (?) bhāvalopa-tappadhānatā gahetabbā
    10. rājadisī (syā. ka.)
    11. วเสน วตฺติตุํ (?)
    12. vasena vattituṃ (?)
    13. นูน (สี.)
    14. nūna (sī.)
    15. มาลิํ (?)
    16. māliṃ (?)
    17. รมิสฺสสิ (สฺยา. ก.)
    18. ramissasi (syā. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā / ๑. ตาลปุฎเตฺถรคาถาวณฺณนา • 1. Tālapuṭattheragāthāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact